ครั้งแรกที่ได้รับเชิญ จากทางโรงแรม The Athenee Hotel ให้ไปชิมอาหารฝรั่งเศส
เกือบตอบปฏิเสธไป เพราะไม่มึความรู้เกี่ยวกับอาหารฝรั่งเศสเลย โดยเฉพาะเรื่องของไวน์
แต่มาคิดอีกที นี่น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาได้ยาก ที่จะได้ชิมอาหาร ที่มีความพิถีพิถัน
ทั้งในเรื่องของวัตุดิบและการปรุง รวมไปถึงศิลปะของการจัดวางอาหารบนจานที่สวยงาม
อีกทั้งที่นี่ไม่อนุรักษ์นิยมประเภทต้องใส่สูทผูกไท ขอแค่แต่งกายสุภาพ ไม่ขาสั้นไม่รองเท้าแตะ
จึงตอบตกลงไป และนัดเจอกัน 18.30 น.ของวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์
วันพุธที่ 5-2-20 17.59 น.เดินทางถึง The Athenee Hotel ถนนวิทยุ
ห้องอาหาร The Allium Bangkok ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรม
Allium (อัลเลี่ยม) เป็นชื่อเรียกสกุล (Genus) ของพืชดอก ซึ่งมีหลายสปีชีส์ รวมถึง
หอมใหญ่ กระเทียม ต้นหอม หอมแดงและกุยช่าย
เปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ และปิดวันจันทร์ แบ่งการให้บริการเป็นสองช่วงเวลา คือ
มื้อกลางวัน 12.00-14.30น. และมื้อค่ำ 18.00-22.30น.
นอกจากห้องอาหารฝรั่งเศสแล้ว บนชั้นนี้ยังมีห้องอาหารไทย The House of Smooth Curry
ห้องอาหารจีน The Silk Road และห้องอาหารญี่ปุ่น Kintsugi
ในความคิดส่วนตัว ภาพของห้องอาหารฝรั่งเศสนั้น
น่าจะออกโทนน้ำตาล เป็นการดินเนอร์ใต้แสงเทียน
จึงค่อนข้างประหลาดใจ ที่ภายในเน้นโทนสีแดงสดตัดขาว
ซึ่งน่าจะเป็นสีที่ใช้ในร้านอาหารจีนมากกว่า
อาจเป็นเพราะอาหารฝรั่งเศสของร้านนี้ เป็นแบบ Modern French
มากลางคืนอาจจะดูมืดหน่อย แต่มากลางวันสว่าง เพราะด้านขวาเป็นกระจกรับแสงเข้า
เมื่อเข้ามาในร้านสิ่งที่เห็นเด่นชัด คือ บาร์เครื่องดื่มสีขาว มีเก้าอี้สูง 8 ตัว สำหรับนั่งดื่มรอแขกที่นัดไว้
หรือจะนั่งดื่มคุยธุรกิจ ที่โต๊ะหลังทางเข้า ก่อนที่จะย้ายไปนั่งรับประทานอาหาร
ตัวห้องอาหารแบ่งออกเป็นสองชั้น
ชั้นล่างจัดแบ่งพื้นที่เป็นหลายส่วน ทั้งแบบโต๊ะสี่เหลี่ยมเหมาะสำหรับสองถึงสี่คน
หรือแบบเป็นโต๊ะกลมสำหรับสองคนติดหน้าต่าง สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
โต๊ะยาวแบบ Chef Table สำหรับ 10 คน
เป็นมุม "อร่อยตามใจเชฟ" หรือ Chef Table สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารแบบเป็นกันเอง
เป็นมื้ออาหารหน้าครัวเปิด ซึ่งสามารถมองเห็นทุกขั้นตอนของการทำอาหาร
และสามารถซักถามพูดคุยกับเชฟ ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างอาหารแต่ละจาน
ตลอดจนรายละเอียดของวัตถุดิบ ที่เลือกมาทำอาหารได้ตลอดมื้ออาหาร
ส่วนตัวอยากลองอาหารแบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแนว Omakase แบบญี่ปุ่น หรือแบบไทย
เพราะนอกจากเชฟจะต้องคิดเมนูจากวัตถุดิบที่หาได้ในวันนั้น ยังต้องมีทักษะ
ในการสร้างความบันเทิงและความเป็นกันเอง และมีความรอบรู้ในการตอบข้อซักถามของแขกด้วย
ส่วนสุดท้ายเป็นโต๊ะนั่งในห้องสำหรับหกคน
หน้าตู้เก็บไวน์ซึ่งมีให้เลือกกว่า 200 ชนิด ซึ่งเน้นไวน์โลกเก่าอย่างฝรั่งเศสและอิตาลี
และเป็นห้องที่ทาง The Alliam Bangkok เตรียมไว้ให้ชิมอาหารรวม 3 คน
ห้องนี้ยังมีมุมเตาพิงจำลอง สร้างบรรยากาศเหมือนนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่บ้าน
ชั้นสองเป็นห้องสำหรับจัดเลี้ยงเป็นกลุ่มส่วนตัว รองรับได้ถึง 38 ที่นั่ง
[SR] เที่ยวไปกินไป by laser @ The Alliam Bangkok, The Athenee Hotel
เกือบตอบปฏิเสธไป เพราะไม่มึความรู้เกี่ยวกับอาหารฝรั่งเศสเลย โดยเฉพาะเรื่องของไวน์
แต่มาคิดอีกที นี่น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาได้ยาก ที่จะได้ชิมอาหาร ที่มีความพิถีพิถัน
ทั้งในเรื่องของวัตุดิบและการปรุง รวมไปถึงศิลปะของการจัดวางอาหารบนจานที่สวยงาม
อีกทั้งที่นี่ไม่อนุรักษ์นิยมประเภทต้องใส่สูทผูกไท ขอแค่แต่งกายสุภาพ ไม่ขาสั้นไม่รองเท้าแตะ
จึงตอบตกลงไป และนัดเจอกัน 18.30 น.ของวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์
วันพุธที่ 5-2-20 17.59 น.เดินทางถึง The Athenee Hotel ถนนวิทยุ
ห้องอาหาร The Allium Bangkok ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรม
Allium (อัลเลี่ยม) เป็นชื่อเรียกสกุล (Genus) ของพืชดอก ซึ่งมีหลายสปีชีส์ รวมถึง
หอมใหญ่ กระเทียม ต้นหอม หอมแดงและกุยช่าย
เปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ และปิดวันจันทร์ แบ่งการให้บริการเป็นสองช่วงเวลา คือ
มื้อกลางวัน 12.00-14.30น. และมื้อค่ำ 18.00-22.30น.
นอกจากห้องอาหารฝรั่งเศสแล้ว บนชั้นนี้ยังมีห้องอาหารไทย The House of Smooth Curry
ห้องอาหารจีน The Silk Road และห้องอาหารญี่ปุ่น Kintsugi
ในความคิดส่วนตัว ภาพของห้องอาหารฝรั่งเศสนั้น
น่าจะออกโทนน้ำตาล เป็นการดินเนอร์ใต้แสงเทียน
จึงค่อนข้างประหลาดใจ ที่ภายในเน้นโทนสีแดงสดตัดขาว
ซึ่งน่าจะเป็นสีที่ใช้ในร้านอาหารจีนมากกว่า
อาจเป็นเพราะอาหารฝรั่งเศสของร้านนี้ เป็นแบบ Modern French
มากลางคืนอาจจะดูมืดหน่อย แต่มากลางวันสว่าง เพราะด้านขวาเป็นกระจกรับแสงเข้า
เมื่อเข้ามาในร้านสิ่งที่เห็นเด่นชัด คือ บาร์เครื่องดื่มสีขาว มีเก้าอี้สูง 8 ตัว สำหรับนั่งดื่มรอแขกที่นัดไว้
หรือจะนั่งดื่มคุยธุรกิจ ที่โต๊ะหลังทางเข้า ก่อนที่จะย้ายไปนั่งรับประทานอาหาร
ตัวห้องอาหารแบ่งออกเป็นสองชั้น
ชั้นล่างจัดแบ่งพื้นที่เป็นหลายส่วน ทั้งแบบโต๊ะสี่เหลี่ยมเหมาะสำหรับสองถึงสี่คน
หรือแบบเป็นโต๊ะกลมสำหรับสองคนติดหน้าต่าง สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
โต๊ะยาวแบบ Chef Table สำหรับ 10 คน
เป็นมุม "อร่อยตามใจเชฟ" หรือ Chef Table สำหรับผู้ที่ชอบรับประทานอาหารแบบเป็นกันเอง
เป็นมื้ออาหารหน้าครัวเปิด ซึ่งสามารถมองเห็นทุกขั้นตอนของการทำอาหาร
และสามารถซักถามพูดคุยกับเชฟ ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างอาหารแต่ละจาน
ตลอดจนรายละเอียดของวัตถุดิบ ที่เลือกมาทำอาหารได้ตลอดมื้ออาหาร
ส่วนตัวอยากลองอาหารแบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแนว Omakase แบบญี่ปุ่น หรือแบบไทย
เพราะนอกจากเชฟจะต้องคิดเมนูจากวัตถุดิบที่หาได้ในวันนั้น ยังต้องมีทักษะ
ในการสร้างความบันเทิงและความเป็นกันเอง และมีความรอบรู้ในการตอบข้อซักถามของแขกด้วย
ส่วนสุดท้ายเป็นโต๊ะนั่งในห้องสำหรับหกคน
หน้าตู้เก็บไวน์ซึ่งมีให้เลือกกว่า 200 ชนิด ซึ่งเน้นไวน์โลกเก่าอย่างฝรั่งเศสและอิตาลี
และเป็นห้องที่ทาง The Alliam Bangkok เตรียมไว้ให้ชิมอาหารรวม 3 คน
ห้องนี้ยังมีมุมเตาพิงจำลอง สร้างบรรยากาศเหมือนนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่บ้าน
ชั้นสองเป็นห้องสำหรับจัดเลี้ยงเป็นกลุ่มส่วนตัว รองรับได้ถึง 38 ที่นั่ง
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้