(กราบขออภัย เราพิมพ์ COVID ผิด ให้อภัยเรานะ)
สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท จะมาเล่าให้ฟัง เรื่องการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่ญี่ปุ่น
ก่อนอื่น จขกท ต้องเล่าความเป็นมาก่อน
เราเป็น resident ที่นี่ จ่ายภาษีและมีประกันสังคมค่ะ
เราได้ไปเที่ยวจอร์แดน อียิปต์ โดยบินผ่านไทย และดูไบ (เที่ยวไป 20 วัน)
หลังจากพักร้อน ไปประชุมและไปงาน exhibition ต่อที่สิงค์โปร ในช่วงที่สิงค์โปรมีผู้ติดเชื้ออันดับสอง
กลับมาถึงญี่ปุ่นผ่านนาริตะ และฮาเนดะ รูทการเดินทางเป็นแบบนี้
NARITA - BANGKOK - DUBAI - JORDAN - EYGPY
EGYPT - DUBAI - BANGKOK - SINGAPORE - BANGKOK - NARITA - HIROSHIMA
วันรุ่งขึ้นหลังจากกลับที่ญี่ปุ่น ไปทำงานเลย
แล้วพอดีคนที่ไปด้วย มีอาการไอ หัวหน้าเลย(ไล่)ให้ทำงานที่บ้าน 5555
ก่อนให้กลับบ้าน ได้ขอให้เราเขียนรูทการเดินทางอย่างละเอียด (เดินทาง flight อะไร ไปที่ไหน วันที่เท่าไร)
และต้องรายงานตัวตอนเช้า ว่าวันนี้ตั้งใจจะทำงานอะไร แล้วร่างกายอุณหภูมิเท่าไร
รายงานตอนเย็น วันนี้ทำอะไรไป แล้วร่างกายอุณหภูมิเท่าไร
จขกท ได้ทำงานอยู่ที่บ้านตั้งแต่ 19 Feb ตอนแรกๆก็เบื่อ แต่อยากจะบอกว่า ทำงานที่บ้าน มันดีมว๊ากกกกกกกกก 555
เข้าเรื่องกันดีกว่า
หลังจากทำงานอยู่บ้านมา 10 วัน จขกท มีอาการไข้ต่ำ 37.กว่าๆ บางวันก็เจ็บคอ มีอาการปวดตัว
เราต้องรายงานบริษัทตามความจริง และเรากำลังจะกลับเข้าบริษัทแล้ว จึงเกิดอาการนอยน์ 555
แต่คนที่นอยน์มากกว่าเราคือ คนญี่ปุ่น หัวหน้าเราบอกให้เราไปโรงพยาบาล
ซึ่งเราก็แบบ เอาไงดีน้าาาา เพราะเรามีไข้ต่ำๆ และเริ่มกังวลว่า เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นผู้ติดเชื้อ
เนื่องจาก
ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีเริ่มตรวจ COVID (ปล ที่นี่เค้ายังเรียกว่า โคโรน่า อยู่) โดยสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้
เราจึงได้โอกาสใช้จังหวะนี้แหละ ไปพบเจอผู้คนบ้าง โดยไป รพ. เพื่อไปตรวจหาเชื้อ เพราะเราก็เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง
1. โทรไปปรึกษาสาธารณสุข ประจำเขต 保険センター
- เราไปปรึกษา โดยได้บอกรายละเอียด ของเราว่ามีความเสี่ยงแบบไหน อะไร อย่างไร
- เนื่องจากว่า อาการของเราไม่ชัดเจน เค้าจึงแจ้งว่า ให้ไปโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน กรณีที่จำเป็นต้องตรวจ รพ จะแจ้งมากเอง
2. ไปรพ.
- เมื่อถึงเราไปเค้าจะมีใบให้เรากรอก รายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรีไหม และเพิ่มเติมคือไปประเทศไหนมาบ้าง
- เนื่องจากว่า เราหาซื้อหน้ากากไม่ได้ พอเราบอกว่าเรามีความเสี่ยง COVID เค้าเลยให้หน้ากากมาอันนึง 555
- เค้าจะวัดไข้และซักถามอาการอีกรอบ ซึ่งในตอนนี้ ทุกคนยังอยู่ในชุดปกติอยู่ และเค้าคัดแยกเราไว้อีกพื้นที่
3. เค้าขั้นตอนคัดกรอง
เนื่องจากว่า เค้าไม่ได้ตรวจทุกคนที่มาขอให้ตรวจ แต่ดูจากความจำเป็น และความเสี่ยง เค้าพิจารณาความเสี่ยงของเรา
ซึ่งทาง รพ. เห็นว่าเราได้เดินทางไปหลายประเทศ และเริ่มมีอาการ (เราคิดเอง 555) เค้าจึงทำการติดต่อสาธารณสุข ประจำเขต เพื่อขออนุมัติการตรวจ
โดยระหว่างระอนุมัติเค้าได้ให้เราในส่วนแยกออกมาต่างหาก
หลังจากอนุมัติในการตรวจ เค้าพาไปตรวจตามนี้
1. X-ray ปอด เพื่อหาว่าปอดอักเสบหรือไม่ ถ้าปอดดูไม่ดี เค้าจะส่งไป CT ต่อ แต่ของเราโอ เลยไม่ต้อง ตอนแรกๆทุกคนยังอยู่ชุดธรรมดา
พอเราได้เข้าข่าย ทุกคนที่เดินมาหาเราเต็มยศเลย รวมถึงเข้าหน้าที่ x-ray ชุดเต็มยศจ้า
2. เจาะเลือด เอาของเราไปสองหลอด
ตรวจผล WBC / RBC / Hb / Ht / MCV /MCH / PLT / NRBC / %NRBC / Neut / Eosi / Baso / Mono / Lymp / CRP
เจ้าหน้าที่ได้ใส่ชุดเต็มยศ และพาเราไปเจาะเลือดในห้องแยกต่างหาก
3. จิ้มจมูก
ทรมานมว๊ากกกกกกกกก ที่สุด
เจ้าหน้าที่ชุดเต็มยศ ได้พาเราไปพื้นที่พิเศษ (ห้องใหม่มาก เข้าใจว่าทำมาใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ)
ห้องเป็นห้องเล๋็กๆตามแบบญี่ปุ่น แต่มีทุกอย่างพร้อม ทางเข้าเป็นแบบประตูสองชั้น คือถ้าเราเป็น เราคงได้อยู่ที่นี่แหละ ก็ไม่เลวนะ 555
ในที่สุดคุณหมอก็มาหาเรา และบอกเราว่าต้องจิ้มจมูก โดยเตรียมมา 5 ไม้
โดนจิ้มทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ระดับความเจ็บมือ เริ่มจากน้อยไปจนมาก
สองไม้สุดท้ายจิ้มลึก และเขี่ยแรงมากกก เราไม่จาม แต่น้ำมูกไหลออกมาเป็นเลือด
เข้าใจว่า ตรวจไข้หวัดใหญ่ด้วย
แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการจิ้มจมูก
ถ้าเป็น รพ เอกชนที่ไทย เราจะสามารถหน่วงเวลา ขอความเห็นใจ และทำใจก่อนจะจิ้มได้
แต่ในตอนนั้น คุณหมอมา อธิบายว่าต้องจิ้ม 5 ครั้ง เรามีเวลาทำใจแค่ตอนที่เค้าแกะอุปกรณ์กันเท่านั้น
พอตอนเก็บตัวอย่าง จะบอกว่าคุณหมอ เอามือนึงจับหัวเรา 555 ล๊อคเพื่อให้เก็บตัวอย่างได้เร็วที่สุด
เรามีเวลาในการทำใจไม้ต่อไม้ ไม่เกิน 30 วินาที และสองไม้สุดท้าย สำลีก้อนใหญ่มากกกก
เพิ่มเติมรูปห้องที่เราเข้าไปตรวจเก็บเนื้อเยื่อ และห้องที่เราจะต้องอยู่กรณีผล positive
4. รอผล
เค้าพาเราไปรอในห้องปิด (อันนี้รู้สึกโดนขังจริง) ซึ่งในห้องนี้มีเครื่องฆ่าเชื้อพร้อม
เมื่อผลเลือดของเราออก คุณหมอได้มาแจ้งว่าเราไม่ได้เป็นปอดอักเสบ และไข้หวัดใหญ่
เราแค่มีอาการเป็นหวัดเล็กน้อย (อ้างอิงจากผลตรวจ) แต่ผลCOVIDยังไม่ออก ให้เราไปรอผลที่บ้าน
5. กลับบ้าน
คุณหมอได้กำชับว่า ให้กลับบ้าน อย่าไปที่ๆคนเยอะ รพ จะไม่ใช่คนแจ้งผล สาธารณสุข จะโทรไปเอง
เราไปจ่ายค่าเสียหายที่ ประมาณ 5,000 เยน
6. Final chapter
เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งผลว่า ผลเราเป็น Negative แปลว่า เราไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ เรานี่สบายใจ fly high เลย
สุดท้าย จริงๆเราอาจจะติดเชื้อแล้วก็ได้ แต่เนื่องจากว่า การที่อยู่บ้าน เรานอนหลับพักผ่อนพอ มีสุขภาพที่ดี
กินอาหารครบตามหลักโภชนาการ เราจึงมีร่างกายที่แข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อก็เป็นได้
ขอให้ทุกคน รักษาสุขภาพของตัวเองนะ
อันนี้เราเขียนจากประสบการณ์ของตัวเอง ที่ครั้งนึงได้รับการตรวจ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563
เล่าสู่กันฟัน การตรวจหาเชื้อ COVIT-19 ที่ญี่ปุ่น
สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท จะมาเล่าให้ฟัง เรื่องการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่ญี่ปุ่น
ก่อนอื่น จขกท ต้องเล่าความเป็นมาก่อน
เราเป็น resident ที่นี่ จ่ายภาษีและมีประกันสังคมค่ะ
เราได้ไปเที่ยวจอร์แดน อียิปต์ โดยบินผ่านไทย และดูไบ (เที่ยวไป 20 วัน)
หลังจากพักร้อน ไปประชุมและไปงาน exhibition ต่อที่สิงค์โปร ในช่วงที่สิงค์โปรมีผู้ติดเชื้ออันดับสอง
กลับมาถึงญี่ปุ่นผ่านนาริตะ และฮาเนดะ รูทการเดินทางเป็นแบบนี้
NARITA - BANGKOK - DUBAI - JORDAN - EYGPY
EGYPT - DUBAI - BANGKOK - SINGAPORE - BANGKOK - NARITA - HIROSHIMA
วันรุ่งขึ้นหลังจากกลับที่ญี่ปุ่น ไปทำงานเลย
แล้วพอดีคนที่ไปด้วย มีอาการไอ หัวหน้าเลย(ไล่)ให้ทำงานที่บ้าน 5555
ก่อนให้กลับบ้าน ได้ขอให้เราเขียนรูทการเดินทางอย่างละเอียด (เดินทาง flight อะไร ไปที่ไหน วันที่เท่าไร)
และต้องรายงานตัวตอนเช้า ว่าวันนี้ตั้งใจจะทำงานอะไร แล้วร่างกายอุณหภูมิเท่าไร
รายงานตอนเย็น วันนี้ทำอะไรไป แล้วร่างกายอุณหภูมิเท่าไร
จขกท ได้ทำงานอยู่ที่บ้านตั้งแต่ 19 Feb ตอนแรกๆก็เบื่อ แต่อยากจะบอกว่า ทำงานที่บ้าน มันดีมว๊ากกกกกกกกก 555
เข้าเรื่องกันดีกว่า
หลังจากทำงานอยู่บ้านมา 10 วัน จขกท มีอาการไข้ต่ำ 37.กว่าๆ บางวันก็เจ็บคอ มีอาการปวดตัว
เราต้องรายงานบริษัทตามความจริง และเรากำลังจะกลับเข้าบริษัทแล้ว จึงเกิดอาการนอยน์ 555
แต่คนที่นอยน์มากกว่าเราคือ คนญี่ปุ่น หัวหน้าเราบอกให้เราไปโรงพยาบาล
ซึ่งเราก็แบบ เอาไงดีน้าาาา เพราะเรามีไข้ต่ำๆ และเริ่มกังวลว่า เรามีความเสี่ยงที่จะเป็นผู้ติดเชื้อ
เนื่องจาก
ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีเริ่มตรวจ COVID (ปล ที่นี่เค้ายังเรียกว่า โคโรน่า อยู่) โดยสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้
เราจึงได้โอกาสใช้จังหวะนี้แหละ ไปพบเจอผู้คนบ้าง โดยไป รพ. เพื่อไปตรวจหาเชื้อ เพราะเราก็เริ่มไม่มั่นใจตัวเอง
1. โทรไปปรึกษาสาธารณสุข ประจำเขต 保険センター
- เราไปปรึกษา โดยได้บอกรายละเอียด ของเราว่ามีความเสี่ยงแบบไหน อะไร อย่างไร
- เนื่องจากว่า อาการของเราไม่ชัดเจน เค้าจึงแจ้งว่า ให้ไปโรงพยาบาลใกล้ๆบ้าน กรณีที่จำเป็นต้องตรวจ รพ จะแจ้งมากเอง
2. ไปรพ.
- เมื่อถึงเราไปเค้าจะมีใบให้เรากรอก รายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรีไหม และเพิ่มเติมคือไปประเทศไหนมาบ้าง
- เนื่องจากว่า เราหาซื้อหน้ากากไม่ได้ พอเราบอกว่าเรามีความเสี่ยง COVID เค้าเลยให้หน้ากากมาอันนึง 555
- เค้าจะวัดไข้และซักถามอาการอีกรอบ ซึ่งในตอนนี้ ทุกคนยังอยู่ในชุดปกติอยู่ และเค้าคัดแยกเราไว้อีกพื้นที่
3. เค้าขั้นตอนคัดกรอง
เนื่องจากว่า เค้าไม่ได้ตรวจทุกคนที่มาขอให้ตรวจ แต่ดูจากความจำเป็น และความเสี่ยง เค้าพิจารณาความเสี่ยงของเรา
ซึ่งทาง รพ. เห็นว่าเราได้เดินทางไปหลายประเทศ และเริ่มมีอาการ (เราคิดเอง 555) เค้าจึงทำการติดต่อสาธารณสุข ประจำเขต เพื่อขออนุมัติการตรวจ
โดยระหว่างระอนุมัติเค้าได้ให้เราในส่วนแยกออกมาต่างหาก
หลังจากอนุมัติในการตรวจ เค้าพาไปตรวจตามนี้
1. X-ray ปอด เพื่อหาว่าปอดอักเสบหรือไม่ ถ้าปอดดูไม่ดี เค้าจะส่งไป CT ต่อ แต่ของเราโอ เลยไม่ต้อง ตอนแรกๆทุกคนยังอยู่ชุดธรรมดา
พอเราได้เข้าข่าย ทุกคนที่เดินมาหาเราเต็มยศเลย รวมถึงเข้าหน้าที่ x-ray ชุดเต็มยศจ้า
2. เจาะเลือด เอาของเราไปสองหลอด
ตรวจผล WBC / RBC / Hb / Ht / MCV /MCH / PLT / NRBC / %NRBC / Neut / Eosi / Baso / Mono / Lymp / CRP
เจ้าหน้าที่ได้ใส่ชุดเต็มยศ และพาเราไปเจาะเลือดในห้องแยกต่างหาก
3. จิ้มจมูก
ทรมานมว๊ากกกกกกกกก ที่สุด
เจ้าหน้าที่ชุดเต็มยศ ได้พาเราไปพื้นที่พิเศษ (ห้องใหม่มาก เข้าใจว่าทำมาใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ)
ห้องเป็นห้องเล๋็กๆตามแบบญี่ปุ่น แต่มีทุกอย่างพร้อม ทางเข้าเป็นแบบประตูสองชั้น คือถ้าเราเป็น เราคงได้อยู่ที่นี่แหละ ก็ไม่เลวนะ 555
ในที่สุดคุณหมอก็มาหาเรา และบอกเราว่าต้องจิ้มจมูก โดยเตรียมมา 5 ไม้
โดนจิ้มทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ระดับความเจ็บมือ เริ่มจากน้อยไปจนมาก
สองไม้สุดท้ายจิ้มลึก และเขี่ยแรงมากกก เราไม่จาม แต่น้ำมูกไหลออกมาเป็นเลือด
เข้าใจว่า ตรวจไข้หวัดใหญ่ด้วย
แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการจิ้มจมูก
ถ้าเป็น รพ เอกชนที่ไทย เราจะสามารถหน่วงเวลา ขอความเห็นใจ และทำใจก่อนจะจิ้มได้
แต่ในตอนนั้น คุณหมอมา อธิบายว่าต้องจิ้ม 5 ครั้ง เรามีเวลาทำใจแค่ตอนที่เค้าแกะอุปกรณ์กันเท่านั้น
พอตอนเก็บตัวอย่าง จะบอกว่าคุณหมอ เอามือนึงจับหัวเรา 555 ล๊อคเพื่อให้เก็บตัวอย่างได้เร็วที่สุด
เรามีเวลาในการทำใจไม้ต่อไม้ ไม่เกิน 30 วินาที และสองไม้สุดท้าย สำลีก้อนใหญ่มากกกก
เพิ่มเติมรูปห้องที่เราเข้าไปตรวจเก็บเนื้อเยื่อ และห้องที่เราจะต้องอยู่กรณีผล positive
4. รอผล
เค้าพาเราไปรอในห้องปิด (อันนี้รู้สึกโดนขังจริง) ซึ่งในห้องนี้มีเครื่องฆ่าเชื้อพร้อม
เมื่อผลเลือดของเราออก คุณหมอได้มาแจ้งว่าเราไม่ได้เป็นปอดอักเสบ และไข้หวัดใหญ่
เราแค่มีอาการเป็นหวัดเล็กน้อย (อ้างอิงจากผลตรวจ) แต่ผลCOVIDยังไม่ออก ให้เราไปรอผลที่บ้าน
5. กลับบ้าน
คุณหมอได้กำชับว่า ให้กลับบ้าน อย่าไปที่ๆคนเยอะ รพ จะไม่ใช่คนแจ้งผล สาธารณสุข จะโทรไปเอง
เราไปจ่ายค่าเสียหายที่ ประมาณ 5,000 เยน
6. Final chapter
เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งผลว่า ผลเราเป็น Negative แปลว่า เราไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ เรานี่สบายใจ fly high เลย
สุดท้าย จริงๆเราอาจจะติดเชื้อแล้วก็ได้ แต่เนื่องจากว่า การที่อยู่บ้าน เรานอนหลับพักผ่อนพอ มีสุขภาพที่ดี
กินอาหารครบตามหลักโภชนาการ เราจึงมีร่างกายที่แข็งแรง ต่อสู้กับเชื้อก็เป็นได้
ขอให้ทุกคน รักษาสุขภาพของตัวเองนะ
อันนี้เราเขียนจากประสบการณ์ของตัวเอง ที่ครั้งนึงได้รับการตรวจ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563