ถึง จ็อบซัง : วันนี้มีคนนอกถามผมว่า “พวกเราจะอะไรกันนักหนา ก็แค่เค้ามาขอใช้พื้นที่” ผมสรุปดังนี้ครับ

กระทู้สนทนา
นี่คือความเห็นส่วนตัวผมต่อเรื่องนี้

ผมมองว่าประเด็นของเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องความศักดิ์สิทธ์ การหวงพื้นที่อะไร อย่างที่คนนอกเข้าใจ
มันมีนัยยะอยู่ภายใต้เหตุการณ์นี้

สรุปสั้นๆ สำหรับผมคือ อฟช. คุณสร้างคำถามขึ้นมาในใจผมว่า
1. คุณเอาเงินที่พวกเราทุ่มเทให้กับ bnk48 ไปทำอะไร
2. คุณจะนำพา bnk48 ไปในทิศทางไหน
3. คุณจะทำต่อไหม bnk48 เนี่ย ถ้าไม่ทำก็บอกมาตรงๆ เราก็ต่างคนต่างไป

แค่นี้เอง

ผมมองเหตุการณ์นี้เป็น 3 ส่วน

1. ไม้ขีดไฟก้านแรกของเรื่องนี้

คือการที่ the brother มาใช้พื้นที่

ผมขอย้ำอีกทีว่า ไม่เคยตำหนิ น้องๆ the brother และทีมงานพี่ติ๊ก แม้แต่นิดเดียว 

เพราะประเด็นของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่พวกคุณมาใช้พื้นที่
แต่ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่ การแสดงออกของแนวคิดของผู้บริหารที่มีต่อ bnk48

คุณเบียดบังสิทธิของน้อง bnk โดยการที่น้องๆ ต้องไปซ้อมที่อื่น
คุณเบียดบังความเป็นส่วนตัวของน้อง bnk โดยให้คนอื่นมาใช้พื้นที่ 
และที่สำคัญคือคุณทำลายน้ำใจของ กลุ่ม founder 
พ่อบ้าน station บอกว่า เค้าเหมือนถูกลากมาตบหน้ากลางสี่แยก

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

บางคนอาจจะคิดว่ามันเวอร์
แต่ที่จริงความรู้สึกนี้มันมีเรื่องอื่นๆ ทับซ้อนอยู่ด้วยไง

เค้าไม่ได้จ่าย 20,000 แล้วจบ ไม่ใช่
แฟนคลับแต่ละคน ปีๆนึง ทุ่มให้วงตั้งเท่าไร
บางคนปีนึงหมดหลักแสน

บัตรจับมือบางคน 5 ใบ 10 ใบ บางคน 100 ใบ
เค้าซื้อสินค้าคุณภาพสำเพ็งของพวกคุณ
เพราะเค้าอยากได้เหรอ 
พวงกุญแจอันละหลายร้อยอ่ะนะ ที่ไม่ได้มีคุณภาพอะไรเลย
Photobook กี่เล่มเข้าไปแล้วที่เก็บกันไว้
แล้วยังของจิปาถะต่างๆ มากมาย
สนับสนุนหนังของพวกคุณ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่น้องๆ เป็น BA

เพราะอะไร?
เพราะอยากสนับสนุนน้องๆ
ให้น้องๆ มีงาน มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ให้วงได้ไปต่อ

แต่ท่าทีของอฟช. จากการกระทำนี้
มันฟ้องว่า พวกคุณไม่ได้คิดแบบเดียวกับเรา
พวกคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับเมมเบอร์กับวงเหมือนเรา

นี่ต่างหากคือสาเหตุที่คนเค้าเดือดกัน
ไม่ใช่เรื่องการใช้พื้นที่แต่เพียงอย่างเดียว
แต่คือนัยยะที่อยู่หลังเหุการณ์นี้

2. สายชนวน ของเหตุการณ์นี้

คือการที่คุณมีท่าที ที่จะให้น้องๆ ร่วมงานกับไอดอลชาย
ใช้สถานที่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน

ไม่มีวงไอดอลหญิงที่ไหน ทำแบบนี้
ต่อให้วงไอดอลอื่นในไทย ทำแบบที่คุณทำ
รับรองว่าก็โดนเละเหมือนกัน

คุณอาจจะคิดว่าเราหวงในทางชู้สาว
ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่

วงเราตั้งมานานพอสมควร
ผมคิดว่าผมเชื่อใจเมมเบอร์ของเรา
เชื่อใจโอชิของเรา
อย่างน้อย ผมเชื่อใจน้องๆ 99% ว่าจะไม่ทำให้เราผิดหวัง

ถามว่าเรากลัวน้องมีแฟนเหรอ
ไม่ใช่
นั่นสิทธิส่วนบุคคลของน้อง
ชีวิตน้อง น้องเลือกเอง

เราห่วงอนาคตน้องต่างหาก
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีข่าวว่าน้องมีแฟน
ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่จริง
คิดว่าทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้ว

น้องเราถูกพักงาน
ความนิยมน้องเราตก
น้องเราอาจต้องออกจากวง
แม้ว่าตอนนี้ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าน้องๆ ออกจากวงอาจจะดีกว่าก็ตาม
อนาคตน้องเราเสีย

นี่ต่างหากสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น

เราไม่ได้หวงน้องบ้าบอไร้สติ
พวกเราโตๆ กันแล้วทั้งนั้น

3. ลูกระเบิดของเหตุการณ์นี้

คือ จุดยืนที่คุณมีต่อเมมเบอร์ และ วง bnk48

คุณแสดงให้เราเห็นว่า คุณไม่ได้มีความจริงใจในการทำวงนี้
คุณจะทำยังไงกับน้องเราก็ได้งั้นเหรอ
คุณจะทำยังไงกับวงก็ได้งั้นเหรอ

เราสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของวง
เราโหวตเลือกตั้ง
ด้อมต่างๆ แฟนคลับต่างๆ ทุ่มเท ให้กับงานของวง
พวกเค้าพยายามปั่นวิว
ทำโปรเจคชักชวนคนมาสนับสนุนวง
บอกเล่าถึงข้อดีต่างๆ ของน้องๆ
แก้ความเข้าใจผิดต่างๆ ของคนนอก

ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน
กำลังกาย กำลังใจ เวลา
พวกเราใช้ทั้งนั้น
บางคนเหนื่อย บางคนท้อ
เพื่ออะไร
ก็เพื่อที่จะ "สู้ไปด้วยกัน"
อย่างที่น้องๆ บอก

พิมพ์ไปก็น้ำตาไหลไป

 แล้วพวกคุณทำอะไร ตั้งใจจะทำอะไร

"เราไม่ได้ทุ่มเทเพื่อให้พวกคุณทำกับน้องๆ แบบนี้"

นี่ต่างหากคือลูกระเบิดของเหตุการณ์นี้

ถ้าคุณคิดว่าเงินในกระเป๋าพวกคุณ
พวกคุณจะใช้อย่างไรก็ได้
ต่อไปเงินในกระเป๋าพวกเรา
เราก็จะใช้อย่างไรก็ได้เช่นกัน
เราก็จบกัน แยกย้าย ต่างคนต่างไป

.....................................................

ถึง จ็อบซัง
ภาพของคุณในสายตาแฟนคลับดีมาตลอด
แต่ว่ามันกำลังพังลงเพราะเหตุการณ์นี้

เรื่องนี้ผมลองคิดในมุมของคุณ
ผมว่าผมเห็นใจคุณนะ

ฝั่งนึงคือแฟนคลับและเมมเบอร์
ฝั่งนึงคือพี่ชาย

ผมมีพี่ชายทำบริษัทเหมือนกัน
ไม่รู้บ้านอื่นเป็นยังไง
แต่บ้านผม ผมเสนอความเห็นได้ แต่การตัดสินใจของพี่ชายถือเป็นที่สุด ผมไม่มีสิทธิโต้แย้งอะไรได้

ผมดูคุณจ็อบ คุณเป็นคนหัวอ่อน ไม่ใช่คนแข็ง
ผมคิดเองว่า คุณคงตกอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากผม
ดังนั้น เรื่องนี้ สำหรับผมนะ ผมไม่ตำหนิคุณ

แม้ว่าคุณอาจจะอยากบอกออกมาตรงๆ ว่า
เราจะให้วงชายใช้สถานที่นะ
เราจะมีวงชายมาร่วมงานด้วยนะ
เราจะมีกิจกรรมร่วมกันนะ

แต่ผมก็รู้ว่าคุณก็ไม่สามารถทำได้
จริงๆ ผมแอบคิดว่า ถ้าคุณเป็นลูกจ้างธรรมดา ไม่ใช่น้องชายผู้บริหาร
ผมคิดว่าคุณคงสบายใจกว่านี้
ผมรู้คุณเหนื่อยมากตอนนี้
สำหรับผม ผมไม่ตำหนิคุณ

แต่ถ้าคุณยังยืนอยู่ตรงจุดนี้
ก็อยากให้คิดถึงใจของเมมเบอร์ให้มากกว่านี้
ใจของแฟนคลับให้มากกว่านี้

ขอบคุณครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่