สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ตอบไม่ง่าย เนื่องจากไม่ได้อยู่ในบรรยากาศนั้น ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่ก็ต้องตอบแบบคำนึงถึงความเป็นธรรม และไม่ได้ตอบแบบเอาใจ จขกท.
ผมมีลูกชาย คนโต 20 แล้ว เลยลองนึกดูว่า หากลูกชายพาผู้หญิงมาบ้านแล้ว จะแต่งงานด้วย ผมควรรู้อะไรบ้าง และควรถามสาวเจ้าในเรื่องอะไร
สิ่งที่ผมควรทำ หลังจากลูกชายแนะนำผู้หญิงให้รู้จัก
มี 2 อย่าง คือ แนะนำว่าจะคบเป็นแฟน อันนี้ ก็ไม่อยากรู้ลึก อยากรู้แค่ว่า เธอคือใคร เรียนหรือทำงานที่ไหน พ่อแม่ครอบครัวเขาทำอะไร อยู่ไหน
อยากรู้แค่นี้ เพราะใครจะมาคบหา แล้วเรายังไม่รู้จักเขาเลย ว่าเขาเป็นใคร ดูจะละเลยไป แต่ไม่อยากรู้ลึก เช่น พี่น้องกี่คน มีทรัพย์สมบัติอะไร อันนี้เกินจำเป็น
อีกอย่าง หนึ่ง คือ จะมาแนะนำว่า จะแต่งกับคนนี้ นะ ---> คนนี้ ที่ว่า หากรู้จักมาก่อน ก็คงถามไม่เยอะ ก็คือ ถามเพิ่มเติม แต่หากผิดคน จู่ๆ ก็มาเป็นคนใหม่ แล้วลัดขึ้นตอนมาที่ขั้นจะแต่งเลย ให้ไปขอ
ผมก็คงต้องให้ สาวเจ้าเล่าเรื่องหน่อย พ่อแม่พี่น้อง ทำการงานอะไร ก็อยากรู้ จะดองกัน ผมก็อยากจะรู้ ว่า ไปเกี่ยวข้องอะไรกับใครเปล่า
บอกตามตรง หากผู้หญิง มีดีมาก มีฐานะมาก ต่างจากลูกผม นั้นคือ สิ่งที่ผมจะเตือน ให้คิดให้รอบครอบก่อน
ผมไม่มีรังเกียจ เรื่องฐานะ ความรู้ แต่เห็นมาไม่น้อย ก็ต้องถาม ผมเคยบอกลูกไว้ แม้ว่าจะส่งลูกเรียน ต่างประเทศ แต่ไม่ได้ถึงกับร่ำรวย
สมมติว่า วันหนึ่ง ลูกผมพาสาวมา เป็นลูกเศรษฐีมีเงิน เงินเดือนมากกว่าลูกผม 7-8 เท่า
ผมต้องขอโทษจริงๆ ยิ่งหนูอายุไม่มาก สมมติว่า ประมาณ 24-25 ปี แต่หนูมีรายได้มากกว่าลูกชายผม 7-8 เท่า นี้ เป็นผม ผมอยากรู้อะไรลึกเพิ่มนะ เอาว่า ปกติเฉลี่ยทั่วไป เงินเดือน 15,000 ก็ได้ ของหนูก็จะไปที่ประมาณเป็นแสน เป็นผม ผมคาใจ อยากรู้ เพราะหนูจะมาเป็นลูกสะใภ้
บอกตามตรง มีทั้งคาใจและภูมิใจ รวมทั้งพะวงใจ
ผมจะต้องเตือนทั้งสองคน ให้คิดให้ดี ว่าวันหนึ่งจะเจอปัญหาอะไร จะรอดไหม
ผมเจอผู้ชายจบปริญญาโท ผู้หญิงจบปริญญาเอก นี้บางคู่ไม่รอด พรรคพวกผมหลายคน ที่เป็นผู้หญิง จบปริญญาเอก เอาว่าหาแฟนยากมาก
ทำนองเดียวกัน หากฐานะ ความรู้ สังคม ของผู้หญิงดีกว่าลูกผม ผมก็ต้องระวัง
มาตรงนี้ จึงตอบว่า การถามลึก น่าเกียจไหม ส่วนตัวผม คิดว่าไม่น่าเกียจ และคู่สนทนาก็ไม่น่าจะมีอะไรที่น่าตกใจ
เพียงแต่ น้องเล่ามาว่า คนถามเป็นพ่อเลี้ยง ของแฟนคุณ แล้วสนทนาลึกไป แล้วออกจะนำเสนอลูกชายคนเล็ก ผมว่าเรื่องนี้ตอบยาก ก็เป็นไปได้ที่คนจะสรรเสริญลูกตัวเอง ว่ามีดี เราเลือกจะเปลี่ยนเรื่องสนทนาได้
เช่น อาจตอบไปว่า ---> "ดีสิคะ ดีเลย เท่ากับหนูมีน้องสามีเก่งๆ เยี่ยมเลย " เขาก็คงดีใจ แต่มันจะเป็นการปิดการสนทนาเรื่องนี้ ตรงคำว่าน้องสามีเก่งๆ เป็นต้น
ส่วนคำว่า มีพื้นที่มรดกเท่าไหร่ ? นั้นผมไม่ได้ให้น้ำหนักสักเท่าไหร่ เพราะน้องตอบพ่อเลี้ยงไปว่า ที่บ้านทำการเกษตร เขาก็อาจจะถามว่า พี่น้องกี่คน ทำไร่สวนที่นากี่ไร่
อาจจะถามต่อว่า อ้าว แล้วส่วนของหนูได้กี่ไร่ มีงานอย่างนี้ จะกลับไปทำไร่ทำนาเหรอ!!
ก็ถามได้ ดังนั้น คำว่า "อ้าว แล้วส่วนของหนูได้กี่ไร่" กับ มีพื้นที่มรดกเท่าไหร่ ก็ความหมายเดียวกัน
เพียงแต่ อาจจะไม่ค่อยคุ้นว่า ใครจะใช้คำถามโบราณ ถามว่า "แล้วหนูมีที่มรดกเท่าไหร่หล่ะ"
ผมไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่หากเขาใช้ประโยคนี้ถามหนู ก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าเอามาติดเป็นอารมณ์เลย อีกอย่าง เขาก็เป็นพ่อเลี้ยง
หนูแต่งกับลูกเลี้ยงเขาไปแล้ว ก็ห่างกัน มันไม่เหมือนแม่สามีหนู อันนั้นเขาแม่แท้ มันสายเลือด
สนิทกับแม่นะดีแล้ว
ผมมีลูกชาย คนโต 20 แล้ว เลยลองนึกดูว่า หากลูกชายพาผู้หญิงมาบ้านแล้ว จะแต่งงานด้วย ผมควรรู้อะไรบ้าง และควรถามสาวเจ้าในเรื่องอะไร
สิ่งที่ผมควรทำ หลังจากลูกชายแนะนำผู้หญิงให้รู้จัก
มี 2 อย่าง คือ แนะนำว่าจะคบเป็นแฟน อันนี้ ก็ไม่อยากรู้ลึก อยากรู้แค่ว่า เธอคือใคร เรียนหรือทำงานที่ไหน พ่อแม่ครอบครัวเขาทำอะไร อยู่ไหน
อยากรู้แค่นี้ เพราะใครจะมาคบหา แล้วเรายังไม่รู้จักเขาเลย ว่าเขาเป็นใคร ดูจะละเลยไป แต่ไม่อยากรู้ลึก เช่น พี่น้องกี่คน มีทรัพย์สมบัติอะไร อันนี้เกินจำเป็น
อีกอย่าง หนึ่ง คือ จะมาแนะนำว่า จะแต่งกับคนนี้ นะ ---> คนนี้ ที่ว่า หากรู้จักมาก่อน ก็คงถามไม่เยอะ ก็คือ ถามเพิ่มเติม แต่หากผิดคน จู่ๆ ก็มาเป็นคนใหม่ แล้วลัดขึ้นตอนมาที่ขั้นจะแต่งเลย ให้ไปขอ
ผมก็คงต้องให้ สาวเจ้าเล่าเรื่องหน่อย พ่อแม่พี่น้อง ทำการงานอะไร ก็อยากรู้ จะดองกัน ผมก็อยากจะรู้ ว่า ไปเกี่ยวข้องอะไรกับใครเปล่า
บอกตามตรง หากผู้หญิง มีดีมาก มีฐานะมาก ต่างจากลูกผม นั้นคือ สิ่งที่ผมจะเตือน ให้คิดให้รอบครอบก่อน
ผมไม่มีรังเกียจ เรื่องฐานะ ความรู้ แต่เห็นมาไม่น้อย ก็ต้องถาม ผมเคยบอกลูกไว้ แม้ว่าจะส่งลูกเรียน ต่างประเทศ แต่ไม่ได้ถึงกับร่ำรวย
สมมติว่า วันหนึ่ง ลูกผมพาสาวมา เป็นลูกเศรษฐีมีเงิน เงินเดือนมากกว่าลูกผม 7-8 เท่า
ผมต้องขอโทษจริงๆ ยิ่งหนูอายุไม่มาก สมมติว่า ประมาณ 24-25 ปี แต่หนูมีรายได้มากกว่าลูกชายผม 7-8 เท่า นี้ เป็นผม ผมอยากรู้อะไรลึกเพิ่มนะ เอาว่า ปกติเฉลี่ยทั่วไป เงินเดือน 15,000 ก็ได้ ของหนูก็จะไปที่ประมาณเป็นแสน เป็นผม ผมคาใจ อยากรู้ เพราะหนูจะมาเป็นลูกสะใภ้
บอกตามตรง มีทั้งคาใจและภูมิใจ รวมทั้งพะวงใจ
ผมจะต้องเตือนทั้งสองคน ให้คิดให้ดี ว่าวันหนึ่งจะเจอปัญหาอะไร จะรอดไหม
ผมเจอผู้ชายจบปริญญาโท ผู้หญิงจบปริญญาเอก นี้บางคู่ไม่รอด พรรคพวกผมหลายคน ที่เป็นผู้หญิง จบปริญญาเอก เอาว่าหาแฟนยากมาก
ทำนองเดียวกัน หากฐานะ ความรู้ สังคม ของผู้หญิงดีกว่าลูกผม ผมก็ต้องระวัง
มาตรงนี้ จึงตอบว่า การถามลึก น่าเกียจไหม ส่วนตัวผม คิดว่าไม่น่าเกียจ และคู่สนทนาก็ไม่น่าจะมีอะไรที่น่าตกใจ
เพียงแต่ น้องเล่ามาว่า คนถามเป็นพ่อเลี้ยง ของแฟนคุณ แล้วสนทนาลึกไป แล้วออกจะนำเสนอลูกชายคนเล็ก ผมว่าเรื่องนี้ตอบยาก ก็เป็นไปได้ที่คนจะสรรเสริญลูกตัวเอง ว่ามีดี เราเลือกจะเปลี่ยนเรื่องสนทนาได้
เช่น อาจตอบไปว่า ---> "ดีสิคะ ดีเลย เท่ากับหนูมีน้องสามีเก่งๆ เยี่ยมเลย " เขาก็คงดีใจ แต่มันจะเป็นการปิดการสนทนาเรื่องนี้ ตรงคำว่าน้องสามีเก่งๆ เป็นต้น
ส่วนคำว่า มีพื้นที่มรดกเท่าไหร่ ? นั้นผมไม่ได้ให้น้ำหนักสักเท่าไหร่ เพราะน้องตอบพ่อเลี้ยงไปว่า ที่บ้านทำการเกษตร เขาก็อาจจะถามว่า พี่น้องกี่คน ทำไร่สวนที่นากี่ไร่
อาจจะถามต่อว่า อ้าว แล้วส่วนของหนูได้กี่ไร่ มีงานอย่างนี้ จะกลับไปทำไร่ทำนาเหรอ!!
ก็ถามได้ ดังนั้น คำว่า "อ้าว แล้วส่วนของหนูได้กี่ไร่" กับ มีพื้นที่มรดกเท่าไหร่ ก็ความหมายเดียวกัน
เพียงแต่ อาจจะไม่ค่อยคุ้นว่า ใครจะใช้คำถามโบราณ ถามว่า "แล้วหนูมีที่มรดกเท่าไหร่หล่ะ"
ผมไม่คุ้นเท่าไหร่ แต่หากเขาใช้ประโยคนี้ถามหนู ก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าเอามาติดเป็นอารมณ์เลย อีกอย่าง เขาก็เป็นพ่อเลี้ยง
หนูแต่งกับลูกเลี้ยงเขาไปแล้ว ก็ห่างกัน มันไม่เหมือนแม่สามีหนู อันนั้นเขาแม่แท้ มันสายเลือด
สนิทกับแม่นะดีแล้ว
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกยังไงคะ?เวลาครอบครัวฝ่ายชายที่เรากำลังจะแต่งงานด้วยถามเรื่องส่วนตัวที่ส่วนตัวมาก