SingaporeSoLo2020 "สิงคโปร์ไปคนเดียวก็เที่ยวได้"

ในชีวิตเคยฝันเอาว่าจะต้องได้เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวสักครั้ง และปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่ดี เพราะ ผ่านชีวิตเข้าปีที่ 30 แล้ว การเดินทางครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญ เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต

ถามว่าเตรียมยังไงกับการเดินทางไปประเทศที่กำลังเข้าสู่การระบาดใน   phased 3 ของการระบาดโรค COVID-19 ก็แค่เตรียมร่างกายของเราให้พร้อม นั่นก็คือทำให้ร่างกายแข็งแรงที่สุด กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ซึ่งสำคัญมากกว่าการใส่ mask   ด้วยซ้ำ และที่สำคัญ ห้ามเอามือมาสัมผัสใบหน้าหรือร่างกายเด็ดขาดถ้าคุณยังไม่ได้ล้างมือ (พกทิชชูเปียก เจลล้างมือ Mask ไปด้วยเพราะหาซื้อยากมาก)
ในเมื่อเตรียมพร้อมขนาดนี้แล้ว จะรออะไร ไปผจญภัยกันเลย ........... 

ทำไมถึงเลือกเดินทางไปสิงคโปร์คนเดียว คำตอบคือ ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวในหลายๆจุดของทุกมุมเมือง การคมมาคมค่อนข้างสะดวก ความปลอดภัยค่อนข้างที่จะดี และไปง่าย ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญรอบนี้ไปรอบที่ 5 แล้ว เคยมีคนถามว่า ไปทำไมตั้งหลายรอบ ไม่เบื่อเหรอ .... ก็อยากถามคนอื่นๆที่มาหลายรอบเหมือนกันว่า เบื่อมั้ย???? 

จริงๆ ก็ไม่นะ ไม่งั้นจะมีรอบที่ 3-4-5  

และรีวิวรอบนี้จะไม่ขอลงในรายละเอียดการเดินทางออกจากสนามบินโน๊ะ เพราะหลายๆกระทู้น่าจะบอกรายละเอียดไปหมดแล้ว 

ก่อนที่จะเดินทางได้ เราก็จองโรงแรม ซื้อตั๋วเครื่องบินเนอะ ส่วนบัตร EZ-link (ซื้อไว้ตั้งแต่มารอบที่ 4 แล้วเลยไม่ต้องซื้อใหม่ ตัวบัตรมีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 3-5 ปี อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ซื้อเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปีนี้ก็ยังใช้ได้อยู่นะ) ค่อนข้างจำเป็นสำหรับสิงคโปร์นะคะ เพราะเอาไว้ใช้ ขึ้นรถไฟ รถบัส จ่ายค่าสินค้าใน 7-11 รวมถึงร้านคาเฟ่ หรือห้างต่างๆภายในประเทศ แอบบอกอีกนิดนึงว่า บางร้านไม่รับเงินสดเลย ใช้บัตรล้วนๆ สำหรับใครที่คิดจะพกแต่เงินไป คิดใหม่เด้ออออ

แพลนรอบนี้คือ 4 วัน 3 คืน โดยเราเลือกนั่งไปกับพี่หางแดงเจ้าเดิม Airasia และจองโรงแรมผ่าน booking ได้ Hostel ชื่อ Beary best kampong glam ราคาน่ารักๆ 

ถ่ายภาพโดย Iphone8+ ,Fuji XT-100 15-45mm kit
และ app LR ค่า

งบประมาณอยู่ที่ 15000฿

ตั๋วเครื่องบิน+ค่ารถทัวร์ : 3,461 baht + 965 baht + 503 baht = 4930 baht
Hostel : 2,230 baht
ค่าขนส่ง : 100s$ [2265 baht]
Sim Card : 221 baht from klook
คาเฟ่และร้านอาหาร : 230s$ [5500 baht]

เริ่มกันที่วันแรกเลยเนอะ 

Day 1 เราเริ่มกันที่สนามบินดอนเมืองค่ะ เราเลือกไฟลท์เช้าสุดของสายการบิน คือ 7.00 เพื่อจะได้ไปถึงสิงคโปร์ในตอน 10.30 ที่เลือกไฟลท์นี้เพราะจะได้ไปถึงไว เก็บได้เยอะขึ้น ไม่อย่างนั้นก็เหมือนเสียเวลาไปเลยวันนึงสำหรับการเดินทาง

10.30 : Changi airport Singapore เนื่องด้วยเราลงทะเบียนออนไลน์ใน application ตรวจคนเข้าเมืองของ Singapore ทำให้ไม่ได้ต้องใช้ใบตม.สีขาวที่แอร์จะเริ่มแจกให้ตั้งแต่อยู่บนเครื่อง แค่ยื่นพาสปอร์ตเองค่ะ ง่ายมั๊กๆ ตม.ไม่ได้ถามอะไรมากมายเลย ถามแค่ เคยไปจีนมาในช่วง 14 วันนี้มั้ย ก็ตอบว่า แล้วก็ผ่านเข้าสู่ประเทศแบบสวยๆ อาจจะเพราะเดินทางมาสิงคโปร์บ่อยด้วยเลยเข้าง่าย อันนี้เราคิดเอง 5555+  (ตอนผ่านเข้ามา ทางสนามบินจะมีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิค่ะ เพื่อประเมินความเสี่ยงและคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ)

หลังจากผ่านตม. เข้ามา ก็ไปรับซิมการ์ดที่ร้าน  Cheer ค่ะ อยู่ติดกับสะพานรับกระเป๋าที่ 4-5 วิธีการรับซิมก็ง่ายๆเลย โชว์แค่ QR code ที่ได้รับจาก   Klook   พร้อมกับพาสปอร์ตยื่นให้กับพนักงาน เราก็จะได้Sim card เบอร์ Local ของประเทศสิงคโปร์มาพร้อมเน็ต 100GB ซึ่งอยู่ได้ 5 วัน (อันนี้บอกเลยว่าคุ้มค่ากับราคา 221 บาทมาก เพราะเร็ว แรงและเสถียรขั้นสุด) รับซิมการ์ดเสร็จก็เดินมาขึ้นรถบัสไปยัง   terminal 2 (Airasia อยู่ Terminal 4 นะคะ) เพื่อขึ้น MRT เข้าเมืองกัน (ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ ในสนามบินจะมีป้ายบอกสถานที่ต่างๆเยอะมาก อยากไปไหนเดินตามป้ายลูกศรเลย ไม่หลงแน่นอน)

11.50 : MRT Bugis st. exit B (บางคนอาจจะบอก D แต่เท่าที่เดินดู B น่าจะใกล้สุด) ลัดเลาะไปตามถนนผ่าน Raffleplace hospital เข้าสู่ Arab st. เดินประมาณ 400-500 ม. เราก็จะเจอโฮสเทลที่ตั้งอยู่ใจกลางร้านค้าผ้าของชาวแขก ที่นี่เป็นโฮสเทล 3 ชั้นแต่ละชั้นสามารถเข้าพักได้ประมาณ 20 คน  ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย เนื่องจากร้อนและหิวมาก พอเช็คอินเสร็จก็เดินออกจากโฮสเทลเลยจ้า (ที่นี่ไม่มีห้องอาหาร มีเพียงล็อบบี้เล็กๆ ที่เอาไว้สำหรับติดต่อกับ   reception ส่วนคนไหนที่อยากพักผ่อนชิล จิบเบียร์หรือน้ำอัดลมเย็นๆ เค้าก็มีพื้นที่ให้อยู่บนดาดฟ้าซึ่งอยู่ที่ชั้น 4 ถามว่าดีมั้ย ก็ดีแหละเวลากลางคืน มองเห็นแสงสีของย่านอาหรับ )

จากแพลนที่วางไว้ เรามีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพราะตอนเย็นเรามีนัดกับคนรู้จักที่ orchard เราเลยทำแพลนใหม่ขึ้นมาแทนโดยเราจะเริ่มต้นการเที่ยวด้วย Henderson waves โดยเราจะไปเริ่มต้นการเดินทางที่  Harbourfront st. หรือห้าง vivocity นั่นเอง เพราะหิวอ่า ขอข้าวกินก่อน 

14.00 : Henderson waves โดยเราใช้วิธีการนั่งรถบัสค่ะ เพราะถ้านั่ง   MRT แล้วเดินเอา ไม่ไหวอ่า กิโลกว่าๆ ขาลากแน่นนอน โดยรถบัสที่เรานั่งจะมีแค่สายเท่านั้นที่ผ่านที่นี่ คือ สาย 131 และ 145 (ขอเตือนด้วยความหวังดีว่า ขึ้นให้ถูกฝั่ง ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะได้นั่งรถเล่นชมเมืองแบบเรา ฮือออออ) นั่งรถบัส ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึงจุดหมายค่ะ โดยเราต้องเดินข้ามไปอีกฝากหนึ่งของถนน เพื่อเดินเท้าไปอีกสักเล็กน้อย (เล็กน้อยมากเลยจ๊ะแม่คุณ) 

แถแดแด๊!!!! เราก็มาถึง Henderson waves แล้วจ้า มา 4 รอบก่อนไม่เคยได้ลองมาสักที รอบนี้จัดหน่อย เค้าบอกว่าสวยยยย ซึ่งมันก็สวยแหละ แต่ร้อนมากเช่นกัน 

และที่สำคัญเมื่อขึ้นมาแล้ว เราก็พบว่ามัน “ปิดปรับปรุง” what!!!! นี่ชั้นฝ่าอุณหภูมิความร้อนและแดดจ้าๆ เพื่อมาแล้วพบว่า มันปิดหรอ 

โอ้วม๊ายยยยยยยยย แต่ก็ได้แค่ตีอกร้องไห้ในใจ สุดท้ายก็เดินกลับลงมาจับรถบัสคันเดิมกลับไปที่ vivocity แล้วนั่ง MRT ต่อไปยังห้าง ION mall orchard ….

แล้วเราก็จบวันนี้แบบงงๆ งงสิ ไม่เป็นไปตามแพลนเลย โอ๊ยชีวิต!!! กลับโฮสเทลนอนจ้า

Good Night World ....
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่