สติปัฐฐาน เห็นจิตเป็นขั้นๆ จึงกระจ่างในจิต 1.เห็นตัวรู้ที่ไปรู้อารมณ์ มีการเกิดดับเปลี่ยนแปลง แยกจิตกับอารมณ์ได้ เป็นปัญญาขั้นที่1 2.ตัวรู้ที่ไปรู้อารมณ์นั้นละเอียดขึ้น อารมณ์ที่เกิดขึ้นมาเพิกบัญญัต

ร่าย หยดน้ำในลำธาร เป็น ร่าย ๔ คำ สัมผัสอิสระ ริเริ่ม : Soul Master @ แต่ละหยดน้ำ นำตรองให้คิด แม้จักน้อยนิด รวม ! พิชิตหินผา น้ำในธารา พัดพาก่อเกิด เจิดจรัสชัดย้ำ คำ"ส

@ ใช้สมองกรองข่าวให้....กระจ่างใส ขาดสติมือปากไว.............วุ่นร้อน ปัญญาเร่งใช้ไป...............ในประโยชน์ ชนนา ตายจาก!พรเชิดช้อน.........ส่งให้สู่สรวง

....วันปีเก่าผ่านพ้น..........ลาลับ สติตระหนักปัญญาจับ......เหตุได้ สรรพสิ่งสิเกิดดับ............ปกติ เศร้าสุขอย่ายึดไว้...........สงบนั้นพรธรรม...สู่เธอ ....พรธรรมนำสวัสดิ์ให้.....เพื่อนผอง สุขสงบใน

กลอน วารีลดหลั่นริน @ รักแท้ แน่วแน่ เพื่อผอง ปัญญา "สว่าง"ผลิ สติตรอง เมตตาปอง อภัย ไป่จดจำ

ผูกขาด และ สอพลอ @ ผูกขาด"รวย"กระจุกด้วย.....ดูดาย เศรษฐกิจผิด"จน"กระจาย.......ทั่วถ้วน หลายปีที่วางวาย.…........……....ใครช่วย คำสั่งกฎล้วนแล้ง.…&helli

@ ทุกวัน"เกิด"ใหม่ให้....ตรองตรึก ยัง"ชีพชอบ"สำนึก...."รับใช้" ปัญญาสติ!ลุ่มลึก....ธรรมกระจ่าง พรพระจักอวยให้....สุขได้สงบเสมอ

... เหตุใด บ้างจึง เจาะลึก ตรองตรึก ได้กระจ่าง สว่างใส วิเคราะห์ เหมาะประเด็น ดั่งใจ ฝึกฝน อย่างไร ไขที ... ความรู้ ผู้นั้น "หมั่น"ประจักษ์ ฝึกหนัก ตกผลึก สักขี พูดเขียน ปรากฏ ในคดี ลุ่มลึก

โอ้ใจลึกวิถีเลือน จะเสมือนธรรมนำทาง จิตสงบร่มลมพลาง จะกระจ่างด้วยกลางธรรม เสียงแห่งเขาไม่ควรสน และยลโลกประโลมย้ำ ใดมุ่งร้ายไม่ต้องจำ เพียงสำนึกในตนดี ลมพัดผ่านสะท้านไหว แต่ใ

@ ทุกวัน"เกิด"ใหม่ให้.....ตรองตรึก ตรึก"ชีพชอบ"สำนึก........"รับใช้" ใช้สติ!แจ่มลุ่มลึก............"รัก"จรัส จรัสพระธรรมอวยให้........สุขได้สงบเสมอ