ใครบอกเชียงใหม่ร้อน ลองมานอนที่นี่ดู แล้วจะรู้ว่า ร่างกายต้องการแดดเป็นยังไง 

เรามาพักที่นี่กับเพื่อน 8 คน เลือกนอนบ้านแคปซูลไม้ไผ่ จอง 2 แคปซูลเลย แบบเหมา ๆ 4800 บาท เฉลี่ย คนละ 600 (ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วย) ถือว่าคุ้ม!!



น้อยมากที่ชีวิตคนกรุงอย่างเรา จะได้สัมผัสกับธรรมชาติท่ามกลางทุ่งนา ที่โอมล้อมด้วยวิวเขา พร้อมกับเสียงกระดิ่งจากฮอกควาย ที่ดีงามสุด

พูดถึงบ้านพักแคปซูลไม้ไผ่ เป็นบ้านยกสูงรูปทรงแคปซูลที่ทำด้วยไม้ไผ่ เรียกได้ว่าธรรมชาติล้วน ๆ มีห้องน้ำในตัว มีที่นอน 3 ชุด สามารถนอนได้ 6 คน หรือจะ แอดเพิ่มก็มีพื้นที่ พร้อมกับมีระเบียงยื่นออกไปด้านนอก ชมวิวจากห้องเราได้เลย




 และถ้าใครไม่อยากหนาวสะบั้นเวลาอาบน้ำ เตือนก่อนเลยว่า ห้องแคปซูลไม้ไผ่ ยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะ อาบน้ำทีแทบแข็ง สวดมนต์ 3 จบ ตั้งสติ ก่อนราดน้ำ โอ้ยยยยย!!!!


ถ้าถามหาสิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง ก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เพราะเน้นอยู่กับธรรมชาติจริง ๆ มีพัดลมก็แทบไม่ได้เปิด เพราะกลางคืนหนาวมาก ๆ 10 กว่าองศา แล้วแอดก็ไม่ได้เตรียมเสื้อหนาวไป โอ้ยยย!! 



นอกจากที่พักแบบแคปซูล แอดไป survey มา มีบ้านกลางนา กับบ้านชายทุ่งด้วย 2 หลังนั้น ต้องเดินสะพานไม้ไผ่ออกไป คืออยู่ท่ามกลางนาจริง ๆ ได้อีกฟิลนึงเลย


สำหรับใครที่จะฝากท้องสำหรับมื้อเย็น ที่นี่มีบริการหมูกระทะชุดละ 500 บาท เรากับเพื่อนสั่งไป 2 ชุด อิ่มแปร้ เหลือกินตอนดึกได้อี้กกกกกกกก
 
หรือใครไม่อยากปิ้งหมูกระทะ ก็จะมีชุดอาหารเย็น จ่ายเพิ่มคนละ 100 บาท
 


   
 
โดยรวมจัดว่าเกือบจะ Perfect เลย ตอบโจทย์คนชอบธรรมชาติสุด ๆ ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ เจ้าความเงียบ สงบ ความชิล 
 
ตอนเรามาเค้าเพิ่งเกี่ยวข้าวกันไป ทำให้ทุ่งนาไม่เขียวขจีเท่าไหร่ ใครอยากมาทุ่งเขียว ๆ น่าจะเป็นช่วงตุลานะ ลองถามกับทางที่พักอีกที เพื่อความฟินแบบ 100%

บรรยากาศยามเช้า

  

พีคในพีค ของการมาพักที่นี่ คือ ขอบอกว่า ทางโหดมากแม่ เพราะว่าเราต้องขึ้นต่อมาจากเชียงดาวอีกประมาณ 30 กม. ตลอดทางหลุมเยอะ โค้งแยะ แนะนำให้กินยาเมารถมาล่วงหน้าเลย และที่สำคัญถ้าไม่ชินทาง เหมารถตู้มาเถอะ ปลอดภัยกว่า



แนะนำที่นี่เลย ถ้าอยากมาดื่มด่ำธรรมชาติแบบฟิน ๆ แต่ก่อนมาศึกษาทางให้ดี จะได้เที่ยวอย่างสนุกน้าฃ