ตั้งคำถามเลยว่า ทำไม PSG มีระบบการเล่นแบบ Old school เต็มรูปแบบขนาดนี้
1 พวกเขาทุ่มทุนมากที่สุดในโลก ..... เพื่อทำเรื่องที่แตกต่าง
2 นักเตะที่จะเป็นแกนหลัก และทำแบบนี้ได้ มีไม่กี่คนในโลก
3 คู่แข่งในลีคอ่อน
ผมเชื่อว่า ตรรกะ ในข้อที่หนึ่งเป็นเรื่องสำคัญสุด ในเมื่อฟุตบอลทั้งโลกตอนนี้
เป็นคล้าย ฟุตบอลหุ่นยนต์ที่เน้นระบบทีมทั้งหมด PSG ต้องการเอนเตอร์เทนคนดู ด้วยอะไรที่แตกต่าง
ผมขอเทียบ บอลยุค 90 ที่รู้สึก เอนเตอร์เทนคนดูมากที่สุด นั่นคือ กัลโช่ ของอิตาลี่
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ทีม PSG ทำให้ผมนึกถึง บอลที่เอนเตอรเทน ในระดับ ยูเว่ ช่วงปลาย ยุค 90 เลยด้วยซ้ำไป
หลัง 1998 .. วันรุ่นยุคนั้น หลายคนตั้งคำถามว่า ...อ่าว .. โลกนี้ไม่ได้มีแค่ แมนยู กับ ลิเวอร์พูลเหรอ
หลายๆคน แยกย้ายกันไปเชียร์ทีมใหญ่ ในอิตาลี่ และ ยูเว่คือหนึ่งในทีมขวัญใจใครหลายๆคนในช่วงนั้น
ด้วยความที่อยากเห็นซีดาน และ เดลปิเอโร่ เล่นด้วยกัน
สิ่งที่แตกต่าง กับปัจจุบันคือ ... นักเตะที่เป็นเพลเมกเกอร์ แท้ๆในระดับ ซีดาน ....
มันมักไม่เกิดขึ้นมาอีก ...... ด้วยความที่ คำจำกัดความของนักบอลที่ดีคือ การทำได้ในแบบที่ โรงเรียนสอนมา
..จน เนย์ม่า เล่นในฟอร์มที่ผมเชื่อว่า สุดยอดที่สุดในอาชีพของเขา ณ ปัจจุบัน
เนย์ม่า นั้น ได้รับมอบหมายที่ PSG ให้เป็น ซีดาน แห่งยูเวนตุสเลยคือ ทำอะไรก็ได้ในสนามให้ เอนเตอเทน คนดูที่สุด
ให้สมกับ การเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก .. ที่สำคัญ ทีมต้องชนะ
ณ ปัจจุบัน ในตำแหน่ง เพลเม็กเกอร์ เบอร์10 ..ฟอร์มของเขาใกล้กับ เมสซี่ เข้าไปทุกที และ เหนือกว่า
ฟอร์มสุดยอดของอาซาร์ ที่เชลซีด้วยซ้ำไป
ส่วนหน้าที่ ของ อินซากี้ และ เทรเซเก้ เป็น หน้าที่ของ อิคาร์ดี้
ส่วนตัวผมมองว่า อินซากี้ จะคล้ายกับ คาวานี่ มากกว่า ด้วยความที่มีอีโก้ ในการเล่นจากที่เคยเป็น ศูนย์กลางของทีม ในเกมส์รุกมาก่อน
ขณะที่ อิคาดี้ เหมือนกับ เทราเซเก้ ที่ แทบไม่ได้สนใจการได้บอลมาก เล่นด้วยความอดทน ทำหน้าที่เป็นตัวหลอก ..
สนใจแค่ เอาบอลเข้าประตู ให้ได้เท่านั้น
ส่วนตำแหน่งของ เอ็มบัฟเป้ นั้นคือ หน้าต่ำ ที่มีอิสระ ไปได้ทุกหนแห่ง เหมือน เดลปีเอโร่
ต้องบอกว่า หมอนี่ไม่ได้มีลักษณะคล้ายกับ กองหน้าตัวต่ำในยุคเก่า เต็มๆ
แต่การได้ดูเขาเล่น เหมือนเลยกับการได้ดู R9 ในช่วงฟอร์มรุ่งๆ เล่น ...
คือคุ้มค่ากับเวลา ที่เสียไปในการดูบอลมากๆ
ทางขวา เดมาเรีย เล่นในแนวทางของ อันโตนิโอ คอนเต้ (เก๋าสุด ของทั้งสองยุค)
ตรงกลาง ก็น่าสนใจว่า แวร์รัตติ เล่นในแนวทางของ ทัคคินาดี้ เป็นตัวคุมเกมส์ ทั้งหมด ปล่อยให้ เกมส์รุกเป็นของพวก F4 ข้างหน้าตนเอง
เกย์ เล่นในแนวทาง ของ เอ็ดก้า ดาวิส ตัดทำลายเกมส์ฝั่งตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง น้องๆ การเล่นของ กองเต้ แห่งเชลซี
ที่สำคัญที่สุดนะครับ
นี่เป็นการเล่นที่ copy ระบบทีม ที่เอนเตอเทนคนสุดๆ แบบ ยุค 90 ของกัลโช่มา 100%
แทบไม่ได้ เอามาประยุคกับบอลรุ่นใหม่ นอกจากการต่อบอลที่อาจจะเยอกว่าหน่อย ตามยุคสมัย 2020
.. เอาตรงๆ ในยุค 10 ที่ผ่านมา .. ส่วนตัวผม ..ผมรู้สึกแย่ที่ ฟุตบอลกลายพันธุ์ ไปจนดูน่าเบื่อ
ต่อบอลกันแล้วต่อบอลกันอีก ต่อบอล ไม่ได้ คืนหลัง คืนประตูเล่น แล้วก็มาต่อบอลต่อ ผ่านบอลสี่ร้อยครั้ง
แล้วมาต่อบอลใหม่ แทบไม่มีใครกล้า เล่นนอกระบบ เล่นแม้แต่น้อย
แน่นอน การได้ดู ลิเวอร์พูล .. ในระบบบอลใหม่ การได้ดู แมนซิตี้มันก็ เอนเตอร์เทน ในระดับนึง โดยเฉพาะลิเวอร์พูล
สร้างระบบ เดินหน้าฆ่าให้ตาย ยิงให้เละ บวกกับบอลต่อ ไปมา ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของบอลยุคเก่า และ ยุคใหม่ อย่างลงตัว
จนเกิดเป็นระบบใหม่ในยุค 20'
แต่เมื่อวันใด ที่ ชีวิตถวิลหา วิถีฟุตบอลแบบOld school แบบแท้ๆ .. PSG อาจเป็นคำตอบให้ใครหลายคน
โดยเฉพาะเพื่อนๆ วัย 30+
ระบบการทำทีมของทูเคล น่าสนใจครับ
นี่คือ ทีมเดียวในยุโรปเท่าที่ผมดูที่ แทบจะไม่ได้สนใจ การยึดติดระบบบอลสมัยใหม่
แต่สนใจ การทำให้คนดูสนุกที่สุด ทริก การหลอกคู่แข่ง เลี้ยงกินตัว บุกตะลุย ยิ่งให้แหลก
และที่สำคัญคือ ใส่เกมส์บุก ตลอด 90 นาที คล้ายคลึงกับ เกมส์บอลในยุค 90 มากที่สุด
คือ ให้เต็มที่กับแฟนบอลที่เสียเงินมาดู
คิดไปคิดมา ตอนที่เขาคุม ดอร์ทมุนด์ เขาก็ไม่ได้ยึดการเล่นในแบบ Old school แบบนี้
แต่ก็มีกลิ่นอาย ของบอลบุกแหลกเดินหน้า ฆ่าให้ตายเหมือน PSG ยุคนี้
หากทูเคล จะเล่นระบบบอลหุ่นยนต์แบบทีมอื่นๆในยุโรป มันก็ง่ายๆ และพวกเข้าก็น่าจะ
ตบทีมอื่นๆได้ สบายอยู่แล้วในลีค ทำอะไรเหมือนๆกัน เน้นผลแข่งขันให้ชนะ
แต่ ก็ไม่รู้ว่า พวกเขาจะต้องซื้อ เนย์ม่า มาร่วมเล่นกับ เอ็มบัฟเป้ ทำไม .. เพราะการเล่นระบบบอลหุ่นยนต์
เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้นักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงๆ มาแบกทีม แบบที่ PSG ให้เนย์ม่า
และ เอ็มบัฟเป้ ทำ
แต่ที่ PSG มันแตกต่าง
การมี เนย์ม่า และ เอ็มบัฟเป้ เล่นด้วยกันคือ เรื่องที่หน้าตื่นเต้นสุดๆ ทุกครั้งที่สองคนนี้ได้บอล
มันมีกลิ่นอาย ของการเล่นในแบบของ โรนัลดิญโญ่ กาก้า R9 หรือ ซีดาน ให้เห็นอีกครั้ง
เทียบกับนักเตะปัจจุบัน ..
เนย์ม่า ... มีแนวทางการเล่นของ เมสซี่ และ อาร์ซ่า
เอ็มบัปเป้ ... มีแนวทางการเล่นของ มาเน่ และ ซาร์ล่า
การได้ดูนักเตะสองคนนี้ เล่นด้วยกัน .. ก็เหมือนได้ดู ทุกๆคนด้านบน เล่นด้วยกันพร้อมกัน
ซึ่งมันน่าสนใจ
บอลแบบ Old school อาจไม่ถูกใจ ใครหลายคน ด้วยที่ว่า ทำไมจึงมีนักเตะคนใดคนนึงครองบอลนาน
หรือทำไมมีการเลี้ยงบอลกินตัวเยอะจัง ทำไมไม่ผ่านบอลๆๆๆๆ แบบทีมอื่นๆ
แต่สำหรับอีกหลายคน ที่เบื่อบอลหุ่นยนต์แบบสมัยใหม่... นั่นอาจเป็นสาเหตุว่า
ทำไมฟุตบอล จึงเป็นกีฬาที่ควรนั่งดูให้ครบ 90 นาที
ดู PSG เหมือนการได้ดู โคตรทีมในยุค 90 (2/2)
1 พวกเขาทุ่มทุนมากที่สุดในโลก ..... เพื่อทำเรื่องที่แตกต่าง
2 นักเตะที่จะเป็นแกนหลัก และทำแบบนี้ได้ มีไม่กี่คนในโลก
3 คู่แข่งในลีคอ่อน
ผมเชื่อว่า ตรรกะ ในข้อที่หนึ่งเป็นเรื่องสำคัญสุด ในเมื่อฟุตบอลทั้งโลกตอนนี้
เป็นคล้าย ฟุตบอลหุ่นยนต์ที่เน้นระบบทีมทั้งหมด PSG ต้องการเอนเตอร์เทนคนดู ด้วยอะไรที่แตกต่าง
ผมขอเทียบ บอลยุค 90 ที่รู้สึก เอนเตอร์เทนคนดูมากที่สุด นั่นคือ กัลโช่ ของอิตาลี่
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ทีม PSG ทำให้ผมนึกถึง บอลที่เอนเตอรเทน ในระดับ ยูเว่ ช่วงปลาย ยุค 90 เลยด้วยซ้ำไป
หลัง 1998 .. วันรุ่นยุคนั้น หลายคนตั้งคำถามว่า ...อ่าว .. โลกนี้ไม่ได้มีแค่ แมนยู กับ ลิเวอร์พูลเหรอ
หลายๆคน แยกย้ายกันไปเชียร์ทีมใหญ่ ในอิตาลี่ และ ยูเว่คือหนึ่งในทีมขวัญใจใครหลายๆคนในช่วงนั้น
ด้วยความที่อยากเห็นซีดาน และ เดลปิเอโร่ เล่นด้วยกัน
สิ่งที่แตกต่าง กับปัจจุบันคือ ... นักเตะที่เป็นเพลเมกเกอร์ แท้ๆในระดับ ซีดาน ....
มันมักไม่เกิดขึ้นมาอีก ...... ด้วยความที่ คำจำกัดความของนักบอลที่ดีคือ การทำได้ในแบบที่ โรงเรียนสอนมา
..จน เนย์ม่า เล่นในฟอร์มที่ผมเชื่อว่า สุดยอดที่สุดในอาชีพของเขา ณ ปัจจุบัน
เนย์ม่า นั้น ได้รับมอบหมายที่ PSG ให้เป็น ซีดาน แห่งยูเวนตุสเลยคือ ทำอะไรก็ได้ในสนามให้ เอนเตอเทน คนดูที่สุด
ให้สมกับ การเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก .. ที่สำคัญ ทีมต้องชนะ
ณ ปัจจุบัน ในตำแหน่ง เพลเม็กเกอร์ เบอร์10 ..ฟอร์มของเขาใกล้กับ เมสซี่ เข้าไปทุกที และ เหนือกว่า
ฟอร์มสุดยอดของอาซาร์ ที่เชลซีด้วยซ้ำไป
ส่วนหน้าที่ ของ อินซากี้ และ เทรเซเก้ เป็น หน้าที่ของ อิคาร์ดี้
ส่วนตัวผมมองว่า อินซากี้ จะคล้ายกับ คาวานี่ มากกว่า ด้วยความที่มีอีโก้ ในการเล่นจากที่เคยเป็น ศูนย์กลางของทีม ในเกมส์รุกมาก่อน
ขณะที่ อิคาดี้ เหมือนกับ เทราเซเก้ ที่ แทบไม่ได้สนใจการได้บอลมาก เล่นด้วยความอดทน ทำหน้าที่เป็นตัวหลอก ..
สนใจแค่ เอาบอลเข้าประตู ให้ได้เท่านั้น
ส่วนตำแหน่งของ เอ็มบัฟเป้ นั้นคือ หน้าต่ำ ที่มีอิสระ ไปได้ทุกหนแห่ง เหมือน เดลปีเอโร่
ต้องบอกว่า หมอนี่ไม่ได้มีลักษณะคล้ายกับ กองหน้าตัวต่ำในยุคเก่า เต็มๆ
แต่การได้ดูเขาเล่น เหมือนเลยกับการได้ดู R9 ในช่วงฟอร์มรุ่งๆ เล่น ...
คือคุ้มค่ากับเวลา ที่เสียไปในการดูบอลมากๆ
ทางขวา เดมาเรีย เล่นในแนวทางของ อันโตนิโอ คอนเต้ (เก๋าสุด ของทั้งสองยุค)
ตรงกลาง ก็น่าสนใจว่า แวร์รัตติ เล่นในแนวทางของ ทัคคินาดี้ เป็นตัวคุมเกมส์ ทั้งหมด ปล่อยให้ เกมส์รุกเป็นของพวก F4 ข้างหน้าตนเอง
เกย์ เล่นในแนวทาง ของ เอ็ดก้า ดาวิส ตัดทำลายเกมส์ฝั่งตรงข้ามอย่างบ้าคลั่ง น้องๆ การเล่นของ กองเต้ แห่งเชลซี
ที่สำคัญที่สุดนะครับ
นี่เป็นการเล่นที่ copy ระบบทีม ที่เอนเตอเทนคนสุดๆ แบบ ยุค 90 ของกัลโช่มา 100%
แทบไม่ได้ เอามาประยุคกับบอลรุ่นใหม่ นอกจากการต่อบอลที่อาจจะเยอกว่าหน่อย ตามยุคสมัย 2020
.. เอาตรงๆ ในยุค 10 ที่ผ่านมา .. ส่วนตัวผม ..ผมรู้สึกแย่ที่ ฟุตบอลกลายพันธุ์ ไปจนดูน่าเบื่อ
ต่อบอลกันแล้วต่อบอลกันอีก ต่อบอล ไม่ได้ คืนหลัง คืนประตูเล่น แล้วก็มาต่อบอลต่อ ผ่านบอลสี่ร้อยครั้ง
แล้วมาต่อบอลใหม่ แทบไม่มีใครกล้า เล่นนอกระบบ เล่นแม้แต่น้อย
แน่นอน การได้ดู ลิเวอร์พูล .. ในระบบบอลใหม่ การได้ดู แมนซิตี้มันก็ เอนเตอร์เทน ในระดับนึง โดยเฉพาะลิเวอร์พูล
สร้างระบบ เดินหน้าฆ่าให้ตาย ยิงให้เละ บวกกับบอลต่อ ไปมา ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของบอลยุคเก่า และ ยุคใหม่ อย่างลงตัว
จนเกิดเป็นระบบใหม่ในยุค 20'
แต่เมื่อวันใด ที่ ชีวิตถวิลหา วิถีฟุตบอลแบบOld school แบบแท้ๆ .. PSG อาจเป็นคำตอบให้ใครหลายคน
โดยเฉพาะเพื่อนๆ วัย 30+
ระบบการทำทีมของทูเคล น่าสนใจครับ
นี่คือ ทีมเดียวในยุโรปเท่าที่ผมดูที่ แทบจะไม่ได้สนใจ การยึดติดระบบบอลสมัยใหม่
แต่สนใจ การทำให้คนดูสนุกที่สุด ทริก การหลอกคู่แข่ง เลี้ยงกินตัว บุกตะลุย ยิ่งให้แหลก
และที่สำคัญคือ ใส่เกมส์บุก ตลอด 90 นาที คล้ายคลึงกับ เกมส์บอลในยุค 90 มากที่สุด
คือ ให้เต็มที่กับแฟนบอลที่เสียเงินมาดู
คิดไปคิดมา ตอนที่เขาคุม ดอร์ทมุนด์ เขาก็ไม่ได้ยึดการเล่นในแบบ Old school แบบนี้
แต่ก็มีกลิ่นอาย ของบอลบุกแหลกเดินหน้า ฆ่าให้ตายเหมือน PSG ยุคนี้
หากทูเคล จะเล่นระบบบอลหุ่นยนต์แบบทีมอื่นๆในยุโรป มันก็ง่ายๆ และพวกเข้าก็น่าจะ
ตบทีมอื่นๆได้ สบายอยู่แล้วในลีค ทำอะไรเหมือนๆกัน เน้นผลแข่งขันให้ชนะ
แต่ ก็ไม่รู้ว่า พวกเขาจะต้องซื้อ เนย์ม่า มาร่วมเล่นกับ เอ็มบัฟเป้ ทำไม .. เพราะการเล่นระบบบอลหุ่นยนต์
เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้นักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงๆ มาแบกทีม แบบที่ PSG ให้เนย์ม่า
และ เอ็มบัฟเป้ ทำ
แต่ที่ PSG มันแตกต่าง
การมี เนย์ม่า และ เอ็มบัฟเป้ เล่นด้วยกันคือ เรื่องที่หน้าตื่นเต้นสุดๆ ทุกครั้งที่สองคนนี้ได้บอล
มันมีกลิ่นอาย ของการเล่นในแบบของ โรนัลดิญโญ่ กาก้า R9 หรือ ซีดาน ให้เห็นอีกครั้ง
เทียบกับนักเตะปัจจุบัน ..
เนย์ม่า ... มีแนวทางการเล่นของ เมสซี่ และ อาร์ซ่า
เอ็มบัปเป้ ... มีแนวทางการเล่นของ มาเน่ และ ซาร์ล่า
การได้ดูนักเตะสองคนนี้ เล่นด้วยกัน .. ก็เหมือนได้ดู ทุกๆคนด้านบน เล่นด้วยกันพร้อมกัน
ซึ่งมันน่าสนใจ
บอลแบบ Old school อาจไม่ถูกใจ ใครหลายคน ด้วยที่ว่า ทำไมจึงมีนักเตะคนใดคนนึงครองบอลนาน
หรือทำไมมีการเลี้ยงบอลกินตัวเยอะจัง ทำไมไม่ผ่านบอลๆๆๆๆ แบบทีมอื่นๆ
แต่สำหรับอีกหลายคน ที่เบื่อบอลหุ่นยนต์แบบสมัยใหม่... นั่นอาจเป็นสาเหตุว่า
ทำไมฟุตบอล จึงเป็นกีฬาที่ควรนั่งดูให้ครบ 90 นาที