จขกท รู้สึกว่าชีวิตตนเองชีวิตที่ทำมา ตัดสินใจมา มันกลับผิดพลาดไปจนหมด พอมาถึงวัยกลางคนและส่องและมองเห็นเพื่อนรอบ ๆ ตัวต่างได้ดีกันไปหมดแล้ว เช่น ครอบครัว หน้าที่การงาน การเงิน สังคม ฯลฯ
ตอนนี้เรามาถึงวัยกลางคนแล้ว ไม่มีอะไรเหมือนที่เราหวังและฝันไว้สักอย่าง ทั้ง ๆ ที่สมัยก่อนเราตั้งใจเรียน เชื่อฟังครู ทำงาน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเฟล เละเทะ ไม่เป็นท่า ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีคนรัก (แต่มีคนในครอบครัวที่อบอุ่นเป็นกำลังใจ) เพื่อนก็ห่างหาย (เราไม่อยากไปเจอเพื่อนเลยเพราะอาชีพเราและสถานะเราสู้คนอื่นไม่ไหว) และแนวโน้มว่าเราคงไม่มีเพื่อนอีก จนเราเริ่มรู้สึกว่า เราไม่กล้าออกจาก comfort zone ไม่กล้าคิดอะไร เก็บตัว ปกติเรามีอะไรไม่สบายใจจะคุยให้ที่บ้านฟัง แต่เอาจริง ๆ คนที่บ้านเขาเป็นคนหัวโบราณนิดหน่อย เหมือนอยู่ในกรอบตลอดเวลา
จริง ๆ เรื่องหลักที่เราไม่สบายใจคือเรื่องงาน ไม่รู้ว่ามาจนถึงกลางชีวิตคนแล้ว ก็ยังค้นหาตนเองไม่พบสักที จขกท เคยทำงานมาหลากหลาย อาทิ งานขาย งานโลจิกติกส์ งานจัดซื้อ งานโปรเจค งานโอเปอเรชั่น แต่บอกตรง ๆ มันไม่ใช่แนวเท่าไร เพราะสายที่ตัวเองเรียนมาเป็นคนละเส้น (จบเอกภาษา ตอนป.ตรี) และที่สำคัญเราเลือกเรียนผิดสายตอน ป.โท คือ เรียน M.M. (คล้ายกับ MBA) จริง ๆ ถ้าถามเราภาษีดีสุดในบ้าน แต่เอาจริง ๆ จขกท กลับรู้สึกโหว้งเหว้งในชีวิตมาก (คล้ายลักษณะว่า ความรู้กลวงมาก หรือ เรียนไปวัน ๆ วิเคราะห์อะไรไม่ได้) และงานที่เคยทำก็ไม่แฮปปี้เท่าไร
สุดท้ายตอนนี้เรากลับมาทำงานแปล เป็นนักแปลอิสระส่วนตัว จริง ๆ มันก็ดีครับ (ซึ่งความจริงมันก็มีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา) แต่รู้สึกแปลก ๆ เหมือนไม่ค่อยจะก้าวหน้า เราไม่กล้าไปคุยกับใครหรือเพื่อนว่าเราเป็นนักแปลซึ่งเงินเดือนไม่เยอะ ถ้าเทียบกับ marketing, sales, operation, project, IT พวกนั้นหรือแม้แต่คนทำงานราชการ จขกท ไม่รู้ว่าแคร์ความรู้สึกคนมากไปหรือไม่ และมองว่าทำไมไม่เรียนโทภาษาหรือไปเรียนต่างประเทศเลย กลับมาทำงานแปลที่แสนธรรมดา ๆ เมื่อเทียบกับรายได้คือสายธุรกิจมันเงินดีจริง ส่วนสายงานแปล ถ้าไม่เก่งหรือไม่มีงานก็ไม่มีเงินครับ จริงอยู่มันก็เป็นนายตัวเองดีมีเวลาอิสระ (แต่งานต้องเสร็จ) และไม่ต้องคุยกับคนมาก แต่รู้สึกเซ็งๆ บางอารมณ์พอใจถามถึงความก้าวหน้าตลอดเวลา จนคิดมากจนนอนไม่หลับในบางคืน ผมควรออกไปทำงานบริหารอีกหรือไม่เมื่อวัย จขกท ก็ไม่สามารถเป็น officer ได้อีกแล้ว หรือควรเลือกระหว่าง งานที่ใช่หรือชอบ กับ เงินที่ใช่ และควรทำอย่างไรไม่ให้อิจฉาคนที่ประสบความสำเร็จได้ครับ
คิดและรู้สึกว่าใช้ชีวิตผิดพลาดในวัยกลางคน จะรับมืออย่างไร
ตอนนี้เรามาถึงวัยกลางคนแล้ว ไม่มีอะไรเหมือนที่เราหวังและฝันไว้สักอย่าง ทั้ง ๆ ที่สมัยก่อนเราตั้งใจเรียน เชื่อฟังครู ทำงาน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเฟล เละเทะ ไม่เป็นท่า ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีคนรัก (แต่มีคนในครอบครัวที่อบอุ่นเป็นกำลังใจ) เพื่อนก็ห่างหาย (เราไม่อยากไปเจอเพื่อนเลยเพราะอาชีพเราและสถานะเราสู้คนอื่นไม่ไหว) และแนวโน้มว่าเราคงไม่มีเพื่อนอีก จนเราเริ่มรู้สึกว่า เราไม่กล้าออกจาก comfort zone ไม่กล้าคิดอะไร เก็บตัว ปกติเรามีอะไรไม่สบายใจจะคุยให้ที่บ้านฟัง แต่เอาจริง ๆ คนที่บ้านเขาเป็นคนหัวโบราณนิดหน่อย เหมือนอยู่ในกรอบตลอดเวลา
จริง ๆ เรื่องหลักที่เราไม่สบายใจคือเรื่องงาน ไม่รู้ว่ามาจนถึงกลางชีวิตคนแล้ว ก็ยังค้นหาตนเองไม่พบสักที จขกท เคยทำงานมาหลากหลาย อาทิ งานขาย งานโลจิกติกส์ งานจัดซื้อ งานโปรเจค งานโอเปอเรชั่น แต่บอกตรง ๆ มันไม่ใช่แนวเท่าไร เพราะสายที่ตัวเองเรียนมาเป็นคนละเส้น (จบเอกภาษา ตอนป.ตรี) และที่สำคัญเราเลือกเรียนผิดสายตอน ป.โท คือ เรียน M.M. (คล้ายกับ MBA) จริง ๆ ถ้าถามเราภาษีดีสุดในบ้าน แต่เอาจริง ๆ จขกท กลับรู้สึกโหว้งเหว้งในชีวิตมาก (คล้ายลักษณะว่า ความรู้กลวงมาก หรือ เรียนไปวัน ๆ วิเคราะห์อะไรไม่ได้) และงานที่เคยทำก็ไม่แฮปปี้เท่าไร
สุดท้ายตอนนี้เรากลับมาทำงานแปล เป็นนักแปลอิสระส่วนตัว จริง ๆ มันก็ดีครับ (ซึ่งความจริงมันก็มีอุปสรรคบ้างเป็นธรรมดา) แต่รู้สึกแปลก ๆ เหมือนไม่ค่อยจะก้าวหน้า เราไม่กล้าไปคุยกับใครหรือเพื่อนว่าเราเป็นนักแปลซึ่งเงินเดือนไม่เยอะ ถ้าเทียบกับ marketing, sales, operation, project, IT พวกนั้นหรือแม้แต่คนทำงานราชการ จขกท ไม่รู้ว่าแคร์ความรู้สึกคนมากไปหรือไม่ และมองว่าทำไมไม่เรียนโทภาษาหรือไปเรียนต่างประเทศเลย กลับมาทำงานแปลที่แสนธรรมดา ๆ เมื่อเทียบกับรายได้คือสายธุรกิจมันเงินดีจริง ส่วนสายงานแปล ถ้าไม่เก่งหรือไม่มีงานก็ไม่มีเงินครับ จริงอยู่มันก็เป็นนายตัวเองดีมีเวลาอิสระ (แต่งานต้องเสร็จ) และไม่ต้องคุยกับคนมาก แต่รู้สึกเซ็งๆ บางอารมณ์พอใจถามถึงความก้าวหน้าตลอดเวลา จนคิดมากจนนอนไม่หลับในบางคืน ผมควรออกไปทำงานบริหารอีกหรือไม่เมื่อวัย จขกท ก็ไม่สามารถเป็น officer ได้อีกแล้ว หรือควรเลือกระหว่าง งานที่ใช่หรือชอบ กับ เงินที่ใช่ และควรทำอย่างไรไม่ให้อิจฉาคนที่ประสบความสำเร็จได้ครับ