จะเลิกคบหรือคบต่อกับเพื่อนแบบนี้

กระทู้คำถาม
คือดิฉันมีเรื่องอึดอัดใจจึงขอระบายให้เพื่อนๆ ฟังค่ะ เลยอยากรู้ว่าดิฉันโกรธเพื่อนได้ไหมถ้าเป็นแบบนี้
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 ค่ะ เรากับเพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนระดับ ปวช.ปีหนึ่ง จนจบ ปวส.2 แห่งหนึ่งค่ะ ซึ่งกลุ่มเราก็มีเพื่อนสนิทประมาณ 7-8 คน แต่เพื่อนคนนี้ไม่ได้เป็นคนจังหวัดเดียวกับเรา มาจากต่างจังหวัด ค่ะ แต่เราก็สนิทกันมาก  ชีวิตเรายอมรับว่าลำบากพอสมควร ช่วงที่เรียน รับจ้างทำรายงานให้เพื่อนทุกอย่าง  พอเรียนจบเพื่อนๆ ก็แยกย้ายกันไป ดิฉันก็ทำงานไปด้วยเรียนภาคค่ำไปด้วย  เพื่อนคนนี้ก็กลับไปอยู่กับแม่นางที่ต่างจังหวัด พื้นฐานครอบครัวนางถือว่ามีฐานะพอสมควร แต่อาจจะเพราะวัยรุ่น จึงไม่เรียนต่อแล้วก็มีครอบครัวค่ะ มีลูกชายคนหนึ่ง แล้วนางก็กลับมาเชียงใหม่ ซึ่งเราก็ดีใจมาก เพราะไม่ได้เจอกันหลายปี เพื่อนกลับมาพร้อมกับสามีค่ะ แต่ลูกชายให้ทางปู่กับย่าดูแล ซึ่งบอกเราว่า จะกลับมาทำงานและทำซาลาเปา ตอนที่อยู่เชียงใหม่ มาถึงเราก็เจอกัน พูดคุยกัน ได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็มาขอความช่วยเหลือเราโดยที่นางบอกจะไปกู้เงินมาลงทุนทำซาลาเปา20,000 บาท แล้วก็ ขอให้เราค้ำประกันให้  ซึ่งก็สงสารลูกชายนางบอกจะส่งเงินไปซื้อนมให้ลูก 3,000 บาท ก็ช่วยนะ บอกว่าจะไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อน เราก็สงสารค่ะ แต่พอเวลาผ่านไป 2 เดือนค่ะ มีคนมาถามหาเราที่ทำงานค่ะ มีผู้ชาย มา 2 คน ผู้หญิง 1 คน บอกว่านางไม่เคยจ่ายเงินกู้เลยทั้งต้นทั้งดอก เราจะเป็นลมค่ะ คือเราเป็นคนค้ำประกันเราต้องเป็นคนชดใช้  ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าเงินที่นางไปเอามาเป็นของพวกทหารค่ะ เราบอกเราไม่มีเป็นก้อนหรอก เงินเดือนเราตอนนั้นเราได้แค่ 4,800 บาทค่ะ ขอจ่ายเป็นเดือนได้ไหม ตอนแรกไม่ยอมค่ะมีขู่สารพัด เราก็ผู้หญิงคนเดียวกลัวมาก ผ่อนให้เดือนละ 1,200 บาท ค่ะ ได้ประมาณ  4 เดือน พี่ผู้หญิงบอกว่าอยากหางานพิเศษทำไหม หนี้จะได้หมดไวๆ เราก็อยากให้หมดไวๆ และเงินเราก็ไม่พอใช้ ไหนจะแม่เราพิการอีกไม่ได้ทำงาน มีแต่พ่อกับเราทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เราก็ตอบตกลงค่ะ คืองานที่เราทำหยุดเสาร์อาทิตย์ค่ะ เราเลยต้องไปทำงานกับพี่เขา คือหน้าที่เราทำคือไปเลี้ยงลูกให้พี่เขา ขอโทษนะคะคือลูกพี่เขาเป็นออทิสติกค่ะ ประมาณ  5 ขวบ น้องเขาน่ารักมากค่ะ ต้องไปทุกทีกับพี่เขาคือนั่งรถไปกับพี่เขาอุ้มน้องไป ทวงหนี้แบบนี้แหล่ะค่ะ ไปเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้น้องเขานะค่ะ(ขอโทษด้วยนะค่ะถ้าไม่สุภาพ) ซึ่งเขาไม่ได้เป็นคนในครอบครัวเรานะ เราก็นะ...แต่ต้องทำค่ะนานหลายเดือน จนจะครบปี  จนพี่เขาสงสารบอกให้เราไม่ต้องมาแล้ว พี่ยกหนี้ให้ทั้งหมดเลย เรานิโล่งใจเลย ขอย้อนกลับไปนิดหนึ่งค่ะ ช่วงที่นางหายไปเลยติดต่อไม่ได้ เรากับเพื่อนสนิทอีกคนพยายามติดต่อ ไปหาที่บ้านพ่อนาง ป้านาง  เขาบอกไม่รับรู้สิ่งที่เพื่อนเราทำ โทรไปหาแม่นางที่เป็นครู เป็นข้าราชการ ตอนนั้นแม่นางก็บอกไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ ค่ะ เรานิเสียใจมากๆ จนเพื่อนเราบอกมันเลวได้ใจจริงๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนเราโทรมาเล่าให้ฟังว่า นางโทรมาหาเพื่อนเรา เพื่อนเราก็บอกว่าทำไมไม่นึกถึงเราบ้าง เราเดือดร้อน มาก นางบอกว่าก็ช่างประไร ไม่ได้เอาตังเรามาซะหน่อย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย จนกระทั่งปี พ.ศ.2556 เพื่อนคนนี้ก็กลับมาค่ะ แล้วก็โทรมาหาเรา โทรหาเพื่อนๆ ทุกคน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ บอกกลับมาอยุ่เชียงใหม่แล้ว แล้วก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้อีกเลย จนกระทั่ง พี่สาวนางไล่ออกจากบ้าน เพราะไปติดผู้ชาย ไม่สนใจลูกคนที่ 2 ยึดมอเตอร์ไซค์ ยึดทุกอย่าง นางก็ออกมาอยู่กับผู้ชาย แล้วก็ท้องค่ะ บอกเดือดร้อนไม่มีตังใช้อยากกินนู่นนี่นั่น พาไปกินหมูกระทะ เราก็พาไป ให้ยืมตัง แต่ไม่ได้เยอะนะ 500 มั้ง 1000 มั้ง ก็ไม่มีอะไร จนกระทั่งนางคลอดลูก แล้วเหมือนลูกมาโปรดค่ะ แม่นางที่เป็นข้าราชการครูเกษียณ เขาพบเพื่อนผู้ชายเป็นทหารอากาศเกษียณเหมือนกัน มีเงินมีทอง เขาก็ซื้อบ้านให้นางอยู่ ให้เงินเป็นล้าน ๆ ให้นางลงทุนทำธุรกิจกับสามีนาง จนฐานะดีมากๆ มีรถขับ มีบ้านหลังเป็นล้าน ๆ เราก็ยังติดต่อกันอยู่ตลอด แต่พอเรามีปัญหาบ้างตอนนี้ ลืมเล่าค่ะ เราก็มีครอบครัวแล้ว มีลูกชาย  1 คนค่ะ ที่บ้านมีรถกระบะ 1 คัน สามีใช้ไปทำงานเราก็ใช้มอไซค์ แต่ช่วงนี้แม่เราไม่สบาย บ่อยค่ะ เป็นหอบหืด ต้องไปพ่นยาที่ รพ.ทุกครั้งที่เป็นหนักๆ สามีเราก็ไม่ค่อยอยุ่ เสาร์-ทิตย์ เพราะ ต้องกลับไปบ้านเขาอีกหลังที่อยู่กับพี่สาว พี่สาวสามีไม่มีครอบครัวค่ะ ก็กลับไปบ้าง แล้วเราก็อยากได้รถเล็กๆ  ใช้สักคัน สามีบอกว่าจะผ่อนให้นะ แต่ขอไม่เกิน เดือนละ 5,000 บาท เราก็โอเค พอมีเงินเก็บอยู่บ้างนิดหน่อย สำหรับเงินดาวน์ ก็คุยกับเซล บอกต้องใช้เงินดาวน์เท่านี้นะ สำหรับออกรถ เราก็ โอเค นะ แต่พอวันไปออกรถ กลับมีค่าประกันชีวิตตลอดอายุเช่าซื้อรถที่ไม่ได้บอกเรา เราก็ไม่มีเงินสำรอง คือหาไม่ทัน ไม่รู้จะทำยังไง ก็โทรหานางสิค่ะ บอกเรามีเรื่องเดือนร้อน เราอยากได้รถคันเล็ก ๆขับสักคัน แต่พอดีเงินเราขาดไป 15,000 บาท เราจะขอยืมได้ไหม แต่เราไม่สามารถจะคืนได้เป็นก้อนนะ ขอคืนเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลาห้าเดือน  นางก็รีบบอกเลย ว่าช่วงนี้ใช้เงินเยอะ สามีไปตรวจสุขภาพ ก็เลือกตรวจแบบแพงมาก แม่สามีก็ไม่สบาย  เงินคนงานก็ต้องจ่าย นู่นนี่นั่น เรานิอึ้งเลยนะ คิดนะตอนนั้นในหัว(กูต้องทนทุกข์ทรมาน เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวมาเป็นปีๆ) เรายังไม่เคยทวงบุญคุณเลย  ก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์พึ่งโทรมาคุยกับเรานะว่า รายได้เดือนนี้ดีมากเป็นแสน ๆ แค่นี้ช่วยเราไม่ได้ เราก็เลยมาน้อยใจ ทำไมเรานะทำบุญกับใครไม่ค่อยขึ้น เวลาใครมีปัญหาเราช่วยเขาได้แต่เรามีปัญหากลับไม่มีใครช่วยเราได้เลย เราเลยอยากรู้ว่า เราสมควรจะโกรธเพื่อนคนนี้ดีไหม หรือนางก็มีเหตุผลว่านางได้ใช้เงินจริงๆ ค่ะ (ปล.เราไม่ใช่คนดีทุกอย่าง ไม่ใช่นางฟ้านะค่ะ.. ตอนนั้นเราก็ทะเลากันไปเลย นางด่าเรานะบล็อกเฟส บล็อกไลน์ เราทุกอย่าง มาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นางส่งข้อความทางเฟสมาทักเราว่า (....เป็นอะไรตาย) คือเพื่อนสนิทของเราเสียคะ แล้วก็ทักเรามาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกแล้ว แต่เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆกับเราสมควรจะโกรธหรือจะยังไงดีกับเพื่อนคนนี้)ขอโทษนะค่ะถ้าเรื่องนี้ยาวเกินไปและรบกวนคนอื่นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่