งาน Idol Connect "เล่นอะไรกัน"
พบวงไอดอลชั้นแนวหน้าของสยามประเทศ SWEAT16, Fever, CM Cafe ยูนิต Honey Toast, SY51 เตรียมตัวให้พร้อมกับโชว์พิเศษที่เกิดขึ้นในงานนี้เท่านั้น 29 มีนาคม 2563 ณ Lido Connect Hall 2 โดยเปิด 2 รอบการแสดง
งานนี้ พี่เพชร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารของวง SWEAT16 ลงมาคุมและแถลงข่าวเอง โดยงานนี้จะเป็นโชว์สุดพิเศษที่ไม่อาจหาดูได้จากที่อื่น
==================
เปิดเบื้องลึก Idol Connect #เล่นอะไรกัน ทำไมถึงเป็น SWEAT16, FEVER, SY51, Honey Toast
>>>> นับเป็นโปรเจคท์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งของวงการไอดอลไทย สำหรับ "ไอดอล คอนเนคท์" (Idol Connect) #เล่นอะไรกัน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม 2563 ที่ลิโด้ คอนเนคท์ สยามสแควร์ ซึ่งรวมเอา 4 วงอันดับต้นๆ ทั้ง สเวทซิกซ์ทีน (SWEAT16), ฟีเวอร์ (FEVER), โซเมะอิ โยชิโนะ 51 (SY51) และ ฮันนี่ โทสต์ (Honey Toast) จาก ซีเอ็ม คาเฟ่ (CM Cafe) มาสลับกันร้องเต้นในเพลงของกันและกันพร้อมการแสดงร่วมกับแขกรับเชิญอีก 4 วง Tossagirls, Sumomo, Siam Dream, Violet Wink
โดยเพิ่งมีการแถลงข่าวไปเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2563 แล้วงานนี้มีจุดเริ่มต้นอย่างไร MGR online ไปคุยกับ
"เพชร มโนพิโมกษ์" เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ บริษัท โยชิโมโต้ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ (ประเทศไทย) ผู้จัดงาน และผู้บริหารทั้ง 4 วง ได้แก่ "ปลั๊ก-อธิปติ ไพรหิรัญ" ผู้บริหาร โรมรัน เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ต้นสังกัดวง Fever , "โต-นราธิป ปานแร่" ผู้บริหารซีเอ็ม คาเฟ่ ต้นสังกัดกลุ่ม Honey Toast , "ต้น-ธิติพัทธ์ ศรีสุดามหาอุทัย" ผู้บริหารวง SY51 และ "โอ๊ต-ชาญชัย บัวทอง" ผู้จัดการศิลปิน SWEAT16 ถึงที่มาที่ไปอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาร่วมมือกันทำ
เพชร : โปรเจคท์นี้เกิดขึ้นจากการที่เราเจอกันบ่อยแล้วก็รู้สึกว่าเราอยากจะทำอะไรที่มันสนุกร่วมกัน ที่มันดูมีการใส่ความครีเอทีฟลงไปโดยที่ไม่ได้เหมือนโชว์อื่นๆ เราก็เลยมานั่งนัดประชุมกันแค่ครั้งเดียวแล้วก็ได้ไอเดียออกมาก็ดำเนินการจนเป็นรูปเป็นร่างจนเกิด Idol Connect ขึ้นมา
เดิมตั้งไว้เพียง SWEAT16 กับ FEVER หรือไม่? เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ปล่อยคลิปแลกเพลงกันเต้นพร้อม #เล่นอะไรกัน
เพชร : จริงๆ เราคุยกันตั้งแต่แรกโดยมีวงที่เราเห็นๆ กันอยู่ ก็มี 4 วงหลักที่เราเริ่มโปรเจคท์นี้ด้วยกัน แต่ทีนี้เราแค่รู้สึกว่าเราอยากลองกระแสก่อนจากที่เราประชุมกันแล้วทีมก็ไปพัฒนาเนื้อหาในเรื่องของการประชาสัมพันธ์เราก็เลยลองเล่นอะไรที่ดูแบบน่ารักๆ จากวงนึงไปสู่อีกวงนึงแล้วอีกวงนึงไปสู่อีกวง มันเลยทำให้เกิดการเชื่อมกันแล้วเกิดกระแสบางอย่างที่เรารู้สึกว่า อ๋อ มันมีความเป็นไปได้ เราก็เลยทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ก็เลยทำให้มันเป็นรูปแบบที่มันเข้าถึงคนส่วนใหญ่มากขึ้น
ปลั๊ก-อธิปติ ไพรหิรัญ , โต-นราธิป ปานแร่ , เพชร มโนพิโมกษ์ , ต้น-ธิติพัทธ์ ศรีสุดามหาอุทัย และ โอ๊ต-ชาญชัย บัวทอง
ความคาดหวังโปรเจคท์ Idol Connect #เล่นอะไรกัน?
ปลั๊ก อธิปติ : อย่างที่บอกว่ามันเป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมกันทำอะไรกันเองก็เลยอยากจะลองดูว่า มันไม่อยากคาดหวังเยอะ แต่ก็คิดว่าน่าจะสนุกกับคนที่เข้ามาชม เพราะว่าก็มีอะไรแปลกไปด้วยความที่เราคุยกันบ่อย ทุกครั้งที่เราไปโชว์มันก็เป็นโชว์เพลงธรรมดาเราก็เลยอยากลองอะไรที่แบบถ้าไม่ใช่แค่โชว์เพลงธรรมดาล่ะจะทำอะไรกันได้บ้าง ก็เลยได้ไอเดียหลายๆ อย่างขึ้นมา ผมว่ามันก็น่าสนุกนะคนก็น่าจะชอบกัน
โต นราธิป : ก็คล้ายๆ กับ "ปลั๊ก" คือเราไม่ได้คาดหวังมากว่ามันจะตอบโจทย์แฟนคลับขนาดไหน แต่เราก็อยากจะให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนคลับชอบกับงานของเราครั้งนี้มากๆ อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เราคาดหวังอันดับแรกสุดเลยก็คือว่าน้องๆ ของซีเอ็ม คาเฟ่เอง เราอยากจะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้น้องๆ อยากให้น้องๆ ได้มาเจอกับวงอื่นๆ เผื่อว่าจะได้แลกเปลี่ยนในเรื่องของการทำงาน ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างเป็นประสบการณ์เพิ่มขึ้นให้น้องมากกว่า อันนี้เป็นความคาดหวังอันดับแรกเลยที่อยากได้
ต้น ธิติพัทธ์ : อยากแรกที่เราโฟกัสเลยก็คือว่าเราจะเติมเต็มความสุข ความสนุกให้พี่ๆ แฟนคลับได้ยังไง ฉะนั้นเราโฟกัสเต็มที่ตรงนั้นว่า เฮ้ยมาดูแล้วมันต้องมีความสุขกลับไปมากที่สุด ให้เต็มอิ่มที่สุด แล้วก็มาคิดต่อว่าเอ๊ะ สมาชิกของเราอยากทำอะไรกันบ้าง หรือว่าทำอะไรแล้วมันจะแปลกใหม่บ้างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน พิเศษกว่าที่เคย คาดหวังว่าจะเติมเต็มความสุขความสนุกให้แฟนคลับมากกว่า
โอ๊ต ชาญชัย : ในส่วนของ SWEAT16 ความคาดหวังเรามองความสนุกนำหน้าก่อนอยู่แล้ว การจัดโชว์ร่วมกันมันน่าจะมีอะไรสนุกๆ กับแฟนคลับเรามองเรื่องนั้นก่อน ส่วนเรื่องอื่น น้องจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนกัน มีประสบการณ์การทำงานของแต่ละวงที่เราอาจจะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ก็จริงๆ เป็นการพัฒนาวงการไอดอลร่วมกันมากกว่า
ทำไม CM Cafe ถึงเลือกยูนิต Honey Toast มาแสดง?
โต นราธิป : เป็นการเลือกร่วมกัน ก็คุยกันว่าเอ๊ะ อะไรที่มันน่าจะพอดี เพราะว่าจริงๆ แล้ว Honey Toast เนี่ยก็ต้องบอกว่าเป็นขนมที่หวานที่สุดในค่าย มันดูแตกต่าง มันจะทำให้เกิดความแตกต่างทั้ง 4 วง ได้ชัดเจนมาก
เหมือนเป็นโปรเจคท์ที่หวังรันวงการไอดอล?
เพชร : ไม่ค่อยถนัดคำว่ารันวงการเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เราคิดว่าเราเป็นแค่ส่วนนึงเป็นโปรเจคท์เล็กๆ โปรเจคท์แรกที่ช่วยกันขับเคลื่อนดีกว่า อีกอย่างนึงเราก็แค่อยากจะทำอะไรที่มันสนุกร่วมกันแล้วทำโชว์ที่ดีๆ ออกมาให้แฟนคลับได้เห็นในมุมที่แตกต่าง และเห็นศักยภาพของน้องในระหว่างโชว์นั้นๆ ด้วย อีกอย่างนึงคือไม่ใช่แค่ 4 วงนี้ที่เราให้มาร่วมกัน เราก็ยังมีการคุยกันถึงเรื่องที่ว่า เอ๊ะเราอยากจะเชิญแขกวงไหนมาบ้าง แต่ด้วยความที่เรายังไม่อยากจะทำอะไรที่มันใหญ่มาก เพราะว่าอยากจะทดลองทำให้ดูแค่นี้ว่าแฟนคลับจะชอบมั้ย เราก็มีการชวน สยามดรีม (Siam Dream) ซูโมโมะ (Sumomo) ทศเกิร์ล (Tossagirl) และโชคดีมากๆ ที่ทางคุณต้น ส่ง ไวโอเล็ต วิ้งค์ (Violet Wink) เข้ามาอีกวง เพื่อที่มาแจมกันให้เกิดสีสันมากขึ้น
ถ้า #เล่นอะไรกัน สำเร็จ ก็อาจนำไปสู่โปรเจคท์ที่ใหญ่ขึ้น?
เพชร : ผมไม่อยากจะใช้คำว่ามันใหญ่ขึ้น แต่อาจจะมีโปรเจคท์ต่อไปที่จะทำให้น้องๆ รู้สึกว่าเขาสามารถทำได้จริง เขามีพลังเป็นหนึ่งพลังที่จะทำให้วงการนี้มีสีสันมากขึ้น แล้วก็เปิดเผยตัวตนจากความเป็นตัวเองของน้องแต่ละคนได้มากขึ้น เราอาจจะคิดว่าอนาคตน้องๆ หลายๆ คนในวงต่างๆ เขาอาจจะไม่ได้อยู่วงเดิม ในวันนึงที่เขาโตขึ้น เขาก็ยังต้องมีเพื่อนร่วมวงการ แล้วเขาก็จะมีคนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันในอนาคต ซึ่งเราอาจจะให้การทำโปรเจคท์แต่ละโปรเจคท์มันลงไปถึงตัวน้องๆ ด้วย มันไม่ใช่แค่เราคุยกันด้วยคนดูวงหรือเจ้าของวงกันเองเท่านั้น แต่น้องๆ จะต้องลงไปอินถึงตัวโปรเจคท์ด้วย แล้วเขาจะได้จับมือกันมีเพื่อนร่วมวงการกันในอนาคต
การเลือกเพลงมาใช้สลับกันเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทุกวง?
เพชร : ร่วมกัน ตอนนี้มันอยู่ในขั้นตอนของการที่เราจะเอาเพลงมาเรียงลำดับซึ่งทั้งหมดจริงๆ เราต้องบอกว่าเพลงของพวกเราไม่ได้มีเยอะ เรามีกันไม่เกิน 10 เพลงในแต่ละวง เพราะฉะนั้นคิดว่าทุกเพลงเราต้องเอามาใช้ เพราะเรามีถึง 2 รอบในรอบแรกและรอบ 2 อาจจะไม่เหมือนกัน แตกต่างกันนิดหน่อย แต่เราจะมีเพลงหลักเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าถ้าเกิดว่าดู 2 รอบก็จะได้ดูครบทุกเพลง เราอยากให้คนที่ซื้อบัตรได้เข้าไปเซอร์ไพรส์ตรงนั้นจริงๆ ส่วนเรื่องการที่เราแลกเพลงกันร้องมันอาจจะดูไม่เซอร์ไพรส์เท่าไหร่ แต่สิ่งที่มันดูเซอร์ไพรส์ผมเชื่อว่าอย่างแรกการที่ 2 โชว์ด้วยเพลงที่ไม่เหมือนกันในกิมมิคของในแต่ละรอบ การให้ความสำคัญกับสมาชิกซึ่งมีจำนวนเยอะ เราก็ต้องมีการเฉลี่ยในแต่ละรอบที่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนจะได้ซีนเหมือนกัน และจะมีเรื่องของแขกรับเชิญในรอบแรกกับรอบ 2 ก็จะแตกต่างกันในความรู้สึกของคนดู เรายังมีแขกที่ยังเปิดเผยไม่ได้อีกหนึ่งคน
ทั้งนี้คอนเสิร์ต Idol Connect #เล่นอะไรกัน จะทำการแสดงในวันที่ 29 มีนาคม ณ ลิโด้ คอนเนค ฮอลล์ 2 สยามสแควร์ โดยได้เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์
https://www.ticketmelon.com/event/idolconnect ในราคา 2,500 , 1,800 และ 1,500 บาท ซึ่งบัตรราคาสูงสุดมีรอบละ 50 ใบ ได้ถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น
FEVER
SWEAT16
FEVER
CM Cafe
SY51
Violet Wink
โปสเตอร์
งาน Idol Connect "เล่นอะไรกัน"
พบวงไอดอลชั้นแนวหน้าของสยามประเทศ SWEAT16, Fever, CM Cafe ยูนิต Honey Toast, SY51 เตรียมตัวให้พร้อมกับโชว์พิเศษที่เกิดขึ้นในงานนี้เท่านั้น 29 มีนาคม 2563 ณ Lido Connect Hall 2 โดยเปิด 2 รอบการแสดง
งานนี้ พี่เพชร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารของวง SWEAT16 ลงมาคุมและแถลงข่าวเอง โดยงานนี้จะเป็นโชว์สุดพิเศษที่ไม่อาจหาดูได้จากที่อื่น
โดยเพิ่งมีการแถลงข่าวไปเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2563 แล้วงานนี้มีจุดเริ่มต้นอย่างไร MGR online ไปคุยกับ "เพชร มโนพิโมกษ์" เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์ บริษัท โยชิโมโต้ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ (ประเทศไทย) ผู้จัดงาน และผู้บริหารทั้ง 4 วง ได้แก่ "ปลั๊ก-อธิปติ ไพรหิรัญ" ผู้บริหาร โรมรัน เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ต้นสังกัดวง Fever , "โต-นราธิป ปานแร่" ผู้บริหารซีเอ็ม คาเฟ่ ต้นสังกัดกลุ่ม Honey Toast , "ต้น-ธิติพัทธ์ ศรีสุดามหาอุทัย" ผู้บริหารวง SY51 และ "โอ๊ต-ชาญชัย บัวทอง" ผู้จัดการศิลปิน SWEAT16 ถึงที่มาที่ไปอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาร่วมมือกันทำ
เพชร : โปรเจคท์นี้เกิดขึ้นจากการที่เราเจอกันบ่อยแล้วก็รู้สึกว่าเราอยากจะทำอะไรที่มันสนุกร่วมกัน ที่มันดูมีการใส่ความครีเอทีฟลงไปโดยที่ไม่ได้เหมือนโชว์อื่นๆ เราก็เลยมานั่งนัดประชุมกันแค่ครั้งเดียวแล้วก็ได้ไอเดียออกมาก็ดำเนินการจนเป็นรูปเป็นร่างจนเกิด Idol Connect ขึ้นมา
เดิมตั้งไว้เพียง SWEAT16 กับ FEVER หรือไม่? เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ปล่อยคลิปแลกเพลงกันเต้นพร้อม #เล่นอะไรกัน
เพชร : จริงๆ เราคุยกันตั้งแต่แรกโดยมีวงที่เราเห็นๆ กันอยู่ ก็มี 4 วงหลักที่เราเริ่มโปรเจคท์นี้ด้วยกัน แต่ทีนี้เราแค่รู้สึกว่าเราอยากลองกระแสก่อนจากที่เราประชุมกันแล้วทีมก็ไปพัฒนาเนื้อหาในเรื่องของการประชาสัมพันธ์เราก็เลยลองเล่นอะไรที่ดูแบบน่ารักๆ จากวงนึงไปสู่อีกวงนึงแล้วอีกวงนึงไปสู่อีกวง มันเลยทำให้เกิดการเชื่อมกันแล้วเกิดกระแสบางอย่างที่เรารู้สึกว่า อ๋อ มันมีความเป็นไปได้ เราก็เลยทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ก็เลยทำให้มันเป็นรูปแบบที่มันเข้าถึงคนส่วนใหญ่มากขึ้น
ปลั๊ก อธิปติ : อย่างที่บอกว่ามันเป็นครั้งแรกที่เราได้ร่วมกันทำอะไรกันเองก็เลยอยากจะลองดูว่า มันไม่อยากคาดหวังเยอะ แต่ก็คิดว่าน่าจะสนุกกับคนที่เข้ามาชม เพราะว่าก็มีอะไรแปลกไปด้วยความที่เราคุยกันบ่อย ทุกครั้งที่เราไปโชว์มันก็เป็นโชว์เพลงธรรมดาเราก็เลยอยากลองอะไรที่แบบถ้าไม่ใช่แค่โชว์เพลงธรรมดาล่ะจะทำอะไรกันได้บ้าง ก็เลยได้ไอเดียหลายๆ อย่างขึ้นมา ผมว่ามันก็น่าสนุกนะคนก็น่าจะชอบกัน
โต นราธิป : ก็คล้ายๆ กับ "ปลั๊ก" คือเราไม่ได้คาดหวังมากว่ามันจะตอบโจทย์แฟนคลับขนาดไหน แต่เราก็อยากจะให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟนคลับชอบกับงานของเราครั้งนี้มากๆ อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เราคาดหวังอันดับแรกสุดเลยก็คือว่าน้องๆ ของซีเอ็ม คาเฟ่เอง เราอยากจะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้น้องๆ อยากให้น้องๆ ได้มาเจอกับวงอื่นๆ เผื่อว่าจะได้แลกเปลี่ยนในเรื่องของการทำงาน ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างเป็นประสบการณ์เพิ่มขึ้นให้น้องมากกว่า อันนี้เป็นความคาดหวังอันดับแรกเลยที่อยากได้
ต้น ธิติพัทธ์ : อยากแรกที่เราโฟกัสเลยก็คือว่าเราจะเติมเต็มความสุข ความสนุกให้พี่ๆ แฟนคลับได้ยังไง ฉะนั้นเราโฟกัสเต็มที่ตรงนั้นว่า เฮ้ยมาดูแล้วมันต้องมีความสุขกลับไปมากที่สุด ให้เต็มอิ่มที่สุด แล้วก็มาคิดต่อว่าเอ๊ะ สมาชิกของเราอยากทำอะไรกันบ้าง หรือว่าทำอะไรแล้วมันจะแปลกใหม่บ้างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน พิเศษกว่าที่เคย คาดหวังว่าจะเติมเต็มความสุขความสนุกให้แฟนคลับมากกว่า
โอ๊ต ชาญชัย : ในส่วนของ SWEAT16 ความคาดหวังเรามองความสนุกนำหน้าก่อนอยู่แล้ว การจัดโชว์ร่วมกันมันน่าจะมีอะไรสนุกๆ กับแฟนคลับเรามองเรื่องนั้นก่อน ส่วนเรื่องอื่น น้องจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนกัน มีประสบการณ์การทำงานของแต่ละวงที่เราอาจจะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ก็จริงๆ เป็นการพัฒนาวงการไอดอลร่วมกันมากกว่า
ทำไม CM Cafe ถึงเลือกยูนิต Honey Toast มาแสดง?
โต นราธิป : เป็นการเลือกร่วมกัน ก็คุยกันว่าเอ๊ะ อะไรที่มันน่าจะพอดี เพราะว่าจริงๆ แล้ว Honey Toast เนี่ยก็ต้องบอกว่าเป็นขนมที่หวานที่สุดในค่าย มันดูแตกต่าง มันจะทำให้เกิดความแตกต่างทั้ง 4 วง ได้ชัดเจนมาก
เหมือนเป็นโปรเจคท์ที่หวังรันวงการไอดอล?
เพชร : ไม่ค่อยถนัดคำว่ารันวงการเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เราคิดว่าเราเป็นแค่ส่วนนึงเป็นโปรเจคท์เล็กๆ โปรเจคท์แรกที่ช่วยกันขับเคลื่อนดีกว่า อีกอย่างนึงเราก็แค่อยากจะทำอะไรที่มันสนุกร่วมกันแล้วทำโชว์ที่ดีๆ ออกมาให้แฟนคลับได้เห็นในมุมที่แตกต่าง และเห็นศักยภาพของน้องในระหว่างโชว์นั้นๆ ด้วย อีกอย่างนึงคือไม่ใช่แค่ 4 วงนี้ที่เราให้มาร่วมกัน เราก็ยังมีการคุยกันถึงเรื่องที่ว่า เอ๊ะเราอยากจะเชิญแขกวงไหนมาบ้าง แต่ด้วยความที่เรายังไม่อยากจะทำอะไรที่มันใหญ่มาก เพราะว่าอยากจะทดลองทำให้ดูแค่นี้ว่าแฟนคลับจะชอบมั้ย เราก็มีการชวน สยามดรีม (Siam Dream) ซูโมโมะ (Sumomo) ทศเกิร์ล (Tossagirl) และโชคดีมากๆ ที่ทางคุณต้น ส่ง ไวโอเล็ต วิ้งค์ (Violet Wink) เข้ามาอีกวง เพื่อที่มาแจมกันให้เกิดสีสันมากขึ้น
ถ้า #เล่นอะไรกัน สำเร็จ ก็อาจนำไปสู่โปรเจคท์ที่ใหญ่ขึ้น?
เพชร : ผมไม่อยากจะใช้คำว่ามันใหญ่ขึ้น แต่อาจจะมีโปรเจคท์ต่อไปที่จะทำให้น้องๆ รู้สึกว่าเขาสามารถทำได้จริง เขามีพลังเป็นหนึ่งพลังที่จะทำให้วงการนี้มีสีสันมากขึ้น แล้วก็เปิดเผยตัวตนจากความเป็นตัวเองของน้องแต่ละคนได้มากขึ้น เราอาจจะคิดว่าอนาคตน้องๆ หลายๆ คนในวงต่างๆ เขาอาจจะไม่ได้อยู่วงเดิม ในวันนึงที่เขาโตขึ้น เขาก็ยังต้องมีเพื่อนร่วมวงการ แล้วเขาก็จะมีคนที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันในอนาคต ซึ่งเราอาจจะให้การทำโปรเจคท์แต่ละโปรเจคท์มันลงไปถึงตัวน้องๆ ด้วย มันไม่ใช่แค่เราคุยกันด้วยคนดูวงหรือเจ้าของวงกันเองเท่านั้น แต่น้องๆ จะต้องลงไปอินถึงตัวโปรเจคท์ด้วย แล้วเขาจะได้จับมือกันมีเพื่อนร่วมวงการกันในอนาคต
การเลือกเพลงมาใช้สลับกันเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทุกวง?
เพชร : ร่วมกัน ตอนนี้มันอยู่ในขั้นตอนของการที่เราจะเอาเพลงมาเรียงลำดับซึ่งทั้งหมดจริงๆ เราต้องบอกว่าเพลงของพวกเราไม่ได้มีเยอะ เรามีกันไม่เกิน 10 เพลงในแต่ละวง เพราะฉะนั้นคิดว่าทุกเพลงเราต้องเอามาใช้ เพราะเรามีถึง 2 รอบในรอบแรกและรอบ 2 อาจจะไม่เหมือนกัน แตกต่างกันนิดหน่อย แต่เราจะมีเพลงหลักเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงว่าถ้าเกิดว่าดู 2 รอบก็จะได้ดูครบทุกเพลง เราอยากให้คนที่ซื้อบัตรได้เข้าไปเซอร์ไพรส์ตรงนั้นจริงๆ ส่วนเรื่องการที่เราแลกเพลงกันร้องมันอาจจะดูไม่เซอร์ไพรส์เท่าไหร่ แต่สิ่งที่มันดูเซอร์ไพรส์ผมเชื่อว่าอย่างแรกการที่ 2 โชว์ด้วยเพลงที่ไม่เหมือนกันในกิมมิคของในแต่ละรอบ การให้ความสำคัญกับสมาชิกซึ่งมีจำนวนเยอะ เราก็ต้องมีการเฉลี่ยในแต่ละรอบที่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนจะได้ซีนเหมือนกัน และจะมีเรื่องของแขกรับเชิญในรอบแรกกับรอบ 2 ก็จะแตกต่างกันในความรู้สึกของคนดู เรายังมีแขกที่ยังเปิดเผยไม่ได้อีกหนึ่งคน
ทั้งนี้คอนเสิร์ต Idol Connect #เล่นอะไรกัน จะทำการแสดงในวันที่ 29 มีนาคม ณ ลิโด้ คอนเนค ฮอลล์ 2 สยามสแควร์ โดยได้เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ https://www.ticketmelon.com/event/idolconnect ในราคา 2,500 , 1,800 และ 1,500 บาท ซึ่งบัตรราคาสูงสุดมีรอบละ 50 ใบ ได้ถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น