ฟานไดจ์ค... กับอะไรล่ะนั่น...?

ไม่ได้ตั้งกระทู้ซะนาน 
ก็ซ้อมมือนำร่องสักกระทู้ละกัน ก่อนจะได้ฤกษ์เขียนอะไรยาว ๆ หลังจบฤดูกาล

ก่อนอื่นก็ต้องเกริ่นนำสักนิดว่าพอดีถูกจุดประกายไอเดียมาสักหน่อย
ไม่รู้ว่าท่าน ๆ ได้เห็นรูปนี้กันหรือยัง?


https://www.instagram.com/p/B8-3u6BF-h6/

อะ... ฮ้า... ฟานไดจ์คพิมพ์สวัสดีแน่ะ 
ทักทายแบบเอาใจกองเชียร์คนไทยกันไปเลย

ซึ่งจะว่าไป ตั้งแต่ FSG มาคุมธุรกิจแล้ว ก็พยายามตีตลาดไปทั่วเลยครับ ย้อนไปหลายปีก่อนก็มีคลิปอวยพรลอยกระธง


ช่วงสงกรานต์ก็จะมีอีเว้นท์ด้วยเช่นกัน


และหนนี้ก็น่าจะมีนัยยะอะไรอีกสักอย่าง เพราะมาจาก IG ของเจ้าตัวเองซะด้วยสิ
อืม... ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่านี้เหมือนกันครับ ไม่แน่ว่าอาจมีอะไรสักอย่างกับบ้านเราก็ได้ เช่นแวะมาเยี่ยมเยียน มาเป็นทูตฟุตบอล หรือเป็นพรีเซนเตอร์ มาโปรโมทประการใด ก็มิอาจทราบได้

ก็น่าจะมีนัยยะล่ะนะ
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ที่แน่ ๆ ความรู้สึกหนึ่งว่า ยุคสมัยใหม่กำลังเข้ามาแล้ว มันก็แว้บขึ้นมาในหัวผมล่ะนะ

ดังที่เขียนมาข้างต้น ถ้าตามข่าวมาจะพบว่าลิเวอร์พูลชุดนี้ทำการตลาดแบบเวิร์ลไวลด์อย่างเห็นได้ชัด เปิดตลาดกับภาคธุรกิจในไทยก็พอมีบ้างแล้ว 
ด้านการโปรโมทอื่น ๆ ก็มีมาเป็นระยะ เช่น เอาถ้วย UCL มาโปรโมทการเปิดสโตร์ที่เมืองไทยครับ คนไปล้นหลาม แชร์กันว่อนในกลุ่มลิเวอร์พูลเลย
ธุรกิจลักษณะนี้ เงินทองก็เรื่องหนึ่ง แต่การเปิดตลาดให้กับแฟนบอลยุคใหม่ก็เป็นอีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน
และแฟนบอลรุ่นเยาว์หลายคนในวันนี้ ก็อาจเป็นแฟนพันธุ์แท้ระยะยาวในวันหน้าก็ได้ ซึ่งเป็นได้ทั้งกองเชียร์ และแรงสนับสนุนทางกำลังใจ และกำลังทุนแก่สโมสร

พอพูดยุคสมัย ผมก็มีเรื่องตลกร้ายกับตัวเองสองเรื่องมาเล่ากัน

เรื่องแรกเนี่ย... ย้อนไปประมาณสมัยมัธยมได้ ตอนนั้นก็เริ่มเชียร์ลิเวอร์พูลจริงจังล่ะ
แต่ว่าส่วนใหญ่ก็อาศัยข่าวตามทีวี กับหนังสือพิมพ์กีฬาไป ยุคนั้นบ้านผมเพิ่งจะมีเน็ต 56k อยู่เลย

แล้วทีนี้พอถึงวันเกิด น้าของผมที่อยู่ต่างจังหวัดก็ให้ของขวัญมา... คือตอนประถมเวลาปิดเทอมไปเล่นต่างจังหวัดบ้านเค้าบ่อยครับ และทุกเย็นก็จะใส่รองเท้าไปเตะบอลที่สนามโรงเรียนกับเด็กแถวนั้นประจำ 
น้าเห็นว่าผมชอบฟุตบอล ก็เลยจัดอะไรที่เกี่ยวกับฟุตบอลมาให้ และน่าจะโดนใจเด็กในยุคนั้น
และของขวัญวันเกิดที่ซื้อให้ก็คือ... ผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนแบบครบเซ็ทครับ

สวยเลยล่ะ ติดแค่เรื่องเดียว... ที่เป็นลายแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด...!

ถ้าเป็นเพื่อนกันนี่ ได้มีมองค้อนอ่ะ... 
แอบเคืองนะแต่ก็โกรธไม่ลง ก็เจตนาดี แต่ไม่รู้ว่าเราเชียร์ทีมอะไร 

ผมเดาว่าน่าจะไปถามคนขายแหล่ะว่าถ้าจะซื้อให้หลาน จะเอาทีมไหนดี 
ซึ่งในยุคสมัยที่เซอร์อเล็กซ์ฯ กำลังเฟื่องฟูนี่ เขาแรงจริงครับ ทั้งผลงานและคาแรกเตอร์

ขณะที่ลิเวอร์พูลจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ และส่วนใหญ่แฟนบอลจะมีวัยกัน
ก็นะ... ห่างความสำเร็จมานานแบบนั้น กองเชียร์ส่วนใหญ่ก็คือเชียร์ด้วยใจกันแล้วล่ะ สมาชิกใหม่ถ้าไม่สนใจคาแรกเตอร์บางประการ ก็มักจะเชียร์ตามผลงาน ซึ่งก็ยอมรับว่ายูไนเต็ดมาดีจริงครับ
ฉะนั้นเดาไม่ยากเลยว่าคนขายจะแนะนำทีมอะไรให้...

หลังจากเหตุการณ์ผ้าปูที่นอนปลอกหมอนแล้ว ก็ไทม์สคิปกันไป จนผมเรียนมหาลัย ป.ตรี... 
ก็มีโอกาสไปเตะบอลหลังเลิกเรียนกันสนุก ๆ อีก คือผมก็ไม่ได้เล่นเก่งมากอะไร แต่เป็นบอลประเภทเชิงครับ ดักทางชิงเหลี่ยมอ่านเกม ก็ทำนองฟานไดจ์คได้เลย... ก็เลยดูแย่งบอลแบบเหนือ ๆ ทั้งที่หุ่นจะท้วม ๆ หน่อย
ช็อตหนึ่งตัดบอลได้อีกครั้ง เพื่อนที่อยู่ทีมเดียวกันชมเลย 
"โอ้โห... สตัมป์ชัด ๆ !!"

เราได้ยินก็ อื้ม... ส่งยิ้มให้ไปแทนคำขอบคุณ
แต่ในใจก็คิดนะว่า เทียบเป็น ฮูเปีย ได้ป่าววะ....

และเหตุการณ์ทำนองนี้ก็เกิดขึ้นอีกตอนจบ ป.โท และกำลังหางาน ก็มีช่วงหนึ่งไปเตะบอลแก้ว่างกับกลุ่มคนที่ไม่รู้จัก ก็ไปแจม ๆ เล่น
ก็แบบเดิมอีกล่ะ... ตัดบอลได้ และก็มาพร้อมคำชม "อู้! เฟอร์ดินานด์เลย!"

ก็ได้แต่ยิ้มให้อีกนั่นแหล่ะ
แต่ในใจนี่ เอิ่ม... ทำไมเจอแต่แมนยูฟะ?

ก็นั่นล่ะครับภาพสะท้อนของผลงาน และการตลาดของยอดทีมในยุคนั้น
ขณะที่ลิเวอร์พูลเพิ่งจะเจาะตลาดเอเชียเอาในปีนี้เองกับมินามิโนะ แต่ยูไนเต็ดเจาะมานานแล้วตั้งแต่ ตง ฟาน โจว ที่ถึงจะเป็นดีลที่ไม่เกิด แต่ก็มีนักเตะเอเชียหมุนเวียนมาพักใหญ่ เช่น ปาร์ค จี ซุง ไปจนถึง คากาวะ 
บางทีมันก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจถึงคอบอลและนักเตะเอเชียครับ อย่างน้อย ๆ ก็กล้าคิดได้ว่าเล่นดีจริงก็สามารถไปอยู่ร่วมกับทีมใหญ่ได้ โดยเฉพาะสองรายหลังนี่อยู่ในชุดที่ทีมได้แชมป์ด้วย

มาดูเค้าแล้วก็นึกว่าจะมีสักวันไหม ที่ตำแหน่งอื่น ๆ ของลิเวอร์พูลจะถูกเอาไปยกเปรียบเทียบบ้างเวลาเล่นดี และมีคาแรกเตอร์
ซึ่งจะไปถึงจุดนั้นได้คุณต้องมีทั้งผลงานที่อวดได้ คนชมชอบ และการโปรโมทที่กว้างไกล

จนเข้าลิเวอร์พูลยุคสมัยนี้เอง ที่ดูจะทำการตลาดดีและทันสมัย 
ยิ่งเป็นยุคโซเชียลแล้ว คลิปทั้งหลายก็มีให้ดูอัพเดทได้เรื่อย ๆ อาการอัพเดทก็ไว เห็นใครเจ็บในเกม ก็อาจรู้ผลภายในเย็นนั้นหรือแค่ข้ามวัน แบบไม่ต้องกังวลกันนาน

และการตลาดแบบนี้ ผมว่ามันจะเกิดเป็นกระแสทางลมสำหรับกองเชียร์และคนที่ชอบบอลครับ
เอาง่าย ๆ ว่าในช่วง 2 ปีมานี้ผมเห็นคนใส่เสื้อลิเวอร์พูลเดินตลาดกันมากขึ้นแหล่ะนะ เด็กที่ดูจะเพิ่งเชียร์บอลก็ยังใส่เสื้อลิเวอร์พูล (ท่าทางปะป๋าจะจัดให้)
แต่ความรู้สึกว่าก็ยังไม่สุดครับ 

ตอนนี้ได้แชมป์ UCL ถ้วยใหญ่ยุโรปมาแล้ว ถ้วยที่ไม่เคยได้อย่างบอลสโมสรโลกก็ได้มาแล้ว 
ปัจจุบันกำลังนับถอยหลังอยู่ว่าจะจบที่เกมไหน และนั่นจะเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ของทีมและคล็อปป์เลย 5 ปี 4 ถ้วย (และมีการเข้าชิงอีกหลายครั้งที่พลาดถ้วย ทั้งลีคคัพ ยูโรป้าคัพ และ UCL) 

ถึงจุดนี้นักเตะต่างแบกทีมกันแบบช่วยกันครับ มันจะมีวันที่ทรง วันที่จุดติด วันที่สลับกันแรงสลับกันเบา แต่ทีมไม่สะดุด (อาจมีฝืดบ้างอะไรบ้าง) 
ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้นักเตะหลายคนติดทีมยอดเยี่ยม หรือได้รับการเสนอชื่อรับรางวัลใหญ่

และถ้ายังยืนระยะแบบนี้ได้อีกหลายปี สิ่งที่เคยเป็นเรื่องตลกร้ายของผม มันจะเปลี่ยนข้างบ้างล่ะ ไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งไหนก็เถอะ
เช่น... 
- เซฟดีเหมือนอลิสซอน
- เติมเกมบุก เปิดโหดอย่างอาโนลด์
- สปีดสุดขั้วแบบมาเน่
- พริ้วไหวดั่งเฟอร์มิโน่
- ยืนหลังดีแย่งบอลเก่งแบบ 'ฟานไดจ์ค'
อะไรแบบเนี้ยครับ

ให้มันเป็นไปตามฟอร์ม และเป็นไปตามแรงโปรโมท จนกลายเป็นแบบอย่าง หรือแนวทางที่คนเล่นตำแหน่งนั้นชมชอบ และเกิดการเรียนรู้ หรือเอาเป็นแนวทางในการเล่น การพัฒนาตัวเองต่อไป

ยุคสมัยก่อนหน้าที่ผ่านมา มันเป็นอะไรที่หายไปเลยจริง ๆ สำหรับลิเวอร์พูล 
นักเตะระดับไอคอนสโมสรที่มีก็ไม่ได้ดังในสเกลใหญ่ขนาดนั้น ที่พอจะเป็นได้ก็ย้ายออกไปไม่น้อย

จนกระทั่งยุคนี้เองที่ได้ทั้งฝีมือ ผลงาน แล้วก็การพรีเซนท์ครับ 
แถมยังเก็บไว้กับทีมให้คล็อปป์ใช้งานได้ต่อเนื่องอีกต่างหาก

ก็หวังว่าวันข้างหน้าเวลาเรา ๆ เล่นบอลแล้วทำดีขึ้นมา จนเพื่อนร่วมทีมอยากจะชมขึ้น
จากที่เคยถูกเทียบกับนักเตะทีมคู่ปรับเพื่อนรัก ก็จะได้เปลี่ยนมาเป็นนักเตะของสโมสรแทนบ้างอะไรบ้างกันไป
'เหนียวสุดยอด! อย่างกับฟานไดจ์คมาเองเลย!' อะไรแบบเนี้ยล่ะเนอะ  

ปล. วกกลับมาประเด็นเดิมอีกรอบก่อนปิดกระทู้
สมมติเล่น ๆ ว่าถ้าฟานไดจ์คเกิดได้เป็นนายแบบโฆษณาสินค้าในบ้านเราสักชิ้น... ท่านว่าเขาจะเป็นอะไรกันนะ? หรือสินค้าอะไรจะเหมาะกับคาแรกเตอร์เค้านะ?
เห็นนักมวย นักกีฬาบ้านเราแล้ว มีตั้งแต่เครื่องดื่มเสริมเกลือแร่ บำรุงกำลัง โฆษณารถยนต์ ไปจนกระทั่งแบตเตอรี่รถยนต์...
(เออ จะว่าไป... สมัยก่อนลิเวอร์พูลก็เคยจับมือกับ 3k แบตเตอร์รี่แล้วนะนั่น)

อืม... เป็นนายแบบโฆษณาน้ำยาล้างจานก็อาจเข้ากันไปอีกแบบก็ได้มั้งนะ 
สมัยวัยเด็ก 15-16 ช่วงก่อนเซ็นสัญญาอาชีพ เขาเคยทำงานล้างจานเก็บเงินเข้าเมือง ไปกินแมคฯ กับเพื่อน ๆ ด้วยล่ะ 
เป็นแบบอย่างที่ดีเลยนะนั่น เก็บเงินเองซื้อของที่อยากได้

พูดถึงอาชีพเสริมแล้ว ไม่รู้ยังไง ภาพตอนแกตัดหญ้าก็ลอยมา

(ทำอะไรก็ดูขึ้นไปหมดจริง ๆ วุ้ย)

ก็เอาว่า... ได้หมดถ้าสดชื่นและได้ตังค์ และได้พรีเซนต์ตัวเองให้แพร่หลายขึ้นในต่างประเทศ เพิ่มกลุ่มตลาดสินค้า และกองเชียร์ครับ
ล้อเล่นไปเชียว โฆษณาด้วยการจับ AOC มาโกนขนหน้าอกก็ทำมาแล้ว 

ฮาแต่เท่!

ก็มาดูและเดากันไปว่า 'สวัสดี' คำสั้น ๆ นี้จะมีนัยยะอะไรต่อไปน้อ