[CR] Review - Hokkaido 8D 7N – ตอนที่ 1 เดินทาง Korean Air (เมนู Seafood), Transit Tour, Incheon, New Chitose Airport



          สวัสดีครับ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปทุกท่าน เป็นอีกครั้งที่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปยังฮอกไกโด ในช่วงที่ผ่านมา (วันที่ 7-15 ก.พ. 2563) ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ที่แพร่ระบาดไปเกือบจะทั่วโลกแล้ว สำหรับช่วงที่ผมไปเป็นช่วงที่ยังไม่มีการระบาดมากนักในฮอกไกโด หรือ ในเกาหลีใต้เองก็ตาม ก่อนที่จะเจอข่าวคุณป้าหมายเลข 31 และ ฮอกไกโดก็เข้าสู่การระบาดมากขึ้นหลังผมกลับมา จนถึงตอนนี้ที่ในฮอกไกโดที่ผู้ว่าหนุ่มหล่อถูกใจสาวๆ หลายคนมีการให้หยุดออกนอกบ้านในสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์ที่จะถึงนี้ (7-8 มี.ค. 63) รวมถึงสถานที่ในฮอกไกโดที่มีการปิดทำการ หรือ เลื่อนเวลาเปิดปิด และการบินไทยก็ยกเลิกเที่ยวบินเดินทางในเดือนมีนาคมนี้ ยังคงเหลือในบางไฟท์เท่านั้น

          สำหรับตัวผมเองเดินทางพร้อมครอบครัว พ่อและแม่ ครับ ช่วงเดินทางไปก็จัดเตรียมหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ไปอย่างเต็มที่ และคอยกำชับให้ระวังการขยี้ตา การสัมผัสจมูกปาก อยู่เสมอ หลังเดินทางกลับมา วันนี้ (5 มี.ค. 2563) ก็เป็นวันที่ 20 หลังเดินทางกลับมา ก็ดูแลตัวเอง ไปวัดไข้ทุกวัน ก็ยังไม่เกิน 37.5 องศา และทุกคนที่กลับมาจากทริปก็ใส่หน้ากากเมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้าน รวมทั้งจนถึงวันนี้ทุกคนยังไม่มีอาหารไข้ เจ็บคอ น้ำมูก หรือหายใจเหนื่อยหอบครับ ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบมีหน้ากากเมื่ออกนอกบ้าน รอจนครบ 24 วัน เผื่อเหลือเผื่อขาดจากคำแนะนำ 14 วัน และวัดไข้ สังเกตอาการตัวเองกันอยู่ครับ 

          การเดินทางครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็นหลายๆ ตอน เพื่อเป็นข้อมูล และการแนะนำให้กับพี่น้องสมาชิก และผู้อ่านทุกท่าน เป็นแนวทางในการเดินทางท่องเที่ยวครับ และข้อมูลขอออกตัวเลยครับ ว่าจะไม่ค่อยละเอียดมากครับ แต่จะบรรยายให้เห็นภาพมากที่สุดครับ ซึ่งผมเองก็ใช้ข้อมูลในพันทิปของแต่ละท่านที่ได้รีวิว รวมถึงเว็บไซต์ตรงของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว เว็บประเทศญี่ปุ่น หรือเพจในเฟสบุ๊คต่างๆ มาประกอบ และปรับใช้ในแผนการเดินทางเช่นกันครับ จึงอยากแนะนำต่อ เมื่อฮอกไกโดพร้อมให้ทุกคนเดินทางแล้ว จะได้มีความสุขกับการท่องเที่ยว มาถึงตรงนี้แล้ว พร้อมแล้ว ไปกันเลยครับ!!!!!

1. Korean Air

          การเดินทางครั้งนี้ วันที่ 7 ก.พ. 2563 ผมใช้สายการบิน Korean Air ในการเดินทาง โดยไปทรานเฟอร์ที่สนามบินอินชอน ก่อนต่อเครื่องไปยังสนามบินนิวชิโตเสะ ครับ ซึ่งไปกลับรวมกันก็ 4 ไฟท์เดินทาง ทั้งหมดผมเลือกเป็นเมนูซีฟู้ด เพื่อเป็นการรีวิวด้วยครับ 



          จุดเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ครับ ผมเช็คอินออนไลน์มาล่วงหน้าแล้ว เมื่อมาถึง Counter N เข้าช่อง Baggage Drop เจ้าหน้าที่จะขอดูเอกสารที่เช็คอินออนไลน์มาก่อน ก่อนปล่อยไปยัง Counter Check in ครับ ซึ่งช่วงเวลา 20.00 น. ยังไม่ค่อยมีผู้โดยสารมากนัก และใช้เวลาไม่นาน ได้รับ Boarding Pass มา 2 ใบ รับกระเป๋าที่ปลายทางสนามบินนิวชิโตเสะ เลยครับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ย้ำว่าจองเมนูซีฟู้ดมานะครับ ผมก็ตอบยืนยัน

          การเดินทางครั้งนี้ เหตุที่เลือกสายการบิน Korean Air เนื่องจาก ในช่วงประกาศงาน Snow Festival 2020 ประมาณปลายเดือนเมษายน 2562 ว่าจะจัดในวันที่ 4-11 ก.พ. 2563 และรู้ว่าทุกอย่างต้องแพงมากๆ เลยรีบหาตั๋วกันก่อนครับ ซึ่งเทียบราคาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 ในตอนนั้น บินตรง การบินไทย ราคาอยู่ที่ประมาณ 26,000 บาท  แอร์เอเชีย รวมกระเป๋า 20 กิโล ไม่รวมอาหารอยู่ที่ 18,800 บาท ส่วน Nokscoot ยังไม่เปิดให้บริการในตอนนั้น  สำหรับสายการบินที่ต้องทรานเฟอร์ทั้ง EVA JAL ANA Singapore Airline ราคาอยู่ที่ 24,000 กว่าบาททั้งนั้น ซึ่งราคาพอๆ กับการบินไทย แต่เสียเวลาในการเดินทาง สำหรับ Korean Air ที่เลือกเดินทาง ราคาอยู่ที่ 20,340 บาท เมื่อเทียบราคา ความสมเหตุสมผล เวลาที่ต้องเปลี่ยนเครื่องแล้ว ทุกคนเห็นว่า งั้นจอง Korean Air กัน เพราะกะว่าจะเที่ยวโซลด้วย แต่ก็เปลี่ยนแผนกัน เลยออกมาเป็น Transit Tour แทน และเก็บเงินไปจ่ายค่าโรงแรมที่ดูราคาคร่าวๆ บางโรงแรมที่เปิดให้จอง ในคืนวันเสาร์ที่ 8 ราคาห้องละ 8,000-12,000 บาท (ห้องเตียงคู่ รวมอาหารเช้าแล้ว) เลยตัดการบินไทยออก และบินแบบ Full Service แทน แบบสบายๆ หน่อย โดยได้น้ำหนักกระเป๋า 23 กิโลกรัม และโหลดได้แค่ใบเดียวเท่านั้น

 
บริเวณด้านในผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยกันบ้าง ระหว่างรอขึ้นเครื่องก็แวะเข้าเลาจ์คิงพาวเวอร์กันครับ
 

ครั้งนี้ เกต E4 ครับ จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารก่อนลงไปที่เกตจริงด้านล่าง ต้องถอดหน้ากากให้เห็นหน้าจริงครับ 
 
รายละเอียดเที่ยวบิน ผู้โดยสารบอร์ดกันเกือบเต็มลำครับ
 

เมื่อเข้ามาถึงที่นั่งก็จะมี หมอน ผ้าห่ม หูฟัง ถุงรองเท้าและแปรงสีฟัน เตรียมให้แล้วครับ แอร์ก้มาถามระหว่างการบอร์ดว่า ชื่อผู้โดยสารจองเมนูซีฟู้ดมาถูกต้องมั้ย

ที่นั่งกว้างขวางครับ ฝรั่งนั่งข้างๆ ขายาวยังพอนั่งสบายๆ 

วันนี้เครื่องบินเป็น Airbus A380

นิตยสาร

สติ้กเกอร์สำหรับแจ้งแอร์บนเครื่องบิน ต้องการยังไงติดไว้บริเวณที่นั่งได้เลยครับ

Welcome Aboard ซึ่งตามกำหนดการต้องออกเดินทาง 23.15 น. เวลาในจอบนเครื่อง 23.14 น. มีออกเลทนิดหน่อยครับ

แกะถุงสีฟ้าที่บรรจุรองเท้าและแปรงสีฟันออกมาดูครับ

วิดีโอสาธิตความปลอดภัยบนเครื่อง โดยสายการบินได้ร่วมมือร่วมมือกับบริษัท “SM Entertainment” ที่นำแสดงโดยวง SuperM เปิดแสดงบนเครื่องเมื่อปลายปีก่อนครับ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งออกวัฒนธรรมเคป๊อปของเกาหลี

ตัวจริงใน youtube ซึ่งน่าจะถูกใจหลายๆ คน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เส้นทางบินสำหรับไฟท์แรกนี้ครับ


ภาพยนต์ล่าสุดในเดือน ก.พ. 2563 บนเครื่องครับ



บรรยากาศบนเครื่องบิน จะเห็นได้ว่าแอร์ ก็มีการใส่หน้ากากและถุงมือบริการครรับ บนเครื่องมีแอร์คนไทยประกาศและให้บริการครับ

เมื่อเครื่อง Take Off ในระหว่างนี้ยังสามารถดูหนังฟังเพลงบนจอได้ครับ บางสายการบินก็จะตัดไม่ให้เล่นอะไรเลยก็มี เมื่อสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง แอร์ก็จะเริ่มเดินแจกใบ ตม. และใบศุลกากร ซึ่งผมก็ไม่ได้หยิบมา เพราะทรานเฟอร์รอเปลี่ยนเครื่อง แอร์เกาหลีก็ถามว่าไม่รับเหรอ พอบอกว่าทรานเฟอร์ก็เข้าใจกันครับ สักพักแอร์ก็เดินแจกของว่างและเครื่องดื่ม ซึ่งตัว snack อร่อยมากครับ


จากนั้นก็จะมีการเดินขายสินค้า Duty Free และปิดไฟให้พักผ่อนกันครับ  ระหว่างไฟท์ก็มีเดินเสริฟน้ำตลอดครับ

ในช่วงประกาศการขายสินค้าปลอดภาษี ก็แนะนำว่าสามารถมาดูสินค้าตัวอย่างด้านหลังเครื่องได้ ผมมาเข้าห้องน้ำ ด้านหลังเครื่อง ตรงบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ของเครื่อง A380 ก็จะมีน้ำ และ ขนม ให้บริการตัวเอง รวมถึงตัวอย่างสินค้าที่ขายบนเครื่อง

ประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีก่อนเครื่องลง ก็จะมีบริการอาหารเช้าครับ อย่างทีบอกในหัวกระทู้ว่าผมสั่งเป็นเมนู Seafod หมดทุกเที่ยวบิน ตอนจอง ซึ่งได้ติดต่อ Call Center ของสายการบินไปอีกครั้งก่อนเดินทาง  Call Center ก็ทำรายการยืนยันเลือกเมนูให้อีกครั้ง จึงไม่แน่ใจว่าการสำรองให้ตั้งแต่ตอนจองตั๋วในตอนตอนแรก  หากไม่ติดต่อ Call Center จะได้เมนูซีฟู้ดหรือไม่ 

และแล้วเมนู Seafood ก็มาครับ พร้อมน้ำแอปเปิ้ล 

เป็นบะหมี่ พร้อมกุ้งและปลา ครับ อร่อยมาก ปริมาณเยอะ และชิ้นใหญ่ครับ

อีกเมนูของพ่อกับแม่ผม เป็น ข้าวผัดไก่ และ ชุดออมเล็ทอาหารเช้าครับ

ซึ่งบอกไว้ล่วงหน้าเลยครับ ทั้ง 4 ไฟท์ที่ผมบิน ไม่มีเมนูข้าวบิบิมบับนะครับ ตอนแอร์เสริฟอาหารเช้า จึงขอซอสโกชูจังมาทานด้วยกัครับ ก็เค็มๆ เผ็ดๆ ตามสไตล์ แก้เลี่ยนได้ครับ 

ก่อนเครื่องลงจะมีเมนูบอกเกตที่จะต่อเครื่องครับ ซึ่งผมจะเดินทางไปยังฮอกไกโด เกตที่ไป ซัปโปโร เป็นเกต 266 เวลาออกเดินทาง 12.55 ในรูปเลยครับ

เมื่อเครื่องลงจอด ทยอยออกมาจากเครื่อง ในรูปเป็นเครื่องบินไฟท์อื่นนะครับ 

เดินมาถึงทางเดิน ไปยังจุดทรานเฟอร์เข้าิาคารผู้โดยสาร ก็เป็นวันที่ 8 ก.พ. 2563 ซึ่งเวลาที่เกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง เหมือนญี่ปุ่นครับ
 
สำหรับข้อมูลการบิน ของ fightradar ออกมาสายจากกำหนดการเดิม แต่ถึงสนามบินอินชอนก่อนกำหนดเวลาครับ ระยะเวลาการบินทั้งหมด 4 ชั่วโมง 34 นาที ซึ่งจริงๆ แล้ว นอนได้ประมาณเพียง 2 ชั่วโมงเองครับ ซึ่งอาจเพลียๆ กันบ้าง สำหรับผู้เดินทางมายังเกาหลีใต้ หรือ ทรานเฟอร์เรื่องครับ

ต่อไป ผมมีเวลาเปลี่ยนเครื่องทั้งหมด 6 ชั่วโมงกว่า กว่าจะออกเดินทางไปยังซัปโปโร ฮอกไกโด จึงออกมาข้างนอกเพื่อไปทรานซิสทัวร์ที่สนามบินบริการครับ ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง
ชื่อสินค้า:   Korean Air
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่