เราลาออกมาตอนต้นเทอมม.6ค่ะ ตอนเรียนเกรดเราไม่ได้แย่ค่ะ แต่ด้วยสาเหตุที่หลายๆคนมองว่ามันเล็กน้อยแต่สำหรับเราคือมันหนักมากจริงๆ ณ ตอนนั้นคือการโดนบูลลี่จากเพื่อนและครูตอนนั้นทางบ้านเรายังไงก็ยืนยันให้เราออกเพราะตอนนั้นเราเป็นโรคซึมเศร้าเรียบร้อยแล้ว ถ้าเรียนต่อแล้วเราเป็นอะไรไปมากกว่านี้มันไม่คุ้มที่เราจะต้องเรียนจบจากที่นี่เลย ตอนนี้เรากำลังต่อกศน.และทำงานไปด้วยค่ะ เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อเงินเดือน10,000++ เราตั้งใจจะเรียนมหาลัยเพื่อเอาไปใช้ทำงานต่อค่ะ
แต่มีแต่คนบอกว่าเราทำพลาดที่เลือกลาออก "ทำไมไม่ฝืนให้จบอีกปีเดียวเอง น่าเสียดาย" "ตัดอนาคตตัวเองชัดๆ" เราคาใจมากว่าเราเลือกผิดขนาดนั้นเลยหรอคะ?
เรารู้สึกว่าที่เราออกมาเราโอเคมากกว่าต้องฝืนแบบนั้นด้วยซ้ำ สิ่งที่เราชอบเราอยากเรียนก็ไม่ได้เรียนเท่าที่เราหวัง(เราเรียนศิลป์-ภาษาค่ะ ตอนเลือกห้องเราเลือกเพราะเราชอบ แต่กลายเป็นห้องเราคือห้องบ๊วยค่ะ เป็นห้องที่มีแต่เด็กฝากและคนที่สอบห้องวิทย์-คณิตไม่ติดแล้วมาลง ทำให้ครูไม่ทำการสอนเท่าที่ควรจะเป็น สอนแค่ผ่านๆไป)
เราก็ไม่ใช่ว่าจะทิ้งการเรียนไปเลย แถมออกมาแบบนี้เราได้เจอคน เจอนักท่องเที่ยว ได้ใช้ภาษาอังกฤษที่เราชอบและเรียนด้วยตัวเองมาตลอด เราอยากรู้ว่าในสายตาคนอื่นเราทำผิดพลาดมากเลยเหรอคะ?
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
สำหรับเหตุผลที่ลาออกอยู่ในสปอยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้**สำหรับเรื่องที่เราเจอแล้วตัดสินใจลาออก อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆของใครหลายๆคน แต่สำหรับเราเราไม่โอเคค่ะ เพราะคนที่ควรเป็นผู้ใหญ่ที่คอยให้คำปรึกษาเองกลับไม่สนใจเราเลย
เรื่องคือตอนเรียนอย่างที่เราเคยบอกค่ะเราไม่ได้เรียนแย่ ดังนั้นจะโดนขอลอกงาน กับลอกข้อสอบ ใช่ค่ะ ลอกข้อสอบด้วย ถ้าลอกงานก็จะมีให้บ้างไม่ให้บ้าง เพราะบางอันมันง่ายมากเราจะคอยบอกให้เค้าลองทำเองกันตลอด เรายินดีสอน แต่ไม่อยากให้ลอกค่ะ แต่พอขอลอกข้อสอบมันทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับเรา เราตั้งใจอ่านหนังสือตั้งใจทำข้อสอบแทบตาย คุณไม่ทำอะไรเลยแล้วมาข้อลอกแล้วได้คะแนนเท่าเรา ทำให้เรารู้สึกไม่แฟร์ เราเลยบอกคนกลุ่มนั้นไปว่า "ลองทำเองเถอะมันไม่ยากขนาดนั้นหรอก"ตั้งแต่นั้นมาเราก็เริ่มโดนการพูดประชดประชันเช่น "ทำเป็นเก่ง กับอิแค่ลอกนิดๆหน่อยๆทำเป็นงก" "ลอกแค่นี้จะตายหรอ" ตอนนั้นยอมรับเลยค่ะเราสะเทือนใจมาก เราเป็นคนคิดมากกับคำพูดอยู่แล้วด้วย ทำให้เราไม่เข้าใจมากว่าเราผิดอะไร เริ่มลามไปถึงการขโมยของๆเราไป บอกครูแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนสอบปลายภาคเราก็โดนใส่ร้ายว่าเราเป็นคนฟ้องครูว่าพวกนั้นแอบใช้โทรศัพท์ตอนสอบ ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรเกิดขึ้นในห้องและเราก็โดนด่าฟรีๆโดยที่เราไม่รู้อะไรเลย ทำให้พอขึ้นม.5เราเริ่มไม่อยากไปเรียน เราก็บอกที่บ้านว่าป่วยบ้างอะไรบ้าง เราไม่อยากบอกเรื่องที่เราเจอมา พอเราไปเรียนก็เริ่มโดนครุประจำชั้นพูดใส่ว่า "ยังอยู่อีกหรอ ไม่ลาออกไปซะละ ถ้าจะหยุดก็ลาออกไปเลย" "ติดแฟนจนไม่ยอมมาเรียนละสิ ทำตัวให้มีค่าหน่อยนะ"ซึ่งตอนนั้นเรามีแฟนจริงๆแต่แฟนอยู่คนละซีกโลกกับเราเลย ซึ่งเรางงมากว่าทำไมถึงมาพูดกับเราแบบนี้? เราก็ได้อต่บอกว่าเราป่วยและก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากเพราะตอนนั้นเราแค่คิดว่าเดี๋ยวอีกปีก็จบแล้ว เราเลยพยายามไม่สนใจ และตอนนั้นข่าวลือว่าเราติดผู้ชายก็ดังไปทั่ว ครูทุกคนก็พากันพูดใส่ประมาณ"เสื้อผ้ายับนี่ไปนอนกับผู้ชายมาใช่มั้ย" "ไปอยู่กับผู้ชายล่ะสิ กลับบ้านซะบ้างนะ"คือเรางงมาก เป็นครูแต่กลับพูดขนาดนี้เลยหรอ แต่คงผิดที่เราเลือกจะเงียบเอง พอม.6เราก็ตั้งใจจะเรียนให้จบ เราจะไม่สนอะไรแล้ว(ซึ่งตอนนั้นเรามีติด ร จากครูคนที่เค้าพูดแบบนั้นใส่เรานั่นล่ะค่ะ ทั้งๆที่ส่งงานทุกอย่างสอบครบ เวลาเรียนครบ แต่เราติดซึ่งเราก็งงเหมือนกัน) จนเราก็โดนพูดใส่แบบนี้มาเรื่อยๆ บวกกับเราทะเลาะกับที่บ้าน(เรื่องหยุดนี่แหละค่ะ เพราะเค้าคิดว่าเราขี้เกียจละอ้างไปเรื่อย)ทำให้เราจิตใจย่ำแย่จนตัดสินใจกินน้ำยาล้างห้องน้ำ จนเราเข้ารพ.ไป1อาทิตย์ เราเล่าทุกอย่างให้หมอฟังว่าเราเจออะไรมา คุณหมอก็บอกให้ที่บ้านเราฟัง ตอนนั้นทุกคนถึงรู้ว่าเราเจออะไรมาบ้าง และสรุปได้ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า พอออกจากรพ.มาเรายังต้องไปหาหมอทุกอาทิตย์ทำให้เราหยุดบ่อย จนวันนึงครูประจำชั้น(คนใหม่)โทรมาบอกว่าถ้าหยุดอีกจะแขวนชื่อแล้วนะ ฉันหมายหัวเธอแล้วนะ มันมีปัญหาอะไรกันนักหนา เราเลยเล่าเรื่องที่เราเจอทั้งหมดให้เค้าฟัง ครูเลยหลุดมาว่า "เพราะเธอถ่วงคนอื่นละสิเค้าเลยไม่คบ"เราตอบตอนนั้นเลยว่าหนูไม่เคยถ่วงใครค่ะ ใครเป็นคนพูดคะ ครูก็ชะงักละบอกก็ถามเพื่อนเธอ5-6คนไง เค้าบอกเธอถ่วง เรียนก็ไม่ตั้งใจเรียน งานก็ไม่ช่วยทำ ทั้งๆที่เราก็ตั้งใจเรียน งานกลุ่มมีคน7-8คนคุณโยนให้เราทำเราก็ทำ เราเป็นคนทำเองทั้งหมด ไม่หลับไม่นอนเราก็ทำงานกลุ่มให้ก่อนตลอด ตอนนั้นเราร้องไห้แล้วบอกกลับไปว่าเราไม่เคยถ่วงใคร ทำไมทำกับเราแบบนี้ ครูก็บอกแต่ไม่รู้ๆๆถ้าเธอไม่แย่เพื่อนคงคบกับเธอแหละ ทนไม่ได้ก็ลาออก วันนั้นเป็นครั้งแรกในรอบ10กว่าปีเลยที่เราร้องไห้ให้พ่อกับแม่เห็น วันนั้นเลยเป็นวันที่ที่บ้านเราตัดสินใจให้ออกค่ะ วันไปลาออกเราก็ไปหาครูคนนั้น เราบอกถ้าอยากรู้ทำไมไม่ถามทุกคนล่ะว่าเราเป็นไงจะแยกเฉพากลุ่มทำไม ห้องทั้งห้องไม่ใช่ว่าจะชอบหน้ากันทุกคนนะ ครูก็บอกแต่ไม่รู้ๆๆ ครูพึ่งมาประจำชั้นปีนี้ปัญหาเธอตั้งแต่ตอนไหนฉั้นไม่รับรู้ ถ้าทนได้ก็มาเรียนทนไม่ได้ก็ไม่ต้องมา ไปหาฝ่ายปกครองเค้าบอกจะดูให้ว่าใครไม่ชอบเรา ยื้อเราทุกทาง เราเลยรอวันนึงพอไปถามใหม่สรุปคือเค้าลืมและยังไม่ได้ทำอะไรเลยเราเลยรู้เลยว่าต่อให้ทนเรียนไปเค้าก็ไม่คิดจะช่วยเราแน่ๆ พอเป็นงั้นเลยลาออกมาค่ะ วันไปเอาใบลาออกก็ยังพูกันว่า เราคงลาออกไปอยู่กับผัวล่ะสิ วันนั้นเราก็เถียงเลยว่าแฟนหนูไม่ได้อยู่นี่และหนูก็ไม่ได้จะไปอยู่กับเค้าด้วย ครูก็ทำมองบนใส่ละบอกว่าไม่เชื่อหรอก วันนั้นเราแย่มากคือเสียใจที่ลาออกเหมือนกัน เสียดายเหมือนกัน แต่พอเจอแบบนั้นเรารับไม่ได้จริงๆค่ะ
สำหรับคนที่อ่านสาเหตุของเราแล้วสงสัยว่าตอนนี้เราทำงานแล้วต้องเจอปัญหาหนักกว่านี้จะไม่เป็นแบบเดิมอีกหรอ ตอนนี้เราได้รับการรักษาและพบแพทย์ตลอดค่ะทางบ้านก็เข้าใจมากขึ้น ที่ทำงานก็เจอแต่คนที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นคนดีมากๆ เพราะงั้นตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ
ขบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่าน
ชีวิตของเราตอนนี้ถือว่าผิดพลาดมั้ยคะ?
แต่มีแต่คนบอกว่าเราทำพลาดที่เลือกลาออก "ทำไมไม่ฝืนให้จบอีกปีเดียวเอง น่าเสียดาย" "ตัดอนาคตตัวเองชัดๆ" เราคาใจมากว่าเราเลือกผิดขนาดนั้นเลยหรอคะ?
เรารู้สึกว่าที่เราออกมาเราโอเคมากกว่าต้องฝืนแบบนั้นด้วยซ้ำ สิ่งที่เราชอบเราอยากเรียนก็ไม่ได้เรียนเท่าที่เราหวัง(เราเรียนศิลป์-ภาษาค่ะ ตอนเลือกห้องเราเลือกเพราะเราชอบ แต่กลายเป็นห้องเราคือห้องบ๊วยค่ะ เป็นห้องที่มีแต่เด็กฝากและคนที่สอบห้องวิทย์-คณิตไม่ติดแล้วมาลง ทำให้ครูไม่ทำการสอนเท่าที่ควรจะเป็น สอนแค่ผ่านๆไป)
เราก็ไม่ใช่ว่าจะทิ้งการเรียนไปเลย แถมออกมาแบบนี้เราได้เจอคน เจอนักท่องเที่ยว ได้ใช้ภาษาอังกฤษที่เราชอบและเรียนด้วยตัวเองมาตลอด เราอยากรู้ว่าในสายตาคนอื่นเราทำผิดพลาดมากเลยเหรอคะ?
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
สำหรับเหตุผลที่ลาออกอยู่ในสปอยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับคนที่อ่านสาเหตุของเราแล้วสงสัยว่าตอนนี้เราทำงานแล้วต้องเจอปัญหาหนักกว่านี้จะไม่เป็นแบบเดิมอีกหรอ ตอนนี้เราได้รับการรักษาและพบแพทย์ตลอดค่ะทางบ้านก็เข้าใจมากขึ้น ที่ทำงานก็เจอแต่คนที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นคนดีมากๆ เพราะงั้นตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ
ขบคุณมากค่ะที่เข้ามาอ่าน