รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 19 ตัวแปร
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
..............................................................................
ธานี บัวซอน ไบร์นี่ และเรย์ กำลังนั่งล้อมวงทานอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อย อยู่บนโต๊ะในห้องรับแขก อาหารเช้าวันนี้เป็นอาหารพื้นเมืองทางเหนือได้แก่ ข้าวเหนียว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ใส้อั่ว แกงฮังเล แกงโฮ๊ะ และตำขนุน
"กลับมาแล้วเหรอ เจ้าลิงน้อย หายไปทั้งคืนเลยนะเรา" ธานีทักทายลูกชายที่กำลังเปิดประตูเข้ามา
"เมื่อคืนส่งไลน์มาบอกแล้วว่า ไม่ต้องรอ จะไปเล่นเกมส์ Xbox ที่ห้องเมฆ" มาร์ตี้ตอบผ่านๆ
"แน่ใจนะว่าไปเล่นเกมส์? ไปเล่นอะไรอย่างอื่นมากกว่ามั้ง? ดูซิหน้าตาอ่อนเพลียสูญเสียพลังงานไปเยอะ" ไบร์นี่จิกกัดน้องชาย
"พูดมาก กับข้าวยัดใส่ปากเข้าไปเยอะๆ ปากจะได้ไม่ว่าง" มาร์ตี้โต้ตอบพี่สาว
"หยุดทะเลาะกันได้แล้ว พี่น้องคู่นี้จริงๆเลย ตัวโตกันแล้ว เช้านี้พ่อแม่และพี่ๆไปเดินเที่ยวตลาดเช้า ได้ของกินมาเยอะแยะ แม่แบ่งไก่ย่างกับแกงฮังเลไว้ให้แล้วนะ รีบไปล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ จะได้มากินข้าว วันนี้แม่จะพาไปกราบหลวงตา หลังจากนั้นไปไหว้ป้าบัวเงิน ลุงหมอกับป้าไหม"
………………………………………………………………………………..
เอกกมลต้องขับรถไปส่งเดชศักดาทำธุระที่เชียงใหม่ เรย์เลยรับอาสาเป็นสารถีพาครอบครัวของธานีไปกราบหลวงตาแก้วที่วัด หลังจากนั้นไปเยี่ยมบัวเงิน ต่อด้วยหมอทรงทรัพย์กับสินไหม
หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหาย ทุกคนต่างแยกย้ายไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
มาร์ตี้เดินชมบรรยากาศภายในไร่อย่างเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย เขาเดินมาถึงบริเวณคอกม้าซึ่งอยู่ด้านหลังสุดของไร่ เลยบ้านพักคนงาน 50เมตร
"เป็นไปไม่ได้ ความไวเหนือแสง? เพิ่งจะมาถึงไร่เมื่อกี้เอง พี่เรย์มาอยู่ตรงนี้ได้ไง? ยืนหันหลังถอดเสื้อโชว์กล้ามใหญ่เป็นมัดๆคนเดียว ถ้าไม่ติดเป็นว่าที่พี่เขย หรือไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เสร็จผมแน่ แค่ล้อเล่นเฉยๆนะครับ ผมไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก เดี๋ยวโดนนางสาวบัวหอมตบ" มาร์ตี้พูดจาหยอกล้อ
เมื่อฝ่ายตรงข้ามที่กำลังยืนหันหลังป้อนหญ้าให้ม้าในคอก หันหน้ากลับมาหา
"ขอโทษครับ ผมคิดว่าเป็นพี่เรย์ เลยพูดแซว ไม่คิดว่าเป็นคนอื่น เล่นหันหลังไม่เห็นหน้ากันแบบนี้ ผมก็เข้าใจผิดเต็มๆ" มาร์ตี้ตกใจ
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ทักผมแบบนี้ หลายคนในไร่ก็ทักผิดเหมือนกัน ผมไม่อาจเอื้อมคิดไปเทียบคุณทะเลหรอกครับ คนละชนชั้นกัน คุณเขาเป็นเจ้านาย ผมเป็นแค่ลูกจ้าง คุณคงเป็นน้องชายแฟนคุณทะเลใช่ไหมครับ?" ชายหนุ่มวัย 30 พูดอย่างนอบน้อมเจียมเนื้อเจียมตัว
"ครับ.. พี่รู้ได้ยังไง?" มาร์ตี้สงสัย
"ได้ยินคนงานในไร่เขาพูดกันที่โรงอาหาร และชี้ให้ดูตอนที่เห็นคุณเดินมาพร้อมกับครอบครัว"
"ผมชื่อ มาร์ตี้ พี่ชื่ออะไรครับ?"
"เดียว ครับ" ชายหนุ่มบอกชื่อเสียงเรียงนาม
เดียว หรือชื่อจริง "หนึ่งบุรุษ" รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายเรย์มาก จนคนงานในไร่หลายคนทักผิดตัว ส่วนที่แตกต่างกันคือ เดียวจะตัวสูงกว่า หุ่นกำยำล่ำสันกว่า ผิวสีน้ำผึ้งเนียนกว่า และผมที่หยักศก
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พี่เดียวทำงานคอกม้า ต้องขี่ม้าเป็นแน่เลย"
"ครับผม คุณมาร์ตี้ชอบขี่ม้าไหม?"
"ไม่เคยขี่ อยากขี่เหมือนกัน แต่กลัวตก" มาร์ตี้ตอบตามความจริง
"อยากขี่ไหมครับ? ไม่ต้องกลัวตก เดี๋ยวผมนั่งไปเป็นเพื่อนเอง" หนึ่งบุรุษส่งสายตาเชิญชวนหนุ่มน้อย
"ตอนนี้เลยเหรอครับ?" มาร์ตี้ย้ำเพื่อความแน่ใจ
หนึ่งบุรุษพยักหน้ารับ
มาร์ตี้ตื่นเต้นสนุกสนานกับการขี่ม้าครั้งแรก โดยมีหนึ่งบุรุษนั่งอยู่ข้างหลังคอยควบคุมความเร็วและการทรงตัว
…………………………………………………………………………...
"ไปไหนมา? โทรไปก็ไม่รับ ส่งไลน์ก็ตอบช้ามาก ตอนแรกเราคิดว่ามาร์ตี้นอนหลับ พอไปหาที่เรือน เห็นน้าซอนย่าบอกว่า ออกไปเดินเล่นข้างนอก" สายเมฆถามด้วยความเป็นห่วง
"ก็ตามที่แม่บอก โทรศัพท์เปิดระบบสั่น เลยไม่ได้ยินเสียง" มาร์ตี้ตอบสั้นๆ
"รักนะ ถึงได้เป็นห่วงเป็นใย" สายเมฆโอบกอดพร้อมหอมแก้มมาร์ตี้
มาร์ตี้พยายามเบี่ยงตัวออกมาจากอ้อมกอดฝ่ายตรงข้าม
"ทำไม? มาร์ตี้เบื่อรำคาญเราเหรอ? เราพอเข้าใจ มาร์ตี้ได้เราแล้วนิ ตอนนี้ก็คงเป็นช่วงเท" สายเมฆตัดพ้อด้วยความน้อยใจ
"คิดมากจัง ผมไปเดินเล่นมารู้สึกเหนียวตัว กลัวเมฆเหม็นเหงื่อ เหม็นกลิ่นเต่าผม" มาร์ตี้หาเหตุผลมาอ้าง
"ต่อให้มาร์ตี้ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน เราเต็มใจที่จะสูดดมกลิ่นอันเย้ายวน โดยไม่รังเกียจ อาบน้ำไหม? เดี๋ยวเอาผ้าเช็ดตัวให้ มีบริการถูหลังถูตัวด้วยนะ " สายเมฆลูบไล้ลำตัวมาร์ตี้ด้วยความเสน่หา
"เมฆคิดยังไงกับผม?" มาร์ตี้อยากรู้ความในใจฝ่ายตรงข้าม
"เรารักมาร์ตี้แบบแฟน ถ้าเป็นไปได้อยากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในวันข้างหน้า มาร์ตี้ละ คิดเหมือนที่เราคิดไหม?" สายเมฆบอกความในใจ พร้อมย้อนถาม
"เรื่องอนาคตผมยังไม่รู้ ไม่กล้ารับปากหรือให้ความหวังอะไรทั้งนั้น กลัวจะทำเหมือนที่พูดไม่ได้ อีกอย่างเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ผมว่ามันเร็วเกินไป ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน" มาร์ตี้ตอบอย่างกลางๆ
"มาร์ตี้พูดมีเหตุผลนะ ถ้าต้องการเวลา เราก็จะไม่เร่งไม่ถามคำถามนี้อีก ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามทางของมัน ถ้าเราสองคนมีใจให้กันซะอย่าง ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเนอะ" สายเมฆโผเข้าซบอกของมาร์ตี้
มาร์ตี้ใช้มือลูบบนศรีษะฝ่ายตรงข้ามเบาๆ เขาฝืนใจจูบลงที่หน้าผากของฝ่ายตรงข้าม เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
...................……………………………………………..
บัวซอนพาสามีเดินเที่ยวชมกาดน้อย ก่อนจะแวะไปเยี่ยมสินทบพี่ชายของสินไหม ที่ร้านค้าท้ายตลาด
"เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น คนอะไรหน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าพื้นถนนเสริมใยเหล็ก ตอนผัวไม่อยู่ก็มีผู้ชายอีกคนแอบเข้าหา กินตับกันกลางวันแสกๆ จนชาวบ้านเล่าขวัญ[1] ขึ้นกองล่องก่อง[2] ความวัวยังไม่ทันหาย ก็แอบไปลักกินลูกเขยกู จนลูกสาวกูไม่เป็นอันทำการทำงาน ต้องคอยตามเฝ้าผัวมัน ตอนนี้ผัวมาหา ยังมีหน้าควงมาอวดชาวบ้านอย่างไม่อายฟ้าอายดินเลย ชื่อของ

ก็เป็นดอกไม้มงคลสูงค่าที่ใช้กราบไหว้บูชา แต่สันดาน

นี่ กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่า

ไปเปลี่ยนชื่อเป็น สุวรรณมาลี น่าจะดีกว่า ไม่ต้องมาเดินผ่านตรงนี้ให้เป็นเสนียดร้านกู" นางศรีต๊อดชี้หน้ากร่นด่าบัวซอน
บัวซอนไม่โต้ตอบใดๆทั้งสิ้น เธอแค่ใช้สายตาสื่อสารให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงอารมณ์ของเธอในขณะนี้ เธอรีบจูงแขนสามีเดินไปทางร้านของสินทบอย่างรวดเร็ว
[1] เล่าขวัญ = ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือ หมายถึง การนินทา
[2] ขึ้นกองล่องกอง = ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือ หมายถึง ตั้งแต่หัวถนน(ซอย หรือหมู่บ้าน)ไปจนสุดท้ายถนน(ซอยหรือหมู่บ้าน)
………………………………………………………………………………….
"พ่อเป็นไร? ดูเงียบๆไม่ค่อยพูดค่อยจา เรื่องนั้นใช่ไหม? แม่จะอธิบายให้ฟังเดี๋ยวนี้" บัวซอนเห็นอาการผิดปรกติของสามี ตั้งแต่กลับมาจากกาดน้อย
บัวซอนเล่าเรื่องที่เดชศักดาแอบเข้ามาหาเธอในวันนั้น ให้สามีฟัง
"พ่อขอโทษแม่ด้วยนะ พ่อเชื่อใจแม่ว่า ไม่มีทางทำเรื่องบัดสีแบบนั้นได้หรอก แต่กับคุณเดช บอกตามตรง พ่อไม่ไว้ใจเขาเลย แววตาที่เขามองแม่ มันเป็นแววตาที่คนรักใช้มองกัน อีกอย่างเขามีเมียแล้วตั้ง 2คน จะตัณหากลับอะไรกันนักหนา คราวนี้พ่อไม่ติดใจอะไร อย่าให้มีคราวหน้าละกัน พ่อเอาจริง ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น" ธานีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ก่อนพ่อตัดสินใจทำอะไรลงไป คิดถึงลูกไว้ก่อนนะ ลูกเรากำลังจะแต่งงานกับลูกเขา ครอบครัวเราก็กำลังจะดองกับครอบครัวเขา บุ่มบ่ามทำอะไรแรงไป มันจะมองหน้ากันไม่ติดทั้งสองฝ่าย แม่ว่า ตอนนี้อะไรที่เลี่ยงได้ ก็เลี่ยงไปก่อนเถอะ รอให้ลูกแต่งงานเสร็จ แล้วเราก็รีบกลับบ้านกันทันที หลังจากนั้นทางเรากับทางเขาก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันแล้ว" บัวซอนเตือนสติสามี
……………………………………………………………………………………………………………...
รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 19 ตัวแปร
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
..............................................................................
ธานี บัวซอน ไบร์นี่ และเรย์ กำลังนั่งล้อมวงทานอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อย อยู่บนโต๊ะในห้องรับแขก อาหารเช้าวันนี้เป็นอาหารพื้นเมืองทางเหนือได้แก่ ข้าวเหนียว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ใส้อั่ว แกงฮังเล แกงโฮ๊ะ และตำขนุน
"กลับมาแล้วเหรอ เจ้าลิงน้อย หายไปทั้งคืนเลยนะเรา" ธานีทักทายลูกชายที่กำลังเปิดประตูเข้ามา
"เมื่อคืนส่งไลน์มาบอกแล้วว่า ไม่ต้องรอ จะไปเล่นเกมส์ Xbox ที่ห้องเมฆ" มาร์ตี้ตอบผ่านๆ
"แน่ใจนะว่าไปเล่นเกมส์? ไปเล่นอะไรอย่างอื่นมากกว่ามั้ง? ดูซิหน้าตาอ่อนเพลียสูญเสียพลังงานไปเยอะ" ไบร์นี่จิกกัดน้องชาย
"พูดมาก กับข้าวยัดใส่ปากเข้าไปเยอะๆ ปากจะได้ไม่ว่าง" มาร์ตี้โต้ตอบพี่สาว
"หยุดทะเลาะกันได้แล้ว พี่น้องคู่นี้จริงๆเลย ตัวโตกันแล้ว เช้านี้พ่อแม่และพี่ๆไปเดินเที่ยวตลาดเช้า ได้ของกินมาเยอะแยะ แม่แบ่งไก่ย่างกับแกงฮังเลไว้ให้แล้วนะ รีบไปล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ จะได้มากินข้าว วันนี้แม่จะพาไปกราบหลวงตา หลังจากนั้นไปไหว้ป้าบัวเงิน ลุงหมอกับป้าไหม"
………………………………………………………………………………..
เอกกมลต้องขับรถไปส่งเดชศักดาทำธุระที่เชียงใหม่ เรย์เลยรับอาสาเป็นสารถีพาครอบครัวของธานีไปกราบหลวงตาแก้วที่วัด หลังจากนั้นไปเยี่ยมบัวเงิน ต่อด้วยหมอทรงทรัพย์กับสินไหม
หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจเยี่ยมญาติสนิทมิตรสหาย ทุกคนต่างแยกย้ายไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
มาร์ตี้เดินชมบรรยากาศภายในไร่อย่างเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย เขาเดินมาถึงบริเวณคอกม้าซึ่งอยู่ด้านหลังสุดของไร่ เลยบ้านพักคนงาน 50เมตร
"เป็นไปไม่ได้ ความไวเหนือแสง? เพิ่งจะมาถึงไร่เมื่อกี้เอง พี่เรย์มาอยู่ตรงนี้ได้ไง? ยืนหันหลังถอดเสื้อโชว์กล้ามใหญ่เป็นมัดๆคนเดียว ถ้าไม่ติดเป็นว่าที่พี่เขย หรือไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เสร็จผมแน่ แค่ล้อเล่นเฉยๆนะครับ ผมไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก เดี๋ยวโดนนางสาวบัวหอมตบ" มาร์ตี้พูดจาหยอกล้อ
เมื่อฝ่ายตรงข้ามที่กำลังยืนหันหลังป้อนหญ้าให้ม้าในคอก หันหน้ากลับมาหา
"ขอโทษครับ ผมคิดว่าเป็นพี่เรย์ เลยพูดแซว ไม่คิดว่าเป็นคนอื่น เล่นหันหลังไม่เห็นหน้ากันแบบนี้ ผมก็เข้าใจผิดเต็มๆ" มาร์ตี้ตกใจ
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ทักผมแบบนี้ หลายคนในไร่ก็ทักผิดเหมือนกัน ผมไม่อาจเอื้อมคิดไปเทียบคุณทะเลหรอกครับ คนละชนชั้นกัน คุณเขาเป็นเจ้านาย ผมเป็นแค่ลูกจ้าง คุณคงเป็นน้องชายแฟนคุณทะเลใช่ไหมครับ?" ชายหนุ่มวัย 30 พูดอย่างนอบน้อมเจียมเนื้อเจียมตัว
"ครับ.. พี่รู้ได้ยังไง?" มาร์ตี้สงสัย
"ได้ยินคนงานในไร่เขาพูดกันที่โรงอาหาร และชี้ให้ดูตอนที่เห็นคุณเดินมาพร้อมกับครอบครัว"
"ผมชื่อ มาร์ตี้ พี่ชื่ออะไรครับ?"
"เดียว ครับ" ชายหนุ่มบอกชื่อเสียงเรียงนาม
เดียว หรือชื่อจริง "หนึ่งบุรุษ" รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายเรย์มาก จนคนงานในไร่หลายคนทักผิดตัว ส่วนที่แตกต่างกันคือ เดียวจะตัวสูงกว่า หุ่นกำยำล่ำสันกว่า ผิวสีน้ำผึ้งเนียนกว่า และผมที่หยักศก
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ พี่เดียวทำงานคอกม้า ต้องขี่ม้าเป็นแน่เลย"
"ครับผม คุณมาร์ตี้ชอบขี่ม้าไหม?"
"ไม่เคยขี่ อยากขี่เหมือนกัน แต่กลัวตก" มาร์ตี้ตอบตามความจริง
"อยากขี่ไหมครับ? ไม่ต้องกลัวตก เดี๋ยวผมนั่งไปเป็นเพื่อนเอง" หนึ่งบุรุษส่งสายตาเชิญชวนหนุ่มน้อย
"ตอนนี้เลยเหรอครับ?" มาร์ตี้ย้ำเพื่อความแน่ใจ
หนึ่งบุรุษพยักหน้ารับ
มาร์ตี้ตื่นเต้นสนุกสนานกับการขี่ม้าครั้งแรก โดยมีหนึ่งบุรุษนั่งอยู่ข้างหลังคอยควบคุมความเร็วและการทรงตัว
…………………………………………………………………………...
"ไปไหนมา? โทรไปก็ไม่รับ ส่งไลน์ก็ตอบช้ามาก ตอนแรกเราคิดว่ามาร์ตี้นอนหลับ พอไปหาที่เรือน เห็นน้าซอนย่าบอกว่า ออกไปเดินเล่นข้างนอก" สายเมฆถามด้วยความเป็นห่วง
"ก็ตามที่แม่บอก โทรศัพท์เปิดระบบสั่น เลยไม่ได้ยินเสียง" มาร์ตี้ตอบสั้นๆ
"รักนะ ถึงได้เป็นห่วงเป็นใย" สายเมฆโอบกอดพร้อมหอมแก้มมาร์ตี้
มาร์ตี้พยายามเบี่ยงตัวออกมาจากอ้อมกอดฝ่ายตรงข้าม
"ทำไม? มาร์ตี้เบื่อรำคาญเราเหรอ? เราพอเข้าใจ มาร์ตี้ได้เราแล้วนิ ตอนนี้ก็คงเป็นช่วงเท" สายเมฆตัดพ้อด้วยความน้อยใจ
"คิดมากจัง ผมไปเดินเล่นมารู้สึกเหนียวตัว กลัวเมฆเหม็นเหงื่อ เหม็นกลิ่นเต่าผม" มาร์ตี้หาเหตุผลมาอ้าง
"ต่อให้มาร์ตี้ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน เราเต็มใจที่จะสูดดมกลิ่นอันเย้ายวน โดยไม่รังเกียจ อาบน้ำไหม? เดี๋ยวเอาผ้าเช็ดตัวให้ มีบริการถูหลังถูตัวด้วยนะ " สายเมฆลูบไล้ลำตัวมาร์ตี้ด้วยความเสน่หา
"เมฆคิดยังไงกับผม?" มาร์ตี้อยากรู้ความในใจฝ่ายตรงข้าม
"เรารักมาร์ตี้แบบแฟน ถ้าเป็นไปได้อยากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในวันข้างหน้า มาร์ตี้ละ คิดเหมือนที่เราคิดไหม?" สายเมฆบอกความในใจ พร้อมย้อนถาม
"เรื่องอนาคตผมยังไม่รู้ ไม่กล้ารับปากหรือให้ความหวังอะไรทั้งนั้น กลัวจะทำเหมือนที่พูดไม่ได้ อีกอย่างเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ผมว่ามันเร็วเกินไป ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน" มาร์ตี้ตอบอย่างกลางๆ
"มาร์ตี้พูดมีเหตุผลนะ ถ้าต้องการเวลา เราก็จะไม่เร่งไม่ถามคำถามนี้อีก ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามทางของมัน ถ้าเราสองคนมีใจให้กันซะอย่าง ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเนอะ" สายเมฆโผเข้าซบอกของมาร์ตี้
มาร์ตี้ใช้มือลูบบนศรีษะฝ่ายตรงข้ามเบาๆ เขาฝืนใจจูบลงที่หน้าผากของฝ่ายตรงข้าม เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
...................……………………………………………..
บัวซอนพาสามีเดินเที่ยวชมกาดน้อย ก่อนจะแวะไปเยี่ยมสินทบพี่ชายของสินไหม ที่ร้านค้าท้ายตลาด
"เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น คนอะไรหน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าพื้นถนนเสริมใยเหล็ก ตอนผัวไม่อยู่ก็มีผู้ชายอีกคนแอบเข้าหา กินตับกันกลางวันแสกๆ จนชาวบ้านเล่าขวัญ[1] ขึ้นกองล่องก่อง[2] ความวัวยังไม่ทันหาย ก็แอบไปลักกินลูกเขยกู จนลูกสาวกูไม่เป็นอันทำการทำงาน ต้องคอยตามเฝ้าผัวมัน ตอนนี้ผัวมาหา ยังมีหน้าควงมาอวดชาวบ้านอย่างไม่อายฟ้าอายดินเลย ชื่อของ
บัวซอนไม่โต้ตอบใดๆทั้งสิ้น เธอแค่ใช้สายตาสื่อสารให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงอารมณ์ของเธอในขณะนี้ เธอรีบจูงแขนสามีเดินไปทางร้านของสินทบอย่างรวดเร็ว
[1] เล่าขวัญ = ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือ หมายถึง การนินทา
[2] ขึ้นกองล่องกอง = ภาษาพื้นเมืองทางภาคเหนือ หมายถึง ตั้งแต่หัวถนน(ซอย หรือหมู่บ้าน)ไปจนสุดท้ายถนน(ซอยหรือหมู่บ้าน)
………………………………………………………………………………….
"พ่อเป็นไร? ดูเงียบๆไม่ค่อยพูดค่อยจา เรื่องนั้นใช่ไหม? แม่จะอธิบายให้ฟังเดี๋ยวนี้" บัวซอนเห็นอาการผิดปรกติของสามี ตั้งแต่กลับมาจากกาดน้อย
บัวซอนเล่าเรื่องที่เดชศักดาแอบเข้ามาหาเธอในวันนั้น ให้สามีฟัง
"พ่อขอโทษแม่ด้วยนะ พ่อเชื่อใจแม่ว่า ไม่มีทางทำเรื่องบัดสีแบบนั้นได้หรอก แต่กับคุณเดช บอกตามตรง พ่อไม่ไว้ใจเขาเลย แววตาที่เขามองแม่ มันเป็นแววตาที่คนรักใช้มองกัน อีกอย่างเขามีเมียแล้วตั้ง 2คน จะตัณหากลับอะไรกันนักหนา คราวนี้พ่อไม่ติดใจอะไร อย่าให้มีคราวหน้าละกัน พ่อเอาจริง ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น" ธานีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ก่อนพ่อตัดสินใจทำอะไรลงไป คิดถึงลูกไว้ก่อนนะ ลูกเรากำลังจะแต่งงานกับลูกเขา ครอบครัวเราก็กำลังจะดองกับครอบครัวเขา บุ่มบ่ามทำอะไรแรงไป มันจะมองหน้ากันไม่ติดทั้งสองฝ่าย แม่ว่า ตอนนี้อะไรที่เลี่ยงได้ ก็เลี่ยงไปก่อนเถอะ รอให้ลูกแต่งงานเสร็จ แล้วเราก็รีบกลับบ้านกันทันที หลังจากนั้นทางเรากับทางเขาก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันแล้ว" บัวซอนเตือนสติสามี
……………………………………………………………………………………………………………...