ผมคบกับแฟนได้ประมาณเกือบปีแล้ว แต่เราอยู่ไกลน่ะครับ ก็เลยคิดว่าอยากแต่งงานสักทีเพื่อที่จะได้มาอยู่ด้วยกัน
ปัญหาคือในตอนแรกที่เราคุยกัน เราแพลนไว้ว่าเราจะแต่งงานกันปลายปีหน้าทางแฟนผมก็โอเค ผมจึงบอกทางพ่อผมว่าผมจะแต่งงานนะปลายปีหน้า พ่อผมก็โอเคกับแพลนที่วางไว้
ที่ผมเพิ่มเติมกับแฟนอีกอย่างคือ ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ผมจะพาแฟนเข้ามาช่วยงานที่บ้านก่อนประมาณ 3 เดือน คือให้เขาออกจากงานที่โน่นแล้วมาช่วยงานที่บ้านน่ะครับ
แล้วผ่านไปสักพักแฟนผมกลับเริ่มงอแงว่าทำไมไม่พาเขากลับไปอยู่บ้านเสียที (แฟนผมก็คนจังหวัดเดียวกันครับ แต่ไปทำงานที่ กทม.) ผมก็เลยถามว่า ไหนบอกว่าเราแพลนกันไว้ปลายปีหน้าไง แล้วทำไมถึงอยู่ๆจะมาเปลี่ยน แฟนผมก็ตอบไม่ได้ได้แต่บอกผมทุกวันว่า เมื่อไหร่จะพาเขากลับไปอยู่บ้านเสียที หลังๆมาเป็นอย่างนี้ทุกวัน
ซึ่งผมก็พูดอย่างมีเหตุผลว่า ตอนแรกเราคุยกันไว้แล้วไม่ใช่หรอ งานแต่งเราก็แพลนไว้ เราจะแต่งกันปลายปีหน้าเพื่อที่ให้เราได้มีเวลาจัดเตรียมทุกๆอย่าง ผมก็จะได้เก็บเงินเพิ่มอีกสักหน่อย ตัวเขาก็จะได้เก็บเงินเพิ่มอีกทางนึง แล้วการที่เขามาบอกผมทุกวันนี้ มันจะทำให้ต้องเปลี่ยนแผนไปหมดทุกอย่าง ต้องมาวางแผนใหม่ วางแผนทางการเงินใหม่ (ซึ่งจุดนี้ผมก็บอกไปแล้วว่าอยากมาก็มาเลยแล้วเร่งเวลาเข้ามา) เขาก็บอกว่าติดงานที่ได้รับแล้ว ผมไม่ชัดเจนกับเขาตั้งแต่ก่อนเขารับมอบหมายงาน
ผมก็ เอ้า...ก็คุยกันไปก่อนแล้วไม่ใช้หรอไง แล้วไหงมาเปลี่ยนคำกันอย่างนี้ พอบอกว่ากลับมาเลยบางวันก็บอกว่าไม่ไปแล้ว บางวันก็บอกว่าปีหน้าตามที่ตกลง บางวันก็มาบอกผมอย่างเดิมว่าทำไมไม่เอาเขากลับไปอยู่บ้านเสียที
ผมเลยอยากทราบว่าสถสนการณ์อย่างนี้
1.เขาคิดอะไรอยู่ ทำไมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
2.ผมควรรับมืออย่างไร
3.มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้ กลับไป กลับมา
ปล.ผมก็บินไปหาแฟนผมทุกเดือน บางเดือนก็ 2 ครั้ง และผมก็คอยติดต่อเสมอไม่เคยขาดเลย เพื่อไม่ให้แฟนผมเขารู้สึกว่าเหงา โดดเดี่ยว หลายๆอย่างผมก็ Support ให้เหมือนกันครับ แม้ไม่มากแต่ก็คอยดูแลเสมอ ทุกครั้งที่ไปผมจะซื้อของเข้าห้องตลอดเพื่อที่เขาจะได้ไม่ลำบาก ลดค่าใช้จ่ายด้วย ทุกครั้งผมต้องเติมน้ำมันรถให้เขาก่อนกลับ และแอบทิ้งเงินบางส่วนให้อาจจะไม่มากเพราะผมก็เจียดจากเงินเดือนผมเองให้เขาตลอด ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่าผมเป็นห่วงตลอด แต่ตอนได้ยินว่าผมไม่ชัดเจน ผมทำไมรู้สึกแย่ทั้งๆที่ผมจริงจังมากๆแล้ว
ขอบคุณมากๆครับ
ทำอย่างไรดีกับปัญหาที่เจอก่อนจะแต่งงานครับ
ปัญหาคือในตอนแรกที่เราคุยกัน เราแพลนไว้ว่าเราจะแต่งงานกันปลายปีหน้าทางแฟนผมก็โอเค ผมจึงบอกทางพ่อผมว่าผมจะแต่งงานนะปลายปีหน้า พ่อผมก็โอเคกับแพลนที่วางไว้
ที่ผมเพิ่มเติมกับแฟนอีกอย่างคือ ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ผมจะพาแฟนเข้ามาช่วยงานที่บ้านก่อนประมาณ 3 เดือน คือให้เขาออกจากงานที่โน่นแล้วมาช่วยงานที่บ้านน่ะครับ
แล้วผ่านไปสักพักแฟนผมกลับเริ่มงอแงว่าทำไมไม่พาเขากลับไปอยู่บ้านเสียที (แฟนผมก็คนจังหวัดเดียวกันครับ แต่ไปทำงานที่ กทม.) ผมก็เลยถามว่า ไหนบอกว่าเราแพลนกันไว้ปลายปีหน้าไง แล้วทำไมถึงอยู่ๆจะมาเปลี่ยน แฟนผมก็ตอบไม่ได้ได้แต่บอกผมทุกวันว่า เมื่อไหร่จะพาเขากลับไปอยู่บ้านเสียที หลังๆมาเป็นอย่างนี้ทุกวัน
ซึ่งผมก็พูดอย่างมีเหตุผลว่า ตอนแรกเราคุยกันไว้แล้วไม่ใช่หรอ งานแต่งเราก็แพลนไว้ เราจะแต่งกันปลายปีหน้าเพื่อที่ให้เราได้มีเวลาจัดเตรียมทุกๆอย่าง ผมก็จะได้เก็บเงินเพิ่มอีกสักหน่อย ตัวเขาก็จะได้เก็บเงินเพิ่มอีกทางนึง แล้วการที่เขามาบอกผมทุกวันนี้ มันจะทำให้ต้องเปลี่ยนแผนไปหมดทุกอย่าง ต้องมาวางแผนใหม่ วางแผนทางการเงินใหม่ (ซึ่งจุดนี้ผมก็บอกไปแล้วว่าอยากมาก็มาเลยแล้วเร่งเวลาเข้ามา) เขาก็บอกว่าติดงานที่ได้รับแล้ว ผมไม่ชัดเจนกับเขาตั้งแต่ก่อนเขารับมอบหมายงาน
ผมก็ เอ้า...ก็คุยกันไปก่อนแล้วไม่ใช้หรอไง แล้วไหงมาเปลี่ยนคำกันอย่างนี้ พอบอกว่ากลับมาเลยบางวันก็บอกว่าไม่ไปแล้ว บางวันก็บอกว่าปีหน้าตามที่ตกลง บางวันก็มาบอกผมอย่างเดิมว่าทำไมไม่เอาเขากลับไปอยู่บ้านเสียที
ผมเลยอยากทราบว่าสถสนการณ์อย่างนี้
1.เขาคิดอะไรอยู่ ทำไมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
2.ผมควรรับมืออย่างไร
3.มันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้ กลับไป กลับมา
ปล.ผมก็บินไปหาแฟนผมทุกเดือน บางเดือนก็ 2 ครั้ง และผมก็คอยติดต่อเสมอไม่เคยขาดเลย เพื่อไม่ให้แฟนผมเขารู้สึกว่าเหงา โดดเดี่ยว หลายๆอย่างผมก็ Support ให้เหมือนกันครับ แม้ไม่มากแต่ก็คอยดูแลเสมอ ทุกครั้งที่ไปผมจะซื้อของเข้าห้องตลอดเพื่อที่เขาจะได้ไม่ลำบาก ลดค่าใช้จ่ายด้วย ทุกครั้งผมต้องเติมน้ำมันรถให้เขาก่อนกลับ และแอบทิ้งเงินบางส่วนให้อาจจะไม่มากเพราะผมก็เจียดจากเงินเดือนผมเองให้เขาตลอด ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่าผมเป็นห่วงตลอด แต่ตอนได้ยินว่าผมไม่ชัดเจน ผมทำไมรู้สึกแย่ทั้งๆที่ผมจริงจังมากๆแล้ว
ขอบคุณมากๆครับ