'บิ๊กปั๊ด'ยันตำรวจ-ทหาร ทำงานร่วมกันสบยเหตุกราดยิง ไม่มีใครเป็นฮีโร่ เตือนอย่าเชื่อคลิปปลอม
11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 14:49 น.
11 ก.พ.63- พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงการปฎิบัติภารกิจเข้าจับกลุ่มคนร้าย ก่อเหตุยิงกราดในจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ตำรวจได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงาน ในการสนธิกำลังเข้าจับกุมคนร้าย ยืนยันว่าการเลือกใช้ชุดหน่วยปฏิบัติการเข้าจู่โจมควบคุมพื้นที่นั้น เป็นการเลือกจากความเหมาะสมและความถนัด ของแต่ละหน่วย
ตำรวจ ทหาร ทำงานด้วยกัน ไม่มีใครเข้าไปเปลี่ยนม้ากลางศึก
การตัดสินใจของผู้บัญชาการทหารบกเป็นมืออาชีพ ที่พูดไม่ได้เพราะความสนิทสนม แต่ต้องมานั่งอดทนและมอบความไว้วางใจให้กับหน่วยตำรวจมันไม่ใช่ง่าย
สมมติหากใช้กำลังผสมทหาร-ตำรวจ อาจจะมีปัญหาบ้างในเรื่องของการควบคุม ขณะที่เราก็คิดว่ากำลังพลของเราสามารถจะดำเนินการเองได้
แต่ทหารไม่ได้ไปไหน อยู่สแตนด์บายพร้อมช่วยเมื่อตำรวจคุมสถานการณ์ไม่อยู่
ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่มีใครเป็นฮีโร่ เจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งตำรวจ ทหาร ล้วนปฎิบัติภารกิจตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ รวมทั้งเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนได้รับบทเรียนและการสูญเสียด้วยกันทั้งสิ้น
กำลังใจ หรือคำอวยพรต่างๆ เราขอขอบคุณ แต่เรื่องฮีโร่ขอไม่รับ
"
ทางกองทัพก็ส่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกมาอยู่กับผมตลอดเวลา เดินอยู่ด้วยกันข้างในนั้น อุปกรณ์หลายอย่างเราขอจากกองทัพมา ไม่ว่าจะเป็นโดรน รถกันกระสุน อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ และมีคนคอยประสานงานเพื่อมอนิเตอร์ว่าถึงจุดที่จะต้องใช้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ไม่มีใครที่จะไปเปลี่ยนคนกันกลางทาง
ยืนยันว่าทุกหน่วยช่วยกันหมด ตนใช้ทุกคน ทุกหน่วย ไม่มีใครสำคัญน้อยไปกว่าใคร เรื่องความผิดพลาดพวกตนรับได้ มันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยืนยันว่า ณ เวลานี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ ส่วนการสอบสวนก็ชันสูตรตรงไปตรงมา ซึ่งแพทย์ที่ทำการชันสูตรคงจะมาให้คำตอบได้" พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีกระแสที่มีคลิปเสียงชายสองคนขณะสนทนากันถึงการปฎิบัติงานในครั้งนี้ ว่า เบื้องต้นตนได้ฟังคลิปเสียงแล้วดังกล่าวแล้ว มั่นใจว่าบุคคลในคลิปเสียงไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
อีกทั้งขอประนามผู้ที่ลงมือกระทำและเผยแพร่คลิปเสียงนี้ถึงความไม่เหมาะสมและขอให้หยุดการกระทำ
ส่วนประเด็นที่สังคมอยากทราบยุทธวิธีที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการเข้าจับกุมคนร้ายนั้น ไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นขั้นตอนการทำงานของตำรวจซึ่งหากมีการเปิดเผยไปอาจจะมีกลุ่มคนไม่หวังดี ศึกษาและถอดบทเรียน เพื่อนำไปก่อเหตุ
https://www.thaipost.net/main/detail/56878
เปิดคลิปนาทีทหาร 3 นายเข้าช่วยคนติดในห้างฯ ท่ามกลางความกดดัน
เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการโพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนภายในห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา จากเหตุคนร้ายกราดยิงกลางเมืองโคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 ราย ซึ่งเจ้าตัวเป็นหนึ่งในทหารชุดแรก ๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ในห้างฯ ให้ออกมาข้างนอก
คลิปดังกล่าวโดยผู้โพสต์ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tock Thitinan ระบุข้อความว่า "1 ในภารกิจที่ผมได้รับมอบหมาย คือ นำประชาชนที่หลบซ่อนอยู่ใกล้กับผู้ต้องหาออกนอกพื้นที่แนวการยิงปะทะ เพราะจุดนี้ใกล้ผู้ต้องหามากที่สุด ต้องแอบนำออกข้างหลัง"
หนุ่มทหารผู้โพสต์ได้เล่าเบื้องหลังภารกิจดังกล่าวบอกว่า การช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบาก ท่ามกลางสภาวะตึงเครียด กดดัน และไม่ทราบว่าคนร้ายซ่อนตัวในจุดไหนในห้างฯ
https://www.komchadluek.net/news/hotclip/416131?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=hotclip
ขอบคุณตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ทุกท่านค่ะ
ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือกัน
ให้กำลังใจชาวโคราชทุกคน
ทางข้างหน้ายังมีให้เดินไปด้วยกันค่ะ
เราจะสู้ไปด้วยกัน ให้ทุกๆคนรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว
💕💕มาลาริน/บิ๊กตร.ยันตำรวจ ทหาร ทุกคนทำงานไปด้วยกัน...เปิดคลิปนาทีทหาร 3 นายเข้าช่วยคนติดในห้างฯ ท่ามกลางความกดดัน
11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 14:49 น.
11 ก.พ.63- พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงการปฎิบัติภารกิจเข้าจับกลุ่มคนร้าย ก่อเหตุยิงกราดในจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ตำรวจได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงาน ในการสนธิกำลังเข้าจับกุมคนร้าย ยืนยันว่าการเลือกใช้ชุดหน่วยปฏิบัติการเข้าจู่โจมควบคุมพื้นที่นั้น เป็นการเลือกจากความเหมาะสมและความถนัด ของแต่ละหน่วย ตำรวจ ทหาร ทำงานด้วยกัน ไม่มีใครเข้าไปเปลี่ยนม้ากลางศึก
การตัดสินใจของผู้บัญชาการทหารบกเป็นมืออาชีพ ที่พูดไม่ได้เพราะความสนิทสนม แต่ต้องมานั่งอดทนและมอบความไว้วางใจให้กับหน่วยตำรวจมันไม่ใช่ง่าย
สมมติหากใช้กำลังผสมทหาร-ตำรวจ อาจจะมีปัญหาบ้างในเรื่องของการควบคุม ขณะที่เราก็คิดว่ากำลังพลของเราสามารถจะดำเนินการเองได้ แต่ทหารไม่ได้ไปไหน อยู่สแตนด์บายพร้อมช่วยเมื่อตำรวจคุมสถานการณ์ไม่อยู่
ทั้งนี้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่มีใครเป็นฮีโร่ เจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้งตำรวจ ทหาร ล้วนปฎิบัติภารกิจตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ รวมทั้งเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนได้รับบทเรียนและการสูญเสียด้วยกันทั้งสิ้น กำลังใจ หรือคำอวยพรต่างๆ เราขอขอบคุณ แต่เรื่องฮีโร่ขอไม่รับ
"ทางกองทัพก็ส่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกมาอยู่กับผมตลอดเวลา เดินอยู่ด้วยกันข้างในนั้น อุปกรณ์หลายอย่างเราขอจากกองทัพมา ไม่ว่าจะเป็นโดรน รถกันกระสุน อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ และมีคนคอยประสานงานเพื่อมอนิเตอร์ว่าถึงจุดที่จะต้องใช้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ไม่มีใครที่จะไปเปลี่ยนคนกันกลางทาง
ยืนยันว่าทุกหน่วยช่วยกันหมด ตนใช้ทุกคน ทุกหน่วย ไม่มีใครสำคัญน้อยไปกว่าใคร เรื่องความผิดพลาดพวกตนรับได้ มันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยืนยันว่า ณ เวลานี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ ส่วนการสอบสวนก็ชันสูตรตรงไปตรงมา ซึ่งแพทย์ที่ทำการชันสูตรคงจะมาให้คำตอบได้" พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังกล่าวถึงกรณีกระแสที่มีคลิปเสียงชายสองคนขณะสนทนากันถึงการปฎิบัติงานในครั้งนี้ ว่า เบื้องต้นตนได้ฟังคลิปเสียงแล้วดังกล่าวแล้ว มั่นใจว่าบุคคลในคลิปเสียงไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ อีกทั้งขอประนามผู้ที่ลงมือกระทำและเผยแพร่คลิปเสียงนี้ถึงความไม่เหมาะสมและขอให้หยุดการกระทำ
ส่วนประเด็นที่สังคมอยากทราบยุทธวิธีที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการเข้าจับกุมคนร้ายนั้น ไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้เนื่องจากเป็นขั้นตอนการทำงานของตำรวจซึ่งหากมีการเปิดเผยไปอาจจะมีกลุ่มคนไม่หวังดี ศึกษาและถอดบทเรียน เพื่อนำไปก่อเหตุ
https://www.thaipost.net/main/detail/56878
เปิดคลิปนาทีทหาร 3 นายเข้าช่วยคนติดในห้างฯ ท่ามกลางความกดดัน
เจ้าหน้าที่ทหารได้มีการโพสต์คลิปเล่าเหตุการณ์ที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชนภายในห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา จากเหตุคนร้ายกราดยิงกลางเมืองโคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 30 ราย ซึ่งเจ้าตัวเป็นหนึ่งในทหารชุดแรก ๆ ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่ในห้างฯ ให้ออกมาข้างนอก
คลิปดังกล่าวโดยผู้โพสต์ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tock Thitinan ระบุข้อความว่า "1 ในภารกิจที่ผมได้รับมอบหมาย คือ นำประชาชนที่หลบซ่อนอยู่ใกล้กับผู้ต้องหาออกนอกพื้นที่แนวการยิงปะทะ เพราะจุดนี้ใกล้ผู้ต้องหามากที่สุด ต้องแอบนำออกข้างหลัง"
หนุ่มทหารผู้โพสต์ได้เล่าเบื้องหลังภารกิจดังกล่าวบอกว่า การช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบาก ท่ามกลางสภาวะตึงเครียด กดดัน และไม่ทราบว่าคนร้ายซ่อนตัวในจุดไหนในห้างฯ
https://www.komchadluek.net/news/hotclip/416131?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=hotclip
ขอบคุณตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ทุกท่านค่ะ
ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือกัน
ให้กำลังใจชาวโคราชทุกคน
ทางข้างหน้ายังมีให้เดินไปด้วยกันค่ะ
เราจะสู้ไปด้วยกัน ให้ทุกๆคนรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว