"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่1ลง ตามสนธิสัญญา แวร์ไซลล์ Treaty of Versailles นั้นห้ามเยอรมันผลิตอาวุธสงครามต่างๆ รวมถึงปืนกลแบบต่างๆ แต่ด้วยอำนาจและฐานกำลังของของพรรค นาซี ที่เริ่มเพิ่มขึ้นตลอดช่วงยุค1930 นั้น เยอรมันใช้วิธีโดยอ้อมกับสนธิสัญญา โดยวิธีการต่างๆ เช่น ลดความยาวของลำกล้องปืนลงแต่เพิ่มประสิทธิภาพของปืนให้เทียบเท่าของเดิม เป็นต้น และครั้งนี้เยอรมันให้ความสำคัญกับแนวคิดของปืนกล ที่มีน้ำหนักเบาที่จะมีความคล่องตัว ,สามารถนำพาไปได้อย่างสะดวกในสนามรบ,มีความแม่นยำ และ มีความต่อเนื่องในการยิงสูง
พื้นฐานสำคัญคือ MG 30 (Maschinengewehr 30) ที่ออกแบบโดย Louis Stange ที่ Rheinmetall ในสำนักงานที่ Sömmerda แต่ด้วยข้อกำหนดสนธิสัญญาแวร์ไซลล์ ทาง Rheinmetall จึงหลีกเลี่ยงไปถือหุ้น บริษัทของสวิส คือ Waffenfabrik Solothurn AG และทำการผลิตที่สวิสแทน เพื่อตอบสนองคำสั่งซื้อจาก Reichswehr MG 30 ใช้กระสุนขนาด 7.92×57mm Mauser ใช้ซองกระสุนบรรจุ 30 นัด ระบบการทำงานของปืนเป็นแบบ Recoil-operated อาศัยแรงสะท้อนถอยหลัง หรือ รีคอลย์ ของปากลำกล้องถอยหลังมาปลดกลอน และบริหารกลไกของลูกเลื่อน โดยจะมีวงแหวนควบคุม Locking ring, ปีกลูกเลื่อน Locking lugs ซึ่งมี6ปีก
- เมื่อทำการยิงระบบลั่นไกจะปล่อยลูกเลื่อนจะเคลื่อนที่มาด้านหน้า ร่องลูกเบี้ยวจะบังคับปีกให้เข้าไปขัดกลอน และ แท่งบังคับจะถูกบังคับด้วยร่องบังคับให้เข็มแทงชนวนบนตัวเรือนลูกเลื่อน วิ่งเข้าไปกระแทกกับจอกกระทบแตก
-เมื่อมีการยิงกระสุนออกไปลำกล้องจะถอยตัวทั้งแท่ง โดยที่ท้ายรังเพลิงจะบังคับให้ลูกเลื่อนถอยตัวในจังหวะเดียวกันปีลูกเลื่อนจะหมุนตัวและปลดกลอนออกไป และเริ่มต้น การทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
MG 30 สามารถยิงได้ทั้งทีละนัด Semi-automatic และ อัตโนมัติ Full automatic การเลือกโหมดการยังใช้ระบบไก สองจังหวะหรือ Two-stage trigger อัตราการยิง อยู่ที่ 600-800 นัดต่อนาที ระบายความร้อยด้วยอากาศ Air-cooled
มีสองรุ่นคือ MG 30(M) และ MG 30(T)
MG 30 ผลิตที่,Steyr-Werke AG ออสเตรีย และ Solothurn ใน สวิสเซอร์แลนด์ ในชื่อsolothurn s2-200 และ Maschinengewehr Solothurn 1930 มีการผลิตออกมาราวๆ 2000-3000 ฮังการี่ซื้อมาใช้งานในชื่อ Solothurn 31.M Golyószóró.
ซึ่งมีการผลิตขนาดต่างๆคือ 7.92×57mm Mauser, 8×56mmRและ 7×57mm Mauser
Bergmann ได้นำ MG 30 ไปพัฒนาต่อเป็น MG 15 เพื่อใช้งานใน Luftwaffe
หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ .ที่นี้ครับ
X.XNO
Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/MG_30
#MG_30 #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 342 ปืนกล Maschinengewehr 30
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่1ลง ตามสนธิสัญญา แวร์ไซลล์ Treaty of Versailles นั้นห้ามเยอรมันผลิตอาวุธสงครามต่างๆ รวมถึงปืนกลแบบต่างๆ แต่ด้วยอำนาจและฐานกำลังของของพรรค นาซี ที่เริ่มเพิ่มขึ้นตลอดช่วงยุค1930 นั้น เยอรมันใช้วิธีโดยอ้อมกับสนธิสัญญา โดยวิธีการต่างๆ เช่น ลดความยาวของลำกล้องปืนลงแต่เพิ่มประสิทธิภาพของปืนให้เทียบเท่าของเดิม เป็นต้น และครั้งนี้เยอรมันให้ความสำคัญกับแนวคิดของปืนกล ที่มีน้ำหนักเบาที่จะมีความคล่องตัว ,สามารถนำพาไปได้อย่างสะดวกในสนามรบ,มีความแม่นยำ และ มีความต่อเนื่องในการยิงสูง
พื้นฐานสำคัญคือ MG 30 (Maschinengewehr 30) ที่ออกแบบโดย Louis Stange ที่ Rheinmetall ในสำนักงานที่ Sömmerda แต่ด้วยข้อกำหนดสนธิสัญญาแวร์ไซลล์ ทาง Rheinmetall จึงหลีกเลี่ยงไปถือหุ้น บริษัทของสวิส คือ Waffenfabrik Solothurn AG และทำการผลิตที่สวิสแทน เพื่อตอบสนองคำสั่งซื้อจาก Reichswehr MG 30 ใช้กระสุนขนาด 7.92×57mm Mauser ใช้ซองกระสุนบรรจุ 30 นัด ระบบการทำงานของปืนเป็นแบบ Recoil-operated อาศัยแรงสะท้อนถอยหลัง หรือ รีคอลย์ ของปากลำกล้องถอยหลังมาปลดกลอน และบริหารกลไกของลูกเลื่อน โดยจะมีวงแหวนควบคุม Locking ring, ปีกลูกเลื่อน Locking lugs ซึ่งมี6ปีก
- เมื่อทำการยิงระบบลั่นไกจะปล่อยลูกเลื่อนจะเคลื่อนที่มาด้านหน้า ร่องลูกเบี้ยวจะบังคับปีกให้เข้าไปขัดกลอน และ แท่งบังคับจะถูกบังคับด้วยร่องบังคับให้เข็มแทงชนวนบนตัวเรือนลูกเลื่อน วิ่งเข้าไปกระแทกกับจอกกระทบแตก
-เมื่อมีการยิงกระสุนออกไปลำกล้องจะถอยตัวทั้งแท่ง โดยที่ท้ายรังเพลิงจะบังคับให้ลูกเลื่อนถอยตัวในจังหวะเดียวกันปีลูกเลื่อนจะหมุนตัวและปลดกลอนออกไป และเริ่มต้น การทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
MG 30 สามารถยิงได้ทั้งทีละนัด Semi-automatic และ อัตโนมัติ Full automatic การเลือกโหมดการยังใช้ระบบไก สองจังหวะหรือ Two-stage trigger อัตราการยิง อยู่ที่ 600-800 นัดต่อนาที ระบายความร้อยด้วยอากาศ Air-cooled
มีสองรุ่นคือ MG 30(M) และ MG 30(T)
MG 30 ผลิตที่,Steyr-Werke AG ออสเตรีย และ Solothurn ใน สวิสเซอร์แลนด์ ในชื่อsolothurn s2-200 และ Maschinengewehr Solothurn 1930 มีการผลิตออกมาราวๆ 2000-3000 ฮังการี่ซื้อมาใช้งานในชื่อ Solothurn 31.M Golyószóró.
ซึ่งมีการผลิตขนาดต่างๆคือ 7.92×57mm Mauser, 8×56mmRและ 7×57mm Mauser
Bergmann ได้นำ MG 30 ไปพัฒนาต่อเป็น MG 15 เพื่อใช้งานใน Luftwaffe
หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ .ที่นี้ครับ
X.XNO
Cr.
https://en.wikipedia.org/wiki/MG_30
#MG_30 #ป_ปืน