หลายคนรู้แล้วว่าในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่ทางช้างเผือกจะเริ่มขึ้นจากขอบท้องฟ้าทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ราว ๆ 04:00 และแสงสนธยาตอนเช้าจะเริ่มขึ้น 6 โมงเช้า เราจะเห็นทางช้างเผือกได้ 2 ช.ม. ซึ่งมีเวลาเพียงต่อการถ่ายสบาย ๆ แน่นอนว่าในวันที่ 1-7 ก.พ. 63 เป็นวีคแรกที่เราจะเก็บทางช้างเผือกได้ในตอนเช้า หลังจากวีคนี้แล้วท้องฟ้าจะถูกแสงจันทร์รบกวน เราจะเก็บทางช้างเผือกได้อีกทีในวันที่ 23-29 ก.พ. และ 1-6 มี.ค. (ตามตารางที่ผมได้ทำไว้ แนะนำให้เซฟไว้เลย)
Start = คือเวลาที่สามารถเริ่มสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ เช่นวันที่ 21 มิถุนายน ทางช้างเผือกจะเริ่มสังเกตเห็นได้เวลาประมาณ 19:30 ในทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ (AZ=118 องศา) โดยมีมุมเงย 10 องศาหรือสูงจากขอบฟ้า 1 กำมือ
End = คือเวลาที่ไม่สามารถเริ่มสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ เช่นวันที่ 21 มิถุนายน ทางช้างเผือกจะเริ่มไม่เห็นตั้งแต่เวลาประมาณ 04:45 ในทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ (AZ=240 องศา) โดยมีมุมเงย 12 องศาหรือสูงจากขอบฟ้า 1 กำมือ กับ 2 นิ้วก้อย (อันที่จริงมันยังไม่ตกนะแต่ว่าท้องฟ้ามันสว่างก่อน)
AZ = มุมอาซีมุท คือมุมทิศ โดยอ้างอิงจากทิศเหนือ 0 องศา ทิศตะวันออก 90 องศา ทิศใต้ 180 องศา ทิศตะวันตก 270 องศา (หน่วยเป็นองศาเหนือ เช่นทิศใต้คือ 180 องศาเหนือ)
ALT = มุมอัลติจูด หรือมุมเงย ถ้ามุมเงย 90 องศา ก็คือเหนือหัวศีรษะเรานั่นเอง
ALT > 60 องศา = ทางช้างเผือกส่วนใหญ่ทำมุมเกิน 60 องศา ก็คือจะมีลักษณะเป็นแบบคันธนู ตั้งฉาก เฉียงตก ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายเพียงแค่เราหันกล้องไปยังทิศใต้ยังไงก็ถ่ายติดทางช้างเผือกแน่นอน ผมจึงใช้เป็นค่าอ้างอิงสำหรับมือใหม่หัดถ่าย เพราะเป็นค่าที่สามารถเห็นทางช้างเผือกได้เลย โอกาสโดนบังจากสภาพแวดล้อมน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย(ยกเว้นเมฆ) เช่นในวันที่ 21 มิถุนายน ทางช้างเผือกจะทำมุมเกิน 60 องศา ตั้งแต่เวลา 23:40-04:00 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ถ่ายทางช้างเผือกได้ดีที่สุด
MILKYWAY DAY = วันที่สามารถล่าทางช้างเผือกได้ดี ไม่มีแสงจันทร์รบกวนเกินครึ่งหนึ่งของเวลาที่ทางช้างเผือกปรากฏ ซึ่งในแต่ละปี วันที่จะไม่เหมือนกัน ซึ่งผมจะอัพเดทให้ทุก ๆกลางเดือนมกราคมของทุกปี ก่อนที่ฤดูทางล่าช้างจะเริ่มขึ้น
สำหรับใครงง ๆว่าตารางมันอ่านยังไง สามารถคลิ้กเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ในลิ้งค์ข้างล่างเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://thesunsight.com/milkyway/

ทางช้างเผือก บ้านนาเลา จ.เชียงใหม่ [Nikon D610 : iso 6400 f3.5 Speed shutter 20 s x 8 ใบ ]
สารพันคำถามทีหลายคนเคยถามเข้ามา
A : ทางช้างเผือกในเมืองไทยเริ่มเห็นได้ตอนไหนบ้าง?
Q : ตั้งแต่เดือน ก.พ. ไปจนถึง พ.ย. ในแต่ละเดือนก็จะเห็นทางช้างเผือกแตกต่างกันไป ในช่วงต้น ๆประมาณ เดือน ก.พ.- เม.ษ. จะเห็นช้างขึ้นขนานกับขอบฟ้าในช่วงเช้าทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้(144 องศาเหนือ) พอเข้าเดือน พ.ค. - ส.ค. เราจะเห็นช้างได้ตลอดทั้งคืนตั้งแต่หัวค่ำไปจนถึงเช้ามืด จนกระทั่งพอเข้าเดือน ก.ย. เราจะเห็นช้างได้ถึงเที่ยงคืน สุดท้ายพอเข้าเดือน พ.ย. เราจะเห็นช้างแค่ช่วงหัวค่ำไม่เกิน 1-2 ทุ่ม ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนเดือน ธ.ค.- ม.ค. จะเป็นช่วงที่เมืองไทยไม่เห็นใจกลางทางช้างเผือก จะเห็นเพียงหางช้างเท่านั้น ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าวันไหนแสงจันทร์รบกวน ซึ่งผมได้ทำตารางไว้ให้แล้วพร้อมวันที่สามารถล่าช้างได้ ไม่มีแสงจันทร์รบกวน(Milky Day)
A : ทางช้างเผือกตั้งค่ายังไง?
Q : การถ่ายทางช้างเผือกใช้หลักเดียวกับการถ่ายดาว คือเปิด Speed shutter ต่ำ ๆ f ต่ำ ๆ iso สูง ๆ และขาตั้งกล้อง ค่าที่ใช้ส่วนใหญ่ผมจะตั้งประมาณนี้ Speed shutter 8-15s f1.8-4.5 iso 1600-6400 เพิ่มลด iso ตามความมืดสว่างของท้องฟ้า ถ้าท้องฟ้ามลภาวะทางแสงสูงให้ใช้ iso 1600 ก็พอ
A : ไปถ่ายทางช้างเผือกที่ไหนดี?
Q : แน่นอนว่าต้องไปที่มืด ๆ ใกล้เมืองหลวงสุดก็เขาใหญ่ หรือไม่ก็กาญจนบุรี แต่ถ้าเอาแบบเด็ด ๆ เลยก็ภูชี้ฟ้า ดอยเสมอดาว ดอยอินทนนท์ ดอยภูคา บ้านสะปัน บ้านนาเลาใหม่ แต่สำหรับช่วงเดือนกุมภาพันธ์แนะนำให้ไปภูชี้ฟ้า ดอยเสมอดาว ดอยภูคา ดอยอินทนนท์ เพราะที่กล่าวมาจุดชมวิวหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้พอดี

ทางช้างเผือก บ้านสะปัน จ.น่าน [Nikon D610 : iso 6400 f3.5 Speed shutter 15 s x 6 ใบ ]

ทางช้างเผือก ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน [Nikon D610 : iso 6400 f3.5 Speed shutter 15 s x 8 ใบ]
ปล.ไปล่าทางช้างเผือกช่วงนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องฟ้าฝน โดยส่วนใหญ่แล้วอากาศค่อนข้างแห้ง ไม่มีเมฆแน่นอน แต่อาจจะมีหมอกควันได้บ้าง ซึ่งถ้าขึ้นไปบนดอยสูง ๆ เกิน 1,000 เมตร ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่เหนือหมอกควัน
ปล.2 บนยอดดอย ยอดภู ช่วงนี้ไม่มีอู่ฮั้นไวรัส แต่ต้องระวังยุงป่า แนะนำให้เอายากันยุงไปด้วย
ปล.3 แม้ว่าช่วงนี้ใน กทม. จะอากาศดูร้อน ๆแต่ตามยอดดอยช่วงนี้อากาศเย็นถึงหนาวเลยทีเดียว ใครป่วยง่าย ขี้หนาว พกเสื้อกันหนาวหนา ๆไปด้วย
สามารถอ่านเทคนิคการถ่ายดาวและล่าทางช้างเผือกได้เพิ่มเติมได้ในลิ้งด้านล่างนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://thesunsight.com/milkyway/
https://thesunsight.com/starphoto/
หรือติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้ใน Facebook Fanpage
https://www.facebook.com/thesunsight.Travel
หรือใครจะสอบถามอะไรก็ได้นะครับ อันไหนตอบได้ก็จะตอบให้ แต่อันไหนผมตอบไม่ได้ก็จะบอกว่าไม่รู้ครับ 5555
ไปล่าทางช้างเผือกกันเถอะ ประจำปี พ.ศ. 2563 (พร้อมตารางขึ้น-ตก)
End = คือเวลาที่ไม่สามารถเริ่มสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ เช่นวันที่ 21 มิถุนายน ทางช้างเผือกจะเริ่มไม่เห็นตั้งแต่เวลาประมาณ 04:45 ในทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ (AZ=240 องศา) โดยมีมุมเงย 12 องศาหรือสูงจากขอบฟ้า 1 กำมือ กับ 2 นิ้วก้อย (อันที่จริงมันยังไม่ตกนะแต่ว่าท้องฟ้ามันสว่างก่อน)
AZ = มุมอาซีมุท คือมุมทิศ โดยอ้างอิงจากทิศเหนือ 0 องศา ทิศตะวันออก 90 องศา ทิศใต้ 180 องศา ทิศตะวันตก 270 องศา (หน่วยเป็นองศาเหนือ เช่นทิศใต้คือ 180 องศาเหนือ)
ALT = มุมอัลติจูด หรือมุมเงย ถ้ามุมเงย 90 องศา ก็คือเหนือหัวศีรษะเรานั่นเอง
ALT > 60 องศา = ทางช้างเผือกส่วนใหญ่ทำมุมเกิน 60 องศา ก็คือจะมีลักษณะเป็นแบบคันธนู ตั้งฉาก เฉียงตก ซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายเพียงแค่เราหันกล้องไปยังทิศใต้ยังไงก็ถ่ายติดทางช้างเผือกแน่นอน ผมจึงใช้เป็นค่าอ้างอิงสำหรับมือใหม่หัดถ่าย เพราะเป็นค่าที่สามารถเห็นทางช้างเผือกได้เลย โอกาสโดนบังจากสภาพแวดล้อมน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย(ยกเว้นเมฆ) เช่นในวันที่ 21 มิถุนายน ทางช้างเผือกจะทำมุมเกิน 60 องศา ตั้งแต่เวลา 23:40-04:00 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ถ่ายทางช้างเผือกได้ดีที่สุด
MILKYWAY DAY = วันที่สามารถล่าทางช้างเผือกได้ดี ไม่มีแสงจันทร์รบกวนเกินครึ่งหนึ่งของเวลาที่ทางช้างเผือกปรากฏ ซึ่งในแต่ละปี วันที่จะไม่เหมือนกัน ซึ่งผมจะอัพเดทให้ทุก ๆกลางเดือนมกราคมของทุกปี ก่อนที่ฤดูทางล่าช้างจะเริ่มขึ้น
สำหรับใครงง ๆว่าตารางมันอ่านยังไง สามารถคลิ้กเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ในลิ้งค์ข้างล่างเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทางช้างเผือก บ้านนาเลา จ.เชียงใหม่ [Nikon D610 : iso 6400 f3.5 Speed shutter 20 s x 8 ใบ ]
สารพันคำถามทีหลายคนเคยถามเข้ามา
A : ทางช้างเผือกในเมืองไทยเริ่มเห็นได้ตอนไหนบ้าง?
Q : ตั้งแต่เดือน ก.พ. ไปจนถึง พ.ย. ในแต่ละเดือนก็จะเห็นทางช้างเผือกแตกต่างกันไป ในช่วงต้น ๆประมาณ เดือน ก.พ.- เม.ษ. จะเห็นช้างขึ้นขนานกับขอบฟ้าในช่วงเช้าทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้(144 องศาเหนือ) พอเข้าเดือน พ.ค. - ส.ค. เราจะเห็นช้างได้ตลอดทั้งคืนตั้งแต่หัวค่ำไปจนถึงเช้ามืด จนกระทั่งพอเข้าเดือน ก.ย. เราจะเห็นช้างได้ถึงเที่ยงคืน สุดท้ายพอเข้าเดือน พ.ย. เราจะเห็นช้างแค่ช่วงหัวค่ำไม่เกิน 1-2 ทุ่ม ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนเดือน ธ.ค.- ม.ค. จะเป็นช่วงที่เมืองไทยไม่เห็นใจกลางทางช้างเผือก จะเห็นเพียงหางช้างเท่านั้น ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าวันไหนแสงจันทร์รบกวน ซึ่งผมได้ทำตารางไว้ให้แล้วพร้อมวันที่สามารถล่าช้างได้ ไม่มีแสงจันทร์รบกวน(Milky Day)
A : ทางช้างเผือกตั้งค่ายังไง?
Q : การถ่ายทางช้างเผือกใช้หลักเดียวกับการถ่ายดาว คือเปิด Speed shutter ต่ำ ๆ f ต่ำ ๆ iso สูง ๆ และขาตั้งกล้อง ค่าที่ใช้ส่วนใหญ่ผมจะตั้งประมาณนี้ Speed shutter 8-15s f1.8-4.5 iso 1600-6400 เพิ่มลด iso ตามความมืดสว่างของท้องฟ้า ถ้าท้องฟ้ามลภาวะทางแสงสูงให้ใช้ iso 1600 ก็พอ
A : ไปถ่ายทางช้างเผือกที่ไหนดี?
Q : แน่นอนว่าต้องไปที่มืด ๆ ใกล้เมืองหลวงสุดก็เขาใหญ่ หรือไม่ก็กาญจนบุรี แต่ถ้าเอาแบบเด็ด ๆ เลยก็ภูชี้ฟ้า ดอยเสมอดาว ดอยอินทนนท์ ดอยภูคา บ้านสะปัน บ้านนาเลาใหม่ แต่สำหรับช่วงเดือนกุมภาพันธ์แนะนำให้ไปภูชี้ฟ้า ดอยเสมอดาว ดอยภูคา ดอยอินทนนท์ เพราะที่กล่าวมาจุดชมวิวหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้พอดี
ทางช้างเผือก บ้านสะปัน จ.น่าน [Nikon D610 : iso 6400 f3.5 Speed shutter 15 s x 6 ใบ ]
ทางช้างเผือก ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน [Nikon D610 : iso 6400 f3.5 Speed shutter 15 s x 8 ใบ]
ปล.ไปล่าทางช้างเผือกช่วงนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องฟ้าฝน โดยส่วนใหญ่แล้วอากาศค่อนข้างแห้ง ไม่มีเมฆแน่นอน แต่อาจจะมีหมอกควันได้บ้าง ซึ่งถ้าขึ้นไปบนดอยสูง ๆ เกิน 1,000 เมตร ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่เหนือหมอกควัน
ปล.2 บนยอดดอย ยอดภู ช่วงนี้ไม่มีอู่ฮั้นไวรัส แต่ต้องระวังยุงป่า แนะนำให้เอายากันยุงไปด้วย
ปล.3 แม้ว่าช่วงนี้ใน กทม. จะอากาศดูร้อน ๆแต่ตามยอดดอยช่วงนี้อากาศเย็นถึงหนาวเลยทีเดียว ใครป่วยง่าย ขี้หนาว พกเสื้อกันหนาวหนา ๆไปด้วย
สามารถอ่านเทคนิคการถ่ายดาวและล่าทางช้างเผือกได้เพิ่มเติมได้ในลิ้งด้านล่างนี้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หรือใครจะสอบถามอะไรก็ได้นะครับ อันไหนตอบได้ก็จะตอบให้ แต่อันไหนผมตอบไม่ได้ก็จะบอกว่าไม่รู้ครับ 5555