ด้วยนถานะการณ์ตอนนี้ไม่มีความแน่นอนใดๆ ที่จะยืนยันว่าโรคระบาดจะไม่รุนแรงมากขึ้นกว่านี้ ที่เห็นคือ in เริ่มน้อยกว่า out ในประเทศจีน แต่ในเกาหลี / ญี่ปุ่น / สิงคโปร์ หรือแม้แต่บ้านเรา จึงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก
ในฐานะที่ลงทุนมานานในตลาดหุ้น ทั้งซิ่ง ทั้งถือยาว และได้เริ่มถอยออกจากตลาดมาพักใหญ่ และเริ่มเร่งขายออกไปเมื่อ 20 กว่าวันที่ผ่านมาจนพอร์ตตอนนี้เหลือแค่ 20% ของที่เคยถือ ช้ำมั้ยก็ช้ำ แต่ 3 วันที่ผ่านมาถือว่าตัดสินใจถูก
พอดีไปประชุมในฐานะที่ปรึกษาให้กับบริษัทเพื่อน สิ่งที่เห็นและอยากจะแชร์ให้ฟังคือสถานะการณ์ภาคเอกชนที่เป็นพวก trading และท่องเที่ยวแย่หมด และทางเพื่อนผมก็ตัดสินใจลดคนลงทันที โดยเฉพาะลูกจ้างชั่วคราว ผมเข้าใจว่าตอนนี้หลายๆ โรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวเริ่มสลับกันหยุด ซึ่งคง impact แรงต่อลูกจ้าง เพราะหลายท่านมีภาระครอบครัวที่ต้องดูแล
ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรครับ พูดเยอะไปก็กลัวว่าจะหาว่าตื่นตูมเกินกว่าเหตุ และอาจจะไม่แย่กว่านี้แล้วก็ได้ เอาเป็นว่าขอให้กำลังใจทั้งผู้ประกอบการนายจ้าง และลูกจ้างทุกๆ ท่านนะครับที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่ามากน้อย
ขอให้นายจ้างที่คิดจะปรับลดคน หรือท้อแท้ตั้ง war room สู้วิกฤติกันครับ พยายามให้การลดคนเป็น option หลังสุด และพยายามลดค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางต่างๆ ลงให้มากที่สุด ส่วนลูกจ้างทุกๆ ท่านครับ ผมเชื่อว่าถ้าท่านไม่แสดงความพยายามในการทำงาน และลดต้นทุนการใช้ชีวิต ท่านจะลำบาก การขยัน และอดทน เป็นสิ่งที่จะช่วยตัวเรา และองค์กรให้เดินหน้าได้
วิกฤติครั้งนี้สอนผมได้เยอะมากครับ ทั้งในเรื่องความประมาท และทั้งในเรื่องการมีวินัย และก็เชื่อว่าเดี๋ยวไม่นานก็ผ่านพ้นไปได้ครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านจริงๆ ครับ
ขอให้กำลังใจกับผู้ที่ท้อแท้ในยามนี้ครับ
ในฐานะที่ลงทุนมานานในตลาดหุ้น ทั้งซิ่ง ทั้งถือยาว และได้เริ่มถอยออกจากตลาดมาพักใหญ่ และเริ่มเร่งขายออกไปเมื่อ 20 กว่าวันที่ผ่านมาจนพอร์ตตอนนี้เหลือแค่ 20% ของที่เคยถือ ช้ำมั้ยก็ช้ำ แต่ 3 วันที่ผ่านมาถือว่าตัดสินใจถูก
พอดีไปประชุมในฐานะที่ปรึกษาให้กับบริษัทเพื่อน สิ่งที่เห็นและอยากจะแชร์ให้ฟังคือสถานะการณ์ภาคเอกชนที่เป็นพวก trading และท่องเที่ยวแย่หมด และทางเพื่อนผมก็ตัดสินใจลดคนลงทันที โดยเฉพาะลูกจ้างชั่วคราว ผมเข้าใจว่าตอนนี้หลายๆ โรงแรมในพื้นที่ท่องเที่ยวเริ่มสลับกันหยุด ซึ่งคง impact แรงต่อลูกจ้าง เพราะหลายท่านมีภาระครอบครัวที่ต้องดูแล
ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรครับ พูดเยอะไปก็กลัวว่าจะหาว่าตื่นตูมเกินกว่าเหตุ และอาจจะไม่แย่กว่านี้แล้วก็ได้ เอาเป็นว่าขอให้กำลังใจทั้งผู้ประกอบการนายจ้าง และลูกจ้างทุกๆ ท่านนะครับที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่ามากน้อย
ขอให้นายจ้างที่คิดจะปรับลดคน หรือท้อแท้ตั้ง war room สู้วิกฤติกันครับ พยายามให้การลดคนเป็น option หลังสุด และพยายามลดค่าใช้จ่าย ค่าเดินทางต่างๆ ลงให้มากที่สุด ส่วนลูกจ้างทุกๆ ท่านครับ ผมเชื่อว่าถ้าท่านไม่แสดงความพยายามในการทำงาน และลดต้นทุนการใช้ชีวิต ท่านจะลำบาก การขยัน และอดทน เป็นสิ่งที่จะช่วยตัวเรา และองค์กรให้เดินหน้าได้
วิกฤติครั้งนี้สอนผมได้เยอะมากครับ ทั้งในเรื่องความประมาท และทั้งในเรื่องการมีวินัย และก็เชื่อว่าเดี๋ยวไม่นานก็ผ่านพ้นไปได้ครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านจริงๆ ครับ