ก่อนอื่นเลยเราอยากจะบอกว่าที่เรามาพิมพ์บอกเล่าข้อมูลเรื่องหน่วย 684 ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้เป็นเพราะว่าเมื่อวันก่อนเราดูรีวิวสปอยหนังช่องนึงในยูทูปซึ่งสปอยเรื่อง เกณฑ์เจ้าพ่อไปเป็นทหาร หรือชื่อภาษาอังกฤคือ Silmido ที่สร้างขึ้นในปี 2003 ปรากฏว่าผู้สปอยนั้นมีการเข้าใจผิดคิดว่า'หน่วย 124 นั้นเป็นของเกาหลีใต้' และ ยังเข้าใจผิดตรงที่ว่า'เกาหลีใต้ส่งหน่วย 124 ไปสังหารผู้นำฝ่ายเหนือ' นี่คือเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากพิมพ์เรื่องหน่วย 684 ขึ้นมาเพื่อที่จะให้คนที่เคยและยังไม่เคยดูหนังเรื่อง เกณฑ์เจ้าพ่อไปเป็นทหาร ไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างหน่วย 124 กับ 684 เราไม่ได้มีเจตนาไปว่าร้ายว่าผู้ให้ข้อมูลสปอยหนังไม่ดีนะ แต่เราอยากให้ทุกคนที่เคยและยังไม่เคยดู หรือกำลังจะหาดูหนังเรื่องนี้ ให้เข้าใจเรื่องราวของหน่วย 684 และอีกอย่างเราจะไม่ลงรายละเอียดลึกในกรณีความขัดแย้งคาบสมุทรเกาหลีและการเข้าตีทำเนียบฟ้า สุดท้ายหากมีข้อผิดพลาดหรือข้อมูลตกหล่นไม่ครบก็ต้องขออภัยด้วย หากใครที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มได้ก็สามารถเขียนตอบในความคิดเห็นเพิ่มเติมได้เลย
เรื่องนี้มันต้องย้อนความไปในช่วงปี 1966 - 1969 ซึ่งในตอนนั้นเองอย่างที่ทุกคนรู้กันยังอยู่ในช่วงของสงครามเวียดนามที่กำลังเป็นประเด็นร้อนระอุไปทั่วโลก แต่ทว่ายังมีอีกฟากหนึ่งที่ร้อนระอุไม่แพ้กันเลยก็คือได้เกิดความขัดแย้งในเขต DMZ ของคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งในปี 1968 ของวันที่ 17 - 29
มกราคม ทางเกาหลีเหนือได้ส่งหน่วย 124 ทั้งหมด 31 นายข้ามมาเขตแดนมาทางฝั่งเกาหลีใต้โดยการแทรกซึมผ่าน DMZ โดยมีภารกิจหลักคือการลอบสังหารผู้นำเกาหลีใต้ในสมัยนั้นก็คือ ประธานาธิบดีปักจุงฮี ในวันที่ 17 มกราคม หน่วย 124 ได้แทรกซึมผ่านเขต DMZ เข้าสู่จังหวัดคยองกีของเกาหลีใต้ ซึ่งทางจังหวัดคยองกีนั้นมีทั้งทหารสหรัฐและเกาหลีใต้มาประจำการร่วมกันอยู่ มันเป็นการแทรกซึมที่นิ่งเงียบมากจนถึงขนาดที่กองทหารสหรัฐและเกาหลีใต้มิอาจล่วงรู้ได้เลย หน่วย 124 ได้เคลื่อนกำลังจนมาถึงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิมจินและหยุดพักชั่วคราว จนกระทั้งในวันที่ 19 มกราคม 1968 หน่วย 124 ก็ได้ข้ามแม่น้ำอิมจินแและมุ่งหน้าสู่กรุงโซลกรุงโซลในช่วงบ่าย แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าถึงชานเมืองกรุงโซลทางฝั่งหน่วย 124 ก็ต้องเจอพบเจอกับประชาชนธรรมดา 4 คน ซึ่งประชาชนทั้ง 4 คนนั้นต่างรีบหนีแล้วรีบไปรายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรู้ มันเป็นสถานการณ์ที่แย่ของหน่วย 124 ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ในเมื่อมีทางเลือกไม่มากนักก็ต้องทำภารกิจต่อไป ซึ่งก่อนพวกเขาจะเข้าบุกตีทำเนียบฟ้าก็พบเห็นความผิดปกติของการรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบมากขึ้น ทำให้ผู้นำทีมตัดสินใจใช้เครื่องแบบของทางทหารเกาหลีใต้เพื่อทำการแทรกซึมโดยทำการปลอมตัวเป็นหน่วยลาดตระเวนเพื่อที่จะเข้าใกล้ทำเนียบฟ้าให้มากที่สุด แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงด่านตรวจทางฝั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทำเนียบฟ้าก็ได้เกิดความสงสัยด้วยความที่เหมือนไม่คุ้นหน้ากับท่าทางลักษณะที่ดูเหมือนพิรุธ ทางหน่วย 124 ก็ดูเหมือนกลัวว่าแผนจะแตกเสียแล้วจึงรีบทำการสังหารเจ้าหน้าที่ด่านตรวจโดยทำการยิงใส่จากนั้นก็รีบถอนกำลัง ระหว่างที่ถอนกำลังก็ได้เกิดการปะทะกันอย่างหนักจนกระทั้งสมาชิกหน่วย 124 ถูกสังหารไปถึง 29 นาย ถูกจับเป็น 1 นาย และหนีรอดกลับไปได้อีก 1 นาย ผู้ที่ถูกจับได้นั้นมีนามว่า คิม ชินโจ ซึ่งภายหลังคิม ชินโจก็ได้รับสัญชาติเกาหลีใต้ในปี 1970 แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่และญาติที่อยู่ทางฝั่งเกาหลีเหนือถูกตัดสินประหารชีวิตทั้งหมด
หลังจากที่ได้มีการลอบสังหารประธานาธิบดีปักจุงฮี ทำให้ในวันที่ 1 เมษายน ในปี 1968 ประธานาธิบดีปักจุงฮีได้ออกคำสั่งให้ทางหน่วยข่าวกรองกลางเกาหลีใต้(KCIA ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น NIS)สร้างหน่วยลอบสังหารขึ้นมาเพื่อตอบโต้ทางฝั่งเกาหลีเหนือ การสร้างหน่วยลอบสังหารนั้นเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างหน่วยข่าวกรองกลางกับกระทรวงกลาโหมแล้วให้หน่วยลอบสังหารขึ้นตรงสังกัดกองทัพอากาศเกาหลีใต้โดยมีชื่อทางการว่าหน่วยแยกที่ 209, กองที่ 2325(209th Detachment, 2325th Group) ใช้โค้ดเนมหน่วยว่า หน่วย 684(Unit 684) ซึ่งต่อมามันจะกลายเป็นชื่อเล่นของหน่วย เนื่องจากเป็นหน่วยลับที่ทำภารกิจลับทางหน่วยเหนือจึงมีความคิดที่จะเฟ้นหาบุคคลากรจากเดนสังคมเข้ามาในหน่วย ราวกับว่าหากทำภารกิจพลาดนั้นหมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่เคยมีตัวตนอยู่ในประเทศเกาหลีใต้หรือแม้กระทั้งเป็นบุคคลการในองค์กรใดองค์กรหนึ่งของเกาหลีใต้ หลังจากที่คัดเลือกมาได้ทั้ง 31 นาย ก็ได้ส่งทั้ง 31 นาย ไปฝึกที่เกาะซิลมีโด(Silmido Island) ซึ่งมันคือเกาะร้างที่มีสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายมากๆตั้งอยู่ในในทะเลเหลืองห่างจากชายฝั่งอินชอน ชื่อของเกาะนั้นต่อมาก็กลายเป็นชื่อเล่นของหน่วยเหมือนกัน ณ ตอนนี้ 209th Detachment, 2325th Group มีชื่อเล่นอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ชื่อคือ หน่วย 684 หรือ หน่วยซีลมิโด หากถามว่าทำไมต้อง 31 นาย เป็นเพราะว่าเหมือนไปขิงทางเกาหลีเหนือว่า'เฮ้ย!หน่วย 124 ของพวกแกมี 31 นายแต่กระจอกวะ ของฉันหน่วย 684 มีเท่ากับพวกแก 31 นาย แต่เจ๋งกว่ากันเยอะ' ทางฝั่งกองทัพอากาศเกาหลีใต้ก็ได้ทำการฝึกเดนสังคมให้กลายเป็นสุดของสุดยอดกองกำลังพิเศษเหนือกว่าหน่วย 124 แต่คำว่า'สุดยอดของสุดยอกนั้น'ก็ต้องแลกมาด้วยกับชีวิตภายใต้สภาพแวดล้อมอันโหดร้ายระหว่างการฝึกนั้นได้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 นาย ซึ่งพวกเขาต่างก็ยอมแลกเพื่อหากทำภารกิจสำเร็จจะได้รับการอภัยโทษจากทางรัฐหรือไม่ก็ได้ลืมตาอ้าปากในสังคมซะที และถึงขนาดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายทหารผู้ทรงเกียรติที่ทำเพื่อชาติ จนกระทั้งเวลาผ่านไปภารกิจการลอบสังหารประธานาธิบดีคิม อิลซ็อง ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เนื่องด้วยเหตุผลทางการเมืองเป็นหลัก จนกระทั้งมาถึงในปี 1971 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้นตามลำดับจนถึงขั้นมีการเปิดเจรจากัน แล้วนั้นก็คือจุดเริ่มต้นการกวาดล้างหน่วย 684 เนื่องด้วยทางรัฐบาลเกาหลีใต้กลัวว่าถ้าทางเกาหลีเหนือรู้ในเรื่องนี้จะกลายเป็นข้อขัดแย้งทำให้การเจรจาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแย่ลง จึงยอมเสียคนหมู่น้อยเพื่อคนหมู่มาก ทำให้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ออกคำสั่งลับให้กวาดล้างหน่วย 684 ซึ่งแน่นอนแต่เดิมหน่วย 684 นั้นเป็นหน่วยลับสุดยอดอยู่แล้ว ทำให้รัฐบาลคิดว่าความลับก็ต้องเป็นความลับตลอดไป กลับกลายเป็นว่าหน่วย 684 ได้พากันลุกฮือบุกกรุงโซล ในวันที่ 23 สิงหาคม ปี 1971 ได้เกิดเหตุการณ์การก่อจราจลของหน่วย 684(Unit 684 Mutiny) เหตุผลหลักในการก่อจราจลในครั้งนี้คืออยากประกาศให้โลกรู้ว่า'พวกเขานั้นมีตัวตนอยู่ และใน 3 ปี ที่ผ่านมาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ไม่ใช่ให้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์เกาหลีใต้หรือถูกจดจำในฐานะเดนสังคม' ซึ่งพวกเขาทั้ง 31 นาย(รวมถึงคนที่ตายไปแล้ว)ต้องการความเป็นธรรมจากผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมานั้นก็คือ'รัฐบาลเกาหลีใต้' ดังนั้นหน่วย 684 ที่เหลืออยู่ 24 นาย บุกยึดรถประจำทางแล้วมุ่งหน้าสู่ทำเนียบฟ้า แต่ในระหว่างทางได้ถูกทางกองทัพสกัดไว้ จนเกิดการปะทะกัน ต่อให้หน่วย 684 เก่งแค่ไหนน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟมาก ผลจากการปะทะนั้นเริ่มมีผู้เสียชีวิตในหน่วย พวกที่เหลือบางส่วนรู้ตัวว่าไม่มีทางรอดแน่จึงฆ่าตัวตายด้วยระเบิดมือ ในขณะที่มีสมาชิกในหน่วย 4 นาย พยายามหนีออกมาสุดท้ายก็โดนจับเป็น ทั้ง 4 นาย ถูกจับขึ้นศาลทหารและตัดสินอย่างรวดเร็ว โดยทั้ง 4 นายได้รับโทษประหารชีวิต
เมื่อเวลาผ่านไปจวบจนกระทั้งในปี 1990 เมื่อความลับถูกเปิดเผยแต่กระแสยังไม่แรงมากนัก ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากหน่วย 684 ฟ้องร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ จากนั้นในปี 2006 รัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีการส่งหลักฐานยืนยันการเสียชีวิตไปถึงครอบครัวของแต่บุคคลากรในหน่วย 684 และได้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวให้มีการฟ้องร้องเรียกเงินชดเชยจากรัฐบาล โดยในปี 2010 ศาลได้สั่งให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวหรือญาติของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ต้องขอบคุณหนังเรื่อง Silmido ที่ได้ถูกสร้างและได้ฉายในประเทศเกาหลีใต้ในปี 2003 ทำให้ประชาชนเกาหลีใต้ต่างรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น
มาทำความรู้จักหน่วย 684 กัน หน่วยลับที่โลกไม่ลืม
เรื่องนี้มันต้องย้อนความไปในช่วงปี 1966 - 1969 ซึ่งในตอนนั้นเองอย่างที่ทุกคนรู้กันยังอยู่ในช่วงของสงครามเวียดนามที่กำลังเป็นประเด็นร้อนระอุไปทั่วโลก แต่ทว่ายังมีอีกฟากหนึ่งที่ร้อนระอุไม่แพ้กันเลยก็คือได้เกิดความขัดแย้งในเขต DMZ ของคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งในปี 1968 ของวันที่ 17 - 29
มกราคม ทางเกาหลีเหนือได้ส่งหน่วย 124 ทั้งหมด 31 นายข้ามมาเขตแดนมาทางฝั่งเกาหลีใต้โดยการแทรกซึมผ่าน DMZ โดยมีภารกิจหลักคือการลอบสังหารผู้นำเกาหลีใต้ในสมัยนั้นก็คือ ประธานาธิบดีปักจุงฮี ในวันที่ 17 มกราคม หน่วย 124 ได้แทรกซึมผ่านเขต DMZ เข้าสู่จังหวัดคยองกีของเกาหลีใต้ ซึ่งทางจังหวัดคยองกีนั้นมีทั้งทหารสหรัฐและเกาหลีใต้มาประจำการร่วมกันอยู่ มันเป็นการแทรกซึมที่นิ่งเงียบมากจนถึงขนาดที่กองทหารสหรัฐและเกาหลีใต้มิอาจล่วงรู้ได้เลย หน่วย 124 ได้เคลื่อนกำลังจนมาถึงฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิมจินและหยุดพักชั่วคราว จนกระทั้งในวันที่ 19 มกราคม 1968 หน่วย 124 ก็ได้ข้ามแม่น้ำอิมจินแและมุ่งหน้าสู่กรุงโซลกรุงโซลในช่วงบ่าย แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าถึงชานเมืองกรุงโซลทางฝั่งหน่วย 124 ก็ต้องเจอพบเจอกับประชาชนธรรมดา 4 คน ซึ่งประชาชนทั้ง 4 คนนั้นต่างรีบหนีแล้วรีบไปรายงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรู้ มันเป็นสถานการณ์ที่แย่ของหน่วย 124 ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ในเมื่อมีทางเลือกไม่มากนักก็ต้องทำภารกิจต่อไป ซึ่งก่อนพวกเขาจะเข้าบุกตีทำเนียบฟ้าก็พบเห็นความผิดปกติของการรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบมากขึ้น ทำให้ผู้นำทีมตัดสินใจใช้เครื่องแบบของทางทหารเกาหลีใต้เพื่อทำการแทรกซึมโดยทำการปลอมตัวเป็นหน่วยลาดตระเวนเพื่อที่จะเข้าใกล้ทำเนียบฟ้าให้มากที่สุด แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงด่านตรวจทางฝั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทำเนียบฟ้าก็ได้เกิดความสงสัยด้วยความที่เหมือนไม่คุ้นหน้ากับท่าทางลักษณะที่ดูเหมือนพิรุธ ทางหน่วย 124 ก็ดูเหมือนกลัวว่าแผนจะแตกเสียแล้วจึงรีบทำการสังหารเจ้าหน้าที่ด่านตรวจโดยทำการยิงใส่จากนั้นก็รีบถอนกำลัง ระหว่างที่ถอนกำลังก็ได้เกิดการปะทะกันอย่างหนักจนกระทั้งสมาชิกหน่วย 124 ถูกสังหารไปถึง 29 นาย ถูกจับเป็น 1 นาย และหนีรอดกลับไปได้อีก 1 นาย ผู้ที่ถูกจับได้นั้นมีนามว่า คิม ชินโจ ซึ่งภายหลังคิม ชินโจก็ได้รับสัญชาติเกาหลีใต้ในปี 1970 แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่และญาติที่อยู่ทางฝั่งเกาหลีเหนือถูกตัดสินประหารชีวิตทั้งหมด
หลังจากที่ได้มีการลอบสังหารประธานาธิบดีปักจุงฮี ทำให้ในวันที่ 1 เมษายน ในปี 1968 ประธานาธิบดีปักจุงฮีได้ออกคำสั่งให้ทางหน่วยข่าวกรองกลางเกาหลีใต้(KCIA ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น NIS)สร้างหน่วยลอบสังหารขึ้นมาเพื่อตอบโต้ทางฝั่งเกาหลีเหนือ การสร้างหน่วยลอบสังหารนั้นเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างหน่วยข่าวกรองกลางกับกระทรวงกลาโหมแล้วให้หน่วยลอบสังหารขึ้นตรงสังกัดกองทัพอากาศเกาหลีใต้โดยมีชื่อทางการว่าหน่วยแยกที่ 209, กองที่ 2325(209th Detachment, 2325th Group) ใช้โค้ดเนมหน่วยว่า หน่วย 684(Unit 684) ซึ่งต่อมามันจะกลายเป็นชื่อเล่นของหน่วย เนื่องจากเป็นหน่วยลับที่ทำภารกิจลับทางหน่วยเหนือจึงมีความคิดที่จะเฟ้นหาบุคคลากรจากเดนสังคมเข้ามาในหน่วย ราวกับว่าหากทำภารกิจพลาดนั้นหมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่เคยมีตัวตนอยู่ในประเทศเกาหลีใต้หรือแม้กระทั้งเป็นบุคคลการในองค์กรใดองค์กรหนึ่งของเกาหลีใต้ หลังจากที่คัดเลือกมาได้ทั้ง 31 นาย ก็ได้ส่งทั้ง 31 นาย ไปฝึกที่เกาะซิลมีโด(Silmido Island) ซึ่งมันคือเกาะร้างที่มีสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายมากๆตั้งอยู่ในในทะเลเหลืองห่างจากชายฝั่งอินชอน ชื่อของเกาะนั้นต่อมาก็กลายเป็นชื่อเล่นของหน่วยเหมือนกัน ณ ตอนนี้ 209th Detachment, 2325th Group มีชื่อเล่นอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ชื่อคือ หน่วย 684 หรือ หน่วยซีลมิโด หากถามว่าทำไมต้อง 31 นาย เป็นเพราะว่าเหมือนไปขิงทางเกาหลีเหนือว่า'เฮ้ย!หน่วย 124 ของพวกแกมี 31 นายแต่กระจอกวะ ของฉันหน่วย 684 มีเท่ากับพวกแก 31 นาย แต่เจ๋งกว่ากันเยอะ' ทางฝั่งกองทัพอากาศเกาหลีใต้ก็ได้ทำการฝึกเดนสังคมให้กลายเป็นสุดของสุดยอดกองกำลังพิเศษเหนือกว่าหน่วย 124 แต่คำว่า'สุดยอดของสุดยอกนั้น'ก็ต้องแลกมาด้วยกับชีวิตภายใต้สภาพแวดล้อมอันโหดร้ายระหว่างการฝึกนั้นได้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 นาย ซึ่งพวกเขาต่างก็ยอมแลกเพื่อหากทำภารกิจสำเร็จจะได้รับการอภัยโทษจากทางรัฐหรือไม่ก็ได้ลืมตาอ้าปากในสังคมซะที และถึงขนาดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายทหารผู้ทรงเกียรติที่ทำเพื่อชาติ จนกระทั้งเวลาผ่านไปภารกิจการลอบสังหารประธานาธิบดีคิม อิลซ็อง ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เนื่องด้วยเหตุผลทางการเมืองเป็นหลัก จนกระทั้งมาถึงในปี 1971 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้นตามลำดับจนถึงขั้นมีการเปิดเจรจากัน แล้วนั้นก็คือจุดเริ่มต้นการกวาดล้างหน่วย 684 เนื่องด้วยทางรัฐบาลเกาหลีใต้กลัวว่าถ้าทางเกาหลีเหนือรู้ในเรื่องนี้จะกลายเป็นข้อขัดแย้งทำให้การเจรจาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแย่ลง จึงยอมเสียคนหมู่น้อยเพื่อคนหมู่มาก ทำให้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ออกคำสั่งลับให้กวาดล้างหน่วย 684 ซึ่งแน่นอนแต่เดิมหน่วย 684 นั้นเป็นหน่วยลับสุดยอดอยู่แล้ว ทำให้รัฐบาลคิดว่าความลับก็ต้องเป็นความลับตลอดไป กลับกลายเป็นว่าหน่วย 684 ได้พากันลุกฮือบุกกรุงโซล ในวันที่ 23 สิงหาคม ปี 1971 ได้เกิดเหตุการณ์การก่อจราจลของหน่วย 684(Unit 684 Mutiny) เหตุผลหลักในการก่อจราจลในครั้งนี้คืออยากประกาศให้โลกรู้ว่า'พวกเขานั้นมีตัวตนอยู่ และใน 3 ปี ที่ผ่านมาต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ไม่ใช่ให้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์เกาหลีใต้หรือถูกจดจำในฐานะเดนสังคม' ซึ่งพวกเขาทั้ง 31 นาย(รวมถึงคนที่ตายไปแล้ว)ต้องการความเป็นธรรมจากผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมานั้นก็คือ'รัฐบาลเกาหลีใต้' ดังนั้นหน่วย 684 ที่เหลืออยู่ 24 นาย บุกยึดรถประจำทางแล้วมุ่งหน้าสู่ทำเนียบฟ้า แต่ในระหว่างทางได้ถูกทางกองทัพสกัดไว้ จนเกิดการปะทะกัน ต่อให้หน่วย 684 เก่งแค่ไหนน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟมาก ผลจากการปะทะนั้นเริ่มมีผู้เสียชีวิตในหน่วย พวกที่เหลือบางส่วนรู้ตัวว่าไม่มีทางรอดแน่จึงฆ่าตัวตายด้วยระเบิดมือ ในขณะที่มีสมาชิกในหน่วย 4 นาย พยายามหนีออกมาสุดท้ายก็โดนจับเป็น ทั้ง 4 นาย ถูกจับขึ้นศาลทหารและตัดสินอย่างรวดเร็ว โดยทั้ง 4 นายได้รับโทษประหารชีวิต
เมื่อเวลาผ่านไปจวบจนกระทั้งในปี 1990 เมื่อความลับถูกเปิดเผยแต่กระแสยังไม่แรงมากนัก ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากหน่วย 684 ฟ้องร้องรัฐบาลเกาหลีใต้ จากนั้นในปี 2006 รัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีการส่งหลักฐานยืนยันการเสียชีวิตไปถึงครอบครัวของแต่บุคคลากรในหน่วย 684 และได้กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวให้มีการฟ้องร้องเรียกเงินชดเชยจากรัฐบาล โดยในปี 2010 ศาลได้สั่งให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้แก่ครอบครัวหรือญาติของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ต้องขอบคุณหนังเรื่อง Silmido ที่ได้ถูกสร้างและได้ฉายในประเทศเกาหลีใต้ในปี 2003 ทำให้ประชาชนเกาหลีใต้ต่างรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลานั้น