[CR] ทริปแรกของปี 2020 ที่ดอยม่อนจอง

..ทริปแรกของปี 2020 ของเรา ไปม่อนจองกันเต๊อะ..

เปิดทริปแรกในช่วงต้นปี 2020 ด้วยทุ่งหญ้าสีทองในช่วงฤดูหนาวที่ม่อนจอง ทริปนี้เรามีสมาชิกด้วยกัน 3 คน ไปเดินชิลกันที่ม่อนจอง 2 วัน 1 คืน (24 - 25 มกราคม 2563) ที่หลายๆ คนชอบบอกที่นี่เดินง่าย แถมวิวด้านบนสวยมาก เก็บกระเป๋าเดินทางจาก กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กันโล้ดดดด..

ดอยม่อนจอง ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยจุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง เรียกว่า "หัวสิงห์" เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร 

คำว่า ม่อน เป็นภาษาคำเมืองที่หมายถึง ดอยหรือเนินเขา ส่วนคำว่า จอง ก็เป็นภาษาคำเมือง จะออกเสียงว่า จ๋อง หมายถึง ลักษณะจั่ว สามเหลี่ยมที่อยู่สูงที่สุด 

ไฮไลต์ของดอยม่อนจอง คือ การได้ชมทุ่งหญ้าบนภูเขาที่เปลี่ยนเป็นสีทองในช่วงหน้าหนาว ช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก 
ระยะเวลาเปิด - ปิด ม่อนจอง : เดือนพฤศจิกายน - 15 กุมภาพันธ์ ของทุกปี

ศูนย์บริการท่องเที่ยวม่อนจอง มูเซอ โทร 092 559 7201
หรือติดต่อ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ นาย สมบัติ อ่อนสะอาด โทร 085 708 7441
153 หมู่ 2 ต. ยางเปียง อำเภอ อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ 50310

ใครที่ปีนี้อยากจะไป...รีบไปเลย...ปีนี้ดอยเปิดถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563

การเดินทางไปม่อนจอง
จาก กรุงเทพฯ เครื่องบิน/รถทัวร์
    - รถทัวร์จากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถได้ตั้งแต่รอบ 18.00 - 21.00 น. ไปเช้าที่อาเขต
    - จากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถนั่งรถเมล์ประจำทางไปที่อำเภออมก๋อยได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง รถจะมีวันละ 2 รอบ คือ
          - ออกจากเชียงใหม่ 08.30 น. ถึงอมก๋อย 12.30 น.
          - ออกจากเชียงใหม่ 14.00 น. ถึงอมก๋อย 18.00 น.
หลังจากนั้นเหมารถสองแถวใน อ.อมก๋อย ไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย แล้วโทรแจ้งทางศูนย์บริการฯ (ที่ติดต่อเรื่องรถกระบะ) ให้มารับ
   - หรือจากตัวเมืองเชียงใหม่ นั่งรถตู้จากตัวเมืองเมืองเชียงใหม่ ไปยังอมก๋อย รอบแรกประมาณ 05.00 น. หรือ 06.00 น. ถึงประมาณ 10.00 น. โทรนัดล่วงหน้า หากคนเยอะคุณลุงคนขับอาจจะไปส่งถึงศูนย์บริการฯ (เบอร์รถตู้ลุงประเสริฐ 089-559-6486)
หรือจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะขับรถ/เช่ารถไปเองได้ ที่บริเวณศูนย์บริการฯ มีพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ หลังจากนั้นก็นั่งรถกระบะของชาวบ้านต่อ

***หรือหากไปถึงที่อมก๋อยช้า จะพักในตัวเมืองอมก๋อยก่อน หรือจะพักที่หมู่บ้านมูเซอก็ได้ ซึ่งที่หมูบ้านมีโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้พัก (ราคาไม่แน่ใจประมาณ 450 - 500 บาท) เพื่อเตรียมตัวขึ้นดอยในเช้าวันถัดไป
เนื่องจากอำเภออมก๋อยนั้นถือได้ว่าเป็นอำเภอที่อยู่เกือบจะใต้สุดของเชียงใหม่จึงใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองค่อนข้างนาน**

สิ่งที่ต้องเตรียมไปเอง (ถ้าไม่ได้ไปกับกลุ่มทัวร์)
  - เสื้อผ้ากันหนาว (ด้านบนลมแรงมากก)
  - เสื้อกันฝนหรือกันน้ำค้าง
  - กางเกงกันหนาว
  - รองเท้าผ้าใบ
  - รองเท้าแตะ (แล้วแต่จะนำไป)
  - หมวกกันแดด
  - ผ้าบัฟ (ผ้าปิดจมูก)
  - ไฟฉาย
  - เต็นท์ (มีให้เช่า)
  - อุปกรณ์เครื่องครัว แบบปิกนิก (มีให้เช่า)
  - ถุงนอน (มีให้เช่า)
  - ขนมคบเคี้ยวหรือขนมที่ให้พลังงาน (กินระหว่างเดินเท้า)
  - น้ำดื่ม (ด้านบนมีลำธารเล็กๆ ถามพี่ลูกได้) แต่เตรียมไปด้วยก็ดี
  - ทิชชูเปียก (อาบน้ำแห้ง) ด้านบนมีเพียงส้วมหลุมเท่านั้นจ้า

สิ่งที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวม่อนจองมีให้บริการ มีเต็นท์ ถุงนอน แผ่นรองนอน ผ้าห่ม อุปกรณ์เครื่องครัวให้เช่า หรือจะเป็นข้าวกล่อง หมูกระทะบนดอย ติดต่อล่วงหน้า 

ค่าบริการรถกระบะ รับ-ส่ง (ระยะประมาณ 16 กม.)
         นักท่องเที่ยว 1 - 5 คน               ค่าเหมา 2,500 บาท
         นักท่องเที่ยว 6 - 9 คน              ค่าเหมา 3,000 บาท
         นักท่องเที่ยว 12 -17 คน (2คัน)   ค่าเหมา 6,000 บาท
         รถรับ-ส่ง อ.อมก๋อย ค่าเหมา 4,000 บาท (อมก๋อย - ศูนย์บริการฯ - ทางเดินเท้า)
** สำหรับรถกระบะ ถ้าหากนักท่องเที่ยวมากันไม่ถึง 5 คน ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการฯ จะจัดกลุ่มนักท่องเที่ยวให้สำหรับนั่งรถกระบะไปยังจุดเดินเท้า อันนี้หายห่วงได้เลยไม่ต้องกลัวถ้าไปแค่คนเดียวหรือสองคนแล้วกลัวต้องเหมารถกระบะกันเอง**

ค่าลูกหาบ
       ลูกหาบ 1 คน จำกัดน้ำหนักไม่เกิน 30 กก./คน
       ลูกหาบ 1 คน ค่าบริการ 300 บาท/วัน (2 วัน 1 คืน 600 บาท)

ค่าเข้าอุทยานฯ 20 บาท/คน
ค่ากางเต็นท์ 50 บาท/หลัง

เมื่อถึงศูนย์บริการฯ แล้ว เจอพี่ลูกหาบชั่งน้ำหนักสัมภาระที่จะให้ลูกหาบแบก เตรียมมื้อกลางวันให้พร้อม เตรียมน้ำดื่มระหว่างด้วย หรือขนม ช็อคโกแลต ที่จะกินระหว่างทางเผื่อเหนื่อย เราซื้อเจเล่ไลท์ตามเคย อร่อยเติมน้ำตาลระหว่างเดิน หรือถ้าใครอยากกินหมูกระทะตอนเย็นบนดอยแบบฟินๆ ก็โทรแจ้งพี่เจ้าหน้าที่ล่วงหน้าไว้เลย
หมู่บ้านมูเซอ ที่บริเวณศูนย์บริการท่องเที่ยวม่อนจอง

ในช่วงทางขึ้นก่อนถึงจุดเดินเท้าจะเป็นเส้นทางที่ชันและขรุขระจึงต้องเป็นรถกระบะของชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางเท่านั้นถึงจะขึ้นได้ เมื่อได้เวลานั่งรถกระบะและโยกบนรถไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ประมาณ 1.30 ชั่วโมง วิวดีนะ มีอะไรให้มองระหว่างไปตลอด ธรรมชาติสุดๆ  และฝุ่น แต่ถ่ายไม่ได้รถโยกหนักเหลือเกิน จนสุดท้ายก็โยกกันจนถึงจุดเดินเท้าแล้ว **ใครมาแนะนำมีผ้าปิดจมูกมาก็ดี ไม่งั้นจมูกดำปี้**
หลังจากนั่งรถกระบะสูดฝุ่นกันมาเกือบชั่วโมงกว่า ก็ถึงจุดเริ่มเดินแล้ว

ระยะทางเดินเท้าจากจุดเริ่มเดินไปจนถึงประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลา เดินเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถึงเร็ว หรือช้าแล้วแต่ฝีเท้าในการเดินของแต่ละคนเลย 
ระยะทางเดินช่วงแรกจะเป็นทางลาดชันมีขึ้นมีลง แต่จะเน้นลงอย่างเดียวก่อนในช่วงแรก อากาศไม่ค่อยร้อน ค่อยๆ เดินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบรับรองถึงแน่นอน เหนื่อยก็พัก ที่สำคัญที่นี่เดินง่ายคอนเฟิร์ม ^.^
พี่ลูกหาบแบกสัมภาระของส่วนกลางของเราแบบนี้
เส้นทางจะเป็นทางราบสลับกับทางชัน แต่ในความเหนื่อยในตอนนั้น ธรรมชาติระหว่างทางก็ทำหน้าที่บำบัดความเหนื่อยล้าด้วยความสวยงามให้เราเห็นเป็นระยะๆ
เดินกันไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางก็มีจุดพักให้ถ่ายรูป ชมวิวสวยๆ (คิดเอง) ซึ่งบอกได้เลยว่าแค่ระหว่างทางเดินที่ยังไม่ทันจะถึงยอดดอยเราก็ได้รูปหลายรูปแล้ว
"ลานหินช่อ" หรือ "ภูหินช่อ"

เรามาถึงจุดที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของม่อนจองที่ทุกคนต้องผ่านมันไปให้ได้!! เพื่อไปยังจุดกางเต็นท์ในคืนนี้ ลูกหาบบอกว่าจุดนี้ เรียกว่า "เนินหมาหอบ" เนินชัน 60 องศา ที่ไต่ขึ้นไปบนเขา สมชื่อเนินมากเล่นเอาเหนื่อยหอบสมแล้วที่เรียกเนินหมาหอบ แต่ระหว่างที่ไต่ขึ้นเนินก็มีลมเย็นและแรง ทำให้เราไม่ร้อนกันมาก ถ้าไม่มีกระเป๋าแบกอยู่บนหลังคงมีปลิวแน่ๆ
"เนินหมาหอบ"
ความชันของเนินมาหอบ
ผ่านเดินมาหอบขึ้นมายืนอยู่บนนี้ ลมแรงมว๊ากกก

พ้นจากเนินหมาหอบมา ก็จะเป็นทางเดินราบที่เดินได้แบบสบายๆ  และจุดไฮไลท์สำคัญอีกที่ที่จะต้องเดินผ่านก่อนที่จะไปลานกางเต็นท์นั่นก็คือ "สนามกอล์ฟช้าง" ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นลานกว้างๆ สามารถมองจุดชมวิวในระยะไกล และสามารถมองเห็นยอดหัวสิงห์ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ส่วนจุดกางเต็นท์ก็ต้องเดินแยกซ้ายมือไม่ไกลมาก แต่ถ้าไปยอดหัวสิงห์ก็ต้องเดินตรงไป ประมาณ 2 กิโลเมตร
"สนามกอล์ฟช้าง"
ชื่อสินค้า:   ดอยม่อนจอง จ.เชียงใหม่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่