นักท่องเที่ยวลด--->คนเดินห้างน้อยลง--->พ่อค้าแม่ค้าขายไม่ได้เดือดร้อนขอลดค่าเช่า--->ห้างกำไรลดลง--->ห้างลดค่าใช้จ่าย--->คนตกงาน
นักท่องเที่ยวลด--->สายการบินที่ขาดทุนอยู่แล้ว ขาดทุนหนักกว่าเดิม--->กระแสเงินสดไม่เพียงพอ--->เพิ่มทุน--->ผู้ถือหุ้นไม่เพิ่มให้--->เรียบร้อยโรงเรียนจีน--->คนตกงาน
นักท่องเที่ยวลด--->โรงแรมไม่มีคนพัก--->ลดค่าเข้าพัก--->กำไรลดลง--->รายจ่ายเท่าเดิม--->ลด พนง.---> พนักงานเซฟตัวเองประหยัดค่าใช้จ่าย
เศรษฐกิจไม่ดี--->ลดดอกเพื่อกระตุ้น--->คนเป็นหนี้เยอะขึ้นเพราะผ่อนถูก--->หนี้เสียจะตามมา--->ชักดาบ--->เจ้าหนี้ซวย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
เศรษฐกิจไม่ดี--->ชะลอการลงทุน(ขนาดที่บ้านจะลงทุนใช่เงินสดตัวเองด้วยนะยังชะลอเลย แล้วคนที่ต้องกู้ ไม่คิดหนักกว่าเรอะ)--->เงินไม่หมุนในระบบ--->Recession
ร้านค้าไม่แจกถุง--->ซื้อเท่าที่จำเป็น(กรณีลืมถุงผ้า)--->เงินหมุนน้อยลง--->Recession
****นี่ยังไม่รวมผลกระทบของการชุมนุมทางการเมืองของ นศ. ที่ตอนนี้ก็ถือว่ายังจุดไม่ติด หากจุดติดจนมีปัญหาทางการเมืองก็ลบออกไปอีก200จุดเป็นอย่างน้อย
เท่าที่นึกออก+ยกตัวอย่าง ***ประเด็นสำคัญคือ ไม่มีใครรู้ว่า Bottom ของรอบนี้จะอยู่ตรงไหน และBottom ไปรึยัง
ไม่อยากจะคิดผลกระทบของ เศรษฐกิจรอบนี้ *เอาความจริงมาคุยกันนะครับ
นักท่องเที่ยวลด--->สายการบินที่ขาดทุนอยู่แล้ว ขาดทุนหนักกว่าเดิม--->กระแสเงินสดไม่เพียงพอ--->เพิ่มทุน--->ผู้ถือหุ้นไม่เพิ่มให้--->เรียบร้อยโรงเรียนจีน--->คนตกงาน
นักท่องเที่ยวลด--->โรงแรมไม่มีคนพัก--->ลดค่าเข้าพัก--->กำไรลดลง--->รายจ่ายเท่าเดิม--->ลด พนง.---> พนักงานเซฟตัวเองประหยัดค่าใช้จ่าย
เศรษฐกิจไม่ดี--->ลดดอกเพื่อกระตุ้น--->คนเป็นหนี้เยอะขึ้นเพราะผ่อนถูก--->หนี้เสียจะตามมา--->ชักดาบ--->เจ้าหนี้ซวย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
เศรษฐกิจไม่ดี--->ชะลอการลงทุน(ขนาดที่บ้านจะลงทุนใช่เงินสดตัวเองด้วยนะยังชะลอเลย แล้วคนที่ต้องกู้ ไม่คิดหนักกว่าเรอะ)--->เงินไม่หมุนในระบบ--->Recession
ร้านค้าไม่แจกถุง--->ซื้อเท่าที่จำเป็น(กรณีลืมถุงผ้า)--->เงินหมุนน้อยลง--->Recession
****นี่ยังไม่รวมผลกระทบของการชุมนุมทางการเมืองของ นศ. ที่ตอนนี้ก็ถือว่ายังจุดไม่ติด หากจุดติดจนมีปัญหาทางการเมืองก็ลบออกไปอีก200จุดเป็นอย่างน้อย
เท่าที่นึกออก+ยกตัวอย่าง ***ประเด็นสำคัญคือ ไม่มีใครรู้ว่า Bottom ของรอบนี้จะอยู่ตรงไหน และBottom ไปรึยัง