‘...ก็ฉันนั้นรักแต่เธอนะ อยากมองหน้าเธอทุกวัน ไม่เคยมองใคร รักเธอมานาน ได้แต่เก็บไว้
ก็ฉันนั้นรักแต่เธอนะ บอกได้ว่ามันมากมาย แล้วตัวเธอเอง คิดกันยังไง อยากรู้.. รู้สึกอย่างไร...’
มัชฌิมา เอี้ยวตัวไปมาเพื่อบิดขี้เกียจ พลางถอนหายใจแรงๆ ออกมา ขณะเสียบสายหูฟังเพลงเดิมในโทรศัพท์มือถือ เปิดวนซ้ำไปมาอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย นาฬิกาบนผนังบอกเวลาหนึ่งทุ่มกว่า แต่เธอยังคงนั่งทำงานล่วงเวลาเหมือนดังเช่นทุกวัน มองเห็นเพื่อนร่วมงานทยอยแยกย้ายกันกลับบ้าน ใครต่อใครต่างก็อยากมีเวลาให้กับครอบครัวหรือคนรัก มีภาระทางใจให้ต้องหมั่นคอยดูแล ไม่เหมือนคนโสดอย่างเธอที่สามารถอุทิศเวลาให้กับงานได้อย่างเต็มที่
“ขยันจังเลย พี่มัช ทำโอทีทุกวันเลยนะ เก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเอง ยามแก่หรือไง”
ปวริศ หนุ่มรุ่นน้องผู้ปากร้ายแต่ใจดี เอ่ยกระเซ้าเย้าแหย่ ขณะเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะนำเอากล่องใสใส่ขนมปังสอดไส้สังขยาชิ้นหนึ่ง มาวางไว้บนโต๊ะของเธอ ชายหนุ่มมักจะแบ่งปันขนมหรือของกิน ที่แฟนของเขาทำมาให้ทานอยู่เป็นประจำ เอามาเผื่อแผ่อยู่บ่อยครั้ง จนมัชฌิมาทั้งรู้สึกเกรงใจและอดนึกสงสัยไปพร้อมกันไม่ได้
“มาร์ช เอาขนมมาแจกบ่อยๆ เนี่ย แสดงว่า ขนมที่แฟนเธอทำมันไม่อร่อยใช่ไหม เธอเลยไม่กินแล้วเอามาให้พี่แทน”
“โธ่.. พี่มัช ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย แต่ว่าให้ผมกินบ่อยๆ มันก็ต้องมีเบื่อ มีเอียนกันบ้าง นี่ผมก็ไม่ได้ทิ้งนะ เอามาให้พี่ช่วยกินแทนผม แล้วช่วยวิจารณ์ให้ด้วย ผมจะได้เอาไปบอกแฟนผม เห็นไหม.. ได้ประโยชน์ทั้งสองทาง”
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าระรื่น รอยยิ้มสดใสกระจ่างเต็มดวงหน้าอันหล่อเหลา ถ้าไม่ติดตรงที่มีแฟนแล้ว ปวริศคงติดอันดับพนักงานชาย เจ้าของตำแหน่งขวัญใจมหาชน คงตกเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของขบวนการทำลายความโสด ของบรรดาสาวน้อยใหญ่ในบริษัทแห่งนี้ไปแล้ว
“อ่อ ยังงี้นี่เอง งั้นก็ขอบใจนะจ้ะ จะบอกว่า อร่อยทุกอย่างเลยล่ะ ฝากชมคนที่ทำด้วยนะ”
พอได้ยินดังนั้น มัชฌิมาถึงค่อยหยิบเอาขนมออกมากินได้อย่างสบายใจ ‘
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง’ สำนวนนี้ยังคงเป็นจริงตามสถานการณ์ แม้การทำงานในส่วนสำนักงานอาจดูสบาย เหมือนแค่นั่งคีย์ข้อมูลแทบทั้งวัน ไม่ค่อยได้ขยับกันไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ท้องจะไม่ร้อง ไม่หิวกันเสียเมื่อไหร่
ถ้าไม่กินก็ไม่มีแรงทำงาน ถ้าทำงานไม่ได้ก็ไม่มีเงินเลี้ยงตัว.. หญิงสาวมีแนวความคิดที่ตรงไปตรงมาและเรียบง่าย เรื่องมีแฟนหรือความรักยิ่งเป็นอะไรที่ห่างไกล เพราะชีวิตประจำวันวนเวียนอยู่แค่บ้านกับที่ทำงานเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น มัชฌิมาก็ชอบฟังเพลงรัก โดยเฉพาะเพลงเก่าๆ สมัยตอนที่ตัวเธอยังเป็นวัยรุ่น เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใด คนเราถึงได้ถวิลหาสิ่งที่จะช่วยทำให้รำลึกความหลังได้กันนัก เพราะในช่วงเวลานั้น คงเป็นช่วงที่เราต่างมีความทรงจำดีๆ ให้ได้หวนนึกย้อนกลับไป
.
..รู้สึกอย่างไร..
“ขยันจังเลย พี่มัช ทำโอทีทุกวันเลยนะ เก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเอง ยามแก่หรือไง”
ปวริศ หนุ่มรุ่นน้องผู้ปากร้ายแต่ใจดี เอ่ยกระเซ้าเย้าแหย่ ขณะเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะนำเอากล่องใสใส่ขนมปังสอดไส้สังขยาชิ้นหนึ่ง มาวางไว้บนโต๊ะของเธอ ชายหนุ่มมักจะแบ่งปันขนมหรือของกิน ที่แฟนของเขาทำมาให้ทานอยู่เป็นประจำ เอามาเผื่อแผ่อยู่บ่อยครั้ง จนมัชฌิมาทั้งรู้สึกเกรงใจและอดนึกสงสัยไปพร้อมกันไม่ได้
“มาร์ช เอาขนมมาแจกบ่อยๆ เนี่ย แสดงว่า ขนมที่แฟนเธอทำมันไม่อร่อยใช่ไหม เธอเลยไม่กินแล้วเอามาให้พี่แทน”
“โธ่.. พี่มัช ไม่ใช่ว่าไม่อร่อย แต่ว่าให้ผมกินบ่อยๆ มันก็ต้องมีเบื่อ มีเอียนกันบ้าง นี่ผมก็ไม่ได้ทิ้งนะ เอามาให้พี่ช่วยกินแทนผม แล้วช่วยวิจารณ์ให้ด้วย ผมจะได้เอาไปบอกแฟนผม เห็นไหม.. ได้ประโยชน์ทั้งสองทาง”
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าระรื่น รอยยิ้มสดใสกระจ่างเต็มดวงหน้าอันหล่อเหลา ถ้าไม่ติดตรงที่มีแฟนแล้ว ปวริศคงติดอันดับพนักงานชาย เจ้าของตำแหน่งขวัญใจมหาชน คงตกเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของขบวนการทำลายความโสด ของบรรดาสาวน้อยใหญ่ในบริษัทแห่งนี้ไปแล้ว
“อ่อ ยังงี้นี่เอง งั้นก็ขอบใจนะจ้ะ จะบอกว่า อร่อยทุกอย่างเลยล่ะ ฝากชมคนที่ทำด้วยนะ”
พอได้ยินดังนั้น มัชฌิมาถึงค่อยหยิบเอาขนมออกมากินได้อย่างสบายใจ ‘กองทัพต้องเดินด้วยท้อง’ สำนวนนี้ยังคงเป็นจริงตามสถานการณ์ แม้การทำงานในส่วนสำนักงานอาจดูสบาย เหมือนแค่นั่งคีย์ข้อมูลแทบทั้งวัน ไม่ค่อยได้ขยับกันไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ท้องจะไม่ร้อง ไม่หิวกันเสียเมื่อไหร่
ถ้าไม่กินก็ไม่มีแรงทำงาน ถ้าทำงานไม่ได้ก็ไม่มีเงินเลี้ยงตัว.. หญิงสาวมีแนวความคิดที่ตรงไปตรงมาและเรียบง่าย เรื่องมีแฟนหรือความรักยิ่งเป็นอะไรที่ห่างไกล เพราะชีวิตประจำวันวนเวียนอยู่แค่บ้านกับที่ทำงานเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้น มัชฌิมาก็ชอบฟังเพลงรัก โดยเฉพาะเพลงเก่าๆ สมัยตอนที่ตัวเธอยังเป็นวัยรุ่น เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใด คนเราถึงได้ถวิลหาสิ่งที่จะช่วยทำให้รำลึกความหลังได้กันนัก เพราะในช่วงเวลานั้น คงเป็นช่วงที่เราต่างมีความทรงจำดีๆ ให้ได้หวนนึกย้อนกลับไป
.