🐕🌴🌻 (ตำนานนิทานกาพย์ยานี) "หมาขนคำ” นิทานพื้นบ้านเมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) 🐕🌴🌻

กระทู้สนทนา


กาลครั้งหนึ่งนานมา        แถบชายป่าเมืองเขลางค์
นายพรานเลี้ยงหนึ่งนาง   สุนัขไว้ให้เฝ้าเรือน

หมานี้มีขนคำ                 สีงามล้ำหาใดเหมือน
ที่ใกล้และไกลเรือน         หมาตัวผู้ดูไม่มี

วันหนึ่งนางขนคำ            เดินออกย่ำนอกถิ่นที่
หลงป่าวนามี                   เหนื่อยและหิวกระหายครัน

นางหมาดื่มกินน้ำ            ในรอยย่ำแห่งช้างมัน
มิคาดต่อมาพลัน              แม่ขนคำได้ตั้งท้อง

ไม่รู้สาเหตุใด                  นายพรานไพรเกรงทำนอง
จะถูกนินทาจอง               ของชาวบ้านคำครหา

ว่าเจ้านายพรานนี้             ทำบัดสีในโลกา
ได้เมียเป็นนางหมา          จะอัปยศอดสูแน่

จึงคิดจะกำจัด                  อย่ายืนหยัดอยู่เลยแม่
ตายไปเสียเถิดแก             คิดวางแผนแสนแยบยล

บ้านเขาเสาสูงใหญ่           ราวบันไดจากข้างบน
ใช้แล้วชักเก็บร่น               ปลดขึ้นไว้บนเคหา

ป้องกันสรรพภัย                เช่นสัตว์ร้ายจะมีมา
ขึ้นเรือนไปเข่นฆ่า             ทำอันตรายใดแก่ตน

เย็นวันหนึ่งนายพราน        บันไดบ้านชักขึ้นบน
ทิ้งหมาไว้ไม่สน               ณ เบื้องล่างด้วยหวังใจ

คงมีพยัคฆร้าย                จะย่างกรายเข้ามาได้
และคาบไปทันใด            ซึ่งแม่หมาคร่าไปกิน

แม่หมากริ่งเกรงภัย          ดั้นด้นไพรไกลพ้นถิ่น
จนถึงที่หากิน                  ใหม่ชื่อดอยผาสามเส้า

ริมดอยวัดม่วงคำ              แม่ทะอำเภอก่อนเก่า
ถึงคราวคลอดลูกสาว       ฝาแฝดน่ารักสองคน



แม่หมาหาอาหาร            เพื่อสำราญแก่ลูกตน
เสื้อผ้าที่ผู้คน                 เขาตากแดดไว้บนราว

แอบคาบเอาไปให้          ลูกนั้นใส่จนเป็นสาว
คนพี่สวยสกาว               นามบัวแก้วแพร้วพิไล

คนน้องชื่อบัวตอง          กิตติศัพท์ลือเลื่องไกล
ว่างามเหนือหญิงใด       ระบือไปถึงในเมือง

เจ้าเมืองครั้นทราบข่าว    คิดถึงคราวเราฟุ้งเฟื่อง
มเหสีคู่ครองเมือง           ทั้งซ้ายขวาน่ายินดี

แต่งขบวนแห่วอทอง      ไปรับสองสาวแฝดนี้
ผาสามเส้าถิ่นที่              แล้วรับเอาสองเจ้าไป

แม่หมาไม่อยู่เฝ้า            เพราะต้องเข้าสู่ดงไพร
หาอาหารให้ได้              เพื่อเลี้ยงกายสองลูกยา

บัวตองผู้น้องเจ้า            แสนโศกเศร้าคร่ำครวญหา
ร่ำไห้ถึงมารดา               แม้เป็นหมาก็ตามที

นางบัวแก้วพี่สาว            ตื่นเต้นคราวเข้าบุรี
วาสนาตนบัดนี้               มเหสีแห่งเจ้าเมือง

ปราสาทคนละหลัง         ประจำวังอย่างฟูเฟื่อง
หลงใหลความรุ่งเรือง     ไม่คิดถึงซึ่งมารดา

ฝ่ายแม่หมาขนคำ           ต้องชอกช้ำเมื่อกลับมา
ถึงสามเส้าแดนผา          พบว่าลูกสาวหายไป

มันหอนเห่าโหยหวน      ยามคร่ำครวญคราวไหนไหน
เล็บเท้าตะกุยไป            จนเป็นรอยในหินผา

"ฮอยตี๋นหมาขนคำ"         ไห้หาย้ำลูกสาวข้า
เป็นนามปวงประชา          เรียกขานมาจนบัดนี้

องค์อินทร์เทวราช          ทรงอนาถเวทนาที่
หมาขนคำตัวนี้                ไห้โหยหาลูกร่ำไป

จึงทรงเสกให้มัน              พูดจำนรรคำคนได้
แล้วมันเดินทางไกล         คอยถามไถ่ชาวพารา

ถึงที่อยู่ลูกสาว                ก็ได้เข้านครา
ณ ปราสาทวังหน้า          แห่งบัวแก้วลูกคนโต

อีกหนึ่งนามชื่อว่า            เจตะกาฟังดูโก้
ถึงประตูวังอ่าโอ่              ถามทหารผู้รักษา

ทหารยามซักถามไป             เจ้าเหตุใดรู้เล่าหนา
เกี่ยวข้องอย่างใดกา       กับเจ้านางจงบอกที

เพราะมีสติปัญญา           ฉลาดเจรจาแม่หมานี้
รู้จักเป็นอย่างดี               ที่สูงต่ำและถ่อมตน

จึงตอบเจ้านางนั้น           แต่ปางบรรพ์มีหนึ่งหน
คือนายเก่าของตน           ข้าอยากพบนางเต็มที

ขอเห็นหน้าสักครั้ง          ก็จักยังพระคุณมี
แก่ข้าจากท่านนี้              สงเคราะห์ทีท่านทหาร

ยามนั้นก็รีบไป                แจ้งความนัยโดยไม่นาน
แก่นางบัวแก้วพาล          ซึ่งฟังแล้วก็หวั่นใจ

จะอับอายว่าข้า               เป็นลูกหมารับไม่ได้
จึงวางอุบายไป               ฆ่าแม่โดยคำบัญชา

สั่งว่า หมาอะไร               จะพูดได้ซึ่งภาษา
ของชนชาวพารา             อย่างนี้ ขึดบ้านขึดเมือง

กำจัดมันให้ได้                 แล้วส่งไปอย่างขัดเคือง
ทหารนั้นรับเรื่อง              แล้วทำตามคำบัญชา

ขนคำถูกทำร้าย               บาดเจ็บกายแล้วบ่ายหน้า
หนีไปหาลูกยา                อีกหนึ่งที่ศรีบัวตอง

ไปถึงปราสาทวัง              ลูกนั้นฟังน้ำตานอง
รีบออกมาประคอง            รับแม่ไปในตำหนัก

ปฏิบัติและเยียวยา            ข้าวน้ำหามาด้วยรัก
แม่ว่าจะประจักษ์               ต่ออาชญาในครานี้

ทูลขอหีบใบใหญ่             ยืมเอาไปจากสวามี
อ้างว่าตัวข้านี้                  จะขนสมบัติเอามา

จากถิ่นผาสามเส้า            ใส่หีบเอากำหนดว่า
๗ วันจะมีมา                    ทูลถวายพระสวามี

แต่อันที่จริงนั้น                เอาไว้กันเพื่อหลบลี้
รักษาแม่อย่างดี              ภายในวังหนึ่งสัปดาห์

แต่พอครบเจ็ดวัน            แม่หมานั้นก็อ่อนล้า
พิษแผลในกายา             ทนมิได้จึงวายปราณ

องค์อินทร์เทวราช           เนรมิตสาดรัศมีผ่าน
หมาซึ่งถูกล้างผลาญ       พลันกลายเป็นทรัพย์เงินทอง

พระยาเมืองได้เห็นว่า      สมบัติมาตามทำนอง
โปรดปรานเทวีน้อง         เจ้าบัวตองเหลือคณา

ทรงประกาศยกย่อง         ให้พระน้องกลับไปผา
สามเส้าอีกสักครา            ขนสมบัติด้วยหีบนี้

บัวตองแสนเสียใจ           ที่แม่ไท้วายชีวี
ประสงค์ไว้เต็มที่              จะฆ่าตัวตายตามไป

จะไปพบนางยักษ์            ผู้พิทักษ์ดอยถิ่นไกล
ผู้เฝ้าสมบัติไว้                 ที่ผานั้นด้วยตรอมตรม

หวังให้ยักษ์จับกิน           สิ้นชีวินที่ขื่นขม
นำขบวนน่าชื่นชม            สุดโอ่อ่าอลังการ์

ไปถึงดังตั้งใจ                ก็ขึ้นไปที่ยอดผา
แล้วจึงโดดลงมา           หลุมหลังผาที่ยักษ์ครอง

มิคาดนางยักษ์ป่วย        แทบมอดม้วยด้วยโรคหนอง
ฝีกลัดบวมปูดพอง         นอนร่ำร้องและครวญคราง

บัวตองโดดลงเจ้า         บังเอิญเท้าทั้งสองข้าง
ถีบฝีหนองของนาง       ยักษิณีแตกสลาย

กลายเป็นการบำบัด       อย่างชะงัดโรคกลับกลาย
ยักษ์สิ้นอาพาธหาย        ทุกข์มลายสมดั่งปอง

ขนสมบัติมาพลัน           เป็นรางวัลแก่บัวตอง
นางแฝดผู้เป็นน้อง         จึงให้ขบวนขนกลับวัง

บัวแก้วเห็นดังว่า            ก็อิจฉาน้องแทบคลั่ง
ครุ่นคิดสุดกำลัง             ทำอย่างไรกับน้องดี

จึงขันอาสาบ้าง              ขอเดินทางกลับถิ่นที่
จากพระสวามี                  ขนสมบัติมาอีกครา

มิให้น้อยหน้าน้อง           ก็สมปองได้ช้างม้า
ขบวนสัมภารา                พร้อมหีบลังอย่างมากมาย

เพื่อไปขนสมบัติ             เจ้าเมืองจัดตามมุ่งหมาย
นางผู้หาที่ตาย               ถึงผาสามเส้าถิ่นตน

กระโจนลงไปพลัน          หายักษ์นั้นเช่นดังหน
ที่น้องสาวของตน           ได้เคยทำและจำมา

แต่เหตุเพราะความชั่ว      มารดาตัวซึ่งสั่งฆ่า
บาปนี้ที่ทำมา                 มันชั่วช้าหนาเกินไป

อันนางยักษิณี                 แยกแยะดีแน่แก่ใจ
บัวตองหามิได้                 มิใช่หญิงสหายเรา

จึงจับนางชั่วช้า                ฉีกแข้งขากินลุยเข้า
ไล่จับช้างม้าเหล่า            ผู้คนเจ้าผู้มาเยือน

ทั้งพลช้างและม้า             มรณาตายกันเกลื่อน
ที่นั้นมีชื่อเตือน                โทกหัวช้างปัจจุบัน

  หัวใจหัวใจหัวใจ  ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ  หัวใจหัวใจหัวใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่