กระทู้นี้ไม่มีสาระหรืออะไร เราแค่อยากมาระบายเหตุการณ์ที่เราเจอวันนี้เฉยๆ เรารู้สึกแย่มากๆ
คือวันนี้เราขึ้นรถเมล์ ขึ้นจากท่ารถหลักของสายนั้นเลย และมียายคนนึงขึ้นมาต่อจากเรา แกเหมือนจะป่วยและขาไม่ค่อยดีเดินหลังค่อมๆ แกก็ขึ้นมานั่งปกติ
พอรถออกกระเป๋ารถก็เดินมาเก็บตังปกติก็จะถามผู้โดยสารว่าจะลงไหน พอถึงคุณยายแกพูดไม่ค่อยรู้เรื่องคือฟังไม่ออกเลยเหมือนลิ้นคุณยายมีปัญหา เลยไม่สามารถบอกได้ว่าจะลงที่ไหนแต่แกก็พยายามพูดนะ และแกให้ตังกระเป๋ารถไป13บาท กระเป๋าเลยหันไปถามคนขับรถเมล์ว่า13บาทนี่ลงที่ไหน คนขับรถเมล์เลยถามแล้วยายแกว่ายายจะลงที่ไหน กระเป๋ารถบอกไม่รู้ยายแกพูดไม่รู้เรื่องแต่แกให้ตังมา13บาท คนขับรถเมล์ทำเหมือนคิดสักพักและบอกงั้นให้ยายแกลงหน้าโรงพยาบาลไป เพราะไม่รู้แกจะลงไหน คือโรงพยาบาลอยู่ห่างจากท่ารถที่ขึ้นประมาณ1กิโล
กระเป๋าเลยคืนเงินให้คุณยาย8บาท เพราะนั่งจากท่ารถไปโรงพยาบาลแค่5บาท แต่คุณยายแกก็ไม่ยอมเอาเงินคืน แกผลักมือกระเป๋ารถกลับไปและพยายามพูดว่าจะลงตรงไหนแต่ฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ เป็นแบบนี้อยู่สักพัก
จนเรากับนักศึกษาคนนึงมองหน้ากันแล้วช่วยกันพูดกับกระเป๋ารถว่า เดี๋ยวถ้าคุณยายจะลงตรงไหน เดี๋ยวให้ยายแกชี้หรือส่งสัญญาณให้พวกหนูแล้วเดี๋ยวพวกหนูบอกให้เอง
กระเป๋ารถหันไปมองคนขับ คนขับเลยบอกว่ามันจะช้าเดี๋ยวไม่ทันตอกบัตร ถ้าตอกไม่ทันต้องเสียค่าปรับอีกใครจะรับผิดชอบ ให้แกลงหน้าโรงพยาบาลนี่แหละ กระเป๋าก็หันมาพูดกับคุณยายว่าลงหน้าโรงพยาบาลนะ เดี๋ยวตอกบัตรไม่ทัน และก็พยายามเอาเงินคืนคุณยาย แต่คุณยายก็ยังไม่เอาผลักกลับไปเหมือนเดิม
พอถึงหน้าโรงพยาบาล กระเป๋ารถก็บอกคุณยายว่าถึงแล้วให้ลงเลย และกระเป๋ารถก็รีบเอาเงินยัดใส่มือคุณยาย และเอาข้าวของของคุณยายลงไปไว้บนฟุตบาทจนคุณยายต้องยอมลง และคุณยายก็ยืนรอรถเมล์เหมือนเดิม
คุณยายแกจะมีผ้าเอาไว้เช็ดน้ำลายพาดอยู่ตรงไหล่ เรามองคุณยายจากบนรถเมล์เราเห็นคุณยายปาดน้ำตาและเอาผ้าผืนนั้นซับ พอเราเห็นตอนนั้นเราหันหน้าหนีเลยคือจะร้องไห้ตามดูไม่ได้จริงๆ รู้สึกผิดมาตลอดทาง20กว่ากิโลที่ช่วยอะไรยายไม่ได้เลย ขนาดเล่าให้คนที่บ้านฟังก็แล้วให้เพื่อนฟังก็แล้ว แต่ความรู้สึกก็ยังแบบไม่โอเคจริงๆที่เจอแบบนี้
บางคนอาจคิดว่าเราคิดมากเกิน ยายก็แค่รถเมล์ใหม่ไม่เห็นยากเลย คือต้องบอกก่อนว่ารถเมล์สายนี้ปกติรอประมาณ1ชั่วโมงรถถึงมา บางทีก็ช้าบ้างไม่มีมาบ้าง และออกจากท่ารถหรือเข้าท่ารถไม่เคยตรงตามเวลา รถสายนี้ต่อให้ลงสถานที่ที่เป็นทางผ่านก็ยังไม่ค่อยมีใครขึ้น เพราะรอนานมากคนก็หนีไปขึ้นรถสายอื่นที่ผ่านเหมือนกัน มีครั้งนึงเราเคยรอ2ชั่วโมงกว่าจนท้อ แต่ก็ต้องยอมเพราะมันเป็นสายเดียวที่เข้าไปถึงทางบ้านเรา จริงๆก็มีอีกสายนึงพอถึงแยกแต่แยกไปคนละทางกับสายบ้านเรา เราสามารถลงตรงแยกนั้นได้ แต่ต้องนั่งวินต่อไปอีก100บาทจนถึงบ้าน และจากท่ารถมาบ้านเราระยะทางยังไม่ถึงครึ่งของรถเมล์สายนั้นเลย ขนาดคนอายุ20แบบเราร่างกายแข็งแรงแค่รอยังท้อ และกับคุณยายที่ร่างกายไม่ค่อยดีแกคงลำบากมากจริงๆ
อยากขอโทษคุณยายจริงๆที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย...
ขอพื้นที่ระบายเรื่องแย่ๆที่เจอหน่อยค่ะ
คือวันนี้เราขึ้นรถเมล์ ขึ้นจากท่ารถหลักของสายนั้นเลย และมียายคนนึงขึ้นมาต่อจากเรา แกเหมือนจะป่วยและขาไม่ค่อยดีเดินหลังค่อมๆ แกก็ขึ้นมานั่งปกติ
พอรถออกกระเป๋ารถก็เดินมาเก็บตังปกติก็จะถามผู้โดยสารว่าจะลงไหน พอถึงคุณยายแกพูดไม่ค่อยรู้เรื่องคือฟังไม่ออกเลยเหมือนลิ้นคุณยายมีปัญหา เลยไม่สามารถบอกได้ว่าจะลงที่ไหนแต่แกก็พยายามพูดนะ และแกให้ตังกระเป๋ารถไป13บาท กระเป๋าเลยหันไปถามคนขับรถเมล์ว่า13บาทนี่ลงที่ไหน คนขับรถเมล์เลยถามแล้วยายแกว่ายายจะลงที่ไหน กระเป๋ารถบอกไม่รู้ยายแกพูดไม่รู้เรื่องแต่แกให้ตังมา13บาท คนขับรถเมล์ทำเหมือนคิดสักพักและบอกงั้นให้ยายแกลงหน้าโรงพยาบาลไป เพราะไม่รู้แกจะลงไหน คือโรงพยาบาลอยู่ห่างจากท่ารถที่ขึ้นประมาณ1กิโล
กระเป๋าเลยคืนเงินให้คุณยาย8บาท เพราะนั่งจากท่ารถไปโรงพยาบาลแค่5บาท แต่คุณยายแกก็ไม่ยอมเอาเงินคืน แกผลักมือกระเป๋ารถกลับไปและพยายามพูดว่าจะลงตรงไหนแต่ฟังไม่รู้เรื่องจริงๆ เป็นแบบนี้อยู่สักพัก
จนเรากับนักศึกษาคนนึงมองหน้ากันแล้วช่วยกันพูดกับกระเป๋ารถว่า เดี๋ยวถ้าคุณยายจะลงตรงไหน เดี๋ยวให้ยายแกชี้หรือส่งสัญญาณให้พวกหนูแล้วเดี๋ยวพวกหนูบอกให้เอง
กระเป๋ารถหันไปมองคนขับ คนขับเลยบอกว่ามันจะช้าเดี๋ยวไม่ทันตอกบัตร ถ้าตอกไม่ทันต้องเสียค่าปรับอีกใครจะรับผิดชอบ ให้แกลงหน้าโรงพยาบาลนี่แหละ กระเป๋าก็หันมาพูดกับคุณยายว่าลงหน้าโรงพยาบาลนะ เดี๋ยวตอกบัตรไม่ทัน และก็พยายามเอาเงินคืนคุณยาย แต่คุณยายก็ยังไม่เอาผลักกลับไปเหมือนเดิม
พอถึงหน้าโรงพยาบาล กระเป๋ารถก็บอกคุณยายว่าถึงแล้วให้ลงเลย และกระเป๋ารถก็รีบเอาเงินยัดใส่มือคุณยาย และเอาข้าวของของคุณยายลงไปไว้บนฟุตบาทจนคุณยายต้องยอมลง และคุณยายก็ยืนรอรถเมล์เหมือนเดิม
คุณยายแกจะมีผ้าเอาไว้เช็ดน้ำลายพาดอยู่ตรงไหล่ เรามองคุณยายจากบนรถเมล์เราเห็นคุณยายปาดน้ำตาและเอาผ้าผืนนั้นซับ พอเราเห็นตอนนั้นเราหันหน้าหนีเลยคือจะร้องไห้ตามดูไม่ได้จริงๆ รู้สึกผิดมาตลอดทาง20กว่ากิโลที่ช่วยอะไรยายไม่ได้เลย ขนาดเล่าให้คนที่บ้านฟังก็แล้วให้เพื่อนฟังก็แล้ว แต่ความรู้สึกก็ยังแบบไม่โอเคจริงๆที่เจอแบบนี้
บางคนอาจคิดว่าเราคิดมากเกิน ยายก็แค่รถเมล์ใหม่ไม่เห็นยากเลย คือต้องบอกก่อนว่ารถเมล์สายนี้ปกติรอประมาณ1ชั่วโมงรถถึงมา บางทีก็ช้าบ้างไม่มีมาบ้าง และออกจากท่ารถหรือเข้าท่ารถไม่เคยตรงตามเวลา รถสายนี้ต่อให้ลงสถานที่ที่เป็นทางผ่านก็ยังไม่ค่อยมีใครขึ้น เพราะรอนานมากคนก็หนีไปขึ้นรถสายอื่นที่ผ่านเหมือนกัน มีครั้งนึงเราเคยรอ2ชั่วโมงกว่าจนท้อ แต่ก็ต้องยอมเพราะมันเป็นสายเดียวที่เข้าไปถึงทางบ้านเรา จริงๆก็มีอีกสายนึงพอถึงแยกแต่แยกไปคนละทางกับสายบ้านเรา เราสามารถลงตรงแยกนั้นได้ แต่ต้องนั่งวินต่อไปอีก100บาทจนถึงบ้าน และจากท่ารถมาบ้านเราระยะทางยังไม่ถึงครึ่งของรถเมล์สายนั้นเลย ขนาดคนอายุ20แบบเราร่างกายแข็งแรงแค่รอยังท้อ และกับคุณยายที่ร่างกายไม่ค่อยดีแกคงลำบากมากจริงๆ
อยากขอโทษคุณยายจริงๆที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย...