แชร์ประสบการณ์ เข้าไปแอดมิทเพื่อรักษาอาการซึมเศร้าครับ

สวัสดีครับ วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้เข้าไปรักษาโรคซึมเศร้าในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ถ้าพูดชื่อทุกคนต้องรู้จักแน่นอนว่าเป็นโรงพยาบาลที่รักษาเกี่ยวกับโรคทางจิตเวช

     ก่อนถึงตรงนั้นคือผมรักษาโรคซึมเศร้ามา 5ปีแล้วที่โรงพยาบาลเอกชนที่นึงซึ่งต้องบอกว่าคุณหมอค่อนข้างเอาใจใส่ดีมาก แต่อาการผมก็มีแต่ทรงกับทรุดจนวันหนึ่งผมตัดสินใจฆ่าตัวตาย ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกด้วยครับ ทางคุณหมอเลยแนะนำว่าอยากให้ผมไปรักษาตัวที่รพ.ข้างต้น ที่มีนักจิตบำบัด อาจจะทำให้ผมดีขึ้น

     ผมเลยตัดสินใจยอมถูกส่งตัวไป  พอไปถึงตรวจอะไรเสร็จ ระหว่างนั้นผมรู้สึกกลัวเพราะบบรรยากาศค่อนข้างน่ากลัว จึงปฏิเสธที่จะเข้ารับการรักษาที่นี่ แต่คุณหมอที่ตรวจก็คะยั้นคะยอบอกว่าให้นอนพักที่นี่ก่อนซัก 1 คืนผมก็คิดว่าอะ 1 คืนไม่เป็นไร
   
     จากนั้นก็ได้เวลาส่งตัวขึ้นวอร์ดครับ พอเดินเข้าไปปุ๊บก็มีคนไข้ที่เหมือนจะอยู่มานานแล้วเดินเข้ามาจับผมถอดเสื้อผ้าทุกชิ้น ยอมรับเลยว่าวินาทีนั้นชอคครับ คือต้องบอกก่อนว่าผมเป็นเกย์ แต่เป็นเกย์ที่ค่อนข้างกลัวผู้ชาย คือถ้าทำงานด้วยกันปกติก็ไม่มีอะไร แต่ให้ถอดเสื้อผ้า หรืออาบน้ำด้วยกันอันนี้จะมีปมจากการโดนแกล้งมาตั้งแต่เด็กเพราะโดนญาติที่เป็นผู้ชายลวนลาม แล้วโตมาหน่อยเพื่อนก็ชอบแกล้ง
   
    คืนแรกเค้าแจ้งว่าเป็นกฎทุกคนต้องโดนมัดมือไว้กับเตียงเพื่อดูอาการ
   
    เช้าวันต่อมา ก็ได้เวลาตื่นพอตื่นทุกคนก็จะรีบวิ่งไปอาบน้ำแน่นอนครับเป็นการอาบน้ำรวม ผมเลยรอให้ทุกคนอาบเสร็จแล้ววิ่งไปล้างหน้าแปรงฟัน  จากนั้นก็กินข้าวเรื่องอาหารขอข้ามนะครับเพราะเป็นที่รู้กัน จากนั้นผมก็กลับมาที่เตียงเริ่มมีผู้ป่วยคนอื่นมาคุยด้วยมีบางคนเสนอตัวว่าจะดูแลในระหว่างช่วงที่อยู่ที่นี่ เค้าร้องเพลงให้ฟังด้วย ตอนนี้พอผมได้ยินเพลงนี้ผมจะยิ้มออกเฉย อาจจะเพราะเป็นสิ่งดีที่สุดที่เกิดขึ้นในนั้น แล้วก็ผ่านไปอีกคืนผมก็โดนมัดอีกผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงโดนมัด แล้วอารมณ์ที่ดาวน์ของผมก็ร่วงสุดขีดเลยครับ วันต่อมาผมไม่ลุกจากเตียงแล้วผมไม่อยากขยับตัว อยากนอนเฉย ไม่กินข้าว ยิ่งต้องมาเห็นภาพหดหู่ยิ่งกินไม่ลง
     
    คือต้องบอกเลยนะครับว่าผู้ป่วยคนไหนที่ไม่รู้เรื่องแบบไม่รู้เรื่องมากๆเนี่ย จากที่ผมเห็นโดนแกล้งครับ เค้าอยากได้หนังสือไปอ่านเจ้าหน้าที่ให้เค้าเอาหน้ามาซุกเป้าเจ้าหน้าที่ก่อนถึงจะให้  แล้วแก้วน้ำกับแปลงสีฟันนะครับมีที่ให้แขวนแต่ถึงเวลาหยิบใช้มั่วหมดไม่รู้ของใครเป็นของใคร ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดในรพ. แต่ส่วนตัวผมเอาแก้วกับแปรงมาเก็บไว้ที่ตัวครับ     
   วันนี้เป็นวันที่ผมแจ้งว่าผมขอออกขอปฏิเสธการรักษา มันหดหู่หนักกว่าเดิม มันรู้สึกแย่ไม่มีแรงและไม่อยากกินข้าว และก็ถึงเวลานอนเค้าก็จับผมมัดอีกโดยไม่ทราบสาเหตุ
   
    ตื่นวันต่อมาวันนี้เกิดเรื่องร้ายแรงสำหรับผมมากที่สุดที่ชีวิตนี้เคยเจอเลยครับ คือผมไม่มีแรง ไม่อยากไปอาบน้ำผมกลัว แล้วผมก็รอแค่หมอมาคุยเพื่อที่ผมจะขอออกจาก รพ. 

    ซักพักนึงมีผู้ช่วยพยาบาลผู้ชายมาบอกให้ผมไปอาบน้ำเค้าพูดดีนะครับ แต่ผมบอกว่าผมไม่อยากไปอาบ จากนั้นก็มีผู้ช่วยพยาบาลอีก2คนมาอุ้มผมไปในห้องน้ำเรียกว่าลากไปน่าจะดีกว่า พอถึงในห้องน้ำปั๊บพอผมยืนทรงตัวได้ ผู้ช่วยคนนั้นก็เตะขัดขาผมจนไปล้มพับในห้องน้ำถึง 3 รอบจากนั้นก็ดึงเสื้อผ้าผมออกหมดแล้วเอาน้ำสาด จนพยาบาลเดินมาบอกให้เบาๆหน่อยอย่ารุนแรง ตอนนั้นผมนั่งร้องไห้เลยครับ คือไม่รู้เลยว่านี่ผมมารักษาตัวหรือมาให้มันแย่หนักกว่าเดิม แล้วเค้าก็ประคองผมไปส่งที่เตียง ก็มีพยาบาลผู้หญิงมาขอโทษ แล้วก็ถามว่าเรากลัวผู้ชายหรอ เล่าให้ฟังได้มั้ยว่าทำไมถึงกลัว

    แต่ตอนนั้นผมไม่อยากคุยกับใครแล้วผมนอนร้องไห้รอหมอ ซึ่งหมอก็ไม่เคยมา  แน่นอนผมไม่กินข้าวอีก  จนถึงตอนนอนผมก็โดนมัดอีก ซักพักนึงระหว่างที่ผมนอนร้องไห้จนเหนื่อยภาพก็ตัดครับ ผมรู้ตัวอีกทีคือโรคลมชักผมกำเริบและไหล่ซ้ายผมหลุด ผมพยายามบอกผู้ดูแลว่าไหล่ซ้ายผมหลุดและมันปวดมาก เค้าบอกว่ามันไม่ได้หลุดผมบอกเค้าว่าจะไม่หลุดได้ไงลองจับสิกระดูกปูดขนาดนี้ เค้าก็บอกว่าไม่หลุด ผมเลยถามว่าบอกหมอหรือยังเค้าก็ตอบว่าบอกแล้ว ผมเลยต้องนอนโดนมัดแขนทั้งที่ไหล่หลุดและปวดมากอยู่ทั้งคืน

     พอเช้าวันต่อมาหัวหน้าพยาบาลมาเค้าค่อนข้างตกใจที่ไหล่ผมหลุด จึงโทรแจ้งหมอ จากนั้นผู้ช่วยที่บอกว่าไม่หลุดเมื่อคืนก็เดินเข้ามาขอโทษเค้าบอกว่าคิดว่าผมโกหก ทั้งที่ตลอดเวลาที่อยู่ที่รพ.ผมไม่เคยโกหก ไม่เคยขออะไรเลยนอกจากอยากขอกลับ จากนั้นเนื่องจากทางรพ.ไม่มีหมอกระดูก รพ.เดิมที่ผมรักษาจึงมารับผมกลับไป

    ที่ผมเล่าไม่ได้ต้องการดิสเครดิตโรงพยาบาลนะครับ แค่อยากจะบอกถึงผู้ป่วยโรคซึมเศร้าว่าถ้าหากคุณต้องไปซักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้ ถ้าเป็นไปได้เลือกห้องพิเศษเพิ่มอาจจะดีต่อตัวคุณเองเพราะในวอร์ดไม่ได้มีแค่ผู้ป่วยซึมเศร้า แต่มีหลายประเภท ทั้งจิตเภท ไบโพล่าร์ ไปจนถึงยาเสพติด  แต่ตัวผมคงไม่กลับไปรพ.นี้อีกแล้ว คุณหมอที่รักษาผมก็กำลังวางแผนการรักษาชอตไฟฟ้าให้กับผมอยู่ ก็ได้แต่หวังว่าจะดีขึ้นครับ เพราะทุกวันนี้อย่างเดียวที่ทำให้ผมยังทนอยู่ได้คือแมว  ผมก็อยากจะดีขึ้นแล้วอยู่กับแมวไปนานๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่