รีวิวสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา 2020

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากเป็นผีสิงกระทู้สัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐฯมานาน ก็ได้ฤกษ์ผมไปสัมภาษณ์ซักที เลยอยากมาแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองเจอมาบ้าง

ก่อนจะเริ่มรีวิว ผมขอเกริ่นโปรไฟล์เบื้องต้นก่อน เผื่อท่านที่เข้ามาอ่านอาจจะเห็นภาพได้ชัดขึ้น เพราะผลของวีซ่าจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละบุคคล 
(ผมออกตัวก่อนว่าไม่สามารถใช้อ้างอิงค์ใดๆได้ เนื่องจากสถานะแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน)

โปรไฟล์โดยทั่วไป:
เริ่มทำงานตอนอายุ 24 ตอนนี้อายุ 27 ย่าง 28 เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งนึง 1.8 ปี
(บอกใบ้ว่าบริษัทที่ผมทำผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างชื่อดังย่านบางซื่อ โลโก้เป็นสัตว์ประจำชาติไทย)

ประวัติเกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ:
เคยได้ J1 เมื่อ 2011
เคยถูก Reject วีซ่าสหรัฐฯ 3 ครั้ง (F1 2011, F1 2011, B1/B2 2017)
มีคนรู้จักอยู่ที่สหรัฐ

ประวัติการเดินทางที่สำคัญ:
UK วีซ่าที่ยังไม่ใช้ (กำลังไปเมษานี้ครับ), UK 2019, Schengen Area 2019,
Japan 2018,2017,2016,2015,2014, South Korea 2015,
Singapore 2019, 2017, 2015, Taiwan 2019, China 2018,
Hong Kong 2016,2015, Malaysia 2015, Vietnam, 2016, Burma, 2018
Laos 2018, 2019

DS-160:
ในส่วนของ DS-160 ผมขอข้ามเนื่องจากมีหลายๆท่านทำกระทู้อธิบายได้ชัดเจน และครอบคลุมเพียงพอแล้วครับ
แต่ที่ผมอยากเพิ่มเติมในการกรอก DS-160 จะต้องกรอกข้อมูลตามจริงทุกประการ แม้กระทั้งเรื่องของคนรู้จัก และเรื่องอื่นๆ
ผมเชื่อว่าท่านกงศุลมีข้อมูลอยู่ในมือระดับนึงแล้ว (เพราะเท่าที่ดูในระหว่างสัมภาษณ์ จ้องหน้าคอมตลอดเวลาก่อนที่จะตั้งคำถาม ส่วนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะดูสิ่งที่เรากรอก กับข้อมูลที่มีอยู่ในระบบ) แต่ที่สำคัญที่สุดเท่าที่ผมสังเกตุท่านกงศุลมีทักษะในการจับผิดที่ดีมาก ผมแนะนำว่าต้องซื่อสัตย์ต่อใบสมัครวีซ่าให้มากที่สุด

กระบวนการสัมภาษณ์:
- เริ่มจากต่อคิวตอนประมาณ 6.30 น. โดยขั้นตอนก็เป็นการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่เสื้อน้ำเงินว่ามีคิวไหม แต่ช่วงนี้เนื่องจากไวรัสโคโรน่าระบาด ก็จะมีมาตรการเพิ่มเติมจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ คือท่านใดที่พึ่งเดินทางกลับมาจากจีนภายใน 14 วัน จะต้องเลื่อนนัดออกไปจนกว่าจะครบช่วง 14 วันหลังจากกลับมาจากจีนตามประกาศด้านล่างครับ

ก็ว่ากันไปครับในข้อนี้
- ขั้นตอนการตรวจความปลอดภัยสำหรับผู้สมัครวีซ่าก่อนเข้าไปในสถานฑูตนั้นคือ Body Search และผู้สมัครทุกท่านไม่อนุญาติให้นำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าไปในพื้นที่ของสถานทูต โดยทางเข้าหน้าที่จะมีช่องรับฝากได้เพียงแค่ 1 เครื่อง และ Smart Watch 1 เรือนเท่านั้นครับ (ใครมีก็เก็บไว้ที่รถ หรือไปฝากด้านนอกก่อนจะเข้าไปนะครับ) ส่วนอื่นๆลองศึกษาจากลิ้งค์นี้ได้ครับ https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-gen-faq.asp

- หลังจากเข้ามาด้านในแล้ว ก่อนสัมภาษณ์ จะมีเคาท์เตอร์ให้ปริ้นท์ที่อยู่จัดส่งเอกสาร เพื่อใช้จัดส่งในกรณ์ที่วีซ่าได้รับอนุมัติ เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ไปอ่านป้ายเขียว (ป้ายที่ว่าก็คือป้ายที่บอกให้จดเลข EMS เพื่อใช้ติดตามหนังสือเดินทาง)

- ผ่านเข้ามาจะมีแถวเคาท์เตอร์ตรวจกรอง DS-160 จากเจ้าหน้าที่คนไทย ซึ่งเขาจะสามารถแก้ไขรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้ได้ (ส่วนตัวผมนามสกุลเก่า, ของพ่อผิด ยังดีที่พี่เขาปราณีแก้ไขให้) หลังจากเสร็จในขึ้นตอนการตรวจสอบแลวเจ้าหน้าที่จะให้พิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว หรือที่เรียกว่า ten-print ให้ทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ (ระหว่างนี้ก็เช็ดมือให้แห้งรอได้เลยครับ)

- ขั้นตอนการตรวจสอบยืนยันลายนิ้วมือ เจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันจะตรวจสอบลายนิ้วมืออีกครั้ง โดยสิ่งที่ต้องทำคือเอาหน้าหนังสือเดินทางที่มีสติ้กเกอร์ที่อยู่แปะตรงหน้ากระจกให้เจ้าหน้าที่ยิงบาร์โค้ด และเจ้าหน้าที่อเมริกันจะทำการยืนยันตัวด้วยการพิมพ์ลายนิ้วมืออีกครั้ง ขั้นตอนนี้ผมปล่อยโก๊ะไป 2 รอบ รอบแรกเดินเลยเคาท์เตอร์นี้ไป อีกรอบก็โง้ะๆงงๆอยู่หน้าเคาท์เตอร์ จนเจ้าหน้าที่บอกให้หยุด และเชิญไปอีกเคาท์เตอร์

- ขั้นตอนที่ตื่นเต้นที่สุดมาถึงแล้ว คือการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่กงศุลชาวอเมริกันครับ
วันที่ผมไปจะมีอยู่ 3 เคาท์เตอร์ เบอร์ 6 (ดูตัวอวบๆ มีเครา ไม่ค่อย Reject) ,7 (ผอมสูง น่าจะเป็นเชื้อสาย Indiana ไม่ทันสังเกตุ) ,8 (ผมทองตาฟ้าใส่แว่น Reject ค่อนข้างเยอะ) ในใจผมก็พาวนาอย่าได้ตกเบอร์ 8 เลย..... ประวัติยิ่งไม่ดีอยู่
แต่สุดท้ายลุงแซมก็เข้าข้างความปราถนาของผม ให้ผมไปสัมภาษณ์เบอร์ 6 บทสัมภาษณ์ก็ดังนี้ครับ

Me: Good Morning, sir. "ส่งหนังสือเดินทาง"
Con: Good morning, what is your purpose of visit the US?
Me: Tourist, sir.
Con: นั่งดูหน้าคอมซักพัก
Con: Where will you travel in the US?
Me: San Francisco
Con: Who will you go with?
Me: I am going with my aunts
Cos: Do they got the visa?
Me: Not yet sir, they are waiting for the outcome of my application, they will apply later after my application is succesful, sir.
Con: What do you do in Thailand.
Me: I am an employee of ........ sir.
Con: *นั่งนิ่งซักพัก*
Me: Would you like to see my work certification, sir.
Con: Please. "ทำมือขอเอกสาร"
Con: นั่งดูซักพักใหญ่ แต่เท่าที่ดูนั่งอ่านทุกตัวอักษร (เบื้องต้นบอกก่อนนะครับว่าใบรับรองงานของบริษัทผมจะออกว่าจะไปประเทศไหน ไปกี่วัน)
Con: What does your company do?
Me: Well, my company has 3 core businesses ,......blah blah......., I was positioned in .................. business as a sales representative sir.
Con: Do you know any friend or relative in the US?
Me: Yes, sir. She a friend of my aunt
Con: Where does she living?
Me: Mineasota, sir. But can not regonized the extractly place because she has to travel with her husband. Her husband doing gas company. The last location that I regonized is Virginia, sir.
Con: OK *และก็พลิกหนังสือเดินทางทุกหน้า แต่จ้องที่วีซ่า UK และ Schangen นานมาก เหมือนดูตราปั้มเข้าออกและวีซ่า*
Con: *นั่งพิมพ์ยาวๆ และกลับมาดูที่หน้าวีซ่า UK ที่ยังไม่ใช้*
Con: Have you ever been to the UK?
Me: Not yet, sir. I am going in the April this year, sir.
Con: OK.
Con: *พิมพ์ยาวๆๆๆๆๆๆ และถามกลับมาว่า* Where will you be in the US?
Me: San Francisco, sir.
และเวลาที่รอคอยก็มาถึง
Con: I am going to approved visa for this trip.
Me: Thank you, sir.
ตอนนั้นมือทำท่าดีใจโดยอัตโนมัติ ใครจะว่าอวดก็ช่าง ไม่เป็นผมไม่รู้หรอก 55555+
สิ่งที่อยากแนะนำคือ ตอนพูดให้พูดให้ตรงไมค์ที่อยู่ทางซ้าย และอย่าลิมจ้องตาท่านทูตนะครับ
ส่วนวีซ่าไม่รู้ว่าจะโดน Annotation อะไรไหม แต่ก็ช่างครับ ผมอยากไปเที่ยวจริงๆ ไม่สนอะไรมาก ขอแค่ได้วีซ่าก็พอ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านโชคดี และต้องซื่อสัตย์ต่อใบสมัครวีซ่านะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่