ผมเป็นนักศึกษาคนนึงที่เกิดสงสัยว่า ระบบโซตัส มันดีจริงๆหรอ #ผมเรียนหลักสูตร 4 ปีนะครับ
มันไม่มีคนคิดจะเปลี่ยนแปลงระบบนี้เลยรึไง ( ผมเรียนครูนะครับ ผมคิดว่าเด็กไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้ )
คำถามที่ถูกตอบมาจากหลายฝ่าย
1.เค้าทำกันมาหลายรุ่นแล้วทำไมน้องทำต่อไม่ได้ พวกพี่ก็ผ่านกันมาแล้ว ( ยกเลิกระบบ )
2.การคล้องป้าย กฏ คือ ต้องคล้องในเวลา 08.00 - 17.00 ห้ามถอด #ถึงแม้จะอยู่นอกมหาลัย #ถ้าไม่ใส่ป้ายแล้วพี่เห็นโดนลงโทษ
#จะปลดป้ายเมื่อขอลายเซ็นครบ
3.การขอลายเซ็น มีให้ขอตั่งแต่ ปี 2 ปี 3 ปี 4 ต้องขอให้ครบ โดยการให้ลายเซ็นนั้นไม่มีตายตัว คือ จะให้เท่าไหร่ก็ได้ตามใจรุ่นพี่
#มันจะเชื่อมโยงกับข้อ 2 ที่ว่าเมื่อไหร่เราจะได้ปลดป้าย ในเมื่อรุ่นพี่ให้ลายเซ็นแบบนี้ #การขอลายเซ็นนั้นต้องตามหารุ่นพี่ว่าอยู่ที่ไหนแล้วจึงไปขอ
นั่นหมายความว่า ถ้า เราไม่เจอรุ่นพี่คนนี้เราก็จะไม่ได้ลายเซ็น #จะมีการเช็คสมุด #ไม่ครบโดนลงโทษน้าจ้า
ขอยกตัวอย่างการไปขอลายเซ็น 1.ไปมหาลัยแต่เช้ารอรุ่นพี่หน้าห้องเรียน 2.ไปขอช่วงพักเที่ยงต้องรีบกันข้าวแล้วไปดักรอรุ่นพี่ที่ห้อง
4.การแต่งหน้า กฏ คือ ห้ามแต่งหน้า #เรื่องของผู้ฆญิง #แต่งได้มากสุดคือ ลิปมัน #แต่งได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์
คำถามในใจของผม คือ ให้ผู้หญิงหน้าสดไปเรียนจริงๆหรือ ถ้าคุณมีแฟนคุณคงรู้ใช่มั้ยครับว่าผู้หญิงหน้าสดตอนเช้าเป็นยังไง
ขอยกตัวอย่าง 1 กรณี เพื่อนผมผู้หญิงไปสังเกตการสอน พบว่า นักศึกษามหาลัยอื่นแต่งหน้ายกเว้นตัวเธอ ที่พีค คือ มีนักเรียนเดินเข้ามาถาม ครูทำไมไม่แต่งหน้าละค้า ทำไมครูไม่แต่งหน้าละครับ #ผมว่าหน้าของเราเป็นความมั่นใจอย่างหนึ่งนะครับ โดยเฉพาะผู้หญิง
5.การทำมิชชั่น #โดยส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ายังมีระบบนี้อยู่ ควรให้ทำในสิ่งที่น้องถนัด #ไม่รบกวนเวลาเรียน
6.การโพสต์รูปลงเฟสต้องมีป้ายทุกครั้ง (ทุกครั้ง) #ไปเที่ยวก็ต้องใส่น้าจ้า #ขนาดปีใหม่อยู่บ้านจะอัพลงก็ต้องใส่ ญาติถามใส่ทำพรื้ออ
#ขออภัยถ้ามีคำบางคำหรือประโยคที่ใช้ผิดหรือพิมผิด
คุฯคิดยังไง
ระบบโซตัสในการคุมน้องที่มหาลัยดีจริงหรือ ?
มันไม่มีคนคิดจะเปลี่ยนแปลงระบบนี้เลยรึไง ( ผมเรียนครูนะครับ ผมคิดว่าเด็กไม่ควรมาเจออะไรแบบนี้ )
คำถามที่ถูกตอบมาจากหลายฝ่าย
1.เค้าทำกันมาหลายรุ่นแล้วทำไมน้องทำต่อไม่ได้ พวกพี่ก็ผ่านกันมาแล้ว ( ยกเลิกระบบ )
2.การคล้องป้าย กฏ คือ ต้องคล้องในเวลา 08.00 - 17.00 ห้ามถอด #ถึงแม้จะอยู่นอกมหาลัย #ถ้าไม่ใส่ป้ายแล้วพี่เห็นโดนลงโทษ
#จะปลดป้ายเมื่อขอลายเซ็นครบ
3.การขอลายเซ็น มีให้ขอตั่งแต่ ปี 2 ปี 3 ปี 4 ต้องขอให้ครบ โดยการให้ลายเซ็นนั้นไม่มีตายตัว คือ จะให้เท่าไหร่ก็ได้ตามใจรุ่นพี่
#มันจะเชื่อมโยงกับข้อ 2 ที่ว่าเมื่อไหร่เราจะได้ปลดป้าย ในเมื่อรุ่นพี่ให้ลายเซ็นแบบนี้ #การขอลายเซ็นนั้นต้องตามหารุ่นพี่ว่าอยู่ที่ไหนแล้วจึงไปขอ
นั่นหมายความว่า ถ้า เราไม่เจอรุ่นพี่คนนี้เราก็จะไม่ได้ลายเซ็น #จะมีการเช็คสมุด #ไม่ครบโดนลงโทษน้าจ้า
ขอยกตัวอย่างการไปขอลายเซ็น 1.ไปมหาลัยแต่เช้ารอรุ่นพี่หน้าห้องเรียน 2.ไปขอช่วงพักเที่ยงต้องรีบกันข้าวแล้วไปดักรอรุ่นพี่ที่ห้อง
4.การแต่งหน้า กฏ คือ ห้ามแต่งหน้า #เรื่องของผู้ฆญิง #แต่งได้มากสุดคือ ลิปมัน #แต่งได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์
คำถามในใจของผม คือ ให้ผู้หญิงหน้าสดไปเรียนจริงๆหรือ ถ้าคุณมีแฟนคุณคงรู้ใช่มั้ยครับว่าผู้หญิงหน้าสดตอนเช้าเป็นยังไง
ขอยกตัวอย่าง 1 กรณี เพื่อนผมผู้หญิงไปสังเกตการสอน พบว่า นักศึกษามหาลัยอื่นแต่งหน้ายกเว้นตัวเธอ ที่พีค คือ มีนักเรียนเดินเข้ามาถาม ครูทำไมไม่แต่งหน้าละค้า ทำไมครูไม่แต่งหน้าละครับ #ผมว่าหน้าของเราเป็นความมั่นใจอย่างหนึ่งนะครับ โดยเฉพาะผู้หญิง
5.การทำมิชชั่น #โดยส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ายังมีระบบนี้อยู่ ควรให้ทำในสิ่งที่น้องถนัด #ไม่รบกวนเวลาเรียน
6.การโพสต์รูปลงเฟสต้องมีป้ายทุกครั้ง (ทุกครั้ง) #ไปเที่ยวก็ต้องใส่น้าจ้า #ขนาดปีใหม่อยู่บ้านจะอัพลงก็ต้องใส่ ญาติถามใส่ทำพรื้ออ
#ขออภัยถ้ามีคำบางคำหรือประโยคที่ใช้ผิดหรือพิมผิด
คุฯคิดยังไง