คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ลูกชายเรากำลังเรียน ป.เอกที่ญป. เขาบอกว่าญป.น่าเที่ยว แต่ไม่น่าอยู่ คุณไปอยู่ประเทศอื่นนานๆ จะเข้าใจความรู้สึกนี้มากขึ้น
หลายอย่างเขาดีกว่าไทย. แต่แค่ปัญหาพิบัติภัยต่างๆ ทั้งไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว (รายวัน) ยังคิดเลยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรง เช่นสึนามิ
ก็จะลำบากมาก. เพราะเราไปก็เป็นพลเมืองชั้นสอง. เขาต้องดูแลประชาชนเขาก่อน มีอะไร คุณอาจต้องรอแอร์เอเชียไปรับกลับก็ได้
นอกจากนี้ คุณต้องมีความสามารถมากๆ จึงจะอยู่อย่างสะดวกสบาย มีการงานที่มั่นคงทำได้. ไม่หมูนะครับ
หลายอย่างเขาดีกว่าไทย. แต่แค่ปัญหาพิบัติภัยต่างๆ ทั้งไต้ฝุ่น แผ่นดินไหว (รายวัน) ยังคิดเลยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรง เช่นสึนามิ
ก็จะลำบากมาก. เพราะเราไปก็เป็นพลเมืองชั้นสอง. เขาต้องดูแลประชาชนเขาก่อน มีอะไร คุณอาจต้องรอแอร์เอเชียไปรับกลับก็ได้
นอกจากนี้ คุณต้องมีความสามารถมากๆ จึงจะอยู่อย่างสะดวกสบาย มีการงานที่มั่นคงทำได้. ไม่หมูนะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 27
คุณพื้นเพก็ไม่ได้ต่างจากผมขนาดนั้น
รุ่นอากงอาม่าผมก็มาจากจีนเกือบหมด หนีมาไทย มีเสี้ยวเล็กๆเป็นไทยและมาเลย์
ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสและทุกวันนี้ทำงานอยู่จีนเมืองเซี่ยงไฮ้ (หนีไวรัสกลับมาชั่วคราว)
คุยกันเรื่องประเทศไทย ผมพูดเสมอว่าผมไม่ขอพูดว่าผมภูมิใจที่เป็นคนไทย... เพราะผมไม่เข้าใจการภูมิใจกับสิ่งที่ได้มาพร้อมการเกิด
...แต่ผมพร้อมพูดอย่างเต็มปากว่าผมภูมิใจ ที่จะพูดว่าผมโชคดีที่สุดที่ได้เกิดและเป็นพลเมืองในแผ่นดินนี้
ครอบครัวฝั่งพ่อผมครึ่งจีน ไม่ได้ร่ำรวยนัก ปู่เป็นครึ่งไทยมาเลย์ เป็นมุสลิม (ข้อดีแรก ในแผ่นดินนี้พ่อผมเกิดมาดันไม่ต้องเป็นมุสลิม แค่ลูกสาวคนโตซึ่งแต่งงานไปเป็นพลเมืองเยอรมันเป็นคนเดียว 555) อยู่กรุงเทพ เป็นทหารรับใช้ชาติรบในสงครามเกาหลี อาม่าเป็นจีนบรรพบุรุษมาไทยเมื่อไหร่ไม่รู้เกิดที่ยะลา
ฝั่งแม่ร่ำรวยกว่า อากงอาม่ามาจากจีนตัวเปล่าๆ เริ่มจากรับจ้างทั่วไป ค้าขายเล็กน้อยๆจนได้ร้านโชว์ห่วยเล็กๆ จนเริ่มค้าผ้า ทำโรงงาน ทำเต้นรถ แต่แม่ผมเป็นลูกสาวคนสุดท้องในครอบครัวจีนจ๋าๆเลยแทบไม่ได้อะไรจากครอบครัว
สุดท้ายพ่อแม่แต่งงานแยกมาเป็นครอบครัวเล็กๆกันเอง อาศัยตึกแถวหลังนึงของฝั่งพ่อที่ไม่ได้ใช้เพราะอยู่ในชุมชนที่ไม่ดีนัก สกปรก ยาเสพติดชุกชุม พ่อแม่ท่านทำงานเก็บเงินจนสามารถย้ายไปอยู่ที่ใหม่ของตัวเองได้ในชุมชนที่ดีกว่า
ท่านพยายามส่งผมเข้าเรียนเอกชนอย่างยากลำบาก พอพ่อผมตกงาน ผมก็ต้องไปอยู่โรงเรียนรัฐแทน หลังจากนั้นผมก็ตั้งใจเรียน ตั้งแต่มัธยมปลายเป็นต้นมาผมสอบรับทุนการศึกษาต่างๆตลอดจนไปถึงจุดที่ไปต่างประเทศโดยไม่มีข้อผูกพัน พ่อแม่ผมไม่ต้องเสียเงินใดๆเป็นค่าเล่าเรียนหรือเรียนพิเศษใดๆ ได้มีโอกาสรับราชการเป็นช่วงเวลาหนึ่งก็ภาคภูมิใจกับช่วงเวลานั้นแม้จะตัดสินใจไม่ไปต่อ ได้ไปฝรั่งเศสเรียนและทำงานก็ด้วยทุนไม่ผูกพันธ์รวมถึงไปที่อื่นๆหลายที่ในยุโรป จนวันนี้ผมมาทำปริญญาเอกในมหาลัยชั้นนำในด้านของผมที่เซี่ยงไฮ้ก็เป็นแบบที่มีรายได้มากไม่มีข้อผูกพันใดๆเหมือนคนทำงานดีๆทั่วไปช่วยที่บ้านได้
------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับผมไทยดียังไง?
ย่อๆ
อาหาร, วัฒนธรรม, ความเปิดกว้าง
และโดยพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศเท่าๆกันนับว่าไทย ค่าครองชีพถูก สวัสดิการค่อนข้างดี ปลอดภัย เสรีพอตัว คมนาคมไม่เลวร้าย
------------------------------------------------------------------------------------
ยาวๆ
อาหารไทย 555 ราคาถูก มีหลากหลายทั้งสไตล์และวัตถุดิบ และค่อนข้างมีอุดมสมบูรณ์ตลอดปี
ค่าครองชีพ
- อาหารแม้ราคาจะขึ้นมาบ้างในช่วงที่ผ่านมาแต่ผมทำอาหารเองเป็นปกติ ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้สูงอะไร การกินอาหารข้างทางต่อให้ราคาขึ้นก็ยังถูกและมีหลากหลาย รายได้ไทยอาจไม่สูง แต่นับกับประเทศที่รายได้ใกล้เคียงกัน ค่าใช้จ่ายไทยก็ถูกกว่าพอตัว และต่อให้เทียบตัวเลขตามที่หลายสถิติที่หน่วยงานฝรั่งวัดออกมา อ่านวิธีการวัดค่าแจกแจงแปปเดียวเทียบกับที่ผมเคยใช้ชีวิตในยุโรปมาก่อนก็เห็นว่าเลขเหล่านั้นไม่ได้สะท้อนค่าใช้จ่ายเอเชียและโลกตะวันตกในมาตรฐานเดียวกัน
- ค่าที่พัก ไทยเป็นที่ๆค่าที่พักถูกมากมาเสมอเป็นที่พูดถึงในระดับโลก แต่ก็เป็นดาบสองคมที่เป็นผลมาจากผังเมืองที่มีปัญหาซึ่งแย่ในด้านนึงแต่ก็ดีอีกด้านหนึ่ง ในช่วงปีที่ผ่านๆมามีปัญหาบ้างจากราคาที่สูงขึ้นด้วยการเก็งกำไรโดยต่างชาติ และคอนโดที่ผุดขึ้นมารวมจนราคาเฉลี่ยดูสูงขึ้น แต่ตัวเลือกถูกๆก็ยังมีมากมาย
สุขภาพ
การป่วยเป็นเรื่องที่ยากจะควบคุมได้ต่อให้เป็นคนที่ระวังที่สุด ไทยเป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆเรื่องการแพทย์ทั้งจากมุมที่วัดโดยหน่วยงานนานาชาติที่มุ่งเรื่องการเข้าถึงง่ายและราคา หรือโดยฝั่งอเมริกันที่มักวัดเรื่องคุณภาพการรักษา และต่อให้ไม่ใช้ของรัฐ โดยปกติประเทศที่การแพทย์รัฐดีเอกชนจะแพง แต่ไทยก็ยังราคาถูกมากด้วยบริการที่ดีเยี่ยม ในพื้นที่ห่างไกลไม่มีประเทศใดทำได้สมบูรณ์เรายังพัฒนาได้อีก
วัฒนธรรมประเพณี
มีไม่กี่ประเทศในโลกที่มีวัฒนธรรมที่จับต้องได้และเป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างเด่นๆเช่นญี่ปุ่นที่สามารถบอกได้ทันทีว่าออกแบบหน้าตาหรือลายเส้นแบบนี้คือญี่ปุ่น หรือจีน หรือรูปแบบรวมๆของอาหรับ ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ต้องใช้อาหารเด่นหรือสถานที่สำคัญ ไทยมีความอุดมสมบูรณ์มากด้านนี้ รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ ถ้าหากได้นำมาใช้อย่างเต็มที่เหมือนที่หลายประเทศที่มีด้านนี้น้อยกว่าทำเราคงไปได้อีกมาก
เสรีภาพ
เรารู้กันดีว่าเราเองมีข้อจำกัดหลายอย่างเรื่องนี้ ด้วยกฏหมายบางข้อ หรือรัฐบาล อย่างไรก็ดี ก็ต้องไม่ลืมว่าเมื่อเทียบรัฐบาลเผด็จการเรากับเผด็จการอื่นๆเราก็ยังเสรีมากในทางปฏิบัติ การมองว่าเราดีได้อีกมากไม่ได้แปลว่าเราแย่
ผมอยู่จีนก็เพื่อพัฒนาตัวเองเท่านั้นแต่ก็กลัวมากที่ความนิยมจีนในไทยมีมากขึ้น กลัวมากว่าการกำจัดเสรีภาพแบบจีนวันนึงจะมาตั้งมั่นแข็งแกร่งในไทย
ความหลากหลายเปิดกว้าง
- ผมไม่ค่อยชอบพูดเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ถ้าพูดจริงๆก็ต้องยอมรับว่าด้านนี้ในทางปฏิบัติเราเป็นสังคมที่เปิดกว้างมากทั้งเชื้อชาติศาสนาและเพศ ตัวอย่างง่ายที่สุดคือการที่ประเทศเราให้คนมุสลิมพื้นเพทางสายเลือดก็มาจากทางเปอร์เซียได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ทรงพลังเกือบที่สุดคือ ผบทบ จนถึงขนาดยึดอำนาจจากผู้นำประเทศ(ซึ่งก็เป็นเชื้อสายจีน)จากการเลือกตั้งที่เป็นที่นิยมที่สุดในประเทศได้ ความเห็นการเมืองคือเรื่องนึง แต่สังคมที่เป็นศาสนานึง 90% ไม่มีที่ไหนในโลกที่ปล่อยขนาดนี้โดยไม่มีแรงต้านอย่างรุนแรงเรื่องเชื้อชาติศาสนา
- คุณมีพูดถึงเรื่องภาษา ซึ่งสำหรับผมแล้ว บันทึกของข้าหลวงฝรั่งเศสคนหนึ่งซึ่งทำงานในราชสำนักไทยได้ประเมินจำนวนคนในเมืองหลวงสมัยก่อนไว้ ผมจำเลขไม่ได้ แต่โดยประมาณคือสยาม 1/3 จีน 1/3 ที่เหลือคืออื่นๆ ลองนึกดูว่าถ้าทุกกลุ่มพูดภาษาตัวเองได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะกับเมืองในอดีตที่ทุกคนไม่ได้ต้องติดต่อกันนอกกลุ่มมากขนาดนี้ จีนก็คงพูดจีนกันหมดและต้องการทำงานกับคนพูดจีนเหมือนกัน แบบนี้มันแฟร์มั้ยกับที่คนท้องถิ่นที่เกิดขึ้นมาแล้วต้องพูดภาษาต่างชาติ(จีน)ถึงจะสามารถทำงานกับคน1/3ของเมืองหลวงได้ ท้ายที่สุดจึงต้องมีการบังคับใช้เพื่อผลักดันในคนเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลายไม่ใช่แค่การจับคนหลายๆสีมาอยู่ด้วยกัน แต่คือคนต้องสามารถสื่อสารและยอมรับกันได้ด้วย ดังนั้นการบังคับให้มีภาษาเดียวสำหรับให้สื่อสารกันคือพื้นฐานที่ผมมองว่าสมเหตุสมผลที่จะพยายามบังคับใช้
- เรื่องเพศก็ยิ่งชัดเจน ไทยเราเป็นที่ๆมีสัดส่วนเจ้าของธุรกิจหญิงหรือผู้บริหารหญิงสูงที่สุดโดยไม่มีกฏหมายหรือกระแสสังคมใดๆมาบังคับ ไม่ได้เพอเฟค แต่โลกนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเพอเฟคอยู่แล้ว หรือเพศอื่นๆ แม้ในทางกฏหมายเราไม่ได้รับ แต่ไทยเรามีโพลมานานแล้วก็ชี้ว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย แค่ไม่ได้มองเป็นเรื่องหลักและมักโดนประเด็นอื่นบังไป คนกลุ่มนี้ก็ใช้ชีวิตทำงานปกติได้อย่างเปิดเผยโดยความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่หากินกับเพศตัวเองหรือโดยกฏหมายหรือสังคมบังคับเหมือนที่นิยมกันในยุโรปอเมริกาหลังๆ
- ประเทศอื่นๆมากมายมาเลย์อินโดมีแขกฆ่าจีน หรือยุโรปอเมริกาก็มีกฏหมายมากมายมาห้ามอิงจากเหตุการณ์ใหญ่ในอดีต ไทยเราไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นในตัวเองโดยมีฐานจากการวางตัวของกษัตริย์ในอดีตที่ชี้นำสังคมให้เป็นเช่นปัจจุบันจนเป็นวัฒนธรรมการเปิดกว้างของคนไทย (การพูดเล็กๆน้อยๆเป็นเรื่องธรรมดาอย่าเอาไปรวมกับการเหยียดแรงๆอื่นๆ)
ความปลอดภัย
- ไทยเราสถิติอาชญากรรมนับว่าแย่กว่าเพื่อนบ้านก็จริง อย่างไรก็ดี ก็ต้องนับว่าภูมิภาคนี้เมื่อเทียบกับที่อื่นๆโดยคิดพื้นฐานเศรษฐกิจแล้วเป็นภูมิภาคที่ปลอดภัย คงเทียบไม่ได้กับประเทศรวยๆหรือเพื่อนบ้าน แต่ผมยืนยันว่าเราไม่ได้แย่เลย
- แม้แต่ไปนับอัตราการกระทำผิดซ้ำซึ่งเราบ่นกันมากว่าคนร้ายเข้าคุกแล้วออกมาทำอีก ไทยเราเองอัตราภายใน3ปีก็อยู่ที่30ปลาย% ซึ่งไม่ต่างกับประเทศพัฒนาแล้วที่คนมองว่ามีระบบฟื้นฟูคนในคุกดีนักหนา ยอมรับว่าทางคุณธรรมดูดีจริงแต่ยังไม่มีผลลัพท์ที่จับต้องได้
- ที่สำคัญถ้าคุณไปอยู่ยุโรป อาชญากรรมน้อยกว่าก็จริง แต่ก็แค่2-5เท่า และการจี้ปล้นไม่น้อยก็มุ่งมาที่คนเอเชียหน้าจีนด้วยอย่างน้อยก็ฝรั่งเศสด้วยความที่คนจีนชอบส่งลูกไปเรียนและให้เงินไปมากๆจนกลายเป็นเป้าของอาชญากร คนเอเชียอื่นๆก็โดนไปด้วย
- อาชญากรโหดๆมีทุกที่ครับ ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร ยิ่งเคสล่าสุดก็เฉพาะมากไม่ได้เป็นสิ่งที่จะเกิดกันบ่อยๆ
- เราอาจคำว่ายิงกราดแบบที่เราได้ยินจากอเมริกา คนมักนำมาโชว์คู่กับสถิติการตายจากอาวุธปืนของที่นั่นแต่ก็ต้องย้ำว่าสถิตินั้นเกินครึ่งคือฆ่าตัวตายและที่เหลือส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับแก๊งค์ยิงกันเอง คนธรรมดายิงกันไม่ได้เยอะเลยแค่ถูกรายงานทุกครั้งในประเทศขนาดสามร้อยล้านเท่านั้น นับฆาตกรรมจริงๆก็คือประมาณไทย คือสูงกว่ายุโรป แต่ก็ต่ำกว่าเฉลี่ยโลกมาก อย่ากลัวเกินเหตุ
- แม้แต่เรื่องทางการเมือง ไทยเรามีเหตุการณ์นองเลือดน่าสลดบ้างก็จริงแต่จำนวนก็ยังเล็กกว่าหลายๆเหตุการณ์ที่เคยเกิดที่อื่นๆเป็นไหนๆเมื่อวัดตัวเลขกัน ไทยเราไม่ใช่ที่ๆเถื่อนเลยสำหรับผม
คมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
จริงว่าไทยเรามีปัญหามากด้านนี้ หลักๆด้วยผังเมืองที่มั่วและภาพใหญ่เอื้อรถยนต์ การลงทุนมุ่งไปที่รถไฟฟ้าซึ่งแพงและได้แต่ค่อยๆทำในเมืองหลวงแทนที่จะทำรถเมล์ให้ดีขึ้นและบริการทุกเมืองทั่วประเทศซึ่งถูกกว่าและทำได้เร็วและไปเพิ่มรถไฟระหว่างเมืองให้ครอบคลุมและแน่นอนขึ้นแทนโครงการไฮเทคที่บริการไม่กี่พื้นที่ อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบต่างๆก็เป็นการเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว(หรือจีนซึ่งผมยอมรับจริงๆ) แต่กับที่อื่นๆไทยก็ยังนับว่ามีตัวเลือกพอสมควร ถนนเชื่อมพื้นที่ต่างๆสู่บริการของรัฐมีครอบคลุมประกอบกับค่าที่พักถูกที่ลดความจำเป็นในการเดินทางลงได้บ้าง
- ผมทำด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่อดีตก็อยู่ต่างจังหวัดลงพื้นที่ห่างไกลประจำ มองเห็นหลายอย่างที่สามารถพัฒนาได้ แต่ก็เข้าใจข้อจำกัดและความเป็นจริงทั้งของที่ๆเจริญแล้วที่คนมักมองและที่อื่นๆที่คนไม่ได้หันไปดู ก็มองว่าเราไม่ได้แย่ขนาดที่คิดๆกัน เราแค่เสียโอกาสจากการชะงักไป ถ้าเราลุกขึ้นมาใหม่ได้เราพร้อมพัฒนาได้อีกมาก
สภาพแวดล้อม
- ภัยพิบัติต่างๆไทยเราไม่ต้องพบเจอมากนักเหมือนหลายๆที่
- อุณหภูมิร้อนสุดหนาวสุดไม่ต่างมาก ปรับตัวง่ายกว่าหลายที่ๆเจอตั้งแต่ติดลบยัน40องศาแบบหลายๆที่
- แหล่งท่องเที่ยวยอดเยี่ยมทั้งทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมกลางเหนือใต้อีสาน(และใต้สุดถ้าวันนึงสงบได้) ความบันเทิง ภูเขา ทะเล น้ำตก ป่าไม้
อื่นๆ
ผมอยู่จีนในช่วงสองปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าคนเขาขยันมาก วันหยุดน้อยชั่วโมงงานเยอะ หลายครั้งหยุดแล้วมีชดเชยวันทำงานเสาร์อาทิตย์ด้วย ปีนี้วันหยุดหลักเดียวที่เขามีก็เจอวิกฤติเสียอีก การที่เศรษฐกิจเขาโตไม่ใช่เรื่องแปลก
ไทยเราสบายและบันเทิงกว่ามาก คิดง่ายๆครับ กิจกรรมหรือพิธีกรรมมหาวิทยาลัยไทยเราจริงจังขนาดไหน ที่อื่นไม่มีแบบนี้ เทศกาลทางวัฒนธรรมไทยเราก็มีมากมาย จัดกันจริงจัง อเมริกา Thank Giving เขาเป็นงานสำคัญที่สุดงานนึงของประเทศยังอาจจะไม่จริงจังเท่าเทศกาลย่อยของเรา นอกจากนี้อัตราการเติบโตประเทศไทยเราก็เป็นศูนย์
ชิวแบบนี้ การเติบโตประชากรแบบนี้ รัฐบาลแบบนี้ เศรษฐกิจไม่ติดลบ ก็ทำให้มีความหวังแล้วว่าถ้ารัฐเข้าที่เข้าทางเราดีได้อีกมากมาย เหมือนที่ไทยเราก้าวกระโดดมากในช่วงก่อนวิกฤติการเมือง นอกจากนี้ถ้าเราเองขยันให้เท่ากับคนบางประเทศที่ขยันมากเป็นปกติก็มีโอกาสสูงมากแล้วที่เราจะได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดที่สบายมากๆส่วนตัวในแผ่นดินนี้ (แน่นอนว่ารัฐช่วยได้อีกมากในหลายๆเรื่อง หลายอย่างเสียโอกาสจริงๆ)
จบ
น่าจะขาดอีกหลายอย่างที่ผมไม่ได้เขียนหรือเขียนข้ามๆไม่ได้อธิบาย ไม่ได้ต้องการจูงใจ แต่เคยคุยกับหลายคนเรื่องนี้และโดยส่วนใหญ่ก็จะเริ่มแบบนี้คือมองไทยเป็นลบ เมื่อผมลองพากันไล่ทีละข้อก็เห็นตรงกันว่าที่นี่เป็นที่ๆดีมาก เลยลองนึกแล้วเขียนๆลงมาดูเพื่อแชร์มุมมองส่วนตัวครับ
รุ่นอากงอาม่าผมก็มาจากจีนเกือบหมด หนีมาไทย มีเสี้ยวเล็กๆเป็นไทยและมาเลย์
ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสและทุกวันนี้ทำงานอยู่จีนเมืองเซี่ยงไฮ้ (หนีไวรัสกลับมาชั่วคราว)
คุยกันเรื่องประเทศไทย ผมพูดเสมอว่าผมไม่ขอพูดว่าผมภูมิใจที่เป็นคนไทย... เพราะผมไม่เข้าใจการภูมิใจกับสิ่งที่ได้มาพร้อมการเกิด
...แต่ผมพร้อมพูดอย่างเต็มปากว่าผมภูมิใจ ที่จะพูดว่าผมโชคดีที่สุดที่ได้เกิดและเป็นพลเมืองในแผ่นดินนี้
ครอบครัวฝั่งพ่อผมครึ่งจีน ไม่ได้ร่ำรวยนัก ปู่เป็นครึ่งไทยมาเลย์ เป็นมุสลิม (ข้อดีแรก ในแผ่นดินนี้พ่อผมเกิดมาดันไม่ต้องเป็นมุสลิม แค่ลูกสาวคนโตซึ่งแต่งงานไปเป็นพลเมืองเยอรมันเป็นคนเดียว 555) อยู่กรุงเทพ เป็นทหารรับใช้ชาติรบในสงครามเกาหลี อาม่าเป็นจีนบรรพบุรุษมาไทยเมื่อไหร่ไม่รู้เกิดที่ยะลา
ฝั่งแม่ร่ำรวยกว่า อากงอาม่ามาจากจีนตัวเปล่าๆ เริ่มจากรับจ้างทั่วไป ค้าขายเล็กน้อยๆจนได้ร้านโชว์ห่วยเล็กๆ จนเริ่มค้าผ้า ทำโรงงาน ทำเต้นรถ แต่แม่ผมเป็นลูกสาวคนสุดท้องในครอบครัวจีนจ๋าๆเลยแทบไม่ได้อะไรจากครอบครัว
สุดท้ายพ่อแม่แต่งงานแยกมาเป็นครอบครัวเล็กๆกันเอง อาศัยตึกแถวหลังนึงของฝั่งพ่อที่ไม่ได้ใช้เพราะอยู่ในชุมชนที่ไม่ดีนัก สกปรก ยาเสพติดชุกชุม พ่อแม่ท่านทำงานเก็บเงินจนสามารถย้ายไปอยู่ที่ใหม่ของตัวเองได้ในชุมชนที่ดีกว่า
ท่านพยายามส่งผมเข้าเรียนเอกชนอย่างยากลำบาก พอพ่อผมตกงาน ผมก็ต้องไปอยู่โรงเรียนรัฐแทน หลังจากนั้นผมก็ตั้งใจเรียน ตั้งแต่มัธยมปลายเป็นต้นมาผมสอบรับทุนการศึกษาต่างๆตลอดจนไปถึงจุดที่ไปต่างประเทศโดยไม่มีข้อผูกพัน พ่อแม่ผมไม่ต้องเสียเงินใดๆเป็นค่าเล่าเรียนหรือเรียนพิเศษใดๆ ได้มีโอกาสรับราชการเป็นช่วงเวลาหนึ่งก็ภาคภูมิใจกับช่วงเวลานั้นแม้จะตัดสินใจไม่ไปต่อ ได้ไปฝรั่งเศสเรียนและทำงานก็ด้วยทุนไม่ผูกพันธ์รวมถึงไปที่อื่นๆหลายที่ในยุโรป จนวันนี้ผมมาทำปริญญาเอกในมหาลัยชั้นนำในด้านของผมที่เซี่ยงไฮ้ก็เป็นแบบที่มีรายได้มากไม่มีข้อผูกพันใดๆเหมือนคนทำงานดีๆทั่วไปช่วยที่บ้านได้
------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับผมไทยดียังไง?
ย่อๆ
อาหาร, วัฒนธรรม, ความเปิดกว้าง
และโดยพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศเท่าๆกันนับว่าไทย ค่าครองชีพถูก สวัสดิการค่อนข้างดี ปลอดภัย เสรีพอตัว คมนาคมไม่เลวร้าย
------------------------------------------------------------------------------------
ยาวๆ
อาหารไทย 555 ราคาถูก มีหลากหลายทั้งสไตล์และวัตถุดิบ และค่อนข้างมีอุดมสมบูรณ์ตลอดปี
ค่าครองชีพ
- อาหารแม้ราคาจะขึ้นมาบ้างในช่วงที่ผ่านมาแต่ผมทำอาหารเองเป็นปกติ ค่าใช้จ่ายก็ไม่ได้สูงอะไร การกินอาหารข้างทางต่อให้ราคาขึ้นก็ยังถูกและมีหลากหลาย รายได้ไทยอาจไม่สูง แต่นับกับประเทศที่รายได้ใกล้เคียงกัน ค่าใช้จ่ายไทยก็ถูกกว่าพอตัว และต่อให้เทียบตัวเลขตามที่หลายสถิติที่หน่วยงานฝรั่งวัดออกมา อ่านวิธีการวัดค่าแจกแจงแปปเดียวเทียบกับที่ผมเคยใช้ชีวิตในยุโรปมาก่อนก็เห็นว่าเลขเหล่านั้นไม่ได้สะท้อนค่าใช้จ่ายเอเชียและโลกตะวันตกในมาตรฐานเดียวกัน
- ค่าที่พัก ไทยเป็นที่ๆค่าที่พักถูกมากมาเสมอเป็นที่พูดถึงในระดับโลก แต่ก็เป็นดาบสองคมที่เป็นผลมาจากผังเมืองที่มีปัญหาซึ่งแย่ในด้านนึงแต่ก็ดีอีกด้านหนึ่ง ในช่วงปีที่ผ่านๆมามีปัญหาบ้างจากราคาที่สูงขึ้นด้วยการเก็งกำไรโดยต่างชาติ และคอนโดที่ผุดขึ้นมารวมจนราคาเฉลี่ยดูสูงขึ้น แต่ตัวเลือกถูกๆก็ยังมีมากมาย
สุขภาพ
การป่วยเป็นเรื่องที่ยากจะควบคุมได้ต่อให้เป็นคนที่ระวังที่สุด ไทยเป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆเรื่องการแพทย์ทั้งจากมุมที่วัดโดยหน่วยงานนานาชาติที่มุ่งเรื่องการเข้าถึงง่ายและราคา หรือโดยฝั่งอเมริกันที่มักวัดเรื่องคุณภาพการรักษา และต่อให้ไม่ใช้ของรัฐ โดยปกติประเทศที่การแพทย์รัฐดีเอกชนจะแพง แต่ไทยก็ยังราคาถูกมากด้วยบริการที่ดีเยี่ยม ในพื้นที่ห่างไกลไม่มีประเทศใดทำได้สมบูรณ์เรายังพัฒนาได้อีก
วัฒนธรรมประเพณี
มีไม่กี่ประเทศในโลกที่มีวัฒนธรรมที่จับต้องได้และเป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างเด่นๆเช่นญี่ปุ่นที่สามารถบอกได้ทันทีว่าออกแบบหน้าตาหรือลายเส้นแบบนี้คือญี่ปุ่น หรือจีน หรือรูปแบบรวมๆของอาหรับ ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ต้องใช้อาหารเด่นหรือสถานที่สำคัญ ไทยมีความอุดมสมบูรณ์มากด้านนี้ รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ ถ้าหากได้นำมาใช้อย่างเต็มที่เหมือนที่หลายประเทศที่มีด้านนี้น้อยกว่าทำเราคงไปได้อีกมาก
เสรีภาพ
เรารู้กันดีว่าเราเองมีข้อจำกัดหลายอย่างเรื่องนี้ ด้วยกฏหมายบางข้อ หรือรัฐบาล อย่างไรก็ดี ก็ต้องไม่ลืมว่าเมื่อเทียบรัฐบาลเผด็จการเรากับเผด็จการอื่นๆเราก็ยังเสรีมากในทางปฏิบัติ การมองว่าเราดีได้อีกมากไม่ได้แปลว่าเราแย่
ผมอยู่จีนก็เพื่อพัฒนาตัวเองเท่านั้นแต่ก็กลัวมากที่ความนิยมจีนในไทยมีมากขึ้น กลัวมากว่าการกำจัดเสรีภาพแบบจีนวันนึงจะมาตั้งมั่นแข็งแกร่งในไทย
ความหลากหลายเปิดกว้าง
- ผมไม่ค่อยชอบพูดเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ถ้าพูดจริงๆก็ต้องยอมรับว่าด้านนี้ในทางปฏิบัติเราเป็นสังคมที่เปิดกว้างมากทั้งเชื้อชาติศาสนาและเพศ ตัวอย่างง่ายที่สุดคือการที่ประเทศเราให้คนมุสลิมพื้นเพทางสายเลือดก็มาจากทางเปอร์เซียได้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่ทรงพลังเกือบที่สุดคือ ผบทบ จนถึงขนาดยึดอำนาจจากผู้นำประเทศ(ซึ่งก็เป็นเชื้อสายจีน)จากการเลือกตั้งที่เป็นที่นิยมที่สุดในประเทศได้ ความเห็นการเมืองคือเรื่องนึง แต่สังคมที่เป็นศาสนานึง 90% ไม่มีที่ไหนในโลกที่ปล่อยขนาดนี้โดยไม่มีแรงต้านอย่างรุนแรงเรื่องเชื้อชาติศาสนา
- คุณมีพูดถึงเรื่องภาษา ซึ่งสำหรับผมแล้ว บันทึกของข้าหลวงฝรั่งเศสคนหนึ่งซึ่งทำงานในราชสำนักไทยได้ประเมินจำนวนคนในเมืองหลวงสมัยก่อนไว้ ผมจำเลขไม่ได้ แต่โดยประมาณคือสยาม 1/3 จีน 1/3 ที่เหลือคืออื่นๆ ลองนึกดูว่าถ้าทุกกลุ่มพูดภาษาตัวเองได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะกับเมืองในอดีตที่ทุกคนไม่ได้ต้องติดต่อกันนอกกลุ่มมากขนาดนี้ จีนก็คงพูดจีนกันหมดและต้องการทำงานกับคนพูดจีนเหมือนกัน แบบนี้มันแฟร์มั้ยกับที่คนท้องถิ่นที่เกิดขึ้นมาแล้วต้องพูดภาษาต่างชาติ(จีน)ถึงจะสามารถทำงานกับคน1/3ของเมืองหลวงได้ ท้ายที่สุดจึงต้องมีการบังคับใช้เพื่อผลักดันในคนเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลายไม่ใช่แค่การจับคนหลายๆสีมาอยู่ด้วยกัน แต่คือคนต้องสามารถสื่อสารและยอมรับกันได้ด้วย ดังนั้นการบังคับให้มีภาษาเดียวสำหรับให้สื่อสารกันคือพื้นฐานที่ผมมองว่าสมเหตุสมผลที่จะพยายามบังคับใช้
- เรื่องเพศก็ยิ่งชัดเจน ไทยเราเป็นที่ๆมีสัดส่วนเจ้าของธุรกิจหญิงหรือผู้บริหารหญิงสูงที่สุดโดยไม่มีกฏหมายหรือกระแสสังคมใดๆมาบังคับ ไม่ได้เพอเฟค แต่โลกนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเพอเฟคอยู่แล้ว หรือเพศอื่นๆ แม้ในทางกฏหมายเราไม่ได้รับ แต่ไทยเรามีโพลมานานแล้วก็ชี้ว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วย แค่ไม่ได้มองเป็นเรื่องหลักและมักโดนประเด็นอื่นบังไป คนกลุ่มนี้ก็ใช้ชีวิตทำงานปกติได้อย่างเปิดเผยโดยความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่หากินกับเพศตัวเองหรือโดยกฏหมายหรือสังคมบังคับเหมือนที่นิยมกันในยุโรปอเมริกาหลังๆ
- ประเทศอื่นๆมากมายมาเลย์อินโดมีแขกฆ่าจีน หรือยุโรปอเมริกาก็มีกฏหมายมากมายมาห้ามอิงจากเหตุการณ์ใหญ่ในอดีต ไทยเราไม่มีเหตุการณ์เหล่านั้นในตัวเองโดยมีฐานจากการวางตัวของกษัตริย์ในอดีตที่ชี้นำสังคมให้เป็นเช่นปัจจุบันจนเป็นวัฒนธรรมการเปิดกว้างของคนไทย (การพูดเล็กๆน้อยๆเป็นเรื่องธรรมดาอย่าเอาไปรวมกับการเหยียดแรงๆอื่นๆ)
ความปลอดภัย
- ไทยเราสถิติอาชญากรรมนับว่าแย่กว่าเพื่อนบ้านก็จริง อย่างไรก็ดี ก็ต้องนับว่าภูมิภาคนี้เมื่อเทียบกับที่อื่นๆโดยคิดพื้นฐานเศรษฐกิจแล้วเป็นภูมิภาคที่ปลอดภัย คงเทียบไม่ได้กับประเทศรวยๆหรือเพื่อนบ้าน แต่ผมยืนยันว่าเราไม่ได้แย่เลย
- แม้แต่ไปนับอัตราการกระทำผิดซ้ำซึ่งเราบ่นกันมากว่าคนร้ายเข้าคุกแล้วออกมาทำอีก ไทยเราเองอัตราภายใน3ปีก็อยู่ที่30ปลาย% ซึ่งไม่ต่างกับประเทศพัฒนาแล้วที่คนมองว่ามีระบบฟื้นฟูคนในคุกดีนักหนา ยอมรับว่าทางคุณธรรมดูดีจริงแต่ยังไม่มีผลลัพท์ที่จับต้องได้
- ที่สำคัญถ้าคุณไปอยู่ยุโรป อาชญากรรมน้อยกว่าก็จริง แต่ก็แค่2-5เท่า และการจี้ปล้นไม่น้อยก็มุ่งมาที่คนเอเชียหน้าจีนด้วยอย่างน้อยก็ฝรั่งเศสด้วยความที่คนจีนชอบส่งลูกไปเรียนและให้เงินไปมากๆจนกลายเป็นเป้าของอาชญากร คนเอเชียอื่นๆก็โดนไปด้วย
- อาชญากรโหดๆมีทุกที่ครับ ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร ยิ่งเคสล่าสุดก็เฉพาะมากไม่ได้เป็นสิ่งที่จะเกิดกันบ่อยๆ
- เราอาจคำว่ายิงกราดแบบที่เราได้ยินจากอเมริกา คนมักนำมาโชว์คู่กับสถิติการตายจากอาวุธปืนของที่นั่นแต่ก็ต้องย้ำว่าสถิตินั้นเกินครึ่งคือฆ่าตัวตายและที่เหลือส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับแก๊งค์ยิงกันเอง คนธรรมดายิงกันไม่ได้เยอะเลยแค่ถูกรายงานทุกครั้งในประเทศขนาดสามร้อยล้านเท่านั้น นับฆาตกรรมจริงๆก็คือประมาณไทย คือสูงกว่ายุโรป แต่ก็ต่ำกว่าเฉลี่ยโลกมาก อย่ากลัวเกินเหตุ
- แม้แต่เรื่องทางการเมือง ไทยเรามีเหตุการณ์นองเลือดน่าสลดบ้างก็จริงแต่จำนวนก็ยังเล็กกว่าหลายๆเหตุการณ์ที่เคยเกิดที่อื่นๆเป็นไหนๆเมื่อวัดตัวเลขกัน ไทยเราไม่ใช่ที่ๆเถื่อนเลยสำหรับผม
คมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ
จริงว่าไทยเรามีปัญหามากด้านนี้ หลักๆด้วยผังเมืองที่มั่วและภาพใหญ่เอื้อรถยนต์ การลงทุนมุ่งไปที่รถไฟฟ้าซึ่งแพงและได้แต่ค่อยๆทำในเมืองหลวงแทนที่จะทำรถเมล์ให้ดีขึ้นและบริการทุกเมืองทั่วประเทศซึ่งถูกกว่าและทำได้เร็วและไปเพิ่มรถไฟระหว่างเมืองให้ครอบคลุมและแน่นอนขึ้นแทนโครงการไฮเทคที่บริการไม่กี่พื้นที่ อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบต่างๆก็เป็นการเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว(หรือจีนซึ่งผมยอมรับจริงๆ) แต่กับที่อื่นๆไทยก็ยังนับว่ามีตัวเลือกพอสมควร ถนนเชื่อมพื้นที่ต่างๆสู่บริการของรัฐมีครอบคลุมประกอบกับค่าที่พักถูกที่ลดความจำเป็นในการเดินทางลงได้บ้าง
- ผมทำด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่อดีตก็อยู่ต่างจังหวัดลงพื้นที่ห่างไกลประจำ มองเห็นหลายอย่างที่สามารถพัฒนาได้ แต่ก็เข้าใจข้อจำกัดและความเป็นจริงทั้งของที่ๆเจริญแล้วที่คนมักมองและที่อื่นๆที่คนไม่ได้หันไปดู ก็มองว่าเราไม่ได้แย่ขนาดที่คิดๆกัน เราแค่เสียโอกาสจากการชะงักไป ถ้าเราลุกขึ้นมาใหม่ได้เราพร้อมพัฒนาได้อีกมาก
สภาพแวดล้อม
- ภัยพิบัติต่างๆไทยเราไม่ต้องพบเจอมากนักเหมือนหลายๆที่
- อุณหภูมิร้อนสุดหนาวสุดไม่ต่างมาก ปรับตัวง่ายกว่าหลายที่ๆเจอตั้งแต่ติดลบยัน40องศาแบบหลายๆที่
- แหล่งท่องเที่ยวยอดเยี่ยมทั้งทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมกลางเหนือใต้อีสาน(และใต้สุดถ้าวันนึงสงบได้) ความบันเทิง ภูเขา ทะเล น้ำตก ป่าไม้
อื่นๆ
ผมอยู่จีนในช่วงสองปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าคนเขาขยันมาก วันหยุดน้อยชั่วโมงงานเยอะ หลายครั้งหยุดแล้วมีชดเชยวันทำงานเสาร์อาทิตย์ด้วย ปีนี้วันหยุดหลักเดียวที่เขามีก็เจอวิกฤติเสียอีก การที่เศรษฐกิจเขาโตไม่ใช่เรื่องแปลก
ไทยเราสบายและบันเทิงกว่ามาก คิดง่ายๆครับ กิจกรรมหรือพิธีกรรมมหาวิทยาลัยไทยเราจริงจังขนาดไหน ที่อื่นไม่มีแบบนี้ เทศกาลทางวัฒนธรรมไทยเราก็มีมากมาย จัดกันจริงจัง อเมริกา Thank Giving เขาเป็นงานสำคัญที่สุดงานนึงของประเทศยังอาจจะไม่จริงจังเท่าเทศกาลย่อยของเรา นอกจากนี้อัตราการเติบโตประเทศไทยเราก็เป็นศูนย์
ชิวแบบนี้ การเติบโตประชากรแบบนี้ รัฐบาลแบบนี้ เศรษฐกิจไม่ติดลบ ก็ทำให้มีความหวังแล้วว่าถ้ารัฐเข้าที่เข้าทางเราดีได้อีกมากมาย เหมือนที่ไทยเราก้าวกระโดดมากในช่วงก่อนวิกฤติการเมือง นอกจากนี้ถ้าเราเองขยันให้เท่ากับคนบางประเทศที่ขยันมากเป็นปกติก็มีโอกาสสูงมากแล้วที่เราจะได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดที่สบายมากๆส่วนตัวในแผ่นดินนี้ (แน่นอนว่ารัฐช่วยได้อีกมากในหลายๆเรื่อง หลายอย่างเสียโอกาสจริงๆ)
จบ
น่าจะขาดอีกหลายอย่างที่ผมไม่ได้เขียนหรือเขียนข้ามๆไม่ได้อธิบาย ไม่ได้ต้องการจูงใจ แต่เคยคุยกับหลายคนเรื่องนี้และโดยส่วนใหญ่ก็จะเริ่มแบบนี้คือมองไทยเป็นลบ เมื่อผมลองพากันไล่ทีละข้อก็เห็นตรงกันว่าที่นี่เป็นที่ๆดีมาก เลยลองนึกแล้วเขียนๆลงมาดูเพื่อแชร์มุมมองส่วนตัวครับ
แสดงความคิดเห็น
ประเทศไทย ณ ตอนนี้ ปี 2020 ยังน่าอยู่ อยู่ไหม??
ผมเลยเริ่มจุดประกายว่า จากเดิมที่ผมไม่เคยใส่ใจที่จะพัฒนาสกิลการใช้ภาษาอังกฤษเลย ผมเลยเริ่มกลับมาตระหนัก แลเห็นความสำคัญของมันแล้วล่ะ ว่าเสียดายเวลาที่ผ่านมาควรจะพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษให้เก่งคล่องขึ้นกว่านี้ จะได้พาตัวเองพัฒนา มีความสุข กล้าออกสู่โลกกว้าง น่าอยู่กว่าที่เคยเป็น ดีกว่ามานั่งรอพึ่งพาประเทศที่ผมถือสัญชาติอยู่ ณ ตอนนี้
จะเท้าความให้ฟังว่า สมัยอากงของผม บ้านอยู่ซัวเถา หนีพิษเศรษฐกิจและการเมืองจีนสมัย 80-90 ปีก่อน อพยพมาลงใต้ เอเชียอาคเนย์ เพื่อควานหาชีวิตที่ดีกว่า ตอนนั้นมีตัวเลือก 2 ทางคือ จาการ์ต้า กับบางกอก อากงผมเห็นว่าทางด้านขวาของกราบเรือมีฝูงปลาชุกชุมกว่า เลยโหวตให้เรือแล่นสำเภามาจอดที่บางกอกครับ ชีวิตต้องปรับตัว ปรับเปลี่ยนถิ่นที่อยู่ใหม่
อากงเคยเล่าว่า สมัยนั้นคนจีนต้องแอบสอนภาษาจีนให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานในบ้าน ไม่งั้นรัฐบาลไทยจะจับดำเนินคดี
ตอนนี้คงถึงรุ่นผมแล้วล่ะ ที่จะตัดสินใจวางแผนแนวทางดำรงชีวิต step by step ต่อไปยังไง หรือจะล่องลอยไปวันๆ สบายๆไม่ขยัน ไม่วางแผนการอะไรใดๆ เหมือนแต่เดิมก่อนหน้านี้ คิดเล่นๆไปว่า ถ้าผมมีลูก จะส่งเสริมให้ลูกเรียนอังกฤษ เรียนเก่งๆ สอบชิงทุนไปเรียนเมืองนอก ทำงานที่นั่นไปเลย
ขอเหตุผลดีๆ ที่เมืองไทยยังน่าอยู่ พอที่น่าลงทุนที่จะกักพิงอิงอาศัยต่อรุ่นสู่รุ่นหน่อยครับ
อ้อ ลืมๆ