▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวอินเดีย
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวภูเขา
[CR] ถ้าสวิตมี Jungfrau อินเดียเราก็มี Tosh
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกใน pantip ของขวัญนะคะผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ
คือเรื่องมีอยู่ว่า ขวัญได้จองตั๋วไปเที่ยวอินเดียข้ามปีไว้ ช่วงโปรโมชั่น และวางแผนไว้ว่าจะบินต่อจาก นิวเดลีไปแคชเมียร์ด้วยเพราะตั๋วเครื่องบินจากนิวเดลีไปแคชเมียร์ราคาไม่แพงมากนัก
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 อินเดียได้ยกเลิกสิทธิพิเศษที่เป็นรัฐอิสระของแคชเมียร์ ซึ่งมีมามากว่า 70 ปี ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้น และยังมีปัญหาเรื่องหิมะถล่มในแคชเมียร์คนตายเป็นร้อยคนอีก อินเตอร์เน็ตก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้นแผนการเดินทางของเราจึงต้องเปลี่ยนแผนไป YY
เราหาข้อมูลกันเป็นเดือนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่าภูเขาหิมะที่ไหนในอินเดียที่เราพอจะไปได้ ไม่ไกล ไม่แพงมากเกินไป ในที่สุดเราจึงได้ค้นพบ Kasol (คนพื้นที่มักออกเสียงว่า “กะซอน”) และ Tosh ซึ่งสวยมากๆ จริงๆ เลยอยากจะตั้งกระทู้ให้เพื่อนๆ ลองตามมาเที่ยวกันดูคะ
Tosh เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวในหุบเขา Parvati Valley ใกล้กับ Kasol รัฐหิมาจัลประเทศ(Himachal Pradesh) ไม่ใกล้ไม่ไกลแคชเมียร์มากนัก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 เมตร มีแม่น้ำ ไหลผ่าน
การเดินทางขอเริ่มจากนิวเดลี เรานั่งเครื่องจากนิวเดลีไปสนามบิน คุรุ(Kullu) ที่เมือง Bhuntar(คนพื้นที่มักออกเสียงว่า “บุญตา”) โดยสายการบิน Air India ค่าเครื่องบินเที่ยวเดียวคนละ 2500 บาท ใช้เวลาเดินทางตามจริงประมาณ 3 ช.ม. (ตามปกติจะใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม.กว่าๆ แต่เพราะมีการจอดส่งผู้โดยสารกลางทางด้วยYY)
พอถึงสนามบินคุรุเราก็เรียกแท็กซี่จากสนามบินไป Kasol ค่ารถประมาณ 550 บาท ถ้าไม่อยากเสียเงินเยอะเดินออกจากสนามบินเลี้ยวขวาประมาณ 300 เมตร จะมีท่ารถบัสสามารถนั่งรถบัสไป Kasol (ซึ่งเรามารู้ทีหลังY_Y) ซึ่งราคาไม่น่าจะเกิน 50 บาท เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5-2 ช.ม.
พอถึง Kasol เราก็นั่งรถบัสเพื่อไปอาบน้ำแร่ที่โบสถ์ซิกซ์ที่ มานิการัญ(Manikaran) โดยคำแนะนำของร้านขายของชำร้านนึง ราคารถบัสอยู่ที่คนละ 20 รูปี หรือประมาณ 10 บาท
พอถึงโบสซิกซ์ให้เราลงได้เลยสังเกตได้จากทางซ้ายมือจะมีโบสถ์ซึ่งที่ยอดโบสจะมัดธงธิวเอาไว้โยงลงมาที่ตัวอาคาร ส่วนมากคนก็ลงที่นี่กัน เมื่อลงจากรถเราก็ชิดซ้ายของถนนจะมีบันไดลงไปด้านล่างเมื่อลงไปถึงจะดูเหมือนลานจอดรถ เราเดินผ่านลานจอดรถไปก็จะเข้าสู่บริเวณของโบสถ์ซิกซ์ มีโบสถ์และบ่ออาบน้ำกลางแจ้งอยู่ทางด้านซ้าย
ตรงหน้าเราจะมีสะพานข้ามแม่น้ำพอข้ามไปจะมีบ่ออาบน้ำในอาคารและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา บ่ออาบน้ำแร่มี 2 จุด จุดแรกต้องข้ามสะพานไป ผู้หญิงจะอยู่ทางซ้ายส่วนผู้ชายจะอยู่ทางขวา น้ำแร่ที่นี่ค่อนข้างร้อน ถ้าใครจะมาอาบน้ำแร่เหมือนเรา แนะนำผู้หญิงให้อาบน้ำในอาคารเพราะน้ำไม่ร้อนมากเกินไปแต่แอบมีกลิ่นฉี่บ้างเล็กน้อย
จุดที่ 2 อยู่นอกอาคารซึ่งอยู่ก่อนข้ามสะพาน โดยส่วนผู้ชายได้อาบแบบ open จุดนี้ก็มีห้องผู้หญิงซึ่งจะอยู่ด้านในจากในภาพคือด้านซ้ายมือ ตรงลูกศรสีแดง ซึ่งสะอาดกว่าจุดแรกแต่น้ำร้อนเกินเราอาบไม่ไหว ที่นี่บรรยากาศดีแถมฟรีอีกต่างหาก ผู้หญิงในห้องอาบน้ำห้ามใส่เสื้อผ้าลงบ่อ เวลาถูสบู่หรือสระผมให้เอาขันตักอาบข้างๆบ่อ เอานะคะ ส่วนผู้ชายใส่กางเกงตัวเล็กหรือกางเกงในลงได้เลย สำหรับใครที่ไม่ได้เอาอุปกรณ์อาบน้ำมาซื้อได้ตรงจุดจอดรถบัสด้านหน้าได้เลยหมดทุกอย่าง เช่น กางเกงในตัวละ 100 รูปี ผ้าเช็ดตัว สบู่ก็มีขาย
พอสบายตัวแล้วเราก็นั่งรถบัสกลับที่พักโดยขึ้นฝั่งตรงกันข้ามกับที่ลงมา รถบัสรอบสุดท้ายที่ถามมาจะหมดประมาณหกโมงเย็นอย่าอาบเพลินละ เดี๋ยวต้องหาแท็กซี่กลับมันแพง เราพักที่ Kasol ที่พักเราคืนละ 1000 บาท พร้อมอาหารเช้า 3 ท่าน ห้องพักหนาวมากใครจะมาเอาอุปกรณ์กันหนาวมาให้ครบนะจ๊ะหรือเลือกห้องที่มีฮีทเตอร์หน่อยก็ดี
วันรุ่งขึ้นเราเดินทางกันโดยรสบัสแต่เช้าเพื่อไปต่อรถ taxi ที่ Manikaran ค่ารถ taxi ไป Tosh ประมาณ 400 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 -2 ช.ม.
เราเดินทางไปอินเดียต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งโชคดีที่ถนนไป Tosh พึ่งเปิดพอดี(ตอนแรกนึกว่าจะต้องเดินซะแล้ว) ปกติถนนไป Tosh ช่วงอากาศหนาวจัดช่วงประมาณเดือน พ.ย.- ม.ค.จะปิดซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วย ถ้าอยากสบายไม่ต้องเดินเหนื่อยก็ให้มาประมาณ ก.พ.เหมือนเราก็ได้คนน้อยดี แต่ก็จะหนาวๆหน่อย อุณหภูมิที่เราไปก็ประมาณ 10 องศาถึง -6 องศาคะ
ระหว่างทางแถบจะละสายตาจากถนนไม่ได้เลยตลอดทาง มันสวยและเสียวมาก เส้นทางที่คดเคี้ยว สลับวิวภูเขาและยอดเขาหิมะที่มีสีขาวโพลน
เมื่อเดินทางถึง Tosh ที่พักเราห่างจากจุดจอดรถไกลพอสมควร ทางเดินที่นี่ค่อนข้างลำบากดีที่ไม่มีใครเอากระเป๋าลากมา ทางเป็นน้ำแข็งลื่นและชันมาก เราล้มกันคนละทีสองที กว่าจะถึงที่พัก
ค่าที่พักเราคืนนี้ราคา 550 บาท พร้อมอาหารเช้า 3 ท่าน มีน้ำอุ่นให้ ห้องวิวสวยมาก
จากที่พักเราสามารถเดินไปน้ำตกได้ไม่ไกลนัก เราใช้เวลาเดินไปประมาณ 1 ช.ม.
น้ำตกก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ระหว่างทางนั้นวิวสวยประทับใจมากๆ แบบนี้ละมั่งถึงมีคนเคยบอกว่า “จุดหมายไม่สำคัญเท่าเรื่องราวระหว่างทาง”
เดินกลับมาเล่นเอาเหนื่อยไม่น้อย เราจึงนั่งกินลมชมวิวก่อนเดินขึ้นที่พัก
พอเราขึ้นห้องก็ขอฮีตเตอร์เลยคะเพราะหนาวมาก
ปลั๊กที่นี่จะเป็น Type D เหมือนบังกลาเทศ ศรีลังกา เนปาล
อาหาร คนส่วนใหญ่ที่นี่กินมังสวิรัส แต่เขาก็ทำอาหารที่มีเนื้อสัตว์ได้นะ และอร่อยมากด้วย เช่น ผักหมี่ใส่ไก่อันนี้เด็ดมากแนะนำค่ะ
กุญแจที่อินเดียเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครดีค่ะ
วันรุ่งขึ้นก่อนกลับเราก็เดินเล่นในหมู่บ้าน Tosh ซึ่งก็มีจุดน่าเดินเล่นหลายจุดเลยไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ไม้กลางหมู่บ้าน ซึ่งถ่ายรูปได้อย่างเดียวห้ามจับนะคะ เขามีป้ายเขียนบอกไว้
บ้านไม้โบราณทรงแปลกตา
บ้านนักดนตรีที่มีกลองต่างๆ แขวนอยู่ข้างบ้าน
ที่นี่แต่ละบ้านก็จะมีสัตว์เลี้ยง ซึ่งเราก็เจอบางบ้านเลี้ยงแกะ ซึ่งเวลาเดินผ่านจะมีแกะโผล่มาจากบ้านส่งเสียงแบะๆทักทายเรา
สาวทอผ้าที่นี่ก็มีนะคะ คู่กับหนุ่มเลี้ยงวัว ^^
เมื่อถึงเวลาต้องลาจากหมู่บ้านตรงปากทางหมู่บ้านมีเอเยนเรียก taxi ให้ซึ่งต้องจ่ายเขาประมาณ 50 บาทและจ่ายให้ taxi อีก 400 บาท เพื่อกลับไปยัง Manikaran
เราจึงถือโอกาสไปอาบน้ำแร่กันอีกครั้ง เพราะตอนเช้าที่โรงแรมไฟดับน้ำเย็นและอากาศเย็นมาก ถือโอกาสอาบที่นี่สะเลย
จากนั้นจึงนั่งบัสไปลง kasol เพื่อรอรถทัวร์ไปยัง นิวเดลี ซึ่งเราซื้อไว้ตั้งแต่วันแรกที่เอเจ้นตรงทางเข้า Kasol
ซึ่งจุดจอดรถทัวร์ต้องไปรอที่ลานจอดรถข้างโรงแรม Sandhya เดินไปประมาณ 300 เมตร
เดินทางจริงตอน หกโมงเย็น ถึงนิวเดลีประมาณ 8 โมงเช้า เราเลือกกลับรถทัวร์เพราะค่าเครื่องบินขากลับราคา 4000 บาท เราเลยไม่สู้ เราจึงเลือกรถทัวร์ปรับอากาศกึ่งนอน ซึ่งรถก็สะอาด ปรับนอนได้เยาะดี โดยรวมก็ถือว่าดีกว่าที่คิด ค่ารถคนละประมาณ 500 บาท ซื้อได้ที่ Kasol เลย
แต่ถ้าเจอคนอินเดียวัยรุ่นเหมือนที่เราเจอก็จะปวดหัวหน่อย มีเปิดลำโพงฟังเพลงกันในรถทัวร์เลยดึกๆเขาถึงปิด เท้าก็วางใกล้หัวคนขับรถเชียวตามรูปเลยคะ ซึ่งคนหลับยากก็จะลำบากหน่อย
โดยรวมทริปนี้สนุกมากคะ ดีกว่าที่คาดหวังไว้มาก วิวที่นี่สวยมากเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้วเหมือน “วิวสวิตเซอร์แลนด์แต่ราคาพระประแดง”เลยละคะ ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากนิวเดลีจนกลับนิวเดลีคือ คนละประมาณ 5000 บาท รวมทุกอย่างแล้ว ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่ารถ ค่าเครื่องบิน ในเวลา 3 วัน 3 คืน (ในโรงแรม 2 คืน ในรถอีก 1 คืน)
สุดท้ายใครมีข้อสงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ รายละเอียดเพิ่มเติมก็อ่านในแฟนเพจเราได้นะคะ www.facebook.com/individualtravelbykwan
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้