เรื่องวุ่นวาย ณ My hostel #2 เข็ดแล้วจ้าอินายจ๋าเจอลูกค้าแบบนี้

ขอพื้นที่ไว้เมาท์มอยลูกค้า ขอแชร์ประสบการณ์วุ่นๆ แปลกๆ ฮาๆ จากการเริ่มทำธุรกิจโฮสเทลขนาดเล็ก ซึ่งจากสาวมนุษย์เงินเดือน ต้องมารับมือกับลูกค้าหลากหลายจากทุกมุมโลก เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้น...
   
       ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะ เรื่องต่างๆที่จะเล่าจะแชร์ เราอาจมีอ้างอิง ว่าเป็นลูกค้าจากประเทศไหน ซึ่งเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ได้จะให้เหมาว่า คนประเทศนี้เป็นแบบนั้นทั้งหมด และเราไม่ได้จะชี้นำ หรือบูลลี่ ชนชาติไหนแต่อย่างไร แต่เป็นเรื่องราวที่เราเจอกับตัวเองทั้งหมดจริงๆ ดังนั้นอย่ามาดราม่านะ ว่าเราเหยียดคนประเทศนั้นประเทศนี้ ส่วนคนที่จะดราม่าว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจแต่เอาเรื่องลูกค้ามาเมาท์ มานินทามันไม่ดี มันก็จริงค่ะ ว่าเราเอามาเม้าท์ แต่เราก็ไม่ได้เปิดเผยชื่อลูกค้าแต่อย่างใด แค่ต้องการแชร์เรื่องราวต่างๆแค่นั้นเองอ่ะนะ 
ปล.ชื่อคนทั้งหมดในนี้ จะเป็นนามแฝงทั้งหมดนะคะ ขออนุญาตไม่ใช้ชื่อจริงเนอะ
       
       ตอนที่ 1 ลูกค้าสาวชาวไต้หวัน  https://pantip.com/topic/39619818

       ตอนที่ 2 เข็ดแล้วจ้าอินายจ๋าเจอลูกค้าแบบนี้

      ส่วนใหญ่ลูกค้าเราจะเป็นคนมาเลเซียซะส่วนใหญ่ เนื่องจากอยู่ที่จังหวัดติดชายแดนใต้ เรียกว่า80% เป็นลูกค้ามาเลเซีย 10%เป็นคนไทย อีก10%เป็นลูกค้าอื่นๆ หลังจากที่เราเปิดได้ประมาณ 2เดือน ก็มีลูกค้าจากอินเดียมาพัก 2คน ขอเรียกแทนชื่อลูกค้าว่า บัง1(มีอายุหน่อย ประมาณ 50ปี) บัง2(อายุประมาณ20กว่าๆ) เราก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของคนประเทศนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเราอย่าไปตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตา สีผิว เราจึงต้อนรับปกติ 
 
      หลังจากที่เข้าพัก ลูกค้าสองคนนี้ เหมือนจะมีความต้องการนั่นนี่เยอะ เช่นจะให้เราออกไปเรียกรถให้ จะให้เราไปซื้อข้าวให้ เราก็อธิบายให้เข้าใจว่าขอโทษจริงๆค่ะ เราไม่มีบริการในส่วนนี้ รวมไปถึงให้เราติดต่อหมดนวดขึ้นไปนวดบนห้องให้ เราก็ต้องบอกไป ว่าเราไม่อนุญาติให้บุคคลภายนอกขึ้นไปในห้อง เพราะเป็นห้องรวม พักร่วมกับแขกคนอื่นๆ จนเรารู้สึกว่าทั้งคู่น่าจะไม่เหมาะสมจะให้พักร่วมกับแขกคนอื่นๆ เพราะคุยเสียงดัง และมารยาทส่วนรวมไม่โอเคนัก แล้วเขาจะพักหลายวัน 2-3วัน เรากลุ้มใจมากกลัวแขกคนอื่นจะรำคาญ เราเลยแกล้งบอกไปว่าจะอัปเกรดให้ไปอยู่ห้องส่วนตัว เพราะห้องรวมมีลูกค้าจองไว้แล้ว เรายอมเปิดห้องส่วนตัวให้สองคนนี้อยู่ต่างหาก เพื่อรักษาความสงบโดยรวมไว้ เขาก็ดีใจได้พักห้องส่วนตัว 

     ทุกอย่างก็เหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่เราก็เอ๊ะ ลองดูกล้องวงจรปิดเมื่อคืนหน่อยดีกว่า ที่ห้องนั่งเล่นจะมี ตู้น้ำให้ลูกค้ากดดื่ม ถ้าใครต้องการกินแบบเย็น ก็หยิบขวดน้ำในตู้เย็นได้ และลูกค้ากินเสร็จเราก็มีป้ายติดไว้ให้ล้างแก้วหลังดื่มเสร็จด้วย ปรากฏว่ากลางคืนที่ทุกคนหลับใหลหมดแล้ว บัง1ก็ลงมา เดินมาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำในตู้เย็นมาเปิดยกซด กินเสร็จแล้ววางใส่กลับในตู้เย็นเหมือนเดิม เราช็อคมาก เห้ย คือกลัวว่าจะไม่ล้างแก้ว นี่เล่นซดขวดน้ำ แล้วไม่ล้าง แล้วตูเนี่ย ต้องมากินต่อแกอ่ะนะ คือตอนนั้นโกรธมาก คือไม่รู้ว่าตัวเองกินน้ำลายบังไปรึป่าว กินขวดไหนไปก็จำไม่ได้ คือแบบปรี๊ดมาก พยายามสงบสติอารมณ์เราจะใช้ความโกรธไปปะทะลูกค้าไม่ได้ และไม่อยากปะทะ เพราะจะบานปลาย เลยมาคิดว่าจะแก้ปัญหายังไง เพราะเราก็ติดป้ายบอกแค่กรุณาล้างแก้ว เพราะไม่คิดว่าจะใช้ขวด เลยไม่ได้ติดว่ากรุณาล้างขวดอ่ะนะ เห้อ พอตั้งสติได้ ก็ให้ลูกน้องขนขวดในตู้เย็นไปล้างให้หมด รวมถึงแก้วน้ำทั้งหมดด้วย เพราะชักไม่แน่ใจว่า มีมาใช้แก้วบ้างรึป่าว แล้วก็บอกลูกน้องไปว่าไม่ต้องวางขวดน้ำแล้ว ให้ลูกค้ากดจากในตู้เลยโดยตรง 

     เช้าวันรุ่งขึ้น ก็มาเช็คกล้องวงจรปิดอีก โอ้โห คุณบัง1 เปิดตู้เย็นตามปกติ มองหาขวดน้ำไม่เจอสักขวดเลยงงๆ เราก็ลุ้นว่าบังจะเอาไงต่อ ก็ไปกดน้ำสิ หรือว่าขี้เกียจจะล้างแก้ว ถ้าคราวนี้ไม่ล้างจะเชิญออกเพราะมีหลักฐานกล้องวงจรปิด และติดป้ายไว้ชัดเจนว่ากินน้ำเสร็จให้ล้างแก้ว ปรากฏว่ามีเหยือกน้ำที่มีน้ำตั้งอยู่บนโต๊ะ บังก็ยกเหยือกน้ำซดแล้วก็วางที่เดิม อินี่ จะเป็นลม ตูกินน้ำลายบังอีกแล้วเหรอเนี่ย โอ้ยยยย อยากจะกรี๊ดใส่หน้าบัง แต่เราก็พยายามใจเย็น และไม่ได้ต่อว่าบังแต่อย่างใด เพราะถึงเวลาที่บังจะ check out พอดี ในใจคิดว่าหลุดพ้นแล้วอิบัง จะอยู่ต่อตูก็ไม่ให้อยู่แล้ว

     โชคเข้าข้างบังไม่อยู่ต่อ ร่ำลากันเรียบร้อย ขึ้นไปดูห้องบังแทบสลบ นอกจากกลิ่นจะเหม็นจนหายใจไม่ออกแล้ว มีคราบเหลืองของแกงกะหรี่ เต็มพื้นห้อง คือคาดว่าบังคงกินแล้วหก แต่ไม่เช็ดก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้น จนเกรอะกรัง ไม่ได้เว่อร์ เห็นสภาพห้อง ลมแทบจับ ห้องนั้นต้องทำความสะอาด ฆ่าเชื่อ เปิดประตูหน้าต่างให้ลมระบายอากาศทั้งวันกลิ่นถึงจะหาย

      จากประสบการณ์ครั้งนี้เป็นเหมือนฝันร้าย ที่ติดอยู่ในใจ จะบอกว่าจะไม่ให้อคติ เราก็ไม่อยากเสี่ยงจริงๆ ถ้ามีคนwalk in มาจากฝั่งนั้น เราจะไม่รับบอกห้องเต็ม จะบอกว่าเราเห็นแก่ตัวหรืออคติก็ได้ แต่เราไม่อยากเสี่ยงจริงๆ แต่ถ้าจองในเวป มันก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็โชคดีที่สองปีที่ผ่านมาไม่มีแขกจากทางนั้นจองมาเลย จนกระทั่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีแขกจากอินเดียจองมา 6 คน ซึ่งเหมาห้อง เราเห็นแล้วก็เตรียมใจ ความทรงจำครั้งกระโน้นก็ย้อนมาให้หวนคิด เขาจองมา 4 วัน เยอะกว่าแขกคู่นั้นอีก 

     แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ไม่มีเห็นการณ์อะไร ทุกคนกินแล้วล้างแก้วเรียบร้อย ไม่มีปัญหาใดๆ  แล้วก็ไม่เรื่องมากอะไรใดๆ จนวันเช็คเอ้าท์ เราก็ลุ้นห้อง เพราะเขาบอกไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาด เราก็มาลุ้นว่าสภาพภายในห้องจะเละขนาดไหน 4 วัน 6 คน จริงๆก็เตรียมใจไว้แล้ว พอเปิดเข้าไป ช็อคเลยจ้า เรียบร้อยมาก คือดีมากๆ ห้องปกติ ทุกอย่างไม่มีปัญหาใดๆ  งานนี้ทำให้เราต้องปรับมุมมองและทัศนคติใหม่ในหลายๆเรื่อง 

     และขอสรุปแบบสั้นๆได้ใจความว่า   มาจากประเทศไหนไม่สำคัญ อยู่ที่สันดานล้วนๆจ้า โอเคนะ!!!!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่