
ตอน 21
กลิ่นเหม็น
ผมได้เห็นอะไรดีๆ แล้ว!
ทำไมนะก่อนหน้านี้ผมถึงไม่เคยสังเกตเห็นดวงตาคู่นี้มาก่อน ดวงตาของเธอไม่เหมือนคนปกติทั่วไป โดยเฉพาะตาดำจะกลมโตกว่าปกติ มีสีดำสนิท ไร้ซึ่งแววตา เมื่อผมยื่นขึ้นบนเตียงแล้วจ้องเขม็งไปที่ดวงตาคู่นั้น ดวงตากลมโตจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ราวกับดวงตาคู่นั้นของเธอมีชีวิต และเพียงแค่เสี้ยววินาที ดวงตาคู่นั้นก็หลบสายตา อาการคลุ้มคลั่งของเธอสงบลงทันที จากอาการที่ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดกลายเป็นความตื่นกลัว จนต้องเก็บข้าวของวิ่งหนีออกจากห้องไป
ผมรู้สึกได้ว่า...
ดวงตาคู่นั้นของเธอมันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน
หลังจากเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นผ่านพ้นไป
เธอเงียบหายไปโดยไม่ติดต่อกลับมาอีกตามเคย วันนี้ช่วงค่ำผมจะต้องเดินทางกลับไปทำงาน และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเริ่มต้นการตักบาตรวันแรก ก่อนเดินทางกลับ ผมตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ของเธอฟัง แม่ของเธอตกใจมาก ด้วยพื้นฐานที่มีความเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว จึงปักใจเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นโดยทันที
แม่เล่าให้ฟังว่า พักหลังเธอกลับมานอนค้างที่บ้านบ้าง แต่ไม่บ่อยนัก อาการของเธอเปลี่ยนไปเหมือนอย่างที่ผมเล่าไม่มีผิด นิ่งเงียบ เก็บตัวอยู่แต่ภายในห้อง ไม่พูดจากกับใคร มีอารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวง่าย หงุดหงิดตลอดเวลา จนคนในครอบครัวไม่มีใครอยากเข้าใกล้เธอนัก
เธอไล่แฟนที่พักอยู่ด้วยกันให้ไปนอนที่อื่น ด้วยเหตุผลที่น่าแปลกว่า พอเข้าใกล้แล้วรู้สึกเหม็น
เหม็นอย่างนั้นรึ!
เป็นไปตามที่อาบอกไว้จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ผมเท่านั้น
มนตร์ดำประเภทนี้จะทำให้เธอไม่สามารถเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนได้ เวลาเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน จะรู้สึกเหม็นจนทนไม่ได้ จนต้องออกห่างในที่สุด
แม่รู้สึกว่าเธอแปลกๆ มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่พอเห็นว่าเธอยังคงใช้ชีวิตได้อย่างปกติ จึงคิดว่าน่าจะเครียดเรื่องงาน แต่ก็คอยสังเกตอยู่ห่างๆ และไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง
และเมื่อได้ฟังเรื่องราวของเธอก่อนหน้านี้ที่ได้คบหากับสาวทอม รวมถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้แม่ของเธอตกใจ วิตกกังวลเป็นห่วงเธอมาก อีกทั้งยังเชื่ออย่างสนิทใจว่า เธอโดนมนตร์ดำแน่นอน ด้วยความร้อนใจ แม่ของเธอตัดสินใจลางานครึ่งวัน แล้วนั่งรถมาหาผมในช่วงบ่าย เพื่อมาเอาข้าวสารและน้ำดื่มที่อาให้ไว้ นำไปหุงให้เธอทานที่บ้าน จะได้เป็นการช่วยรักษาเธออีกทางหนึ่ง
หลังจากที่ได้แบ่งของบางส่วนให้แม่ของเธอแล้ว ผมขับรถกลับจังหวัดที่ทำงานทันที เนื่องจากพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้า หุงข้าวและเตรียมของสำหรับตักบาตร เป็นการเริ่มต้นตักบาตรวันแรก
ผมขับรถมาได้เพียงครึ่งทางก็มืดค่ำเสียแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แม่ของเธอโทร.มาบอกว่า ได้นำข้าวสารที่ได้รับจากผมไปผสมกับข้าวสารของที่บ้าน และแยกเอาไว้ต่างหาก ส่วนน้ำดื่มก็นำไปใส่เอาไว้ในตู้เย็นห้องของเธอ
แม่ของเธอเล่าให้ฟังอีกว่า ด้วยความเป็นห่วง จึงได้โทร.ไปคุยกับเธอ และสังเกตจากการพูดจา น้ำเสียงดูแข็งๆ อารมณ์ไม่ดี พูดจาน้อยคำ ก่อนวางสายแม่ได้ขอร้องให้เธอกลับมาทานข้าวที่บ้านบ้าง บอกเธอว่าคนในครอบครัวเป็นห่วง และไม่ได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันนานมากแล้ว ซึ่งเธอก็ตอบตกลงอย่างเสียไม่ได้ว่าอีกสองวันจะกลับไปทานข้าวที่บ้าน
จากที่ฟังแม่ของเธอเล่า แทนที่จะรู้สึกดีใจ แต่ผมกลับมีความกังวลเสียมากกว่า เพราะอีกสองวันที่จะถึงนั้น
เป็นวันพระใหญ่!
วันพระใหญ่
อาเตือนให้ระมัดระวังช่วงวันพระให้ดี แต่อีกสองวันที่กำลังจะมาถึงเป็นวันพระใหญ่ที่อาเตือนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า อาการของเธอจะรุนแรงมากเป็นพิเศษ จะเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นบ้าง สุดที่จะคาดเดาได้
ผมชักจะเริ่มเป็นห่วงครอบครัวของเธอเสียแล้วสิ
การตักบาตรวันแรกเป็นไปอย่างทุลักทุเล เร่งรีบ แต่ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากตักบาตร ผมก็ไม่ลืมที่จะกรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวรอย่างที่อากำชับเอาไว้ เป็นอันว่าทุกอย่างครบถ้วนเรียบร้อย
ผ่านไปแล้วหนึ่งวัน
หลังจากที่ตักบาตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมโทร.หาอา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนให้อาฟัง ดูอาจะไม่แปลกใจนัก นอกจากนั้นยังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตอนที่ผมเล่าให้ฟังถึงดวงตากลมโตที่น่ากลัวคู่นั้น อาอธิบายว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่ถูกมนตร์ดำ เมื่อได้ทานของที่ทำพิธีปลุกเสกแล้ว ก็จะแสดงอาการออกมาลักษณะนี้ทุกราย แต่ใช่ว่าเมื่อได้ทานไปแล้วจะหายเป็นปกติเสียทีเดียว อาจต้องใช้เวลา อย่างน้อยต้องผ่านช่วงเวลาเจ็ดวันนี้ไป ทุกอย่างถึงจะดีขึ้น
ส่วนดวงตาสีดำกลมโตนั้น เกิดจากอาการต้องมนตร์ดำ ดวงตาจะไร้ซึ่งแววตา ไม่เหมือนดวงตาของคนปกติทั่วไป การจ้องมองเข้าไปภายในดวงตาคู่นั้น เหมือนอย่างที่ผมทำ จะทำให้มนตร์ดำที่อยู่ภายในจิตใจของเธอเกิดความกลัว ว่ามีคนล่วงรู้ว่ามีมนตร์ดำแฝงอยู่ภายในตัวเธอ ส่วนตัวเธอคงจะต้องต่อสู้กับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดกลัว ตลอดช่วงเวลาเจ็ดวันต่อไปจากนี้ เธอจะค่อยๆ รู้สึกตัวมากขึ้น จิตใจจะเริ่มเข้มแข็ง และพยายามที่จะเอาชนะสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ภายในจิตใจ จนหายเป็นปกติในที่สุด
เมื่อถึงวันที่เธอต้องไปทานข้าวที่บ้าน ผมแทบจะไม่เป็นอันทำงาน รอเวลาให้ถึงช่วงค่ำโดยเร็ว เพราะเป็นกังวลกับบางสิ่งที่อาจเกิดขึ้น แม่ของเธอก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย ลางานตั้งแต่ช่วงบ่าย จัดเตรียมข้าวปลาอาหารหลายอย่าง ล้วนแล้วแต่เป็นกับข้าวที่เธอชอบทั้งสิ้น ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวถูกแม่ของเธอสั่งให้กลับมาบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นครบทุกคน ซึ่งก็รวมถึงแฟนของเธอด้วย แม่บอกทุกคนเพียงสั้นๆ ว่า เย็นนี้ครอบครัวของเราจะทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน ถึงแม้จะสงสัยบ้าง แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม ยินยอมทำตามแต่โดยดี
เธอกลับมาถึงบ้านตั้งแต่ช่วงเย็น ด้วยอาการเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางที่ต้องนั่นรถเมล์จากตัวเมือง แม่บอกเธอให้เข้าไปพักผ่อนในห้องเสียก่อน ถ้าอาหารพร้อมแล้วจะเข้าไปเรียกให้มาทานพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลาที่ข้าวปลาอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว คนในครอบครัวมาล้อมวงกันพร้อมหน้า รอเพียงเวลาที่เธอออกมาเท่านั้น ผมและแม่ของเธอรอคอยด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าค่ำคืนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น เพียงเพราะเหตุผลเดียวที่ว่า วันนี้เป็น...
วันพระใหญ่
by พรนับพัน
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ
หนังสือ บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
โดย พรนับพัน
สำนักพิมพ์คุณหนูชูใจ
เปิดให้พรีออเดอร์แล้วนะครับ หนังสือไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป
บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
เป็นบันทึกเรื่องราวน่าพิศวงที่เกิดขึ้นจริง ในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและจบลงภายในเวลาหนึ่งปี เรื่องราวไม่น่าเชื่อหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นตลอดเวลา เชื่อมโยงอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เข้ากับคำว่า “มนตร์ดำ” อย่างลงตัว เป็นช่วงเวลาหนึ่งปีที่ทั้งสุขและทุกข์ทนไปพร้อมกัน และเรื่องราวทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป สำหรับบุคคลต่างๆ ผมต้องขอสงวนชื่อเอาไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ (ตอน 21)
ตอน 21
กลิ่นเหม็น
ผมได้เห็นอะไรดีๆ แล้ว!
ทำไมนะก่อนหน้านี้ผมถึงไม่เคยสังเกตเห็นดวงตาคู่นี้มาก่อน ดวงตาของเธอไม่เหมือนคนปกติทั่วไป โดยเฉพาะตาดำจะกลมโตกว่าปกติ มีสีดำสนิท ไร้ซึ่งแววตา เมื่อผมยื่นขึ้นบนเตียงแล้วจ้องเขม็งไปที่ดวงตาคู่นั้น ดวงตากลมโตจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ราวกับดวงตาคู่นั้นของเธอมีชีวิต และเพียงแค่เสี้ยววินาที ดวงตาคู่นั้นก็หลบสายตา อาการคลุ้มคลั่งของเธอสงบลงทันที จากอาการที่ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดกลายเป็นความตื่นกลัว จนต้องเก็บข้าวของวิ่งหนีออกจากห้องไป
ผมรู้สึกได้ว่า...
ดวงตาคู่นั้นของเธอมันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน
หลังจากเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นผ่านพ้นไป
เธอเงียบหายไปโดยไม่ติดต่อกลับมาอีกตามเคย วันนี้ช่วงค่ำผมจะต้องเดินทางกลับไปทำงาน และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเริ่มต้นการตักบาตรวันแรก ก่อนเดินทางกลับ ผมตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่ของเธอฟัง แม่ของเธอตกใจมาก ด้วยพื้นฐานที่มีความเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว จึงปักใจเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นโดยทันที
แม่เล่าให้ฟังว่า พักหลังเธอกลับมานอนค้างที่บ้านบ้าง แต่ไม่บ่อยนัก อาการของเธอเปลี่ยนไปเหมือนอย่างที่ผมเล่าไม่มีผิด นิ่งเงียบ เก็บตัวอยู่แต่ภายในห้อง ไม่พูดจากกับใคร มีอารมณ์แปรปรวน ฉุนเฉียวง่าย หงุดหงิดตลอดเวลา จนคนในครอบครัวไม่มีใครอยากเข้าใกล้เธอนัก
เธอไล่แฟนที่พักอยู่ด้วยกันให้ไปนอนที่อื่น ด้วยเหตุผลที่น่าแปลกว่า พอเข้าใกล้แล้วรู้สึกเหม็น
เหม็นอย่างนั้นรึ!
เป็นไปตามที่อาบอกไว้จริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่ผมเท่านั้น
มนตร์ดำประเภทนี้จะทำให้เธอไม่สามารถเข้าใกล้ผู้ชายคนไหนได้ เวลาเข้าใกล้ผู้ชายคนไหน จะรู้สึกเหม็นจนทนไม่ได้ จนต้องออกห่างในที่สุด
แม่รู้สึกว่าเธอแปลกๆ มาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่พอเห็นว่าเธอยังคงใช้ชีวิตได้อย่างปกติ จึงคิดว่าน่าจะเครียดเรื่องงาน แต่ก็คอยสังเกตอยู่ห่างๆ และไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง
และเมื่อได้ฟังเรื่องราวของเธอก่อนหน้านี้ที่ได้คบหากับสาวทอม รวมถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้แม่ของเธอตกใจ วิตกกังวลเป็นห่วงเธอมาก อีกทั้งยังเชื่ออย่างสนิทใจว่า เธอโดนมนตร์ดำแน่นอน ด้วยความร้อนใจ แม่ของเธอตัดสินใจลางานครึ่งวัน แล้วนั่งรถมาหาผมในช่วงบ่าย เพื่อมาเอาข้าวสารและน้ำดื่มที่อาให้ไว้ นำไปหุงให้เธอทานที่บ้าน จะได้เป็นการช่วยรักษาเธออีกทางหนึ่ง
หลังจากที่ได้แบ่งของบางส่วนให้แม่ของเธอแล้ว ผมขับรถกลับจังหวัดที่ทำงานทันที เนื่องจากพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้า หุงข้าวและเตรียมของสำหรับตักบาตร เป็นการเริ่มต้นตักบาตรวันแรก
ผมขับรถมาได้เพียงครึ่งทางก็มืดค่ำเสียแล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แม่ของเธอโทร.มาบอกว่า ได้นำข้าวสารที่ได้รับจากผมไปผสมกับข้าวสารของที่บ้าน และแยกเอาไว้ต่างหาก ส่วนน้ำดื่มก็นำไปใส่เอาไว้ในตู้เย็นห้องของเธอ
แม่ของเธอเล่าให้ฟังอีกว่า ด้วยความเป็นห่วง จึงได้โทร.ไปคุยกับเธอ และสังเกตจากการพูดจา น้ำเสียงดูแข็งๆ อารมณ์ไม่ดี พูดจาน้อยคำ ก่อนวางสายแม่ได้ขอร้องให้เธอกลับมาทานข้าวที่บ้านบ้าง บอกเธอว่าคนในครอบครัวเป็นห่วง และไม่ได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันนานมากแล้ว ซึ่งเธอก็ตอบตกลงอย่างเสียไม่ได้ว่าอีกสองวันจะกลับไปทานข้าวที่บ้าน
จากที่ฟังแม่ของเธอเล่า แทนที่จะรู้สึกดีใจ แต่ผมกลับมีความกังวลเสียมากกว่า เพราะอีกสองวันที่จะถึงนั้น
เป็นวันพระใหญ่!
วันพระใหญ่
อาเตือนให้ระมัดระวังช่วงวันพระให้ดี แต่อีกสองวันที่กำลังจะมาถึงเป็นวันพระใหญ่ที่อาเตือนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า อาการของเธอจะรุนแรงมากเป็นพิเศษ จะเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นบ้าง สุดที่จะคาดเดาได้
ผมชักจะเริ่มเป็นห่วงครอบครัวของเธอเสียแล้วสิ
การตักบาตรวันแรกเป็นไปอย่างทุลักทุเล เร่งรีบ แต่ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากตักบาตร ผมก็ไม่ลืมที่จะกรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวรอย่างที่อากำชับเอาไว้ เป็นอันว่าทุกอย่างครบถ้วนเรียบร้อย
ผ่านไปแล้วหนึ่งวัน
หลังจากที่ตักบาตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมโทร.หาอา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนให้อาฟัง ดูอาจะไม่แปลกใจนัก นอกจากนั้นยังหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตอนที่ผมเล่าให้ฟังถึงดวงตากลมโตที่น่ากลัวคู่นั้น อาอธิบายว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่ถูกมนตร์ดำ เมื่อได้ทานของที่ทำพิธีปลุกเสกแล้ว ก็จะแสดงอาการออกมาลักษณะนี้ทุกราย แต่ใช่ว่าเมื่อได้ทานไปแล้วจะหายเป็นปกติเสียทีเดียว อาจต้องใช้เวลา อย่างน้อยต้องผ่านช่วงเวลาเจ็ดวันนี้ไป ทุกอย่างถึงจะดีขึ้น
ส่วนดวงตาสีดำกลมโตนั้น เกิดจากอาการต้องมนตร์ดำ ดวงตาจะไร้ซึ่งแววตา ไม่เหมือนดวงตาของคนปกติทั่วไป การจ้องมองเข้าไปภายในดวงตาคู่นั้น เหมือนอย่างที่ผมทำ จะทำให้มนตร์ดำที่อยู่ภายในจิตใจของเธอเกิดความกลัว ว่ามีคนล่วงรู้ว่ามีมนตร์ดำแฝงอยู่ภายในตัวเธอ ส่วนตัวเธอคงจะต้องต่อสู้กับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดกลัว ตลอดช่วงเวลาเจ็ดวันต่อไปจากนี้ เธอจะค่อยๆ รู้สึกตัวมากขึ้น จิตใจจะเริ่มเข้มแข็ง และพยายามที่จะเอาชนะสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาอยู่ภายในจิตใจ จนหายเป็นปกติในที่สุด
เมื่อถึงวันที่เธอต้องไปทานข้าวที่บ้าน ผมแทบจะไม่เป็นอันทำงาน รอเวลาให้ถึงช่วงค่ำโดยเร็ว เพราะเป็นกังวลกับบางสิ่งที่อาจเกิดขึ้น แม่ของเธอก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย ลางานตั้งแต่ช่วงบ่าย จัดเตรียมข้าวปลาอาหารหลายอย่าง ล้วนแล้วแต่เป็นกับข้าวที่เธอชอบทั้งสิ้น ในขณะที่ทุกคนในครอบครัวถูกแม่ของเธอสั่งให้กลับมาบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นครบทุกคน ซึ่งก็รวมถึงแฟนของเธอด้วย แม่บอกทุกคนเพียงสั้นๆ ว่า เย็นนี้ครอบครัวของเราจะทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน ถึงแม้จะสงสัยบ้าง แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม ยินยอมทำตามแต่โดยดี
เธอกลับมาถึงบ้านตั้งแต่ช่วงเย็น ด้วยอาการเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางที่ต้องนั่นรถเมล์จากตัวเมือง แม่บอกเธอให้เข้าไปพักผ่อนในห้องเสียก่อน ถ้าอาหารพร้อมแล้วจะเข้าไปเรียกให้มาทานพร้อมกัน
เมื่อถึงเวลาที่ข้าวปลาอาหารถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว คนในครอบครัวมาล้อมวงกันพร้อมหน้า รอเพียงเวลาที่เธอออกมาเท่านั้น ผมและแม่ของเธอรอคอยด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าค่ำคืนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น เพียงเพราะเหตุผลเดียวที่ว่า วันนี้เป็น...
วันพระใหญ่
by พรนับพัน
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ
หนังสือ บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
โดย พรนับพัน
สำนักพิมพ์คุณหนูชูใจ
เปิดให้พรีออเดอร์แล้วนะครับ หนังสือไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป
บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
เป็นบันทึกเรื่องราวน่าพิศวงที่เกิดขึ้นจริง ในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและจบลงภายในเวลาหนึ่งปี เรื่องราวไม่น่าเชื่อหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นตลอดเวลา เชื่อมโยงอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้เข้ากับคำว่า “มนตร์ดำ” อย่างลงตัว เป็นช่วงเวลาหนึ่งปีที่ทั้งสุขและทุกข์ทนไปพร้อมกัน และเรื่องราวทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป สำหรับบุคคลต่างๆ ผมต้องขอสงวนชื่อเอาไว้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด