แฉ! อเมริกากดดันญี่ปุ่นให้กักตัวผู้โดยสารเรือสำราญ หวั่นแพร่เชื้อถ้ารับกลับประเทศ

เรือ “ไดมอนด์ พรินเซส” คือแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ระบาดลุกลามไปทั่วประเทศญี่ปุ่น สาเหตุสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องกักเรือไว้นานถึง 2 สัปดาห์ คือ รัฐบาลสหรัฐปฏิเสธที่จะผู้โดยสารกลับประเทศ ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นพลเมืองของอเมริกันก็ตาม
 
 
สื่อญี่ปุ่นและสหรัฐพร้อมใจแฉ การหารือระหว่างระหว่างผู้แทนของรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลสหรัฐ ในช่วงแรกหลังจากพบว่ามีผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญ “ไดมอนด์ พรินเซส” ได้ไม่นาน ฝ่ายญี่ปุ่นได้เสนอให้สหรัฐมารับพลเมืองกลับไปตั้งแต่ช่วงแรกที่เรือเข้าจอดที่ท่าเรือเมืองโยโกฮามา เพราะบนเรือมีชาวอเมริกันมากเป็นอันดับ 2 รองจากพลเมืองญี่ปุ่น

แต่คำตอบจากฝ่ายสหรัฐคือ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ CDC ประเมินว่า "หากให้ผู้โดยสารลงจากเรือ และเคลื่อนย้ายไปที่ฐานทัพอากาศสหรัฐในญี่ปุ่น หรือที่อื่น ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงในการระบาดมากขึ้น พร้อมอ้างว่าบนเรือมีการดูแลเรื่องอนามัยเป็นอย่างดี จึงขอให้ฝ่ายญี่ปุ่นกักตัวผู้โดยสารทุกคนบนเรือไว้ก่อน"

เมื่อฝ่ายสหรัฐร้องขอเช่นนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงจำใจต้องกักผู้โดยสารและลูกเรือ โดยให้เหตุผลว่า “ช่วยเหลือตามมนุษยธรรม” ทั้ง ๆ ที่เรือลำนี้จดทะเบียนสัญชาติอังกฤษ และดำเนินการโดยบริษัทของสหรัฐ

  
สภาพบนเรือเต็มไปด้วยความอลหม่าน ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผู้โดยสารร้องเรียนถึงความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ลง และยังมีเจ้าหน้าที่ตรวจโรคติดเชื้อด้วย จนกระทั่งวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ฝ่ายญี่ปุ่นได้แจ้งกับสหรัฐว่า เมื่อครบระยะเวลากักกันโรค 2 สัปดาห์แล้ว จะเริ่มให้ผู้โดยสารที่ไม่พบการติดเชื้อ ลงจากเรือตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์

ฝ่ายสหรัฐจึงแจ้งกลับมาว่า จะช่วยลดภาระให้กับทางรัฐบาลญี่ปุ่น โดยส่งเครื่องเช่าเหมาลำ 2 ลำมารับพลเมืองอเมริกันตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ และในวันเดียวกันนั้นเอง สหรัฐก็ประกาศยกระดับการเตือนภัยการเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นระดับ 2 คือ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ และเลื่อนการเดินทางหากไม่จำเป็นเร่งด่วน

เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ายอมเป็น “ลิ่วล้อ” ทำตามบัญชาของสหรัฐ โดยใช้เงินภาษีของประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ

  
แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีการเปิดเผยว่า สาเหตุที่รัฐบาลญี่ปุ่นยอมให้เรือไดมอนด์ พรินเซสเข้าเทียบท่า ก็เพราะบริษัทอเมริกา-อังกฤษ เจ้าของเรือ มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับพรรค LDP ของนายกฯ ชินโซ อาเบะ ถึงขนาดที่เคยได้รับการสนับสนุนจากนโยบาย Cool Japan ซึ่งเป็นนโยบายส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นสู่ทั่วโลก รัฐบาลญี่ปุ่นจึง “น้ำท่วมปาก” จำต้อง “รับเผือกร้อน” นี้มา

ทรัมป์กริ้ว รับผู้ติดเชื้อกลับประเทศ ไม่หารือ

รายงานข่าวของสื่อญี่ปุ่น สอดคล้องกับหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ที่รายงานในวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โกรธเกรี้ยวต่อการตัดสินใจ ที่อนุญาตให้ชาวสหรัฐ 14 คนที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กลับสหรัฐได้ โดยที่ยังไม่ได้หารือกับเขา
  
 
รัฐบาลสหรัฐได้ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำมายังญี่ปุ่น เพื่ออพยพชาวสหรัฐมากกว่า 300 คน ที่เป็นผู้โดยสารเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ในจำนวนนี้มี 14 คน ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา

แต่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ตัดสินใจนำตัวคนเหล่านี้กลับสหรัฐ หลังจากสรุปว่า สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่ระบาดไปยังผู้โดยสารคนอื่น ๆ ได้ ด้วยการให้ผู้ที่ติดเชื้อไปนั่งในพื้นที่แยกต่างหาก

เรื่องนี้ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ “ตบะแตก” เพราะ เขาได้ตกลงว่า ให้นำตัวผู้โดยสารเรือไดมอนด์ พริสเซส กลับประเทศ แต่มีเงื่อนไขคือ ผู้ที่ปรากฏอาการ ป่วยหรือมีผลทดสอบว่าติดเชื้อ จะต้องยังอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

สื่อสหรัฐระบุว่า การนำตัวผู้ติดเชื้อกลับสหรัฐ จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ในการรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาลของเขา และแน่นอนว่าสะเทือนต่อการเลือกตั้งเพื่อเป็นผู้นำสหรัฐสมัยที่ 2 ของทรัมป์ นี่คือ “การเมืองต้องมาก่อน” ไม่ใช่ “สหรัฐต้องมาก่อน” เพราะคนเหล่านี้คือพลเมืองสหรัฐ.


ข่าวจาก : MGR Online
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่