สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ผมเข้าใจคุณ Keichun นะครับในฐานะอยู่ยุโรปเหมือนกัน อ่านหลายๆ คห ของคนไทยก็ไม่พอใจเช่นกัน เราก็ทำได้แค่พยายามออกมาอธิบายเหตุผลที่แท้จริง ส่วนเค้าจะรับฟังแค่ไหน เราไปบังคับเค้าไม่ได้หรอกครับ ยังไงก็ใจเย็นๆนะครับ (ผมก็พยายามบอกตัวเองเหมือนกัน)
อยากจะเตือนสติสักนิด ให้คนไทยลองมองย้อนกลับไปในอดีตเวลาที่ประเทศไทยเดือดร้อน ไม่ว่าจะจากภัยธรรมชาติ หรือจะจากเรื่องเด็กติดถ้ำนั่น นานาชาติอาสาเข้ามาช่วยไทยอย่างเต็มที่กันแค่ไหน ไม่ว่าจะช่วยบริจาค ช่วยเรื่องส่งคน ส่งเครื่องมือมาช่วย ทีเรื่องแบบนี้ที่จริงๆแล้วเป็นมหันตภัยที่กระทบทั่วโลก ซึ่งทุกประเทศเค้าก็พยายามแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่ ไม่ได้มานั่งรอดู รอสมน้ำหน้าคนไทยที่เดือดร้อนนะครับ ทีแบบนี้ทำไมคนไทยหลายกลุ่มดูจะสะใจ และรอสมน้ำหน้าความเดือดร้อนของชาติอื่น เพียงเพราะเค้าไม่ใส่หน้ากาก แค่นั้น? ไม่ว่าชาติไหนเดือดร้อน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะคอยมานั่งซ้ำเติมนะครับ เห็นหลายกระทู้ และแม้แต่ใน social ต่างๆก็เห็นเรื่อยๆที่คนไทยหลายกลุ่มทีเดียวที่เป็นแบบนี้ ขอให้ใช้สติกันมากๆนะครับ อย่าลืมว่า นี่เราพูดถึงชีวิตของคนอยู่นะครับ ไม่ว่าชาติไหนก็แล้วแต่ มันไม่ใช่เรื่อง ลองใช้สติแล้วคิดดูดีๆ
อันดับแรกเลยที่ตอนนี้ทางหน่วยงานต่างๆและทางรัฐออกมาเรียกร้องกับประชาชน คือ ขอให้มีสติ และขอให้มีสติในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องการอยู่ในความสงบ อย่าความตื่นตระหนก เรื่องการรักษาความสะอาดต่างๆ รวมถึงเรื่องนี้ด้วยนะครับ
ผมเข้ามาตอบ จขกท ให้อีกซักนิดว่า
ใส่หน้ากาก มันไม่ได้มีผลเสียอะไรกับคนใส่อยู่แล้วครับ แต่ประเด็น คือ ผลดีมันก็ไม่ได้มี เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้ช่วยให้คุณไม่ติดเชื้อด้วย เพราะเชื้อมันแพร่ทางน้ำลาย น้ำมูก คนติดเชื้อจามใส่ ไอใส่ที ใส่หน้ากากกันจมูกกับปาก แต่ก็เข้าได้ทางตาอยู่ดี ก็ติดอยู่ดี
แต่ประเด็นหลัก คือ ในฐานะคนธรรมดาไปนั่งกว้านซื้อหน้ากาก ผลก็คือของมันขาดตลาด คนที่เดือดร้อนหนัก คือ คนที่ต้องการใช้จริงๆอย่างบุลคลากรแพทย์ต่างหาก รู้แบบนี้แล้ว ทำไปทำไมครับ? เราจะไปทำให้สถานการณ์มันแย่ทางอ้อมทำไม? แค่นั้นพวกบุลคลากรแพทย์เค้าก็ทำงานกันหนักพอแล้ว มือไม่พายเราก็ไม่ควรจะเอาเท้าราน้ำ ทำให้มันยิ่งแย่ จริงมั้ยครับ?
ส่วนพวกที่บ่นว่า โดนฝรั่งออกมาโจมตีเวลาใส่หน้ากากน่ะ เอาจริงๆผมไม่แปลกใจหรอก เพราะทั้ง WHO ทั้งนักวิทยาศาสตร์ ทั้งแพทย์ก็ออกมาพูดเหมือนกันหมด คือ คนที่ควรใส่หน้ากาก คือ คนที่ติดเชื้อเองแล้วจึงใส่หน้ากากกันไม่ให้ไปแพร่คนอื่น กับอีกกลุ่ม คือ คนที่ต้องดูแลคนป่วย พูดง่ายๆว่า ต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ คราวนี้ผมถามกลับกันซิ คนเอเชียที่สุขภาพแข็งแรงเดินใส่หน้ากากเดินไปเดินมานมาในยุโรป เป็นคุณ คุณจะคิดยังไง? ก็ต้องคิดว่า เป็นคนป่วยมานั่งเดินแพร่เชื้อ คุณจะเดินใกล้ จะให้การต้อนรับมั้ยล่ะครับ? ถึงได้บอกว่า แทนที่จะมานั่งคิดว่า ฝรั่ง bully ลองไปหาข้อมูลเยอะๆว่า ทางผู้เชี่ยวชาญเค้าแนะนำกันมายังไง ทำไมคนถึงมองว่า ที่คนเอเชียทำมันผิดที่ผิดทาง การกระทำมันมีเหตุผลครับ ผมเป็นคนเอเชีย ผมเห็นคนจีนเดินใส่หน้ากากเดินไปเดินมา ผมก็ยังรู้สึกว่า มันทำให้คนรอบข้างยิ่งตื่นตระหนก ยิ่งกลัวกันเข้าไปอีก ผมก็ไม่ชอบครับ จะทำไปทำไมครับ?
เมื่อวานนี้หนังสือพิมพ์เยอรมัน Spiegel ไปสัมภาษณ์ผู้ติดเชื้อคนนึง แกเป็นแพทย์เอง แล้วติดเชื้อมาจากลูกสาวที่ไปอิตาลีมา แกก็บอกอยู่ว่า ไม่ได้ทำไรมากเลย เจอลูกกอดกันทักทาย คุยกันนิดหน่อย แล้วลูกสาวก็กลับบ้าน ติดละ ง่ายๆเลย แต่แกก็เฉยๆมากๆ ไม่ตื่นเต้นอะไร นั่นก็เป็นหนึ่งตัวอย่างว่า ติดแล้วไม่มีอาการอะไรเลย ยาอะไรก็ไม่จำเป็นต้องกินต้องใช้ เพราะแกไม่ได้เป็นอะไร เรียกว่านั่งอยู่ในที่กักกันเล่นมือถือไปวันๆ รอเวลาให้ปลอดเชื้อ แล้วก็กลับบ้าน และจะบอกว่า ส่วนใหญ่ในเยอรมนีที่ติดเชื้อ แทบไม่มีอาการ หรืออาการเบามาก หนักจริงๆมีคนเดียวที่ป่วยมาก่อนอยู่แล้ว แต่อาการก็ยัง stable ที่เหลือก็เป็นแบบแพทย์คนนี้นี่ล่ะ คือ นั่งๆนอนๆรอเวลา เค้าก็บอกกันปาวๆว่า อย่าตื่นตระหนก มีสติเยอะๆ ใจเย็นๆ เพราะ 80% ของคนที่ติดเชื้อ ไม่แสดงอาการ หรืออาการเบา ถ้าไม่ใช่กลุ่มสุ่มเสี่ยงแบบคนป่วย หรือคนชรา ยิ่งกลุ่มอายุ 80 ขึ้นไปยิ่งเสี่ยง เพราะฉะนั้นหากมันจะต้องติดจริงๆ มันก็เลี่ยงไม่ได้ครับ เราก็ให้แพทย์ ให้ทางรัฐ ให้นักวิทยาศาสตร์เค้าทำงานของเค้ากันไป แต่ไม่ควรจะไปทำให้การทำงานของเค้ามันลำบากยิ่งขึ้น ทำได้แค่นั้นแหละครับ
ผมถึงได้ถามว่า อย่างประเทศที่ใส่หน้ากากแบบเกาหลีใต้ แบบญี่ปุ่น แบบจีน ยังมีอาการหนักกว่าประเทศพวกนี้ที่ไม่ใส่หน้ากากอีกเยอะ สรุปแล้วหน้ากากมันช่วยยังไงครับ มีหลักฐานตรงไหนอะไร ที่มันชี้ชัดเลยว่ามันช่วยแน่นอน? ถ้ามันมีหลักฐาน มันพิสูจน์แล้วว่า ดีกว่าจริง ช่วยแน่นอน WHO ต้องออกมารณรงค์ให้ใช้หน้ากากกันหมดแล้ว นี่ WHO แนะนำตรงกันข้ามด้วยซ้ำ การที่ฝรั่งดูยังไม่ตื่นตระหนกมาก ก็เพราะเหล่าผู้เชี่ยวชาญ พวกแพทย์ เภสัช และอื่นๆเค้าพยายามให้ข้อมูลประชาชนให้มากที่สุด เพื่อที่นะได้ลดความหวาดกลัวให้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าเค้าไม่สนใจ หรือไม่ตื่นตัว ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมก็ยังใช้ชีวิตปกติ ล้างมือ รักษาความสะอาดมากกว่าปกติ แต่ก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิม มีสติเยอะๆครับ อย่าแตกตื่นโดยใช่เหตุ
อยากจะเตือนสติสักนิด ให้คนไทยลองมองย้อนกลับไปในอดีตเวลาที่ประเทศไทยเดือดร้อน ไม่ว่าจะจากภัยธรรมชาติ หรือจะจากเรื่องเด็กติดถ้ำนั่น นานาชาติอาสาเข้ามาช่วยไทยอย่างเต็มที่กันแค่ไหน ไม่ว่าจะช่วยบริจาค ช่วยเรื่องส่งคน ส่งเครื่องมือมาช่วย ทีเรื่องแบบนี้ที่จริงๆแล้วเป็นมหันตภัยที่กระทบทั่วโลก ซึ่งทุกประเทศเค้าก็พยายามแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่ ไม่ได้มานั่งรอดู รอสมน้ำหน้าคนไทยที่เดือดร้อนนะครับ ทีแบบนี้ทำไมคนไทยหลายกลุ่มดูจะสะใจ และรอสมน้ำหน้าความเดือดร้อนของชาติอื่น เพียงเพราะเค้าไม่ใส่หน้ากาก แค่นั้น? ไม่ว่าชาติไหนเดือดร้อน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะคอยมานั่งซ้ำเติมนะครับ เห็นหลายกระทู้ และแม้แต่ใน social ต่างๆก็เห็นเรื่อยๆที่คนไทยหลายกลุ่มทีเดียวที่เป็นแบบนี้ ขอให้ใช้สติกันมากๆนะครับ อย่าลืมว่า นี่เราพูดถึงชีวิตของคนอยู่นะครับ ไม่ว่าชาติไหนก็แล้วแต่ มันไม่ใช่เรื่อง ลองใช้สติแล้วคิดดูดีๆ
อันดับแรกเลยที่ตอนนี้ทางหน่วยงานต่างๆและทางรัฐออกมาเรียกร้องกับประชาชน คือ ขอให้มีสติ และขอให้มีสติในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องการอยู่ในความสงบ อย่าความตื่นตระหนก เรื่องการรักษาความสะอาดต่างๆ รวมถึงเรื่องนี้ด้วยนะครับ
ผมเข้ามาตอบ จขกท ให้อีกซักนิดว่า
ใส่หน้ากาก มันไม่ได้มีผลเสียอะไรกับคนใส่อยู่แล้วครับ แต่ประเด็น คือ ผลดีมันก็ไม่ได้มี เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้ช่วยให้คุณไม่ติดเชื้อด้วย เพราะเชื้อมันแพร่ทางน้ำลาย น้ำมูก คนติดเชื้อจามใส่ ไอใส่ที ใส่หน้ากากกันจมูกกับปาก แต่ก็เข้าได้ทางตาอยู่ดี ก็ติดอยู่ดี
แต่ประเด็นหลัก คือ ในฐานะคนธรรมดาไปนั่งกว้านซื้อหน้ากาก ผลก็คือของมันขาดตลาด คนที่เดือดร้อนหนัก คือ คนที่ต้องการใช้จริงๆอย่างบุลคลากรแพทย์ต่างหาก รู้แบบนี้แล้ว ทำไปทำไมครับ? เราจะไปทำให้สถานการณ์มันแย่ทางอ้อมทำไม? แค่นั้นพวกบุลคลากรแพทย์เค้าก็ทำงานกันหนักพอแล้ว มือไม่พายเราก็ไม่ควรจะเอาเท้าราน้ำ ทำให้มันยิ่งแย่ จริงมั้ยครับ?
ส่วนพวกที่บ่นว่า โดนฝรั่งออกมาโจมตีเวลาใส่หน้ากากน่ะ เอาจริงๆผมไม่แปลกใจหรอก เพราะทั้ง WHO ทั้งนักวิทยาศาสตร์ ทั้งแพทย์ก็ออกมาพูดเหมือนกันหมด คือ คนที่ควรใส่หน้ากาก คือ คนที่ติดเชื้อเองแล้วจึงใส่หน้ากากกันไม่ให้ไปแพร่คนอื่น กับอีกกลุ่ม คือ คนที่ต้องดูแลคนป่วย พูดง่ายๆว่า ต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ คราวนี้ผมถามกลับกันซิ คนเอเชียที่สุขภาพแข็งแรงเดินใส่หน้ากากเดินไปเดินมานมาในยุโรป เป็นคุณ คุณจะคิดยังไง? ก็ต้องคิดว่า เป็นคนป่วยมานั่งเดินแพร่เชื้อ คุณจะเดินใกล้ จะให้การต้อนรับมั้ยล่ะครับ? ถึงได้บอกว่า แทนที่จะมานั่งคิดว่า ฝรั่ง bully ลองไปหาข้อมูลเยอะๆว่า ทางผู้เชี่ยวชาญเค้าแนะนำกันมายังไง ทำไมคนถึงมองว่า ที่คนเอเชียทำมันผิดที่ผิดทาง การกระทำมันมีเหตุผลครับ ผมเป็นคนเอเชีย ผมเห็นคนจีนเดินใส่หน้ากากเดินไปเดินมา ผมก็ยังรู้สึกว่า มันทำให้คนรอบข้างยิ่งตื่นตระหนก ยิ่งกลัวกันเข้าไปอีก ผมก็ไม่ชอบครับ จะทำไปทำไมครับ?
เมื่อวานนี้หนังสือพิมพ์เยอรมัน Spiegel ไปสัมภาษณ์ผู้ติดเชื้อคนนึง แกเป็นแพทย์เอง แล้วติดเชื้อมาจากลูกสาวที่ไปอิตาลีมา แกก็บอกอยู่ว่า ไม่ได้ทำไรมากเลย เจอลูกกอดกันทักทาย คุยกันนิดหน่อย แล้วลูกสาวก็กลับบ้าน ติดละ ง่ายๆเลย แต่แกก็เฉยๆมากๆ ไม่ตื่นเต้นอะไร นั่นก็เป็นหนึ่งตัวอย่างว่า ติดแล้วไม่มีอาการอะไรเลย ยาอะไรก็ไม่จำเป็นต้องกินต้องใช้ เพราะแกไม่ได้เป็นอะไร เรียกว่านั่งอยู่ในที่กักกันเล่นมือถือไปวันๆ รอเวลาให้ปลอดเชื้อ แล้วก็กลับบ้าน และจะบอกว่า ส่วนใหญ่ในเยอรมนีที่ติดเชื้อ แทบไม่มีอาการ หรืออาการเบามาก หนักจริงๆมีคนเดียวที่ป่วยมาก่อนอยู่แล้ว แต่อาการก็ยัง stable ที่เหลือก็เป็นแบบแพทย์คนนี้นี่ล่ะ คือ นั่งๆนอนๆรอเวลา เค้าก็บอกกันปาวๆว่า อย่าตื่นตระหนก มีสติเยอะๆ ใจเย็นๆ เพราะ 80% ของคนที่ติดเชื้อ ไม่แสดงอาการ หรืออาการเบา ถ้าไม่ใช่กลุ่มสุ่มเสี่ยงแบบคนป่วย หรือคนชรา ยิ่งกลุ่มอายุ 80 ขึ้นไปยิ่งเสี่ยง เพราะฉะนั้นหากมันจะต้องติดจริงๆ มันก็เลี่ยงไม่ได้ครับ เราก็ให้แพทย์ ให้ทางรัฐ ให้นักวิทยาศาสตร์เค้าทำงานของเค้ากันไป แต่ไม่ควรจะไปทำให้การทำงานของเค้ามันลำบากยิ่งขึ้น ทำได้แค่นั้นแหละครับ
ผมถึงได้ถามว่า อย่างประเทศที่ใส่หน้ากากแบบเกาหลีใต้ แบบญี่ปุ่น แบบจีน ยังมีอาการหนักกว่าประเทศพวกนี้ที่ไม่ใส่หน้ากากอีกเยอะ สรุปแล้วหน้ากากมันช่วยยังไงครับ มีหลักฐานตรงไหนอะไร ที่มันชี้ชัดเลยว่ามันช่วยแน่นอน? ถ้ามันมีหลักฐาน มันพิสูจน์แล้วว่า ดีกว่าจริง ช่วยแน่นอน WHO ต้องออกมารณรงค์ให้ใช้หน้ากากกันหมดแล้ว นี่ WHO แนะนำตรงกันข้ามด้วยซ้ำ การที่ฝรั่งดูยังไม่ตื่นตระหนกมาก ก็เพราะเหล่าผู้เชี่ยวชาญ พวกแพทย์ เภสัช และอื่นๆเค้าพยายามให้ข้อมูลประชาชนให้มากที่สุด เพื่อที่นะได้ลดความหวาดกลัวให้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าเค้าไม่สนใจ หรือไม่ตื่นตัว ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมก็ยังใช้ชีวิตปกติ ล้างมือ รักษาความสะอาดมากกว่าปกติ แต่ก็ยังใช้ชีวิตแบบเดิม มีสติเยอะๆครับ อย่าแตกตื่นโดยใช่เหตุ
ความคิดเห็นที่ 10
เรื่องมโนคิดกันไปเองนี่ถนัดนักแล ไร้สาระ เรื่องอ่อนแอแข็งแรงอะไรนี่ แต่งเรื่องเอาเอง ไป search หาจะภาษาอังกฤษ หรือภาษาไหนในยุโรป มันก็ออกผลมาเป็นร้อยเป็นพัน แทนที่จะมานั่งมโนหาเรื่องด่าฝรั่งงแบบไม่เป็นความจริง เข้าไปหาข่าวอ่าน ทำความเข้าใจ นอกจากจะให้ความรู้ตัวเองแล้ว จะได้แก้ความเข้าใจตัวเองให้มันถูกๆด้วย ข่าวต่างๆเค้าจะให้เหตุผลชัดเจนทุกประเทศ และทุกภาษาว่า ทำไมเค้าถึงแนะนำให้เฉพาะบุคลากรแพทย์ และคนป่วยเท่านั้นที่ใส่ นั่นเค้าก็อิงจากตัวเลข จากงานวิจัยทั้งสิ้นว่า การที่คนธรรมดาใส่ มันไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าคนไทยคิดว่า ตัวเองรู้ดีกว่านักวิทยาศาสตร์ รู้ดีกว่า WHO รอช้าอะไร? ก็เอางานวิจัยออกไปค้านเลยครับ ง่ายๆแค่นั้น อย่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้นั่นก็ใส่ Mask นิ แล้วยังไง? คุมสถานการณ์ได้ดีกว่า ตัวเลขลดลงฮวบๆให้เห็นรึเปล่า? คนตายลดลงเพราะหน้ากาก? ของแบบนี้วิทยาศาสตร์ ตัวเลข สถิติ ง่ายๆแค่นั้น นี่หาภาษาอังกฤษ ใส่ไปในอากู๋ออกมาเป็นร้อย
https://www.businessinsider.com/coronavirus-celebrities-wearing-masks-are-promoting-a-myth-2020-2
https://www.nytimes.com/2020/02/29/health/coronavirus-n95-face-masks.html
https://www.forbes.com/sites/tarahaelle/2020/02/29/no-you-do-not-need-face-masks-for-coronavirus-they-might-increase-your-infection-risk/
นี่ของ WHO เอง เขียนชัดเจนเช่นกัน
https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019/advice-for-public/when-and-how-to-use-masks
ข้อแรกน่ะชัดเจนมั้ยครับ? อ่านสิครับอ่าน หาความรู้เข้าตัวเยอะๆ จะได้ลดความกลัว และรู้วิธีป้องกันตัวเอง ลดความเสี่ยงให้ตัวเอง เชื่อได้มากสุดก็ต้อง WHO กับพวกนักวิทยาศาสตร์พวกนี้ จริงมั้ยครับ?
เรื่องการแพทย์ เรื่องยา ประเทศไหนนำในโลก? ก็พวกเดิมๆ ไปดูเสียว่า Top 50 บริษัทยาโลกอยู่ในมือเมกา กับยุโรปเป็นหลักทั้งนั้น นี่ที่นั่งทำงานหาวัคซีนกันเป็นบ้าเป็นหลังก็พวกนี้ กับนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันต่างๆ คนพวกนี้ทั้งนั้นที่นั่งทำงานกันอย่างหนัก ทำวิจัยหาวัคซีนก็ต้องใช้เงิน บริษัทยาพวกนี้ก็นั่งทุ่มเงินกันอยู่ ถ้าไม่ใช่พวกนี้ใครจะมีทุนหนาเท่านั้น?
ตั้งแต่เรื่อง COVID-19 มันมีเรื่องขึ้นมา เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า ใครเป็นคนพัฒนา diagnostic test แรกของโลกให้ แล้วรีบกระจายให้ทั่วโลกเนี่ย คิดว่าฝีมือใคร? นั่นฝีมือฝรั่งทั้งนั้น Professor Christian Drosten จากโรงพยาบาล Charité ใน Berlin นู่น นักวิทยาศาสตร์ด้านไวรัสวิทยาที่ชื่อดังที่สุดของเยอรมนีเป็นคนคิดค้นนะครับ และแกนั่นแหละเป็นหนึ่งในผู้ที่เริ่มเจอ SARS ในปี 2003 นู่น รวมถึงเป็นคนช่วยพัฒนา diagnostic test ตรวจ SARs เหมือนรอบนี้เช่นกัน ที่แกก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมคิดค้น diagnostic test แรกของโลกสำหรับ COVID-19 ซึ่งที่เยอรมนีก็กระจายไปให้ทั่วโลกทันที รวมถึงปัจจุบัน online publication ของ WHO ก็นำ test protocol ของ Charité มาใช้เป็น guideline ให้แลปทั่วโลกอยู่ นั่นแกก็ออกข่าวมาให้ความรู้คนทุกวัน เพราะงั้นผมเชื่อนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทางครับ ไม่ต้องมานั่งมั่วเอง ผู้เชี่ยวชาญว่างั้น ก็ทำแบบนั้น
ต้องถามกลับว่า วันนึงที่เค้าคิดค้นวัคซีนได้ ซึ่งเค้าก็กะกันว่า น่าจะสิ้นปีหรือต้นๆปีหน้า หากเค้าคิดค้นกันได้ เค้าก็จะกระจายให้ทั่วโลกเหมือนเจ้า dianostic test เนี่ยแหละ ไทยเราก็ได้ผลประโยชน์ไปด้วย แล้วที่ออกมานั่งโจมตีฝรั่งแค่เรื่องหน้ากากนี่ทำเพื่ออะไร?
ที่แย่กว่านั้น เพราะคนธรรมดาไปแห่กันซื้อหน้ากากนี่ พวกแพทย์ พวกโรงพยาบาลขาดของนะครับ กลายเป็นไปทำให้สถานการณ์คนที่เค้าต้องใช้หน้ากากจริงๆแย่ลง มันใช่เรื่องแล้วหรือ? เหตุการณ์นี้ที่ไทยก็เป็นอยู่ หาอ่านได้ทั่วไป จริงไม่จริง ก็รู้กันอยู่
การที่ประเทศอื่นไม่ได้คิด ไม่ได้ประพฤติตัวเหมือนกับไทย มันก็ต้องมีเหตุผลของเค้า ก็แค่เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง (แต่ประเทศอื่นเค้าก็ใช้เหตุผลด้านวิทยาศาสตร์มาเป็นตัวตัดสินใจตรงนี้อย่างชัดเจนเช่นกัน) ทีประเทศอื่นเค้าก็ไม่ได้มาโจมตีไทยที่นิยมใส่หน้ากาก เพราะงั้นต้องถามกลับว่า ทำไมคนไทยจะต้องคอยออกมาโจมตีฝรั่งเรื่องหน้ากากซ้ำๆซากๆล่ะครับ?
https://www.businessinsider.com/coronavirus-celebrities-wearing-masks-are-promoting-a-myth-2020-2
https://www.nytimes.com/2020/02/29/health/coronavirus-n95-face-masks.html
https://www.forbes.com/sites/tarahaelle/2020/02/29/no-you-do-not-need-face-masks-for-coronavirus-they-might-increase-your-infection-risk/
นี่ของ WHO เอง เขียนชัดเจนเช่นกัน
https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019/advice-for-public/when-and-how-to-use-masks

ข้อแรกน่ะชัดเจนมั้ยครับ? อ่านสิครับอ่าน หาความรู้เข้าตัวเยอะๆ จะได้ลดความกลัว และรู้วิธีป้องกันตัวเอง ลดความเสี่ยงให้ตัวเอง เชื่อได้มากสุดก็ต้อง WHO กับพวกนักวิทยาศาสตร์พวกนี้ จริงมั้ยครับ?
เรื่องการแพทย์ เรื่องยา ประเทศไหนนำในโลก? ก็พวกเดิมๆ ไปดูเสียว่า Top 50 บริษัทยาโลกอยู่ในมือเมกา กับยุโรปเป็นหลักทั้งนั้น นี่ที่นั่งทำงานหาวัคซีนกันเป็นบ้าเป็นหลังก็พวกนี้ กับนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันต่างๆ คนพวกนี้ทั้งนั้นที่นั่งทำงานกันอย่างหนัก ทำวิจัยหาวัคซีนก็ต้องใช้เงิน บริษัทยาพวกนี้ก็นั่งทุ่มเงินกันอยู่ ถ้าไม่ใช่พวกนี้ใครจะมีทุนหนาเท่านั้น?
ตั้งแต่เรื่อง COVID-19 มันมีเรื่องขึ้นมา เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่า ใครเป็นคนพัฒนา diagnostic test แรกของโลกให้ แล้วรีบกระจายให้ทั่วโลกเนี่ย คิดว่าฝีมือใคร? นั่นฝีมือฝรั่งทั้งนั้น Professor Christian Drosten จากโรงพยาบาล Charité ใน Berlin นู่น นักวิทยาศาสตร์ด้านไวรัสวิทยาที่ชื่อดังที่สุดของเยอรมนีเป็นคนคิดค้นนะครับ และแกนั่นแหละเป็นหนึ่งในผู้ที่เริ่มเจอ SARS ในปี 2003 นู่น รวมถึงเป็นคนช่วยพัฒนา diagnostic test ตรวจ SARs เหมือนรอบนี้เช่นกัน ที่แกก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมคิดค้น diagnostic test แรกของโลกสำหรับ COVID-19 ซึ่งที่เยอรมนีก็กระจายไปให้ทั่วโลกทันที รวมถึงปัจจุบัน online publication ของ WHO ก็นำ test protocol ของ Charité มาใช้เป็น guideline ให้แลปทั่วโลกอยู่ นั่นแกก็ออกข่าวมาให้ความรู้คนทุกวัน เพราะงั้นผมเชื่อนักวิทยาศาสตร์เฉพาะทางครับ ไม่ต้องมานั่งมั่วเอง ผู้เชี่ยวชาญว่างั้น ก็ทำแบบนั้น
ต้องถามกลับว่า วันนึงที่เค้าคิดค้นวัคซีนได้ ซึ่งเค้าก็กะกันว่า น่าจะสิ้นปีหรือต้นๆปีหน้า หากเค้าคิดค้นกันได้ เค้าก็จะกระจายให้ทั่วโลกเหมือนเจ้า dianostic test เนี่ยแหละ ไทยเราก็ได้ผลประโยชน์ไปด้วย แล้วที่ออกมานั่งโจมตีฝรั่งแค่เรื่องหน้ากากนี่ทำเพื่ออะไร?
ที่แย่กว่านั้น เพราะคนธรรมดาไปแห่กันซื้อหน้ากากนี่ พวกแพทย์ พวกโรงพยาบาลขาดของนะครับ กลายเป็นไปทำให้สถานการณ์คนที่เค้าต้องใช้หน้ากากจริงๆแย่ลง มันใช่เรื่องแล้วหรือ? เหตุการณ์นี้ที่ไทยก็เป็นอยู่ หาอ่านได้ทั่วไป จริงไม่จริง ก็รู้กันอยู่
การที่ประเทศอื่นไม่ได้คิด ไม่ได้ประพฤติตัวเหมือนกับไทย มันก็ต้องมีเหตุผลของเค้า ก็แค่เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง (แต่ประเทศอื่นเค้าก็ใช้เหตุผลด้านวิทยาศาสตร์มาเป็นตัวตัดสินใจตรงนี้อย่างชัดเจนเช่นกัน) ทีประเทศอื่นเค้าก็ไม่ได้มาโจมตีไทยที่นิยมใส่หน้ากาก เพราะงั้นต้องถามกลับว่า ทำไมคนไทยจะต้องคอยออกมาโจมตีฝรั่งเรื่องหน้ากากซ้ำๆซากๆล่ะครับ?
แสดงความคิดเห็น
คนฝรั่งเศสไม่ใส่หน้ากากกัน COVID-19 เพราะคิดว่าแสดงถึงความอ่อนแอจริงหรือ
คนแข็งแรงคือคนไม่ใส่ คนใส่คือคนอ่อนแอ น่ารังเกียจ
และคนแข็งแรงไม่มีหน้าที่ต้องป้องกันตนเอง
ประเทศนี้เจริญขึ้นมาระดับโลกได้ไง น่ากลัวมากกกกกกกกกกกกกกก