
หวัดดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวเกี่ยวกับการใช้ JR Kansai Wide Area Pass นะครับ สำหรับคนที่สนใจจะไปเที่ยวแถบเกียวโต โอซาก้า แต่ไม่อยากอยู่แต่ในเมืองแบบผม ผมว่าการใช้พาสเนี่ย ถ้าเราวางแผนดีๆ มันช่วยให้เราประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยครับ โดย JR Kansai Wide Area Pass ต้องซื้อจากที่ไทยก่อนไป ผมซื้อผ่าน Pinatlas ตั้งแต่ที่ไทย ในราคา 2,440 บาท ซื้อเสร็จทางร้านจะส่ง e-ticket มาให้ทางอีเมล เราสามารถปริ้นแล้วไปแลกพาสตัวจริงที่ญี่ปุ่นได้เลย พาสนี้ใช้ได้ติดต่อกัน 5 วัน ขึ้นรถไฟสายที่กำหนดกี่รอบก็ได้ สามารถขึ้น Shinkansen และ limited express trains แบบไม่จองที่นั่งได้ด้วย คุ้มมากๆ เลย
ทริปนี้ผมจองตั๋วของแอร์เอเชียล่วงหน้าประมาณหลายเดือนอยู่ครับ (ได้ตั๋วไป-กลับ ราคาประมาณ 6,200 บาท) ผมวางแผนไว้ไป 8 วัน 7 คืนครับ โดยผมจะเปลี่ยนที่นอนทุกคืนครับ เพราะชอบลองที่พักใหม่ แล้วก็เปลี่ยนบรรยากาศด้วยครับ (ผมไม่ได้โหลดกระเป๋านะครับ เน้นเที่ยวแบบ Backpack ใช้เป็สะพายหลังใบเดียวครับ เพราะสะดวกต่อการเที่ยวแบบหลายๆ เมืองครับ โดยจะจอง รร. ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ พอไปถึงก็จะเอากระเป๋าไปฝากที่ รร.ก่อนออกเที่ยวครับ) เมืองที่ผมไปเที่ยวทริปนี้ ได้แก่ Kyoto, Osaka, Amanohashidate, Ine, Kinosaki Onsen, Himeji, Kurashiki, Okayama, Uji, Kobe
*วันที่ 8 มค. 63 ผมไปถึงสนามบินคันไซ เกือบประมาณ 4 ทุ่มละครับ โดยคืนแรกผมจองที่พักแถว Namba ครับ เพราะสามารถนั่งรถบัสจากสนามบินต่อเดียวถึงเลย ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่ง ชม. ครับ โดยสามารถซื้อตั๋วรถบัสแล้วยืนรอขึ้นรถที่หน้าสนามบินได้เลยครับ รถบัสจะไปจอดที่ OCAT ซึ่งเป็นเหมือนหมอชิตบ้านเรา จาก OCAT ก็เดินไปที่พักได้เลยครับ คืนที่ 1 ผมพักที่ Hotel WBF Namba Motomachi (ราคา 1,070 บาท/คืน พักได้ 2 คน)
*วันที่ 9 มค. 63 วันนี้ผมตื่นสายๆ เดินจากที่พักไปแถวย่าน ชินไชบาชิ จุดหมายที่ตั้งใจไว้คือจะไปกินราเมงร้านที่เคยมากินตอนมาเที่ยวครั้งก่อนแล้วติดใจ ชื่อร้าน Kinryu Ramen ซึ่งร้านจะไม่มีโต๊ะนั่งนะครับ ต้องยืนกิน จุดเด่นของร้านคือจะมีเครื่องเคียงคือ กิมจิ กระเทียม กุ้ยช่าย ให้ใส่เองตามใจชอบ ผมชอบราเมงร้านนี้เพราะน้ำซุปหอม กลมกล่อม พอใส่กิมจิกับกระเที่ยมเข้าไปมันเข้ากันดี ยืนซดกินราเมงร้อนๆ กับอากาศหนาวๆ มันเลยดีมาก กินเสร็จก็ไปเดินเล่นริมคลอง
ตอนเย็นนั่งรถไฟไปนอนที่เกียวโต คืนที่ 2 พักที่ Kyoto Tower Hotel Annex (ราคา 1,237 บาท/คืน) ได้ห้องที่เห็นวิวเกียวโตทาวเวอร์เลย มีคูปองส่วนลดขึ้นไปดูวิวบนเกียวโตทาวเวอร์ให้ด้วย ที่มานอนเกียวโตเพราะพรุ่งนี้เราจะออกนอกเมืองไปเที่ยว นั่งรถไฟจากเกียวโตสะดวกดี
*วันที่ 10 มค. 63 (วันนี้ผมเริ่มใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันแรก) วันนี้นั่งรถไฟออกจากเกียวโต ไปลงสถานี Amanohashidate (นั่งขบวน LTD. EXP HASHIDATE ใช้เวลา 129 นาที)
พอถึงสถานี Amanohashidate แล้ว เดินออกมาหน้าสถานี เพื่อรอรถเมล์ไปเที่ยว INE นั่งรถชมวิวไปประมาณ 1 ชม. วิวข้างทางเลาะริมหาด สวยดีครับ
โดยเราจะไปลงป้ายรถเมล์ที่ท่าเรือก่อน เพื่อแวะนั่งเรือให้อาหารนก นกเยอะมากและฉลาดมาก น้องๆ มารอกันตั้งแต่เรือยังไม่ออก วิธีให้อาหารก็โยนขึ้นฟ้าได้เลย เดี๋ยวน้องบินมาโฉบคาบเอง
ให้อาหารนกเสร็จก็ออกมายืนรอรถเมล์ตรงจุดที่ลงรถ เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงอิเนะ จริงๆ ไม่ไกลมากแต่ถ้าเดินคงเหนื่อยอยู่ พอรถมาถึงหมู่บ้านก็เดินเที่ยวได้เลย
จุดหมายที่ตั้งใจมาของที่นี่คือ Ine Cafe เสียดายวันที่ไปฝนตก เดินเที่ยวแบบเปียกๆ แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ + คนน้อยดีด้วยครับ
เดินเที่ยวจนถึงเย็นก็นั่งรถเมล์สายเดิมกลับ Amanohashidate คืนที่ 3 พักที่ Auberge Amanohashidate (ราคา 1,678 บาท/คืน) รร. นี้จะแปลกนิดนึงตรงที่ห้องอาบน้ำจะอยู่ชั้น 1 ของ รร. หรือจะเดินไปอาบน้ำ รร. ใหญ่ข้างๆ ก็ได้ จะเป็นออนเซนใหญ่เลย ใช้ได้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ
*วันที่ 11 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 2) วันนี้ผมจะเที่ยวใน Amanohashidate โดยนั่งเรือข้ามฝากไปอีกฝั่งของเมืองเพื่อขึ้นดระเช้าไปยังจุดชมวิว ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นครับ
เที่ยวเสร็จแล้วบ่ายๆ ออกจาก Amanohashidate เพื่อไปยัง Kinosaki Onsen โดยนั่ง Kyoto Tango Railway ไปลง Toyooka แล้วต่อขบวน LTD. EXP KONOTORI ไปลง Kinosaki Onsen รวมใช้เวลา 96 นาที
ถึง Kinosaki Onsen ที่นี่เป็นเมืองออนเซน คนมาเที่ยวกันเยอะเลย
ตอนแรกแพลนจะนอนที่นี่คืนนึง แต่เสียดาย เพราะที่พักเต็มเกือบหมดเลย ราคาสูงด้วย เลยเปลี่ยนแผนว่าหลังจากเที่ยวเสร็จจะไปนอนที่ Himeji แทน เพราะราคาไม่แพง + ใกล้ที่เที่ยววันต่อไปด้วย จาก Kinosaki Onsen ผมเลือกนั่งขบวน LTD. EXP HAMAKAZE ต่อเดียวถึง Himeji เลย ใช้เวลา 103 นาที เอาของไปฝากที่พักก็ออกมาเดินไปปราสาทฮิเมจิ อากาศดี ออกจากปราสาทเดินไปต่อที่สวน Koko-en ค่อยกลับที่พัก คืนที่ 4 พักที่ APA Hotel Himeji-Ekikita (ราคา 1,137/คืน)
*วันที่ 12 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 3) วันนี้ตื่นสายๆ ออกจาก Himeji ตอนบ่าย วันนี้ผมนั่ง SHINKANSEN NOZOMI จาก Himeji ไปลง Okayama ใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้น แล้วต่อ JR SANYO LINE ไป Kurashiki อีก 17 นาที ถึงเมือง Kurashiki ก็เอากระเป๋าไปฝากที่พัก แล้วเดินไปเขตเมืองเก่า Bikan Historical Quarter ผมชอบที่นี่ ที่นี่คล้าย Kinosaki Onsen แต่คนน้อยกว่ามาก เดินเล่นสบาย ไม่อึดอัด ร้านค้าเยอะ ของกินเยอะ มีจุดให้ถ่ายรูปเยอะ คืนที่ 5 พักที่ APA Hotel Kurashiki-Ekimae (ราคา 1,700/คืน) ที่พักนี้อยู่ติดสถานีรถไฟเลย

*วันที่ 13 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 4) วันนี้ผมเชคเอ้าท์แล้ว ออกไปแวะเที่ยวเมือง Okayama นั่งรถไฟ JR ไปแปปเดียว เมือง Okayama เป็นเมืองใหญ่ จากสถานีรถไฟสามารถขึ้นรถเมล์สีดำ ราคาเพียง 100 เยน เพื่อไปลงเที่ยวปราสาท Okayama ได้ ลงรถเมล์ป้ายสวน Korakuen แถวป้ายรถเมล์ที่ลงมีทุ่งหญ้า เค้าทำทางเดินไว้ริมน้ำ สวยดีครับ ผมชอบปราสาทที่นี่มาก เพราะมีวิวอยู่ริมน้ำเลย ผมเดินจากป้ายรถเมล์ ผ่านสวน Korakuen ทะลุไปออกที่สะพานข้ามแม่น้ำไปปราสาทได้
ตอนเย็นผมออกจากเมือง Okayama ผมนั่งรถไฟ SHINKANSEN NOZOMI ไปลงสถานี Shin-osaka ใช้เวลา 45 นาที (ไม่ไปลงเกียวโตเลย เพราะพาสนี้มีข้อยกเว้น ใช้นั่งชินคันเซนระหว่างเกียวโตกับโอซาก้าไม่ได้) แล้วค่อยต่อรถไฟ JR ไปลง Kyoto ใช้เวลา 24 นาที จากนั้นนั่ง JR NARA LINE RAPID SERVICE อีก 18 นาที ก็จะถึงเมือง Uji ที่ผมมาที่นี่เพราะชอบวิวริมแม่น้ำของเมืองนี้ ออกมาจากเกียวโตไม่ไกล แต่ได้บรรยากาศแบบอีกแบบ ที่นี่มีถนนสายชาเขียว มี Starbuck ที่จัดสวนแบบญี่ปุ่น คืนที่ 6 พักที่ Kyoto Uji Cha-gan-ju-tei House (ราคา 1,600/คืน รวมอาหารเช้า)
*วันที่ 14 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 5) วันนี้ตื่นมาก็มาเดินเล่นริมแม่น้ำ ผมชอบที่นี่มาก ใครอยากมาเดินเล่น ถ่ายรูป แนะนำเลยครับ อยู่ไม่ไกลเกียวโตด้วย
ออกจากเมือง Uji ก็กลับเข้าเมือง นั่งรถไฟ JR กลับเกียวโต แล้วนั่งรถไฟของ JR ต่อไปเที่ยวเมืองโกเบ หาของกินตอนเย็นครับ ใช้เวลาจาก Uji ไปถึง Kobe รวมประมาณ 90 นาที

สรุปการใช้ JR Kansai Wide Area Pass
-ค่าเดินทาง ตลอด 5 วัน หากไม่ใช้ JR Kansai Wide Area Pass จะอยู่ที่ประมาณ 6,200 บาท
-แต่ผมซื้อ JR Kansai Wide Area Pass มาในราคา 2,440 บาท
**จะเห็นว่าเราสามารถประหยัดค่าเดินทางไปได้ถึงประมาณ 3,700 บาท
หวังว่าข้อมูลอาจจะพอมีประโยชน์กับคนที่สนใจจะไปเที่ยวแถบโอซาก้า เกียวโต แต่อยากออกไปเที่ยวนอกเมืองแบบผมนะครับ หากข้อมูลตกหล่นต้องขออภัยด้วยนะครับ
ปล. จริงๆ แล้ว JR Kansai Wide Area Pass ยังสามารถไปได้อีกหลายเส้นทาง และหลายที่เลยนะครับ เช่น เมือง Wakayama ตอนแรกผมแพลนจะไปที่นี่เพื่อนั่งรถไฟไปดูแมวทามะ (นายสถานีแมว) ที่สถานี Kishi ซึ่งพาสนี้ก็ครอบคลุมสามารถใช้นั่งไปได้ครับ
[CR] รีวิวใช้ JR Kansai Wide Area Pass เที่ยว Kyoto, Osaka, Amanohashidate, Kinosaki Onsen, Himeji, Kurashiki, Okayama, Kobe
หวัดดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวเกี่ยวกับการใช้ JR Kansai Wide Area Pass นะครับ สำหรับคนที่สนใจจะไปเที่ยวแถบเกียวโต โอซาก้า แต่ไม่อยากอยู่แต่ในเมืองแบบผม ผมว่าการใช้พาสเนี่ย ถ้าเราวางแผนดีๆ มันช่วยให้เราประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยครับ โดย JR Kansai Wide Area Pass ต้องซื้อจากที่ไทยก่อนไป ผมซื้อผ่าน Pinatlas ตั้งแต่ที่ไทย ในราคา 2,440 บาท ซื้อเสร็จทางร้านจะส่ง e-ticket มาให้ทางอีเมล เราสามารถปริ้นแล้วไปแลกพาสตัวจริงที่ญี่ปุ่นได้เลย พาสนี้ใช้ได้ติดต่อกัน 5 วัน ขึ้นรถไฟสายที่กำหนดกี่รอบก็ได้ สามารถขึ้น Shinkansen และ limited express trains แบบไม่จองที่นั่งได้ด้วย คุ้มมากๆ เลย
ทริปนี้ผมจองตั๋วของแอร์เอเชียล่วงหน้าประมาณหลายเดือนอยู่ครับ (ได้ตั๋วไป-กลับ ราคาประมาณ 6,200 บาท) ผมวางแผนไว้ไป 8 วัน 7 คืนครับ โดยผมจะเปลี่ยนที่นอนทุกคืนครับ เพราะชอบลองที่พักใหม่ แล้วก็เปลี่ยนบรรยากาศด้วยครับ (ผมไม่ได้โหลดกระเป๋านะครับ เน้นเที่ยวแบบ Backpack ใช้เป็สะพายหลังใบเดียวครับ เพราะสะดวกต่อการเที่ยวแบบหลายๆ เมืองครับ โดยจะจอง รร. ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ พอไปถึงก็จะเอากระเป๋าไปฝากที่ รร.ก่อนออกเที่ยวครับ) เมืองที่ผมไปเที่ยวทริปนี้ ได้แก่ Kyoto, Osaka, Amanohashidate, Ine, Kinosaki Onsen, Himeji, Kurashiki, Okayama, Uji, Kobe
*วันที่ 8 มค. 63 ผมไปถึงสนามบินคันไซ เกือบประมาณ 4 ทุ่มละครับ โดยคืนแรกผมจองที่พักแถว Namba ครับ เพราะสามารถนั่งรถบัสจากสนามบินต่อเดียวถึงเลย ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่ง ชม. ครับ โดยสามารถซื้อตั๋วรถบัสแล้วยืนรอขึ้นรถที่หน้าสนามบินได้เลยครับ รถบัสจะไปจอดที่ OCAT ซึ่งเป็นเหมือนหมอชิตบ้านเรา จาก OCAT ก็เดินไปที่พักได้เลยครับ คืนที่ 1 ผมพักที่ Hotel WBF Namba Motomachi (ราคา 1,070 บาท/คืน พักได้ 2 คน)
*วันที่ 9 มค. 63 วันนี้ผมตื่นสายๆ เดินจากที่พักไปแถวย่าน ชินไชบาชิ จุดหมายที่ตั้งใจไว้คือจะไปกินราเมงร้านที่เคยมากินตอนมาเที่ยวครั้งก่อนแล้วติดใจ ชื่อร้าน Kinryu Ramen ซึ่งร้านจะไม่มีโต๊ะนั่งนะครับ ต้องยืนกิน จุดเด่นของร้านคือจะมีเครื่องเคียงคือ กิมจิ กระเทียม กุ้ยช่าย ให้ใส่เองตามใจชอบ ผมชอบราเมงร้านนี้เพราะน้ำซุปหอม กลมกล่อม พอใส่กิมจิกับกระเที่ยมเข้าไปมันเข้ากันดี ยืนซดกินราเมงร้อนๆ กับอากาศหนาวๆ มันเลยดีมาก กินเสร็จก็ไปเดินเล่นริมคลอง
ตอนเย็นนั่งรถไฟไปนอนที่เกียวโต คืนที่ 2 พักที่ Kyoto Tower Hotel Annex (ราคา 1,237 บาท/คืน) ได้ห้องที่เห็นวิวเกียวโตทาวเวอร์เลย มีคูปองส่วนลดขึ้นไปดูวิวบนเกียวโตทาวเวอร์ให้ด้วย ที่มานอนเกียวโตเพราะพรุ่งนี้เราจะออกนอกเมืองไปเที่ยว นั่งรถไฟจากเกียวโตสะดวกดี
*วันที่ 10 มค. 63 (วันนี้ผมเริ่มใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันแรก) วันนี้นั่งรถไฟออกจากเกียวโต ไปลงสถานี Amanohashidate (นั่งขบวน LTD. EXP HASHIDATE ใช้เวลา 129 นาที)
พอถึงสถานี Amanohashidate แล้ว เดินออกมาหน้าสถานี เพื่อรอรถเมล์ไปเที่ยว INE นั่งรถชมวิวไปประมาณ 1 ชม. วิวข้างทางเลาะริมหาด สวยดีครับ
โดยเราจะไปลงป้ายรถเมล์ที่ท่าเรือก่อน เพื่อแวะนั่งเรือให้อาหารนก นกเยอะมากและฉลาดมาก น้องๆ มารอกันตั้งแต่เรือยังไม่ออก วิธีให้อาหารก็โยนขึ้นฟ้าได้เลย เดี๋ยวน้องบินมาโฉบคาบเอง
ให้อาหารนกเสร็จก็ออกมายืนรอรถเมล์ตรงจุดที่ลงรถ เพื่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงอิเนะ จริงๆ ไม่ไกลมากแต่ถ้าเดินคงเหนื่อยอยู่ พอรถมาถึงหมู่บ้านก็เดินเที่ยวได้เลย
จุดหมายที่ตั้งใจมาของที่นี่คือ Ine Cafe เสียดายวันที่ไปฝนตก เดินเที่ยวแบบเปียกๆ แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ + คนน้อยดีด้วยครับ
เดินเที่ยวจนถึงเย็นก็นั่งรถเมล์สายเดิมกลับ Amanohashidate คืนที่ 3 พักที่ Auberge Amanohashidate (ราคา 1,678 บาท/คืน) รร. นี้จะแปลกนิดนึงตรงที่ห้องอาบน้ำจะอยู่ชั้น 1 ของ รร. หรือจะเดินไปอาบน้ำ รร. ใหญ่ข้างๆ ก็ได้ จะเป็นออนเซนใหญ่เลย ใช้ได้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มครับ
*วันที่ 11 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 2) วันนี้ผมจะเที่ยวใน Amanohashidate โดยนั่งเรือข้ามฝากไปอีกฝั่งของเมืองเพื่อขึ้นดระเช้าไปยังจุดชมวิว ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นครับ
เที่ยวเสร็จแล้วบ่ายๆ ออกจาก Amanohashidate เพื่อไปยัง Kinosaki Onsen โดยนั่ง Kyoto Tango Railway ไปลง Toyooka แล้วต่อขบวน LTD. EXP KONOTORI ไปลง Kinosaki Onsen รวมใช้เวลา 96 นาที
ถึง Kinosaki Onsen ที่นี่เป็นเมืองออนเซน คนมาเที่ยวกันเยอะเลย
ตอนแรกแพลนจะนอนที่นี่คืนนึง แต่เสียดาย เพราะที่พักเต็มเกือบหมดเลย ราคาสูงด้วย เลยเปลี่ยนแผนว่าหลังจากเที่ยวเสร็จจะไปนอนที่ Himeji แทน เพราะราคาไม่แพง + ใกล้ที่เที่ยววันต่อไปด้วย จาก Kinosaki Onsen ผมเลือกนั่งขบวน LTD. EXP HAMAKAZE ต่อเดียวถึง Himeji เลย ใช้เวลา 103 นาที เอาของไปฝากที่พักก็ออกมาเดินไปปราสาทฮิเมจิ อากาศดี ออกจากปราสาทเดินไปต่อที่สวน Koko-en ค่อยกลับที่พัก คืนที่ 4 พักที่ APA Hotel Himeji-Ekikita (ราคา 1,137/คืน)
*วันที่ 12 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 3) วันนี้ตื่นสายๆ ออกจาก Himeji ตอนบ่าย วันนี้ผมนั่ง SHINKANSEN NOZOMI จาก Himeji ไปลง Okayama ใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้น แล้วต่อ JR SANYO LINE ไป Kurashiki อีก 17 นาที ถึงเมือง Kurashiki ก็เอากระเป๋าไปฝากที่พัก แล้วเดินไปเขตเมืองเก่า Bikan Historical Quarter ผมชอบที่นี่ ที่นี่คล้าย Kinosaki Onsen แต่คนน้อยกว่ามาก เดินเล่นสบาย ไม่อึดอัด ร้านค้าเยอะ ของกินเยอะ มีจุดให้ถ่ายรูปเยอะ คืนที่ 5 พักที่ APA Hotel Kurashiki-Ekimae (ราคา 1,700/คืน) ที่พักนี้อยู่ติดสถานีรถไฟเลย
*วันที่ 13 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 4) วันนี้ผมเชคเอ้าท์แล้ว ออกไปแวะเที่ยวเมือง Okayama นั่งรถไฟ JR ไปแปปเดียว เมือง Okayama เป็นเมืองใหญ่ จากสถานีรถไฟสามารถขึ้นรถเมล์สีดำ ราคาเพียง 100 เยน เพื่อไปลงเที่ยวปราสาท Okayama ได้ ลงรถเมล์ป้ายสวน Korakuen แถวป้ายรถเมล์ที่ลงมีทุ่งหญ้า เค้าทำทางเดินไว้ริมน้ำ สวยดีครับ ผมชอบปราสาทที่นี่มาก เพราะมีวิวอยู่ริมน้ำเลย ผมเดินจากป้ายรถเมล์ ผ่านสวน Korakuen ทะลุไปออกที่สะพานข้ามแม่น้ำไปปราสาทได้
ตอนเย็นผมออกจากเมือง Okayama ผมนั่งรถไฟ SHINKANSEN NOZOMI ไปลงสถานี Shin-osaka ใช้เวลา 45 นาที (ไม่ไปลงเกียวโตเลย เพราะพาสนี้มีข้อยกเว้น ใช้นั่งชินคันเซนระหว่างเกียวโตกับโอซาก้าไม่ได้) แล้วค่อยต่อรถไฟ JR ไปลง Kyoto ใช้เวลา 24 นาที จากนั้นนั่ง JR NARA LINE RAPID SERVICE อีก 18 นาที ก็จะถึงเมือง Uji ที่ผมมาที่นี่เพราะชอบวิวริมแม่น้ำของเมืองนี้ ออกมาจากเกียวโตไม่ไกล แต่ได้บรรยากาศแบบอีกแบบ ที่นี่มีถนนสายชาเขียว มี Starbuck ที่จัดสวนแบบญี่ปุ่น คืนที่ 6 พักที่ Kyoto Uji Cha-gan-ju-tei House (ราคา 1,600/คืน รวมอาหารเช้า)
*วันที่ 14 มค. 63 (ใช้พาส JR Kansai Wide Area Pass วันที่ 5) วันนี้ตื่นมาก็มาเดินเล่นริมแม่น้ำ ผมชอบที่นี่มาก ใครอยากมาเดินเล่น ถ่ายรูป แนะนำเลยครับ อยู่ไม่ไกลเกียวโตด้วย
ออกจากเมือง Uji ก็กลับเข้าเมือง นั่งรถไฟ JR กลับเกียวโต แล้วนั่งรถไฟของ JR ต่อไปเที่ยวเมืองโกเบ หาของกินตอนเย็นครับ ใช้เวลาจาก Uji ไปถึง Kobe รวมประมาณ 90 นาที
สรุปการใช้ JR Kansai Wide Area Pass
-ค่าเดินทาง ตลอด 5 วัน หากไม่ใช้ JR Kansai Wide Area Pass จะอยู่ที่ประมาณ 6,200 บาท
-แต่ผมซื้อ JR Kansai Wide Area Pass มาในราคา 2,440 บาท
**จะเห็นว่าเราสามารถประหยัดค่าเดินทางไปได้ถึงประมาณ 3,700 บาท
หวังว่าข้อมูลอาจจะพอมีประโยชน์กับคนที่สนใจจะไปเที่ยวแถบโอซาก้า เกียวโต แต่อยากออกไปเที่ยวนอกเมืองแบบผมนะครับ หากข้อมูลตกหล่นต้องขออภัยด้วยนะครับ
ปล. จริงๆ แล้ว JR Kansai Wide Area Pass ยังสามารถไปได้อีกหลายเส้นทาง และหลายที่เลยนะครับ เช่น เมือง Wakayama ตอนแรกผมแพลนจะไปที่นี่เพื่อนั่งรถไฟไปดูแมวทามะ (นายสถานีแมว) ที่สถานี Kishi ซึ่งพาสนี้ก็ครอบคลุมสามารถใช้นั่งไปได้ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้