ตามหัวข้อค่ะ ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า คนเขียนบท หรือผู้กำกับ เราไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสำคัญสุดในการนำเสนอละคร ไม่ว่าจะฉากต่างๆ แฟลชแบ็ค การทำให้คนดูคาดคะเนไม่ได้ เรายังยืนยันคำเดิมว่า คุณเก่งมากในการนำเสนอ เพราะละครเรื่องเดียวกัน แต่คนดูตีความได้คนละแบบอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะทีมเอยทีมมาย เราขอชื่นชมในจุดนี้มากๆๆๆค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องราวการดำเนินเรื่องเราให้ 6.9/10 ค่ะ
สำหรับเรา อย่างที่บอกค่ะ เราไม่มีทีม! ปกตินานๆทีก็ดูละครครั้ง แต่เพราะ"ทีมเอยทีมมายในเน็ต"ทำให้เราตัดสินใจดูละครเรื่องนี้ อยากรู้ว่ามันเพราะอะไรยังไง พอดูแล้วก็ติด (ติดมากด้วย จนกลายเป็นแฟนคลิปน้องริชชี่น้องก็อตไปเลย) เอาจริงๆก็คงเพราะมันดันมีปมหลายปมที่คล้ายตัวเราเองมากกกในบทของมาย และประสบการณ์จากคนรอบข้างเราที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออว่ะ มันสมจริงนะเว้ย ความเป็นไปได้มีอยู่จริง(ในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ ) ในสังคมเปลือกๆ ไม่ใช่แค่ไทยแต่มันเป็นทั่วโลก มันคือธรรมชาติของคนตามความเป็นจริง
ในฐานะที่เราตามล้างตามเช็ดตามคอมเม้นต์ยาวๆๆๆหลายที่ทั้งที่พันทิปยูทูปและอินสตาแกรม ไม่ว่าจะบอกให้ชาวด้อมมายด้อมเอยแยกแยะ ใจเย็นๆ รอดูละครให้จบก่อน เคยถกเถียงเรื่องศีลธรรมต่างๆางๆกับชาวเน็ต เรื่องดูไปด่าไป เรื่องจิตสำนึกต่อสังคม ฯลฯ แบบที่เราไม่เคยทำมาก่อน ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่า
"""เราผิดหวังตอนจบมากค่ะ!!!!!""""
โอเคเรามั่นใจว่าเราเข้าใจถูกแล้วที่ละครเรื่องนี้โดนหั่น นักแสดงบอกตลอดมาว่าละครมี 18 ตอน โดยเฉพาะในรายการแฉที่ก็อตบอกตอนออกอากาศว่ามี 18 แต่เช้าวันต่อมาดันเหลือ 17 (ซ่ะงั้น) อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ละครจบแบบไม่แยบยลเท่าที่ควร ละครที่ทำตอนจบไว้2แบบ สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ทั้งสองแบบ แต่เป็นแบบที่ 3 เห็นได้ชัดว่าเพิ่งไปถ่ายทำกันใหม่มา สังเกตุจากทรงผมมายตอนจบ ซึ่งคือทรงผมมารีน่า ณ ปัจจุบัน! และในไอจีนักแสดงก็ทำให้เห็นชัดว่ามีการถ่ายทำซ่อมจริงๆ
เราผิดหวังในตอนจบจาก
1. ขวัญเอย+เหนือเมฆ
คือคุณไก่อาจจะอยากปูละครเรื่องนี้เป็นละครไร้เพศ รักได้ไม่จำกัดเพศ เราเข้าใจนะ และเห็นด้วยว่ามันควรจะทำ คนหลากหลายทางเพศถูกกดขี่ไม่ให้แสดงความรักหลายรุ่นตั้งแต่โบราณ เข้าใจที่อยากจะเรียกร้องในตรงนี้ และเท่าที่เราอ่านฟีดแบ็คมา เราเห็นว่าควรทำ เพราะเราตกใจมากที่ผญ.หลายคนเกลียดชายรักชาย และมองเรื่องนี้เป็น "อาชญกรรม" ผช.ไม่มีสิทธิ์รักกับผู้ชาย ทำไม่ได้ ผิดธรรมชาติ บลาๆ... ตรงนี้เราจึงเข้าใจว่าผู้จัดอาจอาจจะอยากนำเสนอความรักไร้เพศให้คนตระหนัก เราสนับสนุนเพราะมันคือเรื่องธรรมชาติที่ชายจะรักชายหญิงจะรักหญิงหรือหญิงชายจะข้ามเพศ เรื่องพวกนี้มันมีทั้งในคนและสัตว์ ฉะนั้นคนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะทำได้ทุกอย่างเท่าเทียมชายหญิงทั่วไป (เท่าเทียมนะไม่ใช่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ทำอะไรก็ได้ไม่ผิด ไม่ใช่!!) สมัยโรมันชายก็รักชายเป็นปกติ แต่พอมีศาสนาเข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
แต่สุดท้ายคุณผู้จัดก็ทำไม่สุด😏 คุณไม่ขยี้ประเด็นนี้มากพอและที่ไม่อินเลยคือ ความรักของเอยกับเหนือ มันไม่มีฉากไหนที่หวานอะไรมากมายหลังจากปัญหาต่างๆถาโถมมา มันไม่เคลีย มันไม่บ่งบอกว่ารัก มันเหมือนเหนือรู้สึกสงสารเอยมากกว่ารัก จริงๆมันควรมีตรงนี้หรืออะไรก็ตามที่พอจะทำให้คนดูทีมมายเข้าใจว่ามันไปรักกันตอนไหนแน่ๆ รักยังไงเกิดขึ้นยังไงนอกจากฟุตบอลกับหนอน อะไรที่ทำให้เหนือเลือกเอยมากกว่ามาย แทนที่บทจะโฟกัสจุดนี้มากหน่อย แต่ดันไปโฟกัสการต่อสู้เอาชนะคาดคั้นเอย การพยายามจะดึงดันเอาเอยกลับมาซ้ำๆซากๆจนปัญหา ""ผิดศีลธรรม" เกิดขึ้นและเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ของคนดู🙄 อ่อ เราเจ็บนิดๆที่ไม่ได้ยินเหนือบอกรักเอยกับปากเลยสักครั้ง แม้แต่วินาทีสุดท้ายที่อยู่ในอ้อมกอดตน อันนี้โหดน่ะ รู้ว่าการกระทำคือรัก แต่บอกให้ได้ยินนี่ไม่มีเลย 😔😪 (เจ้าแม้นเมืองเจ้าน้อยสุขวงศ์ในเวอร์ชั่นพี่อั้มพี่บรุคลอยมาเลยทีเดียว)
(ปล. หรือว่าถ้าไม่ตัดออกมันอาจจะยังจะมีฉากเหล่านั้นอยู่? จำได้ว่าก็อตเคยบอกฉากที่ประทับใจของก็อตในรายการหนึ่ง ว่าก็อตชอบฉากท้ายๆ ที่เป็นฉากอารมณ์และมันเป็นฉากที่ยากสำหรับก็อต มันจะมีการรวบรวมเรื่องราวต่างๆตั้งแต่ต้น เราตั้งตารอดูฉากนี้เหมือนกัน สุดท้ายก็ ไม่มี 😒)
2. เหนือ+มาย
เรารู้สึกโอเคกับการที่เหนือใจร้ายใส่มาย ทำท่าทางแข็งๆเย็นชากับมายเพราะอยากจะให้จบๆไป ไม่อยากให้น้องเสียใจยาวนาน จริงๆมันเป็นเรื่องดีเพราะว่ามันจะทำให้มายตัดใจได้เร็วขึ้น ไม่ยืดเยื้อ (ส่วนตัวเราใช้เวลาตั้ง 5 ปีนะกว่าจะตัดขาดได้กับปัญหาที่เจอมาคล้ายมายแทบเป๊ะๆ ทั้งๆที่เจ้ากรรมนายเวรเราก็ร้ายกว่าเจ๊เหนือเยอะมากๆๆๆๆ)
แต่!!!! เราไม่โอเคที่สุดท้าย... มันห้วนไปนะ! จริงๆถ้าจะบอกว่าเหนือรู้จากแม่มานานแล้วว่ามายวางแผนกรีดหน้าเอยจนเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนั้น ทำให้เหนือไม่โอเคกับมาย มันโอเคน่ะ แต่นี่คือไม่มีอะไรเลยนอกจากรำคาญที่มายตอแยตนเองเกินไป!? แต่เมิงคะ? ไม่มีเหลือเยื่อใยกับมายเลยเพราะมีแค่ความทรงจำกับเอยนี่นะ(หรา?🤕) แล้วกับมายหลายๆจุดหายไปไหนยังไง? นี่สมควรที่ทีมมายจะปรี๊ดแตกจริงๆแหละ! อย่างน้อยก็ควรแฟลชแบ็คเปรียบเทียบอารมณ์และโมเม้นต์ระหว่างเหนือกับมาย อดีตและปัจจุบันที่มายเปลี่ยนไปหน่อย ยังจะทำให้เข้าใจว่า อ่อ ไม่รักมายเพราะแบบนี้น่ะ! ไม่ใช่มาบอกดื้อๆว่าคิดถึงแต่เอยรักเอย อะไรยังไงที่มาที่ไปจุดนี้ หายซ่ะ! น่าจะมีโมเม้นต์... อ่อ ที่มันรักเอยเพราะแบบนี้ๆๆ กับมายแค่ตกหลุมรักแบบนี้ๆๆ แต่กับเอยคือความสุขใจสบายใจแบบนี้ๆๆ ไอ้รักเอยเราก็เข้าใจนะ เราสนับสนุนด้วยซ้ำ แต่ต้องให้ความสำคัญกับมายด้วย นี่อะไร บทปูให้มายจมไปมากจริงๆนะแหละ ต่างจาก9ตอนแรกที่ทั้งเอยทั้งมายมีความสำคัญเท่ากัน แต่ตอนหลังๆมายจมดินไปเลย นี่กระมังที่ทำให้คนดูผญ.ส่วนมากเข้าใจว่ากดขี่เพศหญิง
3. แม่กับมาย
โลกความเป็นจริงที่โหดร้าย เรารับรู้ได้ว่า แม่รักเอยมากกว่ามาย นี่ขนาดเราเป็นคนดูคนหนึ่งที่เข้าใจที่มาและความร้ายของมายแต่ต้นยังคิดแบบนี้ นับประสาอะไรกับทีมมาย เขาจะไม่ปรี๊ดแตกได้ไง คือน่าจะให้แม่ได้พูดได้อธิบายและแสดงความรักกับมายมากกว่านี้ไหมอะ เน้นตรงนี้ให้มากขึ้นหน่อยว่าแม่รักมายไม่ได้น้อยไปกว่าเอย ให้มายเข้าใจจากปากแม่ไม่ใช่เข้าใจด้วยตัวเองแล้วบอกว่ามายเข้าใจ สำหรับคนขาดความอบอุ่นจากแม่เราพูดได้เต็มปากเลยว่ามายควรจะได้รับรู้ความรักของแม่ที่มีต่อตนมากกว่านี้ ไอ้คิดได้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การแสดงความรักของแม่ระหว่างเอยกับมายควรจะเท่ากัน ไม่ใช่ทำให้มายรู้สึกน้อยใจนิดๆแม้นแต่วินาทีสุดท้ายจนต้องอ้อนแม่เองว่า แหมๆ มายก็รักแม่นะคะ... งี้?🤨!
สำหรับเอยกับแม่เเราให้ผ่านค่ะ ดีใจที่แม่ยอมรับสักทีว่าอะไรเป็นอะไร แต่สุดท้ายก็เหลือแค่คำว่ารักแหละ มันสายไปนิดๆนะคะคุณแม่เพราะเอยตายจากแม่ไปแล้ว บอกรักลูกช้าไปน่ะ อิๆ
4. มาย
ตอนจบเราหวังแบบมากๆๆ คือตอนนั้นมั่นใจมากกกกตั้งแต่ที่มายเปลี่ยนไปว่าบทมันจะต้องมีอะไรดีๆตอนจบเกี่ยวกับมายสิ เพราะปูมาขนาดนี้ เราต้องเห็นความโดดเด่นของมายมากกว่านี้ แต่ก็นะ🙄!!! เราโล่งใจที่มายไม่ได้กับเหนือตามที่หวังนะ แต่ไม่ดีใจที่มายไม่มีความเป็นตัวเองมากนัก เราหวังลึกๆว่าตอนจบมายจะสวยๆเริชๆเป็นสาวมั่น เป็น Feminist จริงๆ รักตัวเองจริงๆ โสดสวยๆให้ผช.ตายเล่นๆ และก็เด็ดขาดสมกับการที่นางพยายามจะเปลี่ยนตัวเอง หรืออาจเปลี่ยนจากสาวใสๆเป็นสาวเปรี้ยวๆเพราะประสบการณ์ทำให้นางโตขึ้นและเรียนรู้กับมัน โอเคแหละนางยอมรับถอยออกมาจากปัญหารัก4เศร้าได้ก็โอเคแล้ว
.....
สิ่งที่ผิดหวังของเราจบเท่านั้น แต่ต่อจากนี้คือ กระแสสะท้อนสังคมในมุมมองเรา เราเคยมองว่าละครมันก็คือละคร โดยเฉพาะละครดราม่าที่ส่วนมากทำมาสอนคนและให้ข้อคิด แต่เท่าที่ดูมาและการท้วงติงของเม้นต์ๆหนึ่งในพันทิปทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า เออ จริงว่ะ ไม่ใช่คนดูทุกคนจะแยกแยะได้ นี่คราวนี้เราเห็นได้ชัดจริงๆจากเม้นต์ต่างๆในยูทูปของทีมเอยทีมมาย คนส่วนมากเลือกที่จะเสพในสิ่งที่เห็น(สั้นๆ)แล้วตัดสินทันทีมากกว่าที่จะวิเคราะห์หาสาเหตุและที่มา ละครเรื่องนี้จึงได้ขึ้นชื่อว่าผิดศีลธรรมสำหรับหลายๆคน เราเข้าใจแจ่มแจ้งจริงๆก็คราวนี้ ฉะนั้นถ้าจะให้ดี ละครน้ำเน่าๆนี่ควรเลิกผลิตจริงๆ ไม่ใช่แค่แบบซ่อนเงารักหรอก จริงๆ90%ของละครไทย มันก็มีแต่แนวนี้แหละ เพราะคนรักที่จะเสพอะไรแนวนี้
แต่สำหรับเรา(และคนที่แยกแยะได้) ในฐานะคนที่ดูมาตั้งแต่ต้น เรายังมองว่ามันโอเคแล้วที่ละครสะท้อนออกมาแบบนี้ หลายคนมองว่าละครไม่มีความรับผิดชอบในหลายๆอย่าง ทั้งในบทเอย เหนือ ที่แต่งงานแล้วแต่ยังไปรักกัน ถ้าคนที่ดูละครและทำความเข้าใจก็จะรู้ว่า "ศีลธรรม"ใช้กับกรณีนี้ไม่ได้มากนัก เราว่านี่คือบทเรียนที่ดี คิดว่านี่คือหนึ่งในสิ่งที่ผู้จัดพยายามจะบอกกับสังคมว่า ความรับผิดชอบต่อความรู้สึกตนเองก็สำคัญไม่น้อยเหมือนกัน (แต่มันก็ต้องมากับคำว่าพอดีไม่ใช่อะไรก็ตามใจฉันทั้งหมด ย้ำ!) ให้ดูอย่างกรณีป๊ากับแม่ใหญ่ ป๊ากับแม่ขวัญเอยขวัญมา อยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์ อีกคนรักอีกคนไม่รัก การใช้ชีวิตคู่มันเลยไม่ยั่งยืนและเป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้น เป็นเวรเป็นกรรมรุ่นตนไม่พอยังซัดต่อมาถึงรุ่นลูก ซึ่งต้องบอกว่าชีวิตจริงส่วนมากมันเป็นจะแบบนั้น พ่อแม่เป็นแบบไหนเจอปัญหาอะไรมาลูกก็จะเป็นแบบนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะกับลูกที่ขาดความอบอุ่นและดูถูกพ่อแม่ตนเองหรือตำหนิในใจและไม่พยายามทำความเข้าใจให้อภัยในการใช้ชีวิตที่ไปไม่รอดหรือผิดพลาดของพ่อแม่ สุดท้ายก็รับกรรมมาใช้ชีวิตแบบนั้นเอง
เราจึงยังยืนยันคำเดิมที่เคยออกความเห็นเรื่องนี้ไว้แล้วว่าการแต่งงานและใบทะเบียนสมรสไม่ได้สำคัญต่อชีวิตคู่เลย จุดจบของชีวิตคู่ไม่ใช่การแต่งงาน และยิ่งการแต่งงานอย่างในละครที่แต่งกันแค่ในทางนิตินัยทั้งคู่พี่คู่น้อง เรื่องนี้มันยิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าศีลธรรมไม่ควรผูกขาดต่อการแต่งงานแต่อย่างใด มันต้องดูบริบทของแต่ละกรณีจริงๆ แต่กระนั้น... คนดูมากกว่า 50%ก็เลือกที่จะเสพดราม่าและโฟกัสจุดผิดศีลธรรมในละคร คนให้ความสำคัญกับสถานะสมรส(ปลอมๆ)มากกว่าความทุกข์ของคนสองคน และยิ่งหนักไปกว่าเดิมเมื่อเป็นกรณีชายรักชายที่ยังมีคนไม่น้อยยังรับไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้เราจึงเห็นว่ามันโอเคที่เหนือจะอยู่กับเอยในชีวิตช่วงสุดท้าย ให้พวกมันมีสุขกันบ้างก็ดีอยู่ และละครก็ไม่ได้เน้นเรื่องพฤตินัยกันเลย แต่มันเป็นรักและเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ส่วนใครจะมองต่างไปอย่างไรเราคงห้ามความคิดใครไม่ได้ เราจะโทษเหนือในเรื่องนี้มากไม่ได้ เพราะตอนแต่งงานเหนือมันไม่รู้นิว่ามีคนสองคนที่เป็นเมียมันในเงาของมาย
สุดท้ายนี้ต้องปรบมือรัวๆให้ริต้าที่นางเป็นคนที่รู้จักความรักจริงๆ รักแบบนี้แหละที่เรียกว่า "ความรัก" รักแบบไม่มีพรหมแดน รักแบบไม่มีข้อแม้ นี่คือตัวอย่างที่คนควรจะเอาไปเป็นตัวอย่าง เพราะมันลดปัญหาการเห็นแก่ตัวได้มากๆ ริต้าให้ความรู้คนดูเรื่องความรัก( คนแบบนี้มีในโลกนี้จริงๆ เราเคยเห็นมาแล้ว😊) การใช้ชีวิตคู่คือการยอมรับข้อเสียของกันและกัน ริต้ารู้ว่าเอยรักเหนือเมฆ รู้ตั้งแต่ต้นว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังตัดสินใจแต่งงานกับเอย ไม่ใช่เพราะดันทุรังแต่เพราะริต้ารักเอย แสดงว่าริต้ายอมรับความจริงข้อนี้ได้ ทำให้การใช้ชีวิตคู่ของริต้าดูมีความสุขมากกว่าเหนือมายหลายขุม
ข้อคิดอีกเรื่องจากละครเรื่องนี้ คนดูควรเอาไปตระหนักไว้ ว่าถ้าไม่แน่ใจไม่ได้รักจริงๆ อย่าริแต่งงาน โดยเฉพาะถ้าแต่งงานโดยการโดนบังคับ คลุมถุงชน เลี่ยงได้เลี่ยง! เคารพความรู้สึกตัวเอง (แต่ก็ไม่ตามใจฉัน ย้ำ!) เราเห็นๆกันพอแล้วจากตัวอย่างความวุ่นวายชวนปวดหมองในละคร
อ่อ ชาวเกาะ... ควรตระหนักไว้เสมอสำหรับคนที่ชอบกอดทะเบียนสมรส ชีวิตคู่มันไม่ได้จบแค่การแต่งงาน แต่มันคือการเริ่มต้น ถ้าเริ่มต้นไม่ดีไม่มีความสุข ก็ออกๆมาเหอะ คนมันไม่รักแล้ว อยู่ไปก็เจ็บไม่จบสิ้น เลือกจบปัญหาเองจะดีกว่านะคะ
ปล. เราแยกแยะละครกับชีวิตจริงได้ แยกแยะงานและเรื่องส่วนตัวได้ แต่เราแยกแยะที่คุณไก่ไปจิกกัดน้องริชชี่แบบนั้นไม่ด้ายยย😤😡 อันนี้เรื่องส่วนตัวปนกับเรื่องงานชัดเจนมาก จึงขอตำหนิค่ะในฐานะคนที่ชื่นชอบริชชี่! แต่คนก็ด่าคุณไก่เยอะแล้วเนอะ หวังว่าคุณไก่จะจะคิดก่อนพูดมากกว่านี้นะคะ #จบ สวัสดี 😝
#ซ่อนเงารักตอนจบ ในมุมของผู้ติดตามอย่างใกล้ชิดและไร้ทีม
สำหรับเรา อย่างที่บอกค่ะ เราไม่มีทีม! ปกตินานๆทีก็ดูละครครั้ง แต่เพราะ"ทีมเอยทีมมายในเน็ต"ทำให้เราตัดสินใจดูละครเรื่องนี้ อยากรู้ว่ามันเพราะอะไรยังไง พอดูแล้วก็ติด (ติดมากด้วย จนกลายเป็นแฟนคลิปน้องริชชี่น้องก็อตไปเลย) เอาจริงๆก็คงเพราะมันดันมีปมหลายปมที่คล้ายตัวเราเองมากกกในบทของมาย และประสบการณ์จากคนรอบข้างเราที่ทำให้เรารู้สึกว่า เออว่ะ มันสมจริงนะเว้ย ความเป็นไปได้มีอยู่จริง(ในหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ ) ในสังคมเปลือกๆ ไม่ใช่แค่ไทยแต่มันเป็นทั่วโลก มันคือธรรมชาติของคนตามความเป็นจริง
ในฐานะที่เราตามล้างตามเช็ดตามคอมเม้นต์ยาวๆๆๆหลายที่ทั้งที่พันทิปยูทูปและอินสตาแกรม ไม่ว่าจะบอกให้ชาวด้อมมายด้อมเอยแยกแยะ ใจเย็นๆ รอดูละครให้จบก่อน เคยถกเถียงเรื่องศีลธรรมต่างๆางๆกับชาวเน็ต เรื่องดูไปด่าไป เรื่องจิตสำนึกต่อสังคม ฯลฯ แบบที่เราไม่เคยทำมาก่อน ณ ตอนนี้ ต้องบอกว่า
"""เราผิดหวังตอนจบมากค่ะ!!!!!""""
โอเคเรามั่นใจว่าเราเข้าใจถูกแล้วที่ละครเรื่องนี้โดนหั่น นักแสดงบอกตลอดมาว่าละครมี 18 ตอน โดยเฉพาะในรายการแฉที่ก็อตบอกตอนออกอากาศว่ามี 18 แต่เช้าวันต่อมาดันเหลือ 17 (ซ่ะงั้น) อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ละครจบแบบไม่แยบยลเท่าที่ควร ละครที่ทำตอนจบไว้2แบบ สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ทั้งสองแบบ แต่เป็นแบบที่ 3 เห็นได้ชัดว่าเพิ่งไปถ่ายทำกันใหม่มา สังเกตุจากทรงผมมายตอนจบ ซึ่งคือทรงผมมารีน่า ณ ปัจจุบัน! และในไอจีนักแสดงก็ทำให้เห็นชัดว่ามีการถ่ายทำซ่อมจริงๆ
เราผิดหวังในตอนจบจาก
1. ขวัญเอย+เหนือเมฆ
คือคุณไก่อาจจะอยากปูละครเรื่องนี้เป็นละครไร้เพศ รักได้ไม่จำกัดเพศ เราเข้าใจนะ และเห็นด้วยว่ามันควรจะทำ คนหลากหลายทางเพศถูกกดขี่ไม่ให้แสดงความรักหลายรุ่นตั้งแต่โบราณ เข้าใจที่อยากจะเรียกร้องในตรงนี้ และเท่าที่เราอ่านฟีดแบ็คมา เราเห็นว่าควรทำ เพราะเราตกใจมากที่ผญ.หลายคนเกลียดชายรักชาย และมองเรื่องนี้เป็น "อาชญกรรม" ผช.ไม่มีสิทธิ์รักกับผู้ชาย ทำไม่ได้ ผิดธรรมชาติ บลาๆ... ตรงนี้เราจึงเข้าใจว่าผู้จัดอาจอาจจะอยากนำเสนอความรักไร้เพศให้คนตระหนัก เราสนับสนุนเพราะมันคือเรื่องธรรมชาติที่ชายจะรักชายหญิงจะรักหญิงหรือหญิงชายจะข้ามเพศ เรื่องพวกนี้มันมีทั้งในคนและสัตว์ ฉะนั้นคนเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะทำได้ทุกอย่างเท่าเทียมชายหญิงทั่วไป (เท่าเทียมนะไม่ใช่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ทำอะไรก็ได้ไม่ผิด ไม่ใช่!!) สมัยโรมันชายก็รักชายเป็นปกติ แต่พอมีศาสนาเข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
แต่สุดท้ายคุณผู้จัดก็ทำไม่สุด😏 คุณไม่ขยี้ประเด็นนี้มากพอและที่ไม่อินเลยคือ ความรักของเอยกับเหนือ มันไม่มีฉากไหนที่หวานอะไรมากมายหลังจากปัญหาต่างๆถาโถมมา มันไม่เคลีย มันไม่บ่งบอกว่ารัก มันเหมือนเหนือรู้สึกสงสารเอยมากกว่ารัก จริงๆมันควรมีตรงนี้หรืออะไรก็ตามที่พอจะทำให้คนดูทีมมายเข้าใจว่ามันไปรักกันตอนไหนแน่ๆ รักยังไงเกิดขึ้นยังไงนอกจากฟุตบอลกับหนอน อะไรที่ทำให้เหนือเลือกเอยมากกว่ามาย แทนที่บทจะโฟกัสจุดนี้มากหน่อย แต่ดันไปโฟกัสการต่อสู้เอาชนะคาดคั้นเอย การพยายามจะดึงดันเอาเอยกลับมาซ้ำๆซากๆจนปัญหา ""ผิดศีลธรรม" เกิดขึ้นและเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ของคนดู🙄 อ่อ เราเจ็บนิดๆที่ไม่ได้ยินเหนือบอกรักเอยกับปากเลยสักครั้ง แม้แต่วินาทีสุดท้ายที่อยู่ในอ้อมกอดตน อันนี้โหดน่ะ รู้ว่าการกระทำคือรัก แต่บอกให้ได้ยินนี่ไม่มีเลย 😔😪 (เจ้าแม้นเมืองเจ้าน้อยสุขวงศ์ในเวอร์ชั่นพี่อั้มพี่บรุคลอยมาเลยทีเดียว)
(ปล. หรือว่าถ้าไม่ตัดออกมันอาจจะยังจะมีฉากเหล่านั้นอยู่? จำได้ว่าก็อตเคยบอกฉากที่ประทับใจของก็อตในรายการหนึ่ง ว่าก็อตชอบฉากท้ายๆ ที่เป็นฉากอารมณ์และมันเป็นฉากที่ยากสำหรับก็อต มันจะมีการรวบรวมเรื่องราวต่างๆตั้งแต่ต้น เราตั้งตารอดูฉากนี้เหมือนกัน สุดท้ายก็ ไม่มี 😒)
2. เหนือ+มาย
เรารู้สึกโอเคกับการที่เหนือใจร้ายใส่มาย ทำท่าทางแข็งๆเย็นชากับมายเพราะอยากจะให้จบๆไป ไม่อยากให้น้องเสียใจยาวนาน จริงๆมันเป็นเรื่องดีเพราะว่ามันจะทำให้มายตัดใจได้เร็วขึ้น ไม่ยืดเยื้อ (ส่วนตัวเราใช้เวลาตั้ง 5 ปีนะกว่าจะตัดขาดได้กับปัญหาที่เจอมาคล้ายมายแทบเป๊ะๆ ทั้งๆที่เจ้ากรรมนายเวรเราก็ร้ายกว่าเจ๊เหนือเยอะมากๆๆๆๆ)
แต่!!!! เราไม่โอเคที่สุดท้าย... มันห้วนไปนะ! จริงๆถ้าจะบอกว่าเหนือรู้จากแม่มานานแล้วว่ามายวางแผนกรีดหน้าเอยจนเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนั้น ทำให้เหนือไม่โอเคกับมาย มันโอเคน่ะ แต่นี่คือไม่มีอะไรเลยนอกจากรำคาญที่มายตอแยตนเองเกินไป!? แต่เมิงคะ? ไม่มีเหลือเยื่อใยกับมายเลยเพราะมีแค่ความทรงจำกับเอยนี่นะ(หรา?🤕) แล้วกับมายหลายๆจุดหายไปไหนยังไง? นี่สมควรที่ทีมมายจะปรี๊ดแตกจริงๆแหละ! อย่างน้อยก็ควรแฟลชแบ็คเปรียบเทียบอารมณ์และโมเม้นต์ระหว่างเหนือกับมาย อดีตและปัจจุบันที่มายเปลี่ยนไปหน่อย ยังจะทำให้เข้าใจว่า อ่อ ไม่รักมายเพราะแบบนี้น่ะ! ไม่ใช่มาบอกดื้อๆว่าคิดถึงแต่เอยรักเอย อะไรยังไงที่มาที่ไปจุดนี้ หายซ่ะ! น่าจะมีโมเม้นต์... อ่อ ที่มันรักเอยเพราะแบบนี้ๆๆ กับมายแค่ตกหลุมรักแบบนี้ๆๆ แต่กับเอยคือความสุขใจสบายใจแบบนี้ๆๆ ไอ้รักเอยเราก็เข้าใจนะ เราสนับสนุนด้วยซ้ำ แต่ต้องให้ความสำคัญกับมายด้วย นี่อะไร บทปูให้มายจมไปมากจริงๆนะแหละ ต่างจาก9ตอนแรกที่ทั้งเอยทั้งมายมีความสำคัญเท่ากัน แต่ตอนหลังๆมายจมดินไปเลย นี่กระมังที่ทำให้คนดูผญ.ส่วนมากเข้าใจว่ากดขี่เพศหญิง
3. แม่กับมาย
โลกความเป็นจริงที่โหดร้าย เรารับรู้ได้ว่า แม่รักเอยมากกว่ามาย นี่ขนาดเราเป็นคนดูคนหนึ่งที่เข้าใจที่มาและความร้ายของมายแต่ต้นยังคิดแบบนี้ นับประสาอะไรกับทีมมาย เขาจะไม่ปรี๊ดแตกได้ไง คือน่าจะให้แม่ได้พูดได้อธิบายและแสดงความรักกับมายมากกว่านี้ไหมอะ เน้นตรงนี้ให้มากขึ้นหน่อยว่าแม่รักมายไม่ได้น้อยไปกว่าเอย ให้มายเข้าใจจากปากแม่ไม่ใช่เข้าใจด้วยตัวเองแล้วบอกว่ามายเข้าใจ สำหรับคนขาดความอบอุ่นจากแม่เราพูดได้เต็มปากเลยว่ามายควรจะได้รับรู้ความรักของแม่ที่มีต่อตนมากกว่านี้ ไอ้คิดได้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การแสดงความรักของแม่ระหว่างเอยกับมายควรจะเท่ากัน ไม่ใช่ทำให้มายรู้สึกน้อยใจนิดๆแม้นแต่วินาทีสุดท้ายจนต้องอ้อนแม่เองว่า แหมๆ มายก็รักแม่นะคะ... งี้?🤨!
สำหรับเอยกับแม่เเราให้ผ่านค่ะ ดีใจที่แม่ยอมรับสักทีว่าอะไรเป็นอะไร แต่สุดท้ายก็เหลือแค่คำว่ารักแหละ มันสายไปนิดๆนะคะคุณแม่เพราะเอยตายจากแม่ไปแล้ว บอกรักลูกช้าไปน่ะ อิๆ
4. มาย
ตอนจบเราหวังแบบมากๆๆ คือตอนนั้นมั่นใจมากกกกตั้งแต่ที่มายเปลี่ยนไปว่าบทมันจะต้องมีอะไรดีๆตอนจบเกี่ยวกับมายสิ เพราะปูมาขนาดนี้ เราต้องเห็นความโดดเด่นของมายมากกว่านี้ แต่ก็นะ🙄!!! เราโล่งใจที่มายไม่ได้กับเหนือตามที่หวังนะ แต่ไม่ดีใจที่มายไม่มีความเป็นตัวเองมากนัก เราหวังลึกๆว่าตอนจบมายจะสวยๆเริชๆเป็นสาวมั่น เป็น Feminist จริงๆ รักตัวเองจริงๆ โสดสวยๆให้ผช.ตายเล่นๆ และก็เด็ดขาดสมกับการที่นางพยายามจะเปลี่ยนตัวเอง หรืออาจเปลี่ยนจากสาวใสๆเป็นสาวเปรี้ยวๆเพราะประสบการณ์ทำให้นางโตขึ้นและเรียนรู้กับมัน โอเคแหละนางยอมรับถอยออกมาจากปัญหารัก4เศร้าได้ก็โอเคแล้ว
.....
สิ่งที่ผิดหวังของเราจบเท่านั้น แต่ต่อจากนี้คือ กระแสสะท้อนสังคมในมุมมองเรา เราเคยมองว่าละครมันก็คือละคร โดยเฉพาะละครดราม่าที่ส่วนมากทำมาสอนคนและให้ข้อคิด แต่เท่าที่ดูมาและการท้วงติงของเม้นต์ๆหนึ่งในพันทิปทำให้เรานึกขึ้นได้ว่า เออ จริงว่ะ ไม่ใช่คนดูทุกคนจะแยกแยะได้ นี่คราวนี้เราเห็นได้ชัดจริงๆจากเม้นต์ต่างๆในยูทูปของทีมเอยทีมมาย คนส่วนมากเลือกที่จะเสพในสิ่งที่เห็น(สั้นๆ)แล้วตัดสินทันทีมากกว่าที่จะวิเคราะห์หาสาเหตุและที่มา ละครเรื่องนี้จึงได้ขึ้นชื่อว่าผิดศีลธรรมสำหรับหลายๆคน เราเข้าใจแจ่มแจ้งจริงๆก็คราวนี้ ฉะนั้นถ้าจะให้ดี ละครน้ำเน่าๆนี่ควรเลิกผลิตจริงๆ ไม่ใช่แค่แบบซ่อนเงารักหรอก จริงๆ90%ของละครไทย มันก็มีแต่แนวนี้แหละ เพราะคนรักที่จะเสพอะไรแนวนี้
แต่สำหรับเรา(และคนที่แยกแยะได้) ในฐานะคนที่ดูมาตั้งแต่ต้น เรายังมองว่ามันโอเคแล้วที่ละครสะท้อนออกมาแบบนี้ หลายคนมองว่าละครไม่มีความรับผิดชอบในหลายๆอย่าง ทั้งในบทเอย เหนือ ที่แต่งงานแล้วแต่ยังไปรักกัน ถ้าคนที่ดูละครและทำความเข้าใจก็จะรู้ว่า "ศีลธรรม"ใช้กับกรณีนี้ไม่ได้มากนัก เราว่านี่คือบทเรียนที่ดี คิดว่านี่คือหนึ่งในสิ่งที่ผู้จัดพยายามจะบอกกับสังคมว่า ความรับผิดชอบต่อความรู้สึกตนเองก็สำคัญไม่น้อยเหมือนกัน (แต่มันก็ต้องมากับคำว่าพอดีไม่ใช่อะไรก็ตามใจฉันทั้งหมด ย้ำ!) ให้ดูอย่างกรณีป๊ากับแม่ใหญ่ ป๊ากับแม่ขวัญเอยขวัญมา อยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์ อีกคนรักอีกคนไม่รัก การใช้ชีวิตคู่มันเลยไม่ยั่งยืนและเป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้น เป็นเวรเป็นกรรมรุ่นตนไม่พอยังซัดต่อมาถึงรุ่นลูก ซึ่งต้องบอกว่าชีวิตจริงส่วนมากมันเป็นจะแบบนั้น พ่อแม่เป็นแบบไหนเจอปัญหาอะไรมาลูกก็จะเป็นแบบนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะกับลูกที่ขาดความอบอุ่นและดูถูกพ่อแม่ตนเองหรือตำหนิในใจและไม่พยายามทำความเข้าใจให้อภัยในการใช้ชีวิตที่ไปไม่รอดหรือผิดพลาดของพ่อแม่ สุดท้ายก็รับกรรมมาใช้ชีวิตแบบนั้นเอง
เราจึงยังยืนยันคำเดิมที่เคยออกความเห็นเรื่องนี้ไว้แล้วว่าการแต่งงานและใบทะเบียนสมรสไม่ได้สำคัญต่อชีวิตคู่เลย จุดจบของชีวิตคู่ไม่ใช่การแต่งงาน และยิ่งการแต่งงานอย่างในละครที่แต่งกันแค่ในทางนิตินัยทั้งคู่พี่คู่น้อง เรื่องนี้มันยิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าศีลธรรมไม่ควรผูกขาดต่อการแต่งงานแต่อย่างใด มันต้องดูบริบทของแต่ละกรณีจริงๆ แต่กระนั้น... คนดูมากกว่า 50%ก็เลือกที่จะเสพดราม่าและโฟกัสจุดผิดศีลธรรมในละคร คนให้ความสำคัญกับสถานะสมรส(ปลอมๆ)มากกว่าความทุกข์ของคนสองคน และยิ่งหนักไปกว่าเดิมเมื่อเป็นกรณีชายรักชายที่ยังมีคนไม่น้อยยังรับไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้เราจึงเห็นว่ามันโอเคที่เหนือจะอยู่กับเอยในชีวิตช่วงสุดท้าย ให้พวกมันมีสุขกันบ้างก็ดีอยู่ และละครก็ไม่ได้เน้นเรื่องพฤตินัยกันเลย แต่มันเป็นรักและเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ส่วนใครจะมองต่างไปอย่างไรเราคงห้ามความคิดใครไม่ได้ เราจะโทษเหนือในเรื่องนี้มากไม่ได้ เพราะตอนแต่งงานเหนือมันไม่รู้นิว่ามีคนสองคนที่เป็นเมียมันในเงาของมาย
สุดท้ายนี้ต้องปรบมือรัวๆให้ริต้าที่นางเป็นคนที่รู้จักความรักจริงๆ รักแบบนี้แหละที่เรียกว่า "ความรัก" รักแบบไม่มีพรหมแดน รักแบบไม่มีข้อแม้ นี่คือตัวอย่างที่คนควรจะเอาไปเป็นตัวอย่าง เพราะมันลดปัญหาการเห็นแก่ตัวได้มากๆ ริต้าให้ความรู้คนดูเรื่องความรัก( คนแบบนี้มีในโลกนี้จริงๆ เราเคยเห็นมาแล้ว😊) การใช้ชีวิตคู่คือการยอมรับข้อเสียของกันและกัน ริต้ารู้ว่าเอยรักเหนือเมฆ รู้ตั้งแต่ต้นว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ยังตัดสินใจแต่งงานกับเอย ไม่ใช่เพราะดันทุรังแต่เพราะริต้ารักเอย แสดงว่าริต้ายอมรับความจริงข้อนี้ได้ ทำให้การใช้ชีวิตคู่ของริต้าดูมีความสุขมากกว่าเหนือมายหลายขุม
ข้อคิดอีกเรื่องจากละครเรื่องนี้ คนดูควรเอาไปตระหนักไว้ ว่าถ้าไม่แน่ใจไม่ได้รักจริงๆ อย่าริแต่งงาน โดยเฉพาะถ้าแต่งงานโดยการโดนบังคับ คลุมถุงชน เลี่ยงได้เลี่ยง! เคารพความรู้สึกตัวเอง (แต่ก็ไม่ตามใจฉัน ย้ำ!) เราเห็นๆกันพอแล้วจากตัวอย่างความวุ่นวายชวนปวดหมองในละคร
อ่อ ชาวเกาะ... ควรตระหนักไว้เสมอสำหรับคนที่ชอบกอดทะเบียนสมรส ชีวิตคู่มันไม่ได้จบแค่การแต่งงาน แต่มันคือการเริ่มต้น ถ้าเริ่มต้นไม่ดีไม่มีความสุข ก็ออกๆมาเหอะ คนมันไม่รักแล้ว อยู่ไปก็เจ็บไม่จบสิ้น เลือกจบปัญหาเองจะดีกว่านะคะ
ปล. เราแยกแยะละครกับชีวิตจริงได้ แยกแยะงานและเรื่องส่วนตัวได้ แต่เราแยกแยะที่คุณไก่ไปจิกกัดน้องริชชี่แบบนั้นไม่ด้ายยย😤😡 อันนี้เรื่องส่วนตัวปนกับเรื่องงานชัดเจนมาก จึงขอตำหนิค่ะในฐานะคนที่ชื่นชอบริชชี่! แต่คนก็ด่าคุณไก่เยอะแล้วเนอะ หวังว่าคุณไก่จะจะคิดก่อนพูดมากกว่านี้นะคะ #จบ สวัสดี 😝