[CR] ไปเชียงใหม่ และปาย ... ตอน ๒/๒ ปาย

ไปเชียงใหม่ ไปปาย  ... ตอน ๒ ปาย
.
โป่งเดือด
.
จริงๆ แวะน้ำพุร้อนโป่งเดือดก่อน ก็ทั้งขาไปและขากลับ และแนะนำให้แวะครับสำหรับคนที่จะไปปาย
ให้จินตนาการถึงเมืองเบปปุ เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ... โป่งเดือดก็เป็นสถานที่ที่มีน้ำพุร้อนพวยพุ่ง พร้อมไอน้ำร้อนกระจายไปทั่ว ต้มไข่ได้และมีบริเวณที่ให้แช่น้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนออนเซ็นชื่อดัง และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินชิวๆ
เข้าเขตอุทยานฯ คนไทยเสียค่าเข้าคนละ ๕๐ บาท รถยนต์คันละ ๓๐ บาท บัตรเข้าอุทยานโป่งเดือดสามารถนำไปเข้าได้อีก ๓ ที่ในเคลือข่าย (ก็แถวๆ ปายนี่แหล่ะ) 
มีบ่อออนเซ็นหลายบ่อแบ่งเป็นแบบส่วนตัวซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ค่อยว่างและเก็บค่าบริการแพงกว่า และบ่อแบบแช่รวม (ให้จินตนาการถึงสระว่ายน้ำของโรงแรมขนาดย่อมๆ) ซึ่งเก็บค่าบริการคนไทยแค่คนละ ๒๐ บาท (ต่างชาติจะแพงหน่อย แต่ผมว่าคุ้มมากๆ) คนไม่ค่อยมีหรอกครับ
เพราะคนไม่ค่อยแวะเหรอ?
หึ ... ไม่ใช่ เพราะมันร้อน แช่ได้แป๊ปเดียวก็ไม่ไหว เดินทางต่อดีกว่า
แฮร่
เขาบอกที่นี่เป็นน้ำพุร้อนแบบน้ำพุ ภาษาอังกฤษคือกีเซอร์ (Geyser) คือมันจะพวยพุ่งขึ้นมาเป็นจังหวะในระยะเวลาเว้นห่างที่เท่าๆ กัน น้ำจะร้อนมาก และมีฟองอากาศซึ่งเกิดขึ้นจากการสะสมของแก๊สในน้ำร้อนใต้ดินเกิดแรงดันสูง ซึ่งจะไม่เหมือนแบบบ่อน้ำร้อนที่เกิดจากน้ำร้อนใต้ดินพุ่งขึ้นสู่ผิวดิน เกิดเป็นแอ่งตื้นๆ กระจายอยู่ทั่วไป แบบนั้นเรียก Hot pool type
ที่นี่เขามีผ้าเช็ดตัวกับกางเกงขาสั้นให้เช่า เผื่อไม่ได้เตรียมตัวมาแต่จับพลัดจับผลูเข้ามาแล้วเกิดติดใจอยากลงแช่ออนเซ็น ค่าเช่าชิ้นละ ๒๐ บาทเช่นกัน วันนั้นเราไป ๒ คน ค่าบริการแช่น้ำพุร้อนก็ ๔๐ บาท กางเกงขาสั้น ๑ ตัว ๒๐ บาท ผ้าขนหนู ๒ ผืน ๔๐ บาท รวมเป็น ๑๐๐ บาทพอดี
แต่ขากลับวางแผนใหม่ เสียค่าเข้าแช่น้ำ ๔๐ บาท นอกนั้นเตรียมมาเอง
อ้อ อย่าลืมน้ำดื่มขวดใหญ่ๆ ด้วยล่ะ ไม่งั้นขึ้นจากบ่อน้ำร้อนหน้ามืด ดีจะกลายเป็นร้ายไป
.
สะพานข้ามแม่น้ำปาย
.
ก็ถือเป็นจุดเช็คอินก่อนเข้าตัวอำเภอปายที่ไม่แวะไม่ได้ เพื่อนจะล้อเอาว่าไปปายไม่จริง
สร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยกองทหารญี่ปุ่นเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำปายใช้ในการลำเลียงเสบียงและอาวุธเข้าไปยังประเทศพม่า สะพานนี้ถูกเผาทำลายไปหลังจบสงครามโลกครั้งที่ ๒ และสะพานปัจจุบันที่เป็นสะพานเหล็กให้เราได้ไปถ่ายรูปเช็คอินนั้น ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยนำเหล็กจากสะพานนวรัฐมาสร้าง (คือสะพานนวรัฐ ซึ่งอยู่ที่เชียงใหม่ก็ถูกสร้างใหม่เป็นคอนกรีตนั่นแหล่ะ เหล็กเลยถูกส่งมาที่นี่)
.
ปายไนท์มาร์เก็ต
.
ถนนคนเดินอำเภอปาย จะว่าเป็นแห่งแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างถนนคนเดินให้โด่งดังไปทั่วโลก ของขายหลายหลาย แต่ด้วยที่เคยไปปายมาแล้ว ๒ ครั้ง คราวนี้รู้สึกว่าถนนคนเดินเมืองปายเปลี่ยนไปพอสมควร ความเดิมๆ หายไปค่อนข้างมาก และความแปลกใหม่เข้ามาแทน
คนดั้งเดิมไม่ค่อยมี มีก็แต่คนใหม่ที่เหมือนจะโยกย้ายไปตามนักท่องเที่ยว
ร้านเครื่องหนังและรองเท้าแบรนด์ใหญ่เข้ามาเปิดตลาดที่นี้ด้วยช้อปขนาดเบ่อเริ่มเทิ่ม นี่ไม่นับรวมร้านขายสินค้าเพื่อความสวยความงาม ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก กลาง และใหญ่
ตัวอย่างก็คือ ร้านอาหารที่เรากำลังจะไปทาน พื้นเพไม่ใช่คนปายแต่พอมีลู่ทางทางธุรกิจจึงตัดสินใจไปเซ้งอาคารในบริเวณที่ไม่ห่างจากใจกลางเมืองปายมากนักทำร้านอาหารสไตร์ที่ตนถนัด
.
เป็ดย่างกลางปาย
.
เป็ดย่าง เป็ดผัดพริกไทยดำ ยำไข่ดาว กับข้าวสวย ๒ จาน คือเมนูที่เราสั่ง มาพร้อมเบียร์ลีโอ ๑ ขวดใหญ่ และน้ำผลไม้ปั่น ๑ แก้ว ราคาพร้อมทิป ๖๐๐ บาท
ก็ถือว่าน่าลอง สำหรับใครที่เบื่ออาหารพื้นเมือง แล้วอยากเปลี่ยนไปชิมอาหารรสชาตินครปฐมบ้าง รสชาติดีแบบภาคกลาง เป็ดไม่มีกลิ่น ราคาเหมาะสมถ้าคิดว่านี่คือเมืองท่องเที่ยวระดับประเทศ
.
หยุนไหล
ชื่อนี้มาจากภาษาจีนว่า 雲來 (conventional Chinese), 云来(simplified Chinese) ซึ่งก็อ่านว่าหยุนไหลนั่นเอง หยุนแปลว่าเมฆ ไหลแปลว่ามา เอาว่าแปลรวมๆแบบสละสลวยก็คือจุดชมวิวที่มีเมฆมารวมตัวกันให้เราเห็นกว้างสุดลูกหูลูกตา 
แปลเป็นภาษาไทยอีกทีจะว่าเป็นผาทะหมอกก็น่าจะพอได้
แต่คนปายเขาเรียกว่า “หยุนไหล” นะครับ ทับศัพท์กันไปแบบนี้
ไม่เสียทีที่เมื่อถามใครต่อใครว่าเช้าๆ เมื่อมาปายต้องไปเช็คอินที่ไหนหรือดูทะเลหมอกที่ไหน เพราะคำตอบที่ทุกคนให้แบบไม่มีตัวเลือกอื่นคือที่นี่
ขับรถไปตามจีพีเอสจะพาไป จากนั้นจะถึงจุดจอดรถซึ่งเป็นลานที่มีร้านขายของตั้งเรียงราย เหมือนว่าจะเป็นหน้าที่เราที่เมื่อชมทะเลหมอกเสร็จแล้ว ขากลับจะมีอีกหน้าที่คืออุดหนุนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางขายในร้านเหล่านั้น
จากใจกลางเมืองปายก็ราว ๑๐ กว่าๆ กิโลเมตร
หน้าไฮซีซั่นเขาให้จอดรถที่ลานจอด เพราะทางขึ้นเขาเพื่อไปบนจุดชมวิวหยุนไหลค่อนข้างแคบ อาจไม่ปลอดภัยสำหรับให้นักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นทางขับรถขึ้นไปกันด้วยตัวเอง ค่าบริการรถที่พาขึ้นไปเขาคิดคันละ ๓๐๐ บาท คือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวก็จ่าย ๓๐๐ รถออกทันที เป็นรถกะบะที่ดูแล้วเป็นคนท้องถิ่นที่มารับจ็อบขับบริการนักท่องเที่ยว
แต่ถ้าอยากประหยัดก็สามารถแชร์กันกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นได้ ในราคาคันละ ๓๐๐ เหมือนกัน เราไปกัน ๒ คนก็เลยไปขอแชร์กับพี่ๆ อีกกลุ่มที่มากัน ๔ คน รวมแล้ว ๖ คนตกคนละ ๕๐ บาท ไปคันไหนกลับคันนั้นครับ ขอเบอร์โทรฯ จำเบอร์รถให้ดี ไม่งั้นมีหวังต้องเดินลงเอง
ระยะทางขึ้นไปที่จุดชมวิวก็ประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษๆ ในทางราบ และหลายสิบเมตรในแนวดิ่ง
กิจกรรมบนหยุนไหลก็มีตั้งแต่ ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นทามกลางทะเลหมอก จิบชาร้อนๆ ท่ามกลางอากาศเย็นๆยามเช้า ทานข้าวต้มเคล้าลมหนาว ขอพรกับต้นไม้แห่งความรัก และถ่ายภาพคู่กับป้าย “ทะเลหมอกหยุนไหล”
.
คุณหมูยอ
ออกเดินทาง ๑๖-๑๙ มกราคม ๒๕๖๓
------------------------------------
ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่