JJNY : ชี้เหลื่อมล้ำต้นตอเหตุรุนแรง/ทหารแฉเอง!แก๊งเงินทอน/ดร.สุรชาติชี้ได้เวลาเลิกหากินในค่าย/ดัชนีเชื่อมั่นสตาร์ตอัพหด

ชี้ปัญหาเหลื่อมล้ำในสังคมต้นตอเหตุรุนแรง หลังปล้นปืนทหารที่เหลือทำไมไม่ตามทันที
 

 
นักวิชาการชี้ปัญหาเหลื่อมล้ำในสังคม ต้นตอเหตุรุนแรงเมืองย่าโม ตั้งคำถามหลังปล้นปืนทหารที่เหลือทำไมไม่ไล่ล่าทันที
 
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร นักวิชาการรัฐศาสตร์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า การก่อเหตุความรุนแรงที่ จ.นครราชสีมา ผู้มีอำนาจจำเป็นต้องถอดบทเรียนที่มีเหตุผล ในฐานะนักวิชาการ ไมได้วิจารณ์ให้เกิดความขัดแย้งบานปลายหรือว่ากล่าวใคร แต่จะต้องมองในบางมุมที่ไม่มีใครพูดถึงในหลักของการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องติดตามว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร เพราะยอมรับว่าสังคมไทยเป็นสังคมของการเอาเปรียบ มีความเหลื่อมล้ำในสังคมสูง ผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีอำนาจมากกว่ามักจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่าเป็นเรื่องที่ทราบกันโดยทั่วไป และปัจจุบันความไม่เป็นธรรมในสังคมไทยมีมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่มีใครเคยสนใจแก้ไข อย่าไปโทษรัฐบาลชุดนี้ เพราะปัญหามีมานานนาน ไม่มีใครทำให้ลดลงมีแต่เพิ่มขึ้น
 
ถ้ามองในเรื่องการบรรเทาเหตุการณ์ให้เบาบางลง หากติดตามการรายงานผ่านสื่อพบว่ามีจุดอ่อนและข้อบกพร่องค่อนข้างมาก แต่อาจมองต่างมุมจากผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม แต่ถ้าหากติดตามตั้งแต่ต้น ประเด็นแรกสงสัยว่าทำไมทหารยามกองรักษาการณ์ไม่ติดตามไล่ล่าคนร้ายทันที หน่วยงานทหารต้องรู้ว่าเมื่อมีเหตุแล้วต้องทำอย่างไร เรื่องนี้ถือว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้สูญเสีย เพราะอาจจะถูกมองว่าละเลยหน้าที่ ประเด็นต่อมาเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติการค่อนข้างนาน มีคนร้ายคนเดียว มีผู้เสียชีวิตเป็นระยะไม่ได้เสียชีวิตครั้งเดียว 30 ราย อาจจะมีปัญหาจากประชาชนที่ติดค้างภายในห้างที่เกิดจากการบริหารและวิธีการในทางปฏิบัติ รวมทั้งการวางแผนป้องกันไม่ให้มีคนเสียชีวิตเพิ่ม” นายอัษฎางค์ กล่าว
 
นายอัษฎางค์ กล่าวอีกว่า เมื่อฟังการแถลงของ ผบ.ทบ. ก็เข้าใจว่าการทำงานในหน่วยทหารต้นสังกัดของคนร้ายน่าจะมีความบกพร่อง เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่ทหารต้องติดตามไล่ล่าคนร้ายทันทีหลังจากเข้าไปเอาปืน เข้าไปฆ่าพลทหาร วันนั้นหากมีทหารไล่ติดตาม ผู้ร้ายต้องหวั่นไหว ดังนั้นบทเรียนสำคัญก็คือสายงานบังคับบัญชาของหน่วยทหาร ใครเป็นผู้บังคับบัญชาของหน่วยนั้นมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแถลงให้สังคมทราบหรือไม่ว่าช่วงเกิดเหตุไปทำอะไรอยู่ที่ไหน
 

 
ทหารแฉเอง! แก๊งเงินทอน กู้สวัสดิการ ทบ. เผยระดับชั้นผู้น้อย โดนกันเพียบ 
  
ทหารแฉเอง! ขบวนการเงินทอน กู้สวัสดิการ ทบ. เผยระดับชั้นผู้น้อย ผู้ใต้บังคับบัญชา โดนกันเพียบ
  
วันนี้ (12 ก.พ.) จากกรณี จ่าคลั่ง ก่อเหตุสะเทือนใจจนมีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 30 คน และบาดเจ็บหลายราย ที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โดยถูกเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญฆาตกรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น รายการ "ข่าวสามมิติ" ทางช่อง 3 HD ได้รายงานถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุกราดยิงของจ่าคลั่ง คนดังกล่าว ตามที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยถึงกรณีที่จ่าทหารคนดังกล่าว ไม่ได้รับความเป็นธรรม
  
โดยข่าวสามมิติ รายงานว่า เรื่องดังกล่าวนั้น เกิดจากการซื้อขายที่ดินแล้วผู้ก่อเหตุไม่ได้รับเงินทอนจากการกู้เงินสวัสดิการกองทัพบก และยังพบว่า ยังมีผู้เสียหายจากขบวนการเงินทอนเงินกู้สวัสดิการ อีกไม่น้อยกว่าพันคน
  
ซึ่งบ้านจัดสรร สองหลังที่ตั้งอยู่กลางไร่ข้าวโพด บ้านโป่งแมลงวัน ม.5 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมาหลังหนึ่งคือบ้านของผู้ก่อเหตุกราดยิงกลางเมือง จ.นครราชสีมา ตามที่อยู่ในสัญญากู้เงินจาก กองการออมทรัพย์ กรมสวัสดิการทหารบก วงเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งเปิดให้ทหารกู้เงินมาสร้างบ้านได้
  
แต่เนื่องจากต้องใช้หลักฐานที่ดินเช่นโฉนดในการกู้ตามระเบียบ ทำให้ทหารหลายคนที่ไม่มีหลักทรัพย์ เช่น ทหารยศจ่า ต้องใช้บริการ เจ้าของธุรกิจบ้านจัดสรร ซึ่งในกรณีของจ่าสิบเอกรายนี้ จึงได้ใช้บริการในลักษณะดังกล่าว กับผู้บังคับบัญชา
 
ช่วงหนึ่งของการรายงานข่าวนั้น แหล่งข่าวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รู้วิธีการนี้ดี ระบุว่า หากทหารยศจ่า ต้องการกู้เงินโครงการ อทบ.เคหะสงเคราะห์เพื่อปลูกสร้างบ้าน จากกรมสวัสดิการทหาร แต่ไม่มีหลักทรัพย์ ทางแม่ยายของผู้พันจะทำการซื้อที่ดินที่มีโฉนดให้กับจ่าแล้วจะทำการสร้างบ้านให้ เพราะตามสัญญากู้เงินสวัสดิการกองทัพบกจะต้องสร้างบ้านจริง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ขบวนการ เงินทอน ที่จะได้รับจากวงเงินกู้ 1 ล้าน 5 แสนบาท
 
จากลักษณะที่ตั้งของบ้านหลังนี้ อยู่ห่างจากถนนใหญ่ถึง 5 กิโลเมตร เส้นทางเข้าเป็นถนนลูกรัง อยู่กลางไร่ข้าวโพด จากทำเลที่ตั้ง แหล่งข่าวบอกว่า ราคาที่ดินไม่น่าจะถึง 1 แสนบาท จากที่ดินสำหรับบ้าน 1 หลังเนื้อที่ 40 ตารางวา รวมค่าสร้างบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 7 แสนบาท ที่เจ้าของโครงการต้องจ่ายในการก่อสร้าง
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
(คลิปรายการข่าวสามมิติ ออกอากาศวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563)
 
ซึ่งผู้กู้ คือผู้ก่อเเหตุจะรับเงินจากกรมสวัสดิการทหารบก เป็นงวด รวม 3 งวดจนครบ 1 ล้าน 5 แสนบาท แสดงว่าในจำนวนเงินเต็มเมื่อหักค่าที่ดิน ค่าสร้างบ้าน ที่คู่กรณีคิดราคาจริงอยู่ที่ 1 ล้าน 1 แสนบาท แต่ต้นทุนของเจ้าของโครงการมีอยู่จริงเพียงประมาณ 7 แสนบาท คู่กรณีเจ้าของธุรกิจจะมีเงินทอนเหลือประมาณ 4 แสนบาท
 
ส่วนเงินทอนที่เหลือ จากอด 1 ล้าน 1 แสนบาท จำนวน 4 แสนบาท จะตกเป็นของผู้กู้ ในขณะที่ขั้นตอนระหว่างการอนุมัติจะต้องมีค่าหัวคิว เพราะต้องผ่านการผู้บังคับบัญชาอนุญาตให้กู้ หากมีนายหน้าจัดการให้อีกทางหนึ่ง ก็จะกู้ได้ง่าย เงินทอนส่วนต่างที่ได้มาจึงอาจมีค่าใช้จ่ายตามขั้นตอนเหล่านี้
 
จากข้อความที่ผู้ก่อเหตุได้ส่งหาครอบครัวและโพสต์ในเฟซบุ๊คก่อนก่อเหตุเขาบอกว่าถูกโกงเงินซื้อบ้าน ซึ่งจากสภาพบ้านพบว่า หลังสร้างบ้านเสร็จในสัญญาเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2562 จ่าผู้ก่อเหตุได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว มีเพียงของใช้บางส่วน เช่นรองเท้าทหาร ด้านในมีเต้นท์ที่พัก รูปภาพ ของใช้บางส่วน ซึ่งพบด้วยว่าด้านหลังบ้านมีกระสอบทราย ที่คาดว่าใช้ฝึกยิงปืน เนื่องจากพบปลอกกระสุน และร่องรอยการยิงด้วย
  
ทั้งนี้ ยังมีทหารรายหนึ่ง ที่กู้เงินจากโครงการ อทบ.สวัสดิการกองทัพบก เช่นเดียวกับจ่าผู้ก่อเหตุ ได้เปิดเผยอีกว่า เขาได้วงเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งได้กู้เพื่อมาต่อเติมบ้านในโครงการหมู่บ้านสวัสดิการทหารบกนี้ด้วย ซึ่งทำเรื่องกู้เอง
 
แต่ในการต่อเติมบ้าน ได้รับการติดต่อให้ใช้บริการจากธุรกิจของผู้พันรายหนึ่ง เพื่อหวังให้ขั้นตอนการตรวจสอบง่ายขึ้น แต่กลับถูกโกงทั้งเรื่องส่วนต่างค่าต่อเติมบ้านและยังถูกโกงจากการไปรับเงินกู้เอง แต่กลับโอนให้ทหารรายนี้ได้เงินรวม 9 แสนบาท ถูกโกงเงินทอนไปถึง 5 แสนบาท
 
ทหารชั้นผู้น้อยรายนี้ ยอมรับว่า ที่ถูกโกง ขณะนั้นเขาโกรธและเครียด จนเกือบตัดสินใจก่อเหตุแบบจ่าที่ก่อเหตุ ยิงคู่กรณีด้วยซ้ำ แต่มีพ่อแม่แม่มาเตือนไว้จึงได้ยั้งคิด หาทางในการร้องเรียนขอให้กองทัพบกตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีทหารชั้นผู้น้อยถูกโกงแบบนี้ไม่ต่ำ 1 พันคน เฉพาะโครงการเดียวกันในจังหวัดนครราชสีมาเมื่อต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้วมีไม่ต่ำกว่า 400 คน
 
ขอบคุณ ข่าวสามมิติ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่