เชื่อว่าคนที่ต้องเปลี่ยนงานใหม่กะทันหัน อยู่ในช่วงตกงานแบบไม่ทันตั้งตัว อาจจะทำให้คุณรู้สึกจิตตกได้ง่าย มาพร้อมความรู้สึกเครียดและกดดันที่มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ายังอยู่ในระหว่างหางาน รู้สึกเคว้งคว้าง ลุ้นรอเรียกสัมภาษณ์ หรือรอผลลัพธ์ อาจต้องลองปรับสมดุลสภาพจิตใจตัวเองกันสักหน่อยครับ จะได้ไม่ทำให้สุขภาพจิตแย่ไปกว่านี้
1.คิดซะว่าเป็นช่วงเวลาที่เราได้พักร้อน
คิดบวกเอาไว้ก่อนเพื่อรักษาสุขภาพจิตของตัวเองครับ ทำงานหนักมาตลอดก็ถือว่าช่วงตกงานนั้นเป็นช่วงที่จะได้พักผ่อนอยู่กับตัวเองได้มากที่สุดแล้วกัน
จากนั้นค่อย ๆ ปรับสภาพตัวเองให้กลับมาสู่โหมดปกติ แล้วเริ่มวางแผนว่าจะเริ่มต้นชีวิตตัวเองจากตรงไหน
2.อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง
ช่วงเวลารอการสัมภาษณ์งานที่ใหม่ คุณควรจัดเวลาว่างให้ตัวเองแล้วเพลิดเพลินให้เต็มที่ เช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, อ่านหนังสือ
หรือลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน เพื่อเป็นการลดความวิตกกังวลและไม่ทำให้คุณคิดฟุ้งซ่านมากเกินไป
3.ศึกษาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง
ให้มองว่าช่วงตกงานเป็นช่วงที่มีคุณค่าไม่น้อย เพราะคุณจะมีเวลาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่อยากเรียน ดังนั้นลองมองหาความรู้ที่เคยอยากศึกษาเพิ่มเติม แต่ไม่มีเวลา
ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้ค้นพบหนทางใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนเก่งมากขึ้นก็ได้
4.เรียนรู้และปล่อยวาง
บทเรียนอย่างหนึ่งของการทำงาน ให้จำเอาไว้เสมอเลยครับว่า ไม่มีงานไหนถาวรมั่นคง ทุกที่มีปัญหาด้วยกันหมด ส่วนจะเป็นปัญหาแบบไหน รับมือได้มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสกิลของคุณเอง ดังนั้นให้รู้จักเผื่อใจไว้กับความผิดหวัง
ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงตกงานด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหน เตรียมตัวหาช่องหนีทีรอดก๊อกสองสำหรับตัวเองอย่างไม่ประมาทดีที่สุดครับ
เมื่อใดที่คุณตกงาน อย่าลืมนะครับให้คิดว่าคุณกำลังจะเริ่มต้นก้าวสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ไม่ควรท้อแท้หรือรู้สึกจิตตกจนเหมือนการตกงานเป็นวันสุดท้ายของชีวิต แต่ควรหันมาให้กำลังใจตัวเองพร้อมปรับเปลี่ยนมุมมองชีวิตใหม่ เพื่อให้คุณได้พบกับหนทางที่เหมาะสมกับชีวิตมากที่สุด
ไม่แน่คุณอาจจะได้ทำงานตำแหน่งใหม่ที่ให้ความสุขได้มากกว่าเดิมก็ได้ ใครจะไปรู้...
เครดิต SOP JOBS Matching
ตกงาน! จิตตก! พิชิตด้วย 4 เทคนิคปรับตัวให้สมดุลก่อนเริ่มงานใหม่
1.คิดซะว่าเป็นช่วงเวลาที่เราได้พักร้อน
คิดบวกเอาไว้ก่อนเพื่อรักษาสุขภาพจิตของตัวเองครับ ทำงานหนักมาตลอดก็ถือว่าช่วงตกงานนั้นเป็นช่วงที่จะได้พักผ่อนอยู่กับตัวเองได้มากที่สุดแล้วกัน
จากนั้นค่อย ๆ ปรับสภาพตัวเองให้กลับมาสู่โหมดปกติ แล้วเริ่มวางแผนว่าจะเริ่มต้นชีวิตตัวเองจากตรงไหน
2.อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง
ช่วงเวลารอการสัมภาษณ์งานที่ใหม่ คุณควรจัดเวลาว่างให้ตัวเองแล้วเพลิดเพลินให้เต็มที่ เช่น ดูหนัง, ฟังเพลง, อ่านหนังสือ
หรือลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน เพื่อเป็นการลดความวิตกกังวลและไม่ทำให้คุณคิดฟุ้งซ่านมากเกินไป
3.ศึกษาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง
ให้มองว่าช่วงตกงานเป็นช่วงที่มีคุณค่าไม่น้อย เพราะคุณจะมีเวลาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่อยากเรียน ดังนั้นลองมองหาความรู้ที่เคยอยากศึกษาเพิ่มเติม แต่ไม่มีเวลา
ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้ค้นพบหนทางใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนเก่งมากขึ้นก็ได้
4.เรียนรู้และปล่อยวาง
บทเรียนอย่างหนึ่งของการทำงาน ให้จำเอาไว้เสมอเลยครับว่า ไม่มีงานไหนถาวรมั่นคง ทุกที่มีปัญหาด้วยกันหมด ส่วนจะเป็นปัญหาแบบไหน รับมือได้มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสกิลของคุณเอง ดังนั้นให้รู้จักเผื่อใจไว้กับความผิดหวัง
ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงตกงานด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหน เตรียมตัวหาช่องหนีทีรอดก๊อกสองสำหรับตัวเองอย่างไม่ประมาทดีที่สุดครับ
เมื่อใดที่คุณตกงาน อย่าลืมนะครับให้คิดว่าคุณกำลังจะเริ่มต้นก้าวสู่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม ไม่ควรท้อแท้หรือรู้สึกจิตตกจนเหมือนการตกงานเป็นวันสุดท้ายของชีวิต แต่ควรหันมาให้กำลังใจตัวเองพร้อมปรับเปลี่ยนมุมมองชีวิตใหม่ เพื่อให้คุณได้พบกับหนทางที่เหมาะสมกับชีวิตมากที่สุด
ไม่แน่คุณอาจจะได้ทำงานตำแหน่งใหม่ที่ให้ความสุขได้มากกว่าเดิมก็ได้ ใครจะไปรู้...
เครดิต SOP JOBS Matching