เรื่อง ดราม่าเธียเตอร์นี้สำหรับผม ผมว่าเรื่องเล็กมากครับ แก้ไขได้ไม่ยากแต่มันเป็นเรื่องปลายเหตุ
ต้นเหตุจริงๆ ก็คือแนวคิดที่ผู้บริหารที่ต้องการจะเอา BNK ไป collaborate กับวงอื่นๆในสังกัด คือทำยังไงก็ได้ให้สิ่งที่ลงทุนไปทำเงินคืนมาให้ได้เร็วที่สุด วิสัยทัศน์แบบนี้แสดงว่าคิดเรื่อง profitable เป็นอันดับแรก ผู้บริหารที่โลภมากและฉาบฉวยมักจะมีวิธีคิดแบบนี้ พอเห็นช่องทางทำเงินปุ๊ป รีบคว้าไว้เลย แต่ลืมคิดถึงฐานแฟนคลับซึ่งเป็นตลาดและเสาหลักของตัวเอง สาเหตุที่ต้องรีบมากขนาดนี้ ก็เพราะกลัวจะมีกลุ่มทุนอื่นจะแย่งตลาดนี้ไป (ตลาดไอดอลชาย)
ถ้าผู้บริหารยังมีวิสัยทัศน์แบบนี้ทำนายได้เลยว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพังทลาย 48group ในไทย เพราะตลาดไอดอลหญิง มันคนละฐานอย่างสิ้นเชิงกับตลาดไอดอลชาย ต่อให้จะพยายามยังไงมันก็ไม่มีทาง collaborate กันได้เลย นี่ผมพูดถึงตลาดในไทยนะครับ
แล้วทำไม collaborate กันไม่ได้ ?
เพราะตลาดแฟนคลับไอดอลหญิงนั้น มันไม่ได้ใหญ่อย่างที่ผู้บริหารคิดครับ การจะขยายฐานแฟนใหม่ของ BNK48 ด้วยการปั้นวงชายขึ้นมาใหม่ แล้วจะให้ไปควบคู่กัน มันเป็นแนวคิดที่เป็นไปไม่ได้ เพราะแฟนคลับที่เป็นผู้หญิงในอนาคตของวงไอดอลชาย กลุ่มนี้ผมมองว่าน่ากลัวมากๆ มีกำลังจ่ายสูงก็จริง และกลุ่มนี้เองก็จะแอนตี้ BNK48 ที่เป็นวงไอดอลหญิงแน่นอน และจะพยายามทำทุกทางไม่ให้ BNK48 ได้เกิด
ความรู้สึกเดียวกับที่โอตะหลายๆคนแอนตี้วงไอดอลชาย หากจับ collab กันเมื่อไหร่ ผมมองว่า ความ

มาเยือนแน่ๆ
ฐานแฟนคลับของตัวเองทั้งไอดอลหญิงและไอดอลชายจะสร้างดราม่าใส่กันแบบไม่มีวันสิ้นสุด และสุดท้ายบริษัทก็เจ๊งเพราะแฟนคลับไอดอลชายหญิงทะเลาะกันแล้วรวมกลุ่มกันแอนตี้ งดสนับสนุนสินค้าทุกๆอย่าง เหมือนที่บริษัทโดนตอนนี้
หากยังดึงดันใช้วิสัยทัศน์แบบนี้ต่อไป ผมทำนายเลยว่าอีกไม่นาน IAM ถึงจุดจบแน่นอน
ปล.สุดท้ายนี้ฝากถึง อฟช.นะครับ คุณคิดว่าต้นแบบตลาดไอดอลอย่างญี่ปุ่นเค้ามองไม่เห็นช่องทางทำเงินแบบที่พวกคุณคิดหรอครับ คุณคิดว่าวิสัยทัศน์ผู้บริหารญี่ปุ่นเค้าโง่ขนาดนั้นหรอ?
ผมตอบให้นะ เค้ามองเห็นทะลุปรุโปร่งทุกซอกทุกมุมของธุรกิจนี้ไงครับ เค้าอาบน้ำร้อนมาก่อนพวกคุณมาเป็นสิบๆปีครับ เรื่องแค่นี้ทำไม่เค้าจะมองไม่ออก ที่เค้าเลือกไม่ทำวงไอดอลชาย เพราะมันจะให้ทำธุรกิจไอดอลหญิงของเค้าเจ๊ง แบบที่ผมอธิบายไปนั่นแหละครับ
++ วิสัยทัศน์นักธุรกิจ ที่โลภมาก ฉาบฉวย สุดท้ายจะพากันเจ๊งทั้งบริษัท ++
ต้นเหตุจริงๆ ก็คือแนวคิดที่ผู้บริหารที่ต้องการจะเอา BNK ไป collaborate กับวงอื่นๆในสังกัด คือทำยังไงก็ได้ให้สิ่งที่ลงทุนไปทำเงินคืนมาให้ได้เร็วที่สุด วิสัยทัศน์แบบนี้แสดงว่าคิดเรื่อง profitable เป็นอันดับแรก ผู้บริหารที่โลภมากและฉาบฉวยมักจะมีวิธีคิดแบบนี้ พอเห็นช่องทางทำเงินปุ๊ป รีบคว้าไว้เลย แต่ลืมคิดถึงฐานแฟนคลับซึ่งเป็นตลาดและเสาหลักของตัวเอง สาเหตุที่ต้องรีบมากขนาดนี้ ก็เพราะกลัวจะมีกลุ่มทุนอื่นจะแย่งตลาดนี้ไป (ตลาดไอดอลชาย)
ถ้าผู้บริหารยังมีวิสัยทัศน์แบบนี้ทำนายได้เลยว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพังทลาย 48group ในไทย เพราะตลาดไอดอลหญิง มันคนละฐานอย่างสิ้นเชิงกับตลาดไอดอลชาย ต่อให้จะพยายามยังไงมันก็ไม่มีทาง collaborate กันได้เลย นี่ผมพูดถึงตลาดในไทยนะครับ
แล้วทำไม collaborate กันไม่ได้ ?
เพราะตลาดแฟนคลับไอดอลหญิงนั้น มันไม่ได้ใหญ่อย่างที่ผู้บริหารคิดครับ การจะขยายฐานแฟนใหม่ของ BNK48 ด้วยการปั้นวงชายขึ้นมาใหม่ แล้วจะให้ไปควบคู่กัน มันเป็นแนวคิดที่เป็นไปไม่ได้ เพราะแฟนคลับที่เป็นผู้หญิงในอนาคตของวงไอดอลชาย กลุ่มนี้ผมมองว่าน่ากลัวมากๆ มีกำลังจ่ายสูงก็จริง และกลุ่มนี้เองก็จะแอนตี้ BNK48 ที่เป็นวงไอดอลหญิงแน่นอน และจะพยายามทำทุกทางไม่ให้ BNK48 ได้เกิด
ความรู้สึกเดียวกับที่โอตะหลายๆคนแอนตี้วงไอดอลชาย หากจับ collab กันเมื่อไหร่ ผมมองว่า ความ
ฐานแฟนคลับของตัวเองทั้งไอดอลหญิงและไอดอลชายจะสร้างดราม่าใส่กันแบบไม่มีวันสิ้นสุด และสุดท้ายบริษัทก็เจ๊งเพราะแฟนคลับไอดอลชายหญิงทะเลาะกันแล้วรวมกลุ่มกันแอนตี้ งดสนับสนุนสินค้าทุกๆอย่าง เหมือนที่บริษัทโดนตอนนี้
หากยังดึงดันใช้วิสัยทัศน์แบบนี้ต่อไป ผมทำนายเลยว่าอีกไม่นาน IAM ถึงจุดจบแน่นอน
ปล.สุดท้ายนี้ฝากถึง อฟช.นะครับ คุณคิดว่าต้นแบบตลาดไอดอลอย่างญี่ปุ่นเค้ามองไม่เห็นช่องทางทำเงินแบบที่พวกคุณคิดหรอครับ คุณคิดว่าวิสัยทัศน์ผู้บริหารญี่ปุ่นเค้าโง่ขนาดนั้นหรอ?
ผมตอบให้นะ เค้ามองเห็นทะลุปรุโปร่งทุกซอกทุกมุมของธุรกิจนี้ไงครับ เค้าอาบน้ำร้อนมาก่อนพวกคุณมาเป็นสิบๆปีครับ เรื่องแค่นี้ทำไม่เค้าจะมองไม่ออก ที่เค้าเลือกไม่ทำวงไอดอลชาย เพราะมันจะให้ทำธุรกิจไอดอลหญิงของเค้าเจ๊ง แบบที่ผมอธิบายไปนั่นแหละครับ