ใส่หน้ากากอนามัย​ให้ถูกต้องกันเถอะค่ะ

เห็นมามากมายหลากหลายกระทู้​ รวมถึงเพจต่างๆที่สอนใส่หน้ากากอนามัย​ แต่บางทีมันก็จะขัดใจอยู่นิด​ๆ​ ว่า​ ทำไมต้องดูสี​ ซึ่งสีหน้ากากไม่เกี่ยวข้องอันใดเลย​ ขึ้นอยู่กับว่าโรงงานจะผลิตออกมาสีไหน​ ซึ่งก็ให้เลือกหลากหลายสีแล้วแต่ผู้บริโภคจะใช้ งานการผลิตหลายอย่างใช้สีเพื่อคัดแยกคนงานแต่ละไลน์​ แต่คุณสมบัติของหน้ากาก​ ก็คือเหมือนกันเพื่อความอนามัย

ทั้งนี้เคยตอบกระทู้ไปเยอะมาก​เรื่องการใส่หน้ากากผิด​ และได้ให้ข้อมูลไปบ้างในบางกระทู้​ จึงของคัดลอกมาตามนี้ค่ะ

ในฐานะที่ทั้งบ้านเป็นหมอ คุณตา แด๊ดดี้ น้า ป้า ลูกพี่ลูกน้อง วงศาคณาญาติ และแฟนเก่า!! รวมถึงการสั่งซื้อหน้ากากอนามัยแทบจะเป็นล้านชิ้นเท่าที่เกิดมา (ทางครอบครัวทำกิจการเกี่ยวกับโรงพยาบาล)
วิธีใส่หน้ากากที่ถูกต้องคือ
1. ลวดบนจมูก
2. รอยจีบพับคว่ำลง
3. ไม่ต้องสนใจสี
4. เรื่องเคลือบกันน้ำอะไรนั่น มันเป็นแค่กระดาษหลายชิ้นมาประกบกัน ต่อให้เคลือบด้านไหน การกันน้ำคุณสมบัติเท่ากันอยู่ดี

เหตุผลที่รอยจีบพับคว่ำลง เฉพาะหน้ากากอนามัยใช้ในโรงพยาบาล หรือเพื่อการอื่นๆ (กระบวนการผลิตอาหาร เครื่องสำอางค์)
1. เพื่อให้เข้ากับรูปหน้าและจมูกในการหายใจ
2. คนที่มีเชื้อโรค เชื้อโรคเวลาหายใจจะถูกกัก อยู่ตามรอยจีบที่เข้ากับรูจมูก ไม่แพร่กระจายออกไปข้างนอก
3. คนปกติที่ใส่เพื่อเผชิญกับเชื้อโรคภายนอก เมื่อรอยจีบพับลง คือ เชื้อโรคภายนอกและฝุ่นจะไม่ถูกกักตามรอยพับของรอยจีบหากใส่แบบรอยจีบหงายขึ้นเชื้อโรค ฝุ่นจะถูกกักตัวเป็นแอ่งตามรอยพับค่ะ
4. เรื่องสี แล้วแต่บริษัทจะทำ อยากสั่งสีไหนไปสั่งทำเอาเองได้เลยจ้า
5. หน้ากากบางยี่ห้อ เช่นของญี่ปุ่นจะมีลักษณะทั้งรอยจีบพับขึ้นและลง มีหน้ากระดาษอยู่ตรงกลาง หรือหน้ากาก 3d ที่กันฝุ่น pm2.5
ปกติ หมอๆ จะไม่ใช้ แต่คนธรรมดาๆ ซื้อมาใส่เพื่อป้องกับตนเองป้องกันฝุ่นละอองได้ แต่ทางที่ดีเพื่อสุขอนามัย หมอ บุคลากรทางการแพทย์จะใช้แบบมาตรฐาน รอยจีบสามพับ ลวดด้านบน และเอารอยจีบพับลง​ ตามนี้ค่า


ภาพการใส่ที่ถูกต้อง

เพิ่มเติมหน้ากากแบบ 4 จีบ ทั้งขึ้นและลง ของญี่ปุ่นตามภาพด้านบนนะคะ พอสวมใส่จมูกก็จะไปตรงร่องของรอยจีบที่พับลงอยู่ดี เป็นการออกแบบเพื่อให้สบายมากขึ้นคลุมทั้งใบหน้ามากกว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แต่แพทย์ก็จะใช้แบบ 3 จีบปกติ เพื่อความอนามัยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่