ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ ><
ด้วยนี่เป็นการเขียนกระทู้รีวิวครั้งแรกของไลฟ์จริงๆ
ยังไงถ้ามีข้อผิดพลาดหรือการใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม รบกวนติชม หรือช่วยแนะนำกันได้เลยนะคะ
อ่ะ! มาเข้าเรื่องร้านโอมากาเสะ ที่ไลฟ์ได้มีโอกาสแวะเข้าไปทานกันดีกว่าค่ะ
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินรูปแบบการกินที่เรียกว่า "โ อ ม า ก า เ ส ะ" กันมาบ้าง ไลฟ์ขออธิบายคร่าวๆสำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้จักนะคะ จะได้ทำความเข้าใจกับสไตล์อาหารในวันนี้ ไฟพร้อมๆกันเลยค่ะ
(รูปนี้พอดีไลฟ์ถ่ายไว้นานมากแล้ว ซึ่งตอนนั้นถ่ายเป็นสตอรี่ลง ig ซะด้วย เลยไม่ค่อยชัดเท่าไรค่ะ ต้องขอภัยด้วยนะคะ)
" โ อ ม า ก า เ ส ะ " หรือในอีกความหมายฉบับเข้าใจง่ายๆ คือ " กินไป เดี๋ยวเชฟจัดเสิร์ฟเอง " หรือบางคนเรียกว่า “ตามใจเชฟ” นั่นแหละค่ะ เป็นรูปแบบการทานอาหารญี่ปุ่นแบบตามใจเชฟ โดยในที่นี้เชฟจะเป็นผู้คัดสรรวัตถุดิบ และรังสรรค์เมนูอาหารที่สุดเซอร์ไพรซ์มาให้เราๆได้ทานตามคอร์สที่เราได้เลือกไปนั่นเองค่ะ โดยเมนูที่เชฟจัดมาให้นั้น จะแตกต่างกันออกไปตามราคาคอร์ส ตามฤดูกาล ตามเทศกาล ตามวัน ของแต่ละร้านนั่นเองค่ะ ซึ่งเมนูที่นำมาเสิร์ฟนั้นไม่ได้มีแค่เฉพาะซูชินะคะ บางร้านอาจจะมีเมนูพิเศษต่างๆที่เชฟคิดค้นมาให้ เช่นซุปหูฉลาม ซุปปู หรืออื่นๆ เป็นต้น ค่ะ
พอเข้าใจความหมายอย่างคร่าวๆของรูปแบบร้านโอมากาเสะกันแล้วรึยังเอ่ย ~?
ถ้าพอเข้าใจกันบ้างแล้ว เราไปดูร้านโอมากาเสะที่ไลฟ์นำมาเสนอให้ทุกคนได้รู้จักในวันนี้กันดีกว่าค่ะ ~^^~
***(ก่อนอื่นต้องขอแจ้งก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้ค่ารีวิวจากเจ้าของร้านแต่อย่างใดนะคะ ไม่อยากให้เข้าใจผิด แต่เป็นประสบการณ์ที่ไลฟ์ได้ไปลองชิมมาจากหลายๆร้านแล้ว ประทับใจในร้านนี้จริงๆค่ะ เลยเลือกที่จะหยิบมารีวิวให้ทางร้านค่ะ)
ร้าน " Mitsu Omakase" เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะ ตั้งอยู่ที่พัทยาเหนือ ค่ะ
(ร้านเปิดรับจองตอน 12.00 - 16.00 น. ค่ะ)
เป็นร้านที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับร้าน Omakase ที่เรามักจะคุ้นชินกันโดยทั่วไปค่ะ
โดยคอร์สของทางร้าน Mitsu Omakase ก็จะมีให้เลือกตามจำนวนคำของ Sushi Sashimi
ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ 9 คำ , 12 คำ , 15 คำ และ 18 คำ ค่ะ ยังไม่นับรวม Appetizers และ Desserts ต่างๆอีกนะคะ
(ตัวไลฟ์คือ ไปตั้งแต่ 9 คำแรก ท้องแตกไปเลยค่ะ 5555+)
วันที่ไลฟ์ไปทาน จองไปเป็นคอร์สที่ 1 จำนวน 9 คำ ราคาคอร์สอยู่ที่ 2,500 บาท/ท่าน ค่ะ สิ่งที่ไลฟ์จะได้จากคอร์สนี้ก็คือ Appetizer แบบอิ่มๆ Sushi Sashimi 9 คำ พร้อม Desserts อร่อยๆ(อร่อยแบบไม่อวยค่ะ ของหวานเค้าเด็ดมากจริงๆ)
สำหรับ Appetizer เซทที่แรก ที่ยกมานำเสนอนะคะ ได้แก่ เซทซุปเจลลี่เนื้อปูอะลาสกาที่ส่งตรงมาจากเกาะ Hokkaido เลยค่ะ มาคู่กับ ปลาไข่ชิชาโมะ ซึ่งจัดเสิร์ๆมาพร้อมกับเต้าหู้ในซอสซีอิ้ว (ซึ่งปกติไลฟ์เป็นคนไม่ชอบทานเต้าหู้จริงๆ แต่พอมาเจอของที่นี่ ไลฟ์ยอมคาราวะเลยค่ะ)เค้าปรุงรสซอสได้ดีมาก เต้าหู้ก็เป็นแบบหนึบๆเคี้ยวเพลินจริงๆค่ะ ตามมาด้วยสาหร่ายสีแดงในซุปข้น และถั่วลันเตา พอให้เคี้ยวกันกรุบกริบ
จังหวะนี้ พอเริ่มให้ขนาดกระเพาะได้ขยายกันสักเล็กน้อยแล้ว เราจะเริ่มไปต่อกันที่ของจริงอย่าง Sushi Sashimi Menu กันเลยค่ะ
เมนูหลัก เชฟเปิดมาด้วยเจ้านี้เลยค่ะ หมึกหิ่งห้อยจิ๋ว ที่เชฟนำไปย่างบนเตาไฟเสิร์ฟพร้อมวาซาบินั่นเอง ชอบม้ากกก น้องหมึกคือกรุบๆได้ใจ เนื้อนิ่ม ไม่คาวเลย โดยประโยคที่จำขึ้นใจในทุกๆครั้งที่ไปทานเชฟจะบอกว่า “หมึกนี้จะเจอได้ที่จังหวัดโตยามะ” ไลฟ์เลยตั้งจิตตั้งใจมากว่าถ้าได้ไปโตยามะ จะแวะไปกินหมึกหิ่งห้อยเจ้าถิ่นจริงๆค่ะ
เมนูถัดมาเป็น “น้องกุ้งตัวเล็ก” ที่เชฟบรรจงแกะเปลือกออกที่ละตัว(อันนี้เชฟบอกกับไลฟ์เองเลย ว่า บรรจงแกะทุกตัวจริงๆ)
ซึ่งกุ้งที่ใช้ไลฟ์เองก็จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรค่ะ (แหะๆ สารภาพตรงนี้เลยละกัน) โดยเนื้อกุ้งมีรสชาติหวาน(มากกกกกกก) เชฟบรรจงจับวางบนข้าว พร้อมบดผิวส้มใส่ไปด้วย ซึ่งทำให้ไลฟ์สามารถจบคอร์สได้โดยไม่รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใดค่ะ โดยไลฟ์สังเกตว่าเซฟมักจะใช้ผิวส้มในกับหลายๆเมนูเลยค่ะ
ถัดมาด้วย Sushi Sashimi เมนูอื่นๆ ที่ไลฟ์ก็ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างจริงจังจนจำรายละเอียดได้บ้างไม่ได้บ้าง เลยค่ะ

สิ่งที่ไลฟ์เป็นปลื้มและประทับใจจริงๆ จากการทานโอมากาเสะ ในทุกๆครั้ง ก็คือ ความจริงใจของเชฟ ค่ะ จากหลายๆร้านที่ไลฟ์ไปทานมาไลฟ์สัมผัสได้ว่า เมนูอาหาร การนำเสนอ ฝีมือ เป็นเรื่องสำคัญมากกกก แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ “ วัตถุดิบ ” ค่ะ
วันนี้ที่ไลฟ์ได้มาทานที่ร้าน Mitsu Omakase ไลฟ์ก็ประทับใจในความสดใหม่ของวัตถุดิบเช่นกันค่ะ
ถ้าบางท่านเป็นสาวก อาหารญี่ปุ่น อาจจะพอเคยได้ยินชื่อ “Uni (อูนิ)” กันมาบ้าง
“อูนิ” คือ ส่วนที่เป็นเสปิร์มของหอยเม่นค่ะ หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ลักษณะเป็นพวงสีเหลืองๆ คล้ายมะม่วงสุก
ไลฟ์นี่คือ ไม่ใช่สาย Uni จริงๆค่ะ สารภาพเลย ออกไปทางไม่ชอบซะด้วยซ้ำ กินที่ไหนไลฟ์ก็ว่าออกจากคาวๆ รสชาติแปลกๆอยู่ ซึ่งเจ้าอูนินั้นราคาก็ไม่ได้จะว่าถูกเลยนะคะ ราคาประมาณ 3000 บาท/250 กรัม ค่ะ แพงมากจีงงง!!! ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะขายกันเป็นกล่องๆนี่แหละค่ะ
แต่!!! ปลา ทับ ใจ มาก จริงๆ กับอูนิที่ทางร้านเลือกมาให้วันนี้ค่ะ เป็น Uni สายพันธุ์ Murasaki (จาก 4 สายพันธุ์นะคะ)
ชุ่มฉ่ำมากกกก คือไม่เลี่ยน ไม่คาว เบาๆ ไม่รู้สึกหยึ๋ยๆ แต่อย่างใด ออกจะหวานสดชื่นหน่อยๆซะด้วย
ไลฟ์คือท่อง Murasaki Murasaki Murasaki Murasaki คราวหน้าจะกินอันนี้!!
จนพอเซฟเอาเมนูต่อไปมาเสิร์ฟ ก็มีโปะหน้าด้วยอูนิเช่นกันค่ะ
เป็นข้าวถ้วยเล็กๆ ที่เสิร์ฟพร้อมไข่ปลาเตอร์เจียน และเนื้อปลาโอทาโร่สับ โปะทับด้วยอูนิและไข่ปลาคาเวียร์อีกชั้นค่ะ
ซึ่งเชฟเฉลยว่า เป็นอูนิ อีกสายพันธุ์หนึ่งแหละค่ะ ซึ่งเรียกว่า Bafun นั้นไง อันนี้เลยที่ไลฟ์ไม่ชอบบบบบบบ
มันจะค่อยข้างเป็นลิ่มๆมากกว่าแบบแรก แต่บางคนจะชอบกว่าเพราะรสชาติกับเนื้อสัมผัสค่อยข้างจะธรรมชาติกว่าแบบแรก
ได้ฟีลแบบกินแล้วเหมือนสัมผัสกับน้ำทะเลประมาณเนี้ย 5555555 แง่
ซึ่งอูนิทั้งคู่ที่เชฟเอามาเสิร์ฟให้เราได้ทานนั้นค่อนข้างจะพรีเมียมมาก โดยจะไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป เชฟบอกว่าเป็นอูนิที่ต้องซื้อมาโดยประมูลกันเท่านั้นค่ะ
ในตลาดปลาที่ญี่ปุ่นจะเป็นโซนเฉพาะที่ต้องมีใบรับรอง(ใบรับรองอะไรก่อน ลืมถามเชฟ ฮรือ)ถึงจะเข้าไปประมูลออกมาได้
อู้วหูวววว ฟังแล้วตึ่งเต้วง่ะ
ไลฟ์นึกถึงประมูลแล้วมีเคาะค้อน 3 ครั้ง แต่คิดว่าอาจจะไม่ขนาดนั้นมั้งคะ ใครมีความรู้ด้านนี้แชร์กันนิดนึงนร้าา ไลฟ์อยากทราบจริงๆ
-ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ-
ปิดท้าย ด้วยเมนูสุดพิเศษจากเชฟค่ะ เป็นซุปหูฉลาม ที่คัดสรรหูฉลามชั้นดีมาต้มในซุปที่เคี่ยวกับกระดองปูพร้อมปรุงในสไตล์ญี่ปุ่น
ค่อนข้างจะเป็นอาหารจีนที่ได้รสชาติญี่ปุ่นมาๆเลยค่ะ
(ขออนุญาตสำหรับคนที่ไม่ทานเมนูหูฉลามด้วยจริงๆนะคะ)
ปิดท้ายแล้ววววว ไลฟ์ขอนำเสนอส่วนที่เป็นทีเด็ดสุด ล้ำสุด ซิกเนเจอร์สุดๆ(สำหรับไลฟ์) จากทางร้านนะคะ
ของหวานของร้าน Mitsu Omakase นั่นเองค่าาา รัวกลองกันหน่อยเร้ววว
ซึ่งวันนี้ทางร้านจัดมาให้เป็นเซทกันเลยค่ะ
เริ่มจาก เมนูเกล็ดน้ำแข็งส้มยูสุ เมนูนี้ไลฟ์รักสุดๆเลย ค่ะ เพราะสดชื่น มากกกกก
เป็นของหวานที่เรียกว่าล้างปากได้สะอาดหมดจด ลืมไปเลยว่าเพิ่งกินของคาวมา
อันนี้เป็นเมนูใหม่ที่ทางร้านเพิ่งคิดขึ้นมาค่ะ คือพานาคอตา ที่เคลือบด้วยไวท์ช็อคโกแลตสีส้ม
ตกแต่งออกมาเป็นลักษณะผลส้มน่ารักมากๆเลยค่ะ
เมนูนี้คือ ชูครีมจิ๋วไส้ทะลัก ที่เชฟบรรจงรังสรรค์ให้ 2 ชิ้นนี้มีรสชาติแตกต่างกันออกไปค่ะ
โดย ชิ้นทางซ้ายจะเป็นรสชาติไข่เค็ม และทางด้านขวามือเป็นรสชาติมันม่วงค่ะ
อันนี้เป็นเครื่องดื่มที่สั่งมาแยกต่างหากค่ะ แต่ใครไป แนะนำให้ลองสั่งมาทานกันดูค่ะ คือน้ำส้มยูสุโซดา
[CR] เ มื่ อ ฉั น ไ ป ร้ า น โ อ ม า ก า เ ส ะ (When I : Omakase)
ด้วยนี่เป็นการเขียนกระทู้รีวิวครั้งแรกของไลฟ์จริงๆ
ยังไงถ้ามีข้อผิดพลาดหรือการใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม รบกวนติชม หรือช่วยแนะนำกันได้เลยนะคะ
อ่ะ! มาเข้าเรื่องร้านโอมากาเสะ ที่ไลฟ์ได้มีโอกาสแวะเข้าไปทานกันดีกว่าค่ะ
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินรูปแบบการกินที่เรียกว่า "โ อ ม า ก า เ ส ะ" กันมาบ้าง ไลฟ์ขออธิบายคร่าวๆสำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้จักนะคะ จะได้ทำความเข้าใจกับสไตล์อาหารในวันนี้ ไฟพร้อมๆกันเลยค่ะ
สำหรับ Appetizer เซทที่แรก ที่ยกมานำเสนอนะคะ ได้แก่ เซทซุปเจลลี่เนื้อปูอะลาสกาที่ส่งตรงมาจากเกาะ Hokkaido เลยค่ะ มาคู่กับ ปลาไข่ชิชาโมะ ซึ่งจัดเสิร์ๆมาพร้อมกับเต้าหู้ในซอสซีอิ้ว (ซึ่งปกติไลฟ์เป็นคนไม่ชอบทานเต้าหู้จริงๆ แต่พอมาเจอของที่นี่ ไลฟ์ยอมคาราวะเลยค่ะ)เค้าปรุงรสซอสได้ดีมาก เต้าหู้ก็เป็นแบบหนึบๆเคี้ยวเพลินจริงๆค่ะ ตามมาด้วยสาหร่ายสีแดงในซุปข้น และถั่วลันเตา พอให้เคี้ยวกันกรุบกริบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้