1) คุณแม่ อายุ 75 ปี โดน Big Bike ชน คนชนอายุ 25ปี ไม่มีประกัน ขาด พรบ.
2) อาการคุณแม่บาดเจ็บสาหัส กระตูสะโพกแตก แขนหัก หัวแตก และก่อนที่จะโดนชนอยู่ในระหว่างการให้คีโมและฉายแสงจากโรคมะเร็ง
3) มีการแจ้งความ ตกลงค่าเสียหายที่สถานีตำรวจไม่ได้ และคนชนไม่รับผิด คนชนมีทนาย เราตั้งทนาย และทนายดูแลดีมาก มั่นใจว่าชนะคดีและสามารถเรียกค่าเสียหายได้อาจถึงล้านบาท
4) เกือบ 2 ปีต่อมา มีการขึ้นศาลอาญา ฝ่ายเราเรียกค่าเสียหายไปประมาณ
1 ล้านบาท โดยรวมจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและค่าใช้จ่ายในอนาคต 50/50 ในชั้นศาล ผู้ชนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และศาลนัดอีกครั้งสองเดือนหน้าเพื่อนัดพยายานมาให้ข้อมูลเพิ่ม
5) ทนายของคนชน แจ้งว่า คนชนสามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ที่
2แสนบาทเท่านั้น หากมากกว่านี้ให้ทำเรื่องบังคับคดีต่อเอง
6) ทนายของเรา ในช่วงแรกมีความมั่นใจว่าสามารถชนะคดีได้แน่นอนและสามารถเรียกค่าเสียหายได้ตามที่ต้องการ แต่พอมาอยู่ที่ศาล ทนายเราแนะนำว่าให้รับเงิน 2แสนบาทเท่านั้น เพราะบังคับบดีต่อก็มีความเสี่ยงว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น เนื่องจากคนชนอาจจะไม่มีสินทรัพย์ใดๆ อาจได้ไม่คุ้มเสีย และไม่มีการแนะนำใดๆ พอจากห้องศาล แยกย้ายกลับบ้าน งง ไม่เหมือนตอนคุยกันก่อนหน้านี้
จึงขอสอบถามความคิดเห็นทุกท่านว่า เราควรทำอย่างไรดี รับเงิน 2 แสนแล้วจบเรื่อง? หรือควรมีแนวทางต่อสู้คดีอย่างไรค่ะ
(สภาพปัจจุบันของแม่ตอนนี้ ไม่สามารถเดินได้อย่างคล่อง ต้องใช้ไม้เท้าหรือรถเข็น เท่านั้น ประกอบภารกิจประจำวันไม่ได้เหมือนเคย เช่น การออกกำลังกาย การซื้อกับข้าว การประกอบอาชีพปกติ ฯลฯ นอกจากนั้นยังต้องมีผู้ดูแลอยู่ตลอดเวลาด้วย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1) คนชน ทำอาชีพเทรนเนอร์ฟิตเนส
2) ค่าใช้จ่ายทนาย 100,000 บาท + ค่าชดได้ที่ได้รับ 10% << ราคานี้เหมาะสมแล้วไหม?
[ขอความรู้/ข้อเสนอแนะ] แม่โดนรถ Big Bike ชน เรื่องถึงศาลอาญา และท่าทีทนายตอนขึ้นศาล
2) อาการคุณแม่บาดเจ็บสาหัส กระตูสะโพกแตก แขนหัก หัวแตก และก่อนที่จะโดนชนอยู่ในระหว่างการให้คีโมและฉายแสงจากโรคมะเร็ง
3) มีการแจ้งความ ตกลงค่าเสียหายที่สถานีตำรวจไม่ได้ และคนชนไม่รับผิด คนชนมีทนาย เราตั้งทนาย และทนายดูแลดีมาก มั่นใจว่าชนะคดีและสามารถเรียกค่าเสียหายได้อาจถึงล้านบาท
4) เกือบ 2 ปีต่อมา มีการขึ้นศาลอาญา ฝ่ายเราเรียกค่าเสียหายไปประมาณ 1 ล้านบาท โดยรวมจากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและค่าใช้จ่ายในอนาคต 50/50 ในชั้นศาล ผู้ชนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และศาลนัดอีกครั้งสองเดือนหน้าเพื่อนัดพยายานมาให้ข้อมูลเพิ่ม
5) ทนายของคนชน แจ้งว่า คนชนสามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ที่ 2แสนบาทเท่านั้น หากมากกว่านี้ให้ทำเรื่องบังคับคดีต่อเอง
6) ทนายของเรา ในช่วงแรกมีความมั่นใจว่าสามารถชนะคดีได้แน่นอนและสามารถเรียกค่าเสียหายได้ตามที่ต้องการ แต่พอมาอยู่ที่ศาล ทนายเราแนะนำว่าให้รับเงิน 2แสนบาทเท่านั้น เพราะบังคับบดีต่อก็มีความเสี่ยงว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น เนื่องจากคนชนอาจจะไม่มีสินทรัพย์ใดๆ อาจได้ไม่คุ้มเสีย และไม่มีการแนะนำใดๆ พอจากห้องศาล แยกย้ายกลับบ้าน งง ไม่เหมือนตอนคุยกันก่อนหน้านี้
จึงขอสอบถามความคิดเห็นทุกท่านว่า เราควรทำอย่างไรดี รับเงิน 2 แสนแล้วจบเรื่อง? หรือควรมีแนวทางต่อสู้คดีอย่างไรค่ะ
(สภาพปัจจุบันของแม่ตอนนี้ ไม่สามารถเดินได้อย่างคล่อง ต้องใช้ไม้เท้าหรือรถเข็น เท่านั้น ประกอบภารกิจประจำวันไม่ได้เหมือนเคย เช่น การออกกำลังกาย การซื้อกับข้าว การประกอบอาชีพปกติ ฯลฯ นอกจากนั้นยังต้องมีผู้ดูแลอยู่ตลอดเวลาด้วย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้