การป้องกันเชิงรับ คือรอให้คนรู้สึกสงสัยว่าตัวเองป่วยแล้ว walk in เข้ามาขอตรวจ ซึ่งกว่าจะมาหาหมอคนป่วยก็อาจจะแพร่เชื้อให้คนอื่นไปแล้วหลายคน
ส่วนการป้องกันเชิงรุก คือรัฐเป็นฝ่ายออกสำรวจหา และบุกเข้าไปขอตรวจผู้ที่ต้องสงสัย ในบางรายสามารถตรวจพบได้ก่อนที่จะเริ่มแสดงอาการป่วย ทำให้โอกาสที่จะแพร่เชื้อให้คนอื่นลดน้อยลง ทำให้โรคระบาดช้าออกไป และนำไปสู่การควบคุมโรคได้ในที่สุด
คงจะรู้กันว่าค่าตรวจไวรัสแพงมาก 3 พันบาทขึ้นไป และนั่นคืออุปสรรคของการควบคุมการระบาดของโรคไวรัสโควิด เพราะประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินมากพอที่จะเจียดมาตรวจหาไวรัสในกรณีที่สงสัย ซึ่งจะทำให้มีคนป่วยมากมายที่จะพยายามรักษาตัวเองตามบ้าน เพราะขาดแคลนเงิน
แต่การป้องกันเชิงรุก ต้องใช้งบประมาณและทรัพยากรบุคคลมาก รัฐบาลอาจจะต้องตรวจคนหลายพันคนต่อวัน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่การป้องกันเชิงรุกนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าได้ผลในหลายประเทศ ตลอดปีนี้รัฐอาจจะต้องตรวจคนหลายล้านคน และมีค่าใช้จ่ายหลายพันล้านบาท อาจจะถึงหมื่นล้าน แต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นถ้าโรคสามารถแพร่ระบาดในประเทศได้
เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะนึกแย้งทันทีว่าเขาก็ทำอยูแล้ว จะมาตั้งกระทู้บอกอีกทำไม
เรื่องนี้ก็ขอบอกว่าสิ่งที่ท่านนึกว่ามีอยู่แล้วหรือทำอยู่แล้วนั้น ก็เชื่อว่ามีจริง แต่ทว่ามีน้อยไป มันเล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับการดำเนินการของประเทศที่ควบคุมโรคได้ ของเรานั้นยังห่างไกลกับขนาดที่จะเรียกได้ว่ามีการป้องกันเชิงรุก
รัฐบาลน่าจะเจียดงบป้องกันประเทศสักหมื่นล้าน มาใช้ป้องกันการระบาดของโควิดในเชิงรุก
ส่วนการป้องกันเชิงรุก คือรัฐเป็นฝ่ายออกสำรวจหา และบุกเข้าไปขอตรวจผู้ที่ต้องสงสัย ในบางรายสามารถตรวจพบได้ก่อนที่จะเริ่มแสดงอาการป่วย ทำให้โอกาสที่จะแพร่เชื้อให้คนอื่นลดน้อยลง ทำให้โรคระบาดช้าออกไป และนำไปสู่การควบคุมโรคได้ในที่สุด
คงจะรู้กันว่าค่าตรวจไวรัสแพงมาก 3 พันบาทขึ้นไป และนั่นคืออุปสรรคของการควบคุมการระบาดของโรคไวรัสโควิด เพราะประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินมากพอที่จะเจียดมาตรวจหาไวรัสในกรณีที่สงสัย ซึ่งจะทำให้มีคนป่วยมากมายที่จะพยายามรักษาตัวเองตามบ้าน เพราะขาดแคลนเงิน
แต่การป้องกันเชิงรุก ต้องใช้งบประมาณและทรัพยากรบุคคลมาก รัฐบาลอาจจะต้องตรวจคนหลายพันคนต่อวัน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่การป้องกันเชิงรุกนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าได้ผลในหลายประเทศ ตลอดปีนี้รัฐอาจจะต้องตรวจคนหลายล้านคน และมีค่าใช้จ่ายหลายพันล้านบาท อาจจะถึงหมื่นล้าน แต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นถ้าโรคสามารถแพร่ระบาดในประเทศได้
เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะนึกแย้งทันทีว่าเขาก็ทำอยูแล้ว จะมาตั้งกระทู้บอกอีกทำไม
เรื่องนี้ก็ขอบอกว่าสิ่งที่ท่านนึกว่ามีอยู่แล้วหรือทำอยู่แล้วนั้น ก็เชื่อว่ามีจริง แต่ทว่ามีน้อยไป มันเล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับการดำเนินการของประเทศที่ควบคุมโรคได้ ของเรานั้นยังห่างไกลกับขนาดที่จะเรียกได้ว่ามีการป้องกันเชิงรุก