ชีวิตของ จขกท ตอนนี้เจอปัญญาครั้งใหญ่ที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของคน จขกท เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะอาศัยอยู่กับลูกสาวอายุ 13 ก่อนหน้านี้ จขกท ได้เอาเงินที่เก็บหอมรอมริบมาลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อนสนิทของ จขกท เอง แต่ จขกท คงจะเป็นคนโง่ไป ลงทุนหวังแต่ผลกำไรมากเกินไปโดยไม่ได้คำนึงถึงความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นเลย สรุปคือขาดทุนหมดเนื้อหมดตัว เพื่อนก็หายไป เกิดผลพวงที่หนักหนาสาหัสมากค่ะ ตอนนั้นเสียใจมากค่ะ จขกท ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเลยหอบลูกมาขออาศัยแม่อยู่ซึ่งแม่ของ จขกท ที่ ตจว เลิกกับพ่อนานแล้ว เค้าอยู่กับครอบครัวใหม่มีสามีใหม่และลูก ลูกสาวของ จขกท ก็มาขึ้น ม.1 ที่ รร ที่นี่ เราอาศัยอยู่ไม่นานก็ไปหาห้องเช่าอยู่กันเอง จขกท รับจ้างทำงานหารายได้ทุกอย่าง แต่เพราะที่ที่มาอยู่ค่อนข้างจะออกชนบทหน่อยค่ะงานก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำมากคนแย่งกันทำงานแย่งกันทำมาหากิน คนพื้นที่เองไม่มีงานก็เยอะ ตัว จขกท ไม่เคยมาอยู่ที่นี่มาก่อนก็ไปไม่ค่อยเป็นเหมือนกันแต่อดทนสู้ช่วงแรกๆที่ทำงานทุกอย่างรายได้ก็พอแค่ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเช่า หรืออุปกรณ์การเรียน ตอนนั้น จขกท กังวลใจเรื่องการเรียนของลูกมาเพราะไม่มีแม้เงินจะซื้อชุดนักเรียน รองเท้าอยู่มาวันนึงทางครอบครัวพี่สาวของพ่อเลี้ยง ซึ่งเราเรียกเค้าเป็นลุง ป้า ลุงกับป้ามีลูกสาว 2 คน ลูกสาวลุงกับป้ามาบอก จขกท ว่ามีคุณลุงคนนึงซึ่งเป็นคนรู้จักกับครอบครัวเค้าและค่อนข้างสนิทกันมากเป็นคนใจดีมีฐานะดี ยังไม่มีครอบครัว ชอบช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาเด็กที่มีฐานะยากจน ทางลูกสาวของลุงกับป้าเลยทำหน้าที่เหมือนเป็นคนกลางช่วยคุยเรื่องการขอความช่วยเหลือจัดการเรื่องค่าเทอมให้ แล้วลูกสาว จขกท ก็สอบเข้าเร้ยนห้อง IEP ได้ ทางลูกสาวลุงกับป้าก็ช่วยคุยกับลุงคนนั้นให้ เพราะ ค่าเทอม IEP แพงกว่าค่าเรียนปกติทางลุงคนจ่ายเงินก็ไม่มีปํญหาอะไรเคาสนับสนุนเพราะลูก จขกท เป็นเด็กเรียนดี ทุกครั้งที่ไกล้เวลาจะต้องจ่ายค่าเทอมทางลูกสาวลุงกับป้าทั้ง 2 คนก็จะมารับลูกสาว จขกท ที่บ้านเพื่อไปเอาเงินค่าเทอมมาจ่าย แต่เค้าไม่ได้เอาเงินนั้นให้ จขกท ไว้นะคะ เค้าบอกว่ากลัวเราเอาไปใช้หมดเค้าจะจัดการเอง ตัว จขกท ก็ไม่ได้อะไรค่ะกลับรู้สึกซาบซึ้งที่เค้าเอ็นดูให้การช่วยเหลือเด็ก จนมาถึงวันนี้ จขกท ติดต่อญาติที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ จขกท เป็นคนเชียงใหม่ค่ะ แต่ จังหวัดที่มาอยู่ตอนนี้คือจังหวัดทางภาคใต้ค่ะ ก็เลยตัดสินใจจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่เพราะคิดว่าการย้ายไปอยู่ในเมืองจะได้มีโอกาสหางานทำได้มากกว่า ก็เลยเก็บของเตรียมตัวย้าย บอกคืนห้องเช่า แล้วมาขออาศัยแม่อีกชั่วคราวเพราะถ้าอยู่ห้องเช่าต่อก็จะเป็นค่าใช้จ่ายซึ่งเราก็จะไม่มีเงินค่าเดินทางไม่มีทุนติดตัวไปเชียงใหม่เลยแล้วก็ไปทำเรื่องย้ายลูกที่โรงเรียน สิ่งที่ได้เจอคือทางโรงเรียนแจ้งว่าย้ายไม่ได้เพราะไม่เคยได้รับการชำระเงินเทอมของน้องเลยที่ปล่อยมาเพราะทางโรงเรียนเป็นโรงเรียนรัฐแล้วก็มีคนเข้ามาขอผ่อนผันตลอด มีผู้ปกครองมาพยามขอทุนโรงเรียนอีกด้วย ความรู้สึกคือมึนเลยค่ะเหมือนใครเอาหินหนักๆมาทุ่มใส่ มืดไปหมด ไม่รู่จะทำยังไงต่อดี ตัว จขกท ก็ไม่มีเงิน ไม่มีปัญญาที่จะเอาเงินขนาดนั้นมาจ่ายได้เลย เลยไปถามลูกสาวลุงกับป้าว่าเกิดอะไรขึ้นเค้าก็เฉไฉพาลโวยวายพูดไปเรื่องอื่น แต่พวกนี้ใจเค้าก็กลัวนะคะไม่อยากให้ทางลุงคนให้เงินรู้เรื่อง จขกท ก็ติดจะไปคุยกับลุงคนให้เงินแต่แม่ของ จขกท แกไม่ยอมให้คุยเลยค่ะ แกกลัวว่ามีผลกระทบว่าทางญาติสามีจะมาไม่พอใจแก ทางสามีก็จะไม่พอใจแกเพราะ จขกท เองตอนนี้มาขออาศัยเค้าอยู่ชั่วคราวอีก สรุปว่าเหมือนโดนรุมค่ะ ทุกคนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น มาโกรธมาพาลไม่พอใจ จขกท ไปหมด ลุงกับป้าที่เป็นผู้ใหญ่ก็เข้าข้างไม่ว่าลูก ตอนนี้ จขกท รู้สึกมันหนักมากค่ะไม่รู้จะทำยังไง ไปก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่ได้ จขกท ก่อนหน้านี้ก็ลำบากมามาก อดมื้อกินมื้อกัน 2 คนแม่ลูก การได้ย้ายไปเชียงใหม่ครั้งนี้ถือเป็นความหวังที่รอกันมานานเลยค่ะ มันแย่ถึงขนาดร้องไห้ไม่ออกเลยค่ะ ถ้ารู้ปัญหาก่อนหน้านี้บ้าง จขกท อาจจะพอหาทางออกได้บ้าง แต่ จขกท คิดว่าเรื่องนี้มันเกิดจากเจตนาที่ทำเลวๆตั้งแต่แรก แถมยังมารับน้องรับไปขอค่านั่นนี่อีกบ่อยๆ ซึ่ง จขกท ไม่เคยไปยุ่งตรงนี้เลย คิดว่าขอให้ได้ค่าเทอมก็ดีมากแล้ว ไม่นึกว่าเค้าจะทำกับเด็ก เอาอนาคตเด็กมาทำได้ขนาดนี้ ลูกลุงป้า 2 คนเค้ารวมหัวสมคบกันกันตั้งแต่แรก แต่ในสังคมแถวหมู่บ้านเค้าสร้างภาพดูดีเป็นคนดีมากค่ะ พอเกิดมีเรื่องแบบนี้คนก็ไม่เชื่อมีแต่คนเข้าข้างเค้า เวลานี้ จขกท มันเคว้งไปหมดค่ะไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไปจริงๆค่ะ
ประสบการณ์ชีวืตครั้งใหญ่เจอคนเห็นแก่ตัวที่เอาเปรียบได้แม้กระทั้งอนาคตการเรียนของเด็ก