สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ซึ่งหนูรู้ดีมันอาจจะเป็นกระทู้ที่อ่านเเล้วไม่สบายใจมากนัก อยากจะขอเล่าระบายเรื่องราวชีวิตวันนี้ของเด็กผู้หญิงอายุ 17 ค่ะ )
อยากจะเล่าว่ามีเรื่องไม่สบายใจเป็นเเต่เรื่องไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเเรก วันนี้เป็นวันสอบ Final สอบเสร็จตอนบ่าย 2 ถ้าเรียนปกติจะกลับถึงบ้านเวลา 5 โมงเย็น เเต่มีงานต้องทำต่อที่โรงเรียน ปกติกลับบ้านด้วยรถรับส่งนักเรียน เเต่วันนี้ต้องกลับช้าหน่อยเลยขอกลับกับเพื่อนที่บ้านอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ซึ่งเเม่รู้จักกับเพื่อนคนนี้ดีอยู่เเล้วเพราะเราทำงานทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย ขอเเทนชื่อเพื่อนว่า A นะคะ
เรื่องก็เริ่มขึ้นจากการที่เราโทรไปบอกเเม่ว่าวันนี้กลับช้าหน่อยเเละกลับกับ A นะ เเม่ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเเข็งๆว่าทำงานที่ไหน เราบอกไปว่าที่โรงเรียน เเม่ถามต่อว่าเเน่ใจเหรอ
เเน่ใจค่ะ เราตอบกลับไปอย่างเร็ว เเม่พูดต่อว่า "อย่าให้รู้นะ ออกเรียนกลางคันเเน่ " ประโยคนี้เเละน้ำเสียงเเข็งๆของเเม่ทำเรารู้สึกเเย่เอามากๆ มันมีความจำเป็นไหมต้องพูดออกมาขนาดนี้ ทำให้เราไม่มีใจทำงานเลย ตอนทำงานก็คิดถึงเเค่ประโยคนี้ที่เเม่พูดออกมา เราเเค่โทรไปบอกว่าต้องอยู่ทำงานเเละกลับกับเพื่อน มันเหนื่อยมากๆบวกกับการโดนคำพูดเเบบนี้เเล้วเฟลสุดๆ กลับถึงบ้าน 5 โมงเย็น เจอเเม่เเละป้าอยู่ยกมือสวัสดีเเล้วเดินไป เเม่มองหน้าเเล้วพูดเสียงดังๆว่า คราวหลังจัดการสิ่งต่างๆให้มันเสร็จ ให้กลับรถรับส่ง ไม่ต้องกลับกับเพื่อน !
เราก็พยายามเดินเข้าบ้านไปเงียบๆ ป้าพูดขึ้นมาว่าจะอะไรนักหนามันโตเเล้ว มันก็มีภาระต้องทำตามหน้าที่ ปล่อยมันบ้างเถอะ เราได้ยินเเล้วน้ำตาคลอรีบเดินเข้าห้อง รู้สึกว่าป้าเป็นคนที่รู้เข้าใจชีวิตเรามากกว่าเเม่ได้อย่างไรกันนะ
เเล้วได้เสียงเเม่พูดเรื่องที่คุ้นเคยเป็นประจำ เเว่วๆมาว่าคือเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนนั้น คนนี้อีกแล้ว พยายามกลั้นน้ำตาสุดๆจิตใจไม่ไหวเเล้ว เดินเข้าไปล้างจานหุงข้าว น้ำตาคลอเบ้าตาเบลอไม่หยุด ได้เเต่เงยหน้าหายใจเข้าออกลึกๆบอกตัวเองว่าอย่าร้องนะ เเล้วกลับเข้าห้อง เเม่ตะโกนดังลั่นมาจากหน้าบ้านว่า
"มาถึงก็เข้าห้องจับโทรศัพท์เลยนะ ไม่ต้องทำอะไรเเล้วอยู่เเต่ในห้องไปเข้าครัวล้างจานหุงข้าวรึยังห้ะ" เราอยู่เงียบๆไม่อยากตอบกลับไป
เราได้ยินเสียงเเม่รีบเดินเข้าไปในครัวเหมือนเข้าไปเช็ค เช็คเสร็จเเล้วเดินกลับมาเดินผ่านห้องเราก็มองหน้าเฉยเมย เราก็ไม่ได้พูดอะไรตอกกลับไป
สักพักเเม่ไปดึงปลั๊กอินเตอร์เน็ตออก
ทันทีที่เราเห็นสัญญาณอินเตอร์เน็ตหายไปเท่านั้นเเหละ ปล่อยโฮเอาน้ำตาที่กลั้นอยู่ตั้งเเต่ตอนเย็นออกมาหมดเลยในห้อง เพราะไม่ไหวเเล้วจริงๆ
ได้เเต่ถามตัวเองว่าทำไม เราทำอะไรผิดไหม จิตใจตอนนั้นคือชินชากับความเจ็บปวดมากๆ ที่โดนคนที่เรารักมากระทำเเบบนี้ เเละนี่ไม่ใช่ครั้งเเรก เหมือนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย เราไม่ใช่เด็กก้าวร้าวชอบเถียง เราไม่อยากทะเลาะ เราเงียบเเละรับฟังทุกอย่างเเละปฏิบัติตาม ชีวิตเราเหมือนจะดี ฐานะไม่ได้เเย่ เรียน สอบ ติดท้อป1ใน3 ตลอด มีเพื่อนที่ดี สังคมที่ดี ความรู้ความสามารถเราอยู่ระดับน่าพอใจเลยทีเดียว
เเต่เราไม่มีเเรงซับพอร์ตจากคนที่เรารักเลย พยายามดันตัวเองมาตลอดเพื่อให้เขาภาคภูมิใจ เเต่คนที่เชยชมเเละเห็นความสามารถกลับเป็นคนที่อยู่ภายนอก ไม่ใช่ครอบครัว
สิ่งที่เป็นกังวลเกี่ยวกับตัวเองตอนนี้คือเราโดนอะไรเเบบนี้บ่อยมากๆจน กลับเป็นว่าเเม่เป็นคนที่เราอยู่ด้วยเเล้วอึดอัด ไม่สบายใจ กลัว กังวล
ทุกๆครั้งความรู้สึกเราพังยับเยินร้องไห้หนักมากขึ้น ปวดหัวหนัก จิกผมกรีดร้องเงียบๆ กัดผ้าห่ม กัดฟัน ร้องไห้เเล้วไปดูตัวเองหน้ากระจก เเล้วจ้องมองตัวเองในสภาพนี้นานๆ เหมือนภาพมันจำว่าที่เป็นเเบบนี้เพราะใคร พยายามต่อต้านมากขึ้น เเต่เป็นการต่อต้านเเบบพยายามเย็นชา ไม่สนใจ ไม่รู้สึก ตัดออกไปจากชีวิต ยอมรับว่าคิดอะไรร้ายๆเต็มไปหมดจนตอนหันกลับมามองตัวเองก็ยังตกใจว่าทำไมเราคิดเเบบนี้นะ กลัวว่าสักวันมันจะรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆ จนเราควบคุมตัวเองไม่ได้
เรื่องไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย เเต่ทำไมรู้สึกเเย่ขนาดนี้เเบบเเย่มากๆ จนซึมหงอยทำอะไรไม่ถูกไปเลย พยายามลากตัวเองไปอ่านหนังสือสอบต่อสำหรับพรุ่งนี้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของหนูนะคะ หนูไม่รู้ว่าอยากจะขอคำเเนะนำอะไรดี เเค่อยากระบาย
เรื่องราวของหนู
อยากจะเล่าว่ามีเรื่องไม่สบายใจเป็นเเต่เรื่องไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเเรก วันนี้เป็นวันสอบ Final สอบเสร็จตอนบ่าย 2 ถ้าเรียนปกติจะกลับถึงบ้านเวลา 5 โมงเย็น เเต่มีงานต้องทำต่อที่โรงเรียน ปกติกลับบ้านด้วยรถรับส่งนักเรียน เเต่วันนี้ต้องกลับช้าหน่อยเลยขอกลับกับเพื่อนที่บ้านอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ซึ่งเเม่รู้จักกับเพื่อนคนนี้ดีอยู่เเล้วเพราะเราทำงานทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย ขอเเทนชื่อเพื่อนว่า A นะคะ
เรื่องก็เริ่มขึ้นจากการที่เราโทรไปบอกเเม่ว่าวันนี้กลับช้าหน่อยเเละกลับกับ A นะ เเม่ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเเข็งๆว่าทำงานที่ไหน เราบอกไปว่าที่โรงเรียน เเม่ถามต่อว่าเเน่ใจเหรอ
เเน่ใจค่ะ เราตอบกลับไปอย่างเร็ว เเม่พูดต่อว่า "อย่าให้รู้นะ ออกเรียนกลางคันเเน่ " ประโยคนี้เเละน้ำเสียงเเข็งๆของเเม่ทำเรารู้สึกเเย่เอามากๆ มันมีความจำเป็นไหมต้องพูดออกมาขนาดนี้ ทำให้เราไม่มีใจทำงานเลย ตอนทำงานก็คิดถึงเเค่ประโยคนี้ที่เเม่พูดออกมา เราเเค่โทรไปบอกว่าต้องอยู่ทำงานเเละกลับกับเพื่อน มันเหนื่อยมากๆบวกกับการโดนคำพูดเเบบนี้เเล้วเฟลสุดๆ กลับถึงบ้าน 5 โมงเย็น เจอเเม่เเละป้าอยู่ยกมือสวัสดีเเล้วเดินไป เเม่มองหน้าเเล้วพูดเสียงดังๆว่า คราวหลังจัดการสิ่งต่างๆให้มันเสร็จ ให้กลับรถรับส่ง ไม่ต้องกลับกับเพื่อน !
เราก็พยายามเดินเข้าบ้านไปเงียบๆ ป้าพูดขึ้นมาว่าจะอะไรนักหนามันโตเเล้ว มันก็มีภาระต้องทำตามหน้าที่ ปล่อยมันบ้างเถอะ เราได้ยินเเล้วน้ำตาคลอรีบเดินเข้าห้อง รู้สึกว่าป้าเป็นคนที่รู้เข้าใจชีวิตเรามากกว่าเเม่ได้อย่างไรกันนะ
เเล้วได้เสียงเเม่พูดเรื่องที่คุ้นเคยเป็นประจำ เเว่วๆมาว่าคือเอาเราไปเปรียบเทียบกับลูกคนนั้น คนนี้อีกแล้ว พยายามกลั้นน้ำตาสุดๆจิตใจไม่ไหวเเล้ว เดินเข้าไปล้างจานหุงข้าว น้ำตาคลอเบ้าตาเบลอไม่หยุด ได้เเต่เงยหน้าหายใจเข้าออกลึกๆบอกตัวเองว่าอย่าร้องนะ เเล้วกลับเข้าห้อง เเม่ตะโกนดังลั่นมาจากหน้าบ้านว่า
"มาถึงก็เข้าห้องจับโทรศัพท์เลยนะ ไม่ต้องทำอะไรเเล้วอยู่เเต่ในห้องไปเข้าครัวล้างจานหุงข้าวรึยังห้ะ" เราอยู่เงียบๆไม่อยากตอบกลับไป
เราได้ยินเสียงเเม่รีบเดินเข้าไปในครัวเหมือนเข้าไปเช็ค เช็คเสร็จเเล้วเดินกลับมาเดินผ่านห้องเราก็มองหน้าเฉยเมย เราก็ไม่ได้พูดอะไรตอกกลับไป
สักพักเเม่ไปดึงปลั๊กอินเตอร์เน็ตออก
ทันทีที่เราเห็นสัญญาณอินเตอร์เน็ตหายไปเท่านั้นเเหละ ปล่อยโฮเอาน้ำตาที่กลั้นอยู่ตั้งเเต่ตอนเย็นออกมาหมดเลยในห้อง เพราะไม่ไหวเเล้วจริงๆ
ได้เเต่ถามตัวเองว่าทำไม เราทำอะไรผิดไหม จิตใจตอนนั้นคือชินชากับความเจ็บปวดมากๆ ที่โดนคนที่เรารักมากระทำเเบบนี้ เเละนี่ไม่ใช่ครั้งเเรก เหมือนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย เราไม่ใช่เด็กก้าวร้าวชอบเถียง เราไม่อยากทะเลาะ เราเงียบเเละรับฟังทุกอย่างเเละปฏิบัติตาม ชีวิตเราเหมือนจะดี ฐานะไม่ได้เเย่ เรียน สอบ ติดท้อป1ใน3 ตลอด มีเพื่อนที่ดี สังคมที่ดี ความรู้ความสามารถเราอยู่ระดับน่าพอใจเลยทีเดียว
เเต่เราไม่มีเเรงซับพอร์ตจากคนที่เรารักเลย พยายามดันตัวเองมาตลอดเพื่อให้เขาภาคภูมิใจ เเต่คนที่เชยชมเเละเห็นความสามารถกลับเป็นคนที่อยู่ภายนอก ไม่ใช่ครอบครัว
สิ่งที่เป็นกังวลเกี่ยวกับตัวเองตอนนี้คือเราโดนอะไรเเบบนี้บ่อยมากๆจน กลับเป็นว่าเเม่เป็นคนที่เราอยู่ด้วยเเล้วอึดอัด ไม่สบายใจ กลัว กังวล
ทุกๆครั้งความรู้สึกเราพังยับเยินร้องไห้หนักมากขึ้น ปวดหัวหนัก จิกผมกรีดร้องเงียบๆ กัดผ้าห่ม กัดฟัน ร้องไห้เเล้วไปดูตัวเองหน้ากระจก เเล้วจ้องมองตัวเองในสภาพนี้นานๆ เหมือนภาพมันจำว่าที่เป็นเเบบนี้เพราะใคร พยายามต่อต้านมากขึ้น เเต่เป็นการต่อต้านเเบบพยายามเย็นชา ไม่สนใจ ไม่รู้สึก ตัดออกไปจากชีวิต ยอมรับว่าคิดอะไรร้ายๆเต็มไปหมดจนตอนหันกลับมามองตัวเองก็ยังตกใจว่าทำไมเราคิดเเบบนี้นะ กลัวว่าสักวันมันจะรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆ จนเราควบคุมตัวเองไม่ได้
เรื่องไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรเลย เเต่ทำไมรู้สึกเเย่ขนาดนี้เเบบเเย่มากๆ จนซึมหงอยทำอะไรไม่ถูกไปเลย พยายามลากตัวเองไปอ่านหนังสือสอบต่อสำหรับพรุ่งนี้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของหนูนะคะ หนูไม่รู้ว่าอยากจะขอคำเเนะนำอะไรดี เเค่อยากระบาย