นักแต่งเพลงดัง เจ้าของเพลง "ถอนตัว" ร้อง "ทนายรัชพล" ช่วยเรื่องคดีถูก "เบิร์ด กะ ฮาร์ท" ละเมิดลิขสิทธิ์ นำเพลงไปทำอัลบั้มใหม่ และร้องตามที่ต่างๆ โดยไม่ขออนุญาต คดีไม่คืบหน้านานกว่า 4 ปีแล้ว
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายกรวิทย์ นิมมานศิริกุล อายุ 50 ปี นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังในอดีต พร้อมเพื่อนศิลปินนำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียน นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ที่สำนักงานกฎหมาย ย่านตลาดขวัญ จ.นนทบุรี หลังคดีความฟ้องร้อง 2 ศิลปินดูโอชื่อดัง เบิร์ดกะฮาร์ท ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ถอนตัว ที่โด่งดังในยุค 90 นำไปทำอัลบั้มใหม่และนำเพลงไปร้องตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่ได้มีการขออนุญาต ซึ่งคดีไม่มีความคืบหน้านานกว่า 4 ปีแล้ว
นายกรวิทย์ กล่าวว่า เพลง ถอนตัว เป็นเพลงที่ตนแต่งเนื้อร้องและทำนองเองทั้งหมด ก่อนจะทำสัญญาขายลิขสิทธิ์ให้กับทางบริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เมื่อปี 2544 โดยในสัญญาระบุว่า ให้มีสิทธิ์นำเพลงถอนตัวไปร้องได้เพียง 1 ต้นแบบเท่านั้น หมายความว่าทางแกรมมี่สามารถให้นักร้องร้องได้เพียง 1 คนเท่านั้น เนื้อร้องทำนองเพลงเดิมจะนำไปให้คนอื่นร้องหรือทำดนตรีใหม่ไม่ได้ แต่เบิร์ดกะฮาร์ท กลับนำเพลงของตนไปทำอัลบั้มใหม่ออกขาย นอกจากนี้ ยังนำไปร้องตามสถานที่ต่างๆโดยไม่มีการขออนุญาต ตนได้ทำหนังสือสอบถามไปหาทั้ง 2 คน ก็อ้างว่าไม่รู้ให้ติดต่อไปที่ทางแกรมมี่เอง
ซึ่งตนก็ได้มีการสอบถามไปทางแกรมมี่แล้วก็ยืนยันว่า สัญญาที่ตนทำไว้กับทางแกรมมี่นั้นถูกต้อง แต่ในส่วนที่ทางเบิร์ดกะฮาร์ทนำไปร้องนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางแกรมมี่ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ตนจึงได้นำเอกสารเข้าเเจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงกับสองศิลปินดังกล่าวแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้านานกว่า 4 ปี ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร วันนี้จึงรวบรวมเอกสารทั้งหมดมาร้องกับทนายรัชพลให้ช่วยติดตามคดีลิขสิทธิ์เพลงของตนให้ด้วย การแต่งเพลงแต่ละครั้งศิลปินนั้นต้องรังสรรค์ผลงานกว่าจะได้เเต่ละเพลง บุคคลใดนำเพลงที่ศิลปินแต่งขี้นไปใช้ เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ถูกต้อง
ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า ในเรื่อง พรบ. ลิขสิทธิ์ เป็นเรื่องตกลงกันได้ เป็นการยอมความกันได้อยากให้คู้กรณีเข้ามาคุยและตกลงไกล่เกลี่ยกันจะได้จบกันด้วยดี ดีกว่ามานั่งขึ้นศาลเสียเงินเสียทองกันเปล่าๆ จะมีการยื่นหนังสือเร่งรัดติดตามคดีเพราะคดียังล่าช้าอยู่ การที่จะเอาเพลงคนอื่นไปร้องจะต้องดูว่าเพลงนั้นมีลิขสิทธิ์หรือไม่ถ้ามีควรจะต้องขออนุญาตก่อน ไม่งั้นจะเกิดความเสียหายกับเจ้าของเพลงได้ และต้องชดใช้ค่าเสียหายกันอีก
ที่มา
https://www.dailynews.co.th/crime/755553
'เบิร์ดกะฮาร์ท'งานเข้า! เจ้าของเพลงดังร้องละเมิดลิขสิทธิ์
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายกรวิทย์ นิมมานศิริกุล อายุ 50 ปี นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังในอดีต พร้อมเพื่อนศิลปินนำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียน นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ที่สำนักงานกฎหมาย ย่านตลาดขวัญ จ.นนทบุรี หลังคดีความฟ้องร้อง 2 ศิลปินดูโอชื่อดัง เบิร์ดกะฮาร์ท ละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ถอนตัว ที่โด่งดังในยุค 90 นำไปทำอัลบั้มใหม่และนำเพลงไปร้องตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่ได้มีการขออนุญาต ซึ่งคดีไม่มีความคืบหน้านานกว่า 4 ปีแล้ว
นายกรวิทย์ กล่าวว่า เพลง ถอนตัว เป็นเพลงที่ตนแต่งเนื้อร้องและทำนองเองทั้งหมด ก่อนจะทำสัญญาขายลิขสิทธิ์ให้กับทางบริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เมื่อปี 2544 โดยในสัญญาระบุว่า ให้มีสิทธิ์นำเพลงถอนตัวไปร้องได้เพียง 1 ต้นแบบเท่านั้น หมายความว่าทางแกรมมี่สามารถให้นักร้องร้องได้เพียง 1 คนเท่านั้น เนื้อร้องทำนองเพลงเดิมจะนำไปให้คนอื่นร้องหรือทำดนตรีใหม่ไม่ได้ แต่เบิร์ดกะฮาร์ท กลับนำเพลงของตนไปทำอัลบั้มใหม่ออกขาย นอกจากนี้ ยังนำไปร้องตามสถานที่ต่างๆโดยไม่มีการขออนุญาต ตนได้ทำหนังสือสอบถามไปหาทั้ง 2 คน ก็อ้างว่าไม่รู้ให้ติดต่อไปที่ทางแกรมมี่เอง
ซึ่งตนก็ได้มีการสอบถามไปทางแกรมมี่แล้วก็ยืนยันว่า สัญญาที่ตนทำไว้กับทางแกรมมี่นั้นถูกต้อง แต่ในส่วนที่ทางเบิร์ดกะฮาร์ทนำไปร้องนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางแกรมมี่ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ตนจึงได้นำเอกสารเข้าเเจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงกับสองศิลปินดังกล่าวแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้านานกว่า 4 ปี ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร วันนี้จึงรวบรวมเอกสารทั้งหมดมาร้องกับทนายรัชพลให้ช่วยติดตามคดีลิขสิทธิ์เพลงของตนให้ด้วย การแต่งเพลงแต่ละครั้งศิลปินนั้นต้องรังสรรค์ผลงานกว่าจะได้เเต่ละเพลง บุคคลใดนำเพลงที่ศิลปินแต่งขี้นไปใช้ เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ถูกต้อง
ด้านทนายรัชพล กล่าวว่า ในเรื่อง พรบ. ลิขสิทธิ์ เป็นเรื่องตกลงกันได้ เป็นการยอมความกันได้อยากให้คู้กรณีเข้ามาคุยและตกลงไกล่เกลี่ยกันจะได้จบกันด้วยดี ดีกว่ามานั่งขึ้นศาลเสียเงินเสียทองกันเปล่าๆ จะมีการยื่นหนังสือเร่งรัดติดตามคดีเพราะคดียังล่าช้าอยู่ การที่จะเอาเพลงคนอื่นไปร้องจะต้องดูว่าเพลงนั้นมีลิขสิทธิ์หรือไม่ถ้ามีควรจะต้องขออนุญาตก่อน ไม่งั้นจะเกิดความเสียหายกับเจ้าของเพลงได้ และต้องชดใช้ค่าเสียหายกันอีก
ที่มา
https://www.dailynews.co.th/crime/755553