สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวทีวีของ Philips รุ่น Ambilight 65 นิ้วที่เพิ่งซื้อมาช่วงกลางปี 62 ใช้มาหลายเดือนแล้ว อยากแชร์ประสบการณ์ 55 เท่าที่ดูๆยังไม่ค่อยมีใครรีวิวเท่าไหร่ วันนี้เลยจะลองมาเล่าให้ฟังว่าเป็นยังไงบ้างเผื่อมีคนไหนสนใจ ปล.ผมเพิ่งจะเริ่มหัดเข้าวงการรีวิว เขียนผิดเขียนถูกยังไงต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย ใครมีเรื่องอะไรอยากเสริม แชร์กันเข้ามาได้เลยนะครับ เผื่อผมลืมพูดจุดไหนไป
มาดูหน้าตากันก่อน
อันนี้ของผมจะเป็นหน้าจอ 65 นิ้วครับ ตัว Top ใหญ่สุดแล้ว ชอบแบบสะใจ 55555 อะไรไม่รู้เน้นเล่นใหญ่ไว้ก่อน
พอดีตอนนั้นมีโปรด้วย จัดเลยสิครับ รออะไร
เรื่องดีไซน์ ความสวยงาม
ดีไซน์ถือว่าโอเค ทั่วไปครับ ตามสเปคทีวีจอแบน แต่ยอมรับเลยครับว่าบางจริง แทบไม่เห็นขอบเลย ทำให้ดูกลืนไปกับห้อง ไม่เทอะทะ จริงๆแล้ว ทีเด็ดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ Ambilight ครับ ทีนี้หลายคนอาจจะยัง งงๆว่า Ambilight หรือ แอมบิไลท์ที่ผมพูดถึงนี่มันคืออะไร ว่ากันง่ายๆมันก็คือหลอด LED ที่ติดอยู่รอบๆขอบด้านหลังทีวีนั่นเองครับ แต่ความเท่ของไอ้หลอดที่ว่านี่ก็คือ มันเปลี่ยนสีตามภาพ หรือเปลี่ยนได้ตามโหมดที่ตั้งค่าได้ครับ! แบบนี้
ของผมจะเป็นรุ่นที่มี Ambilight 3 ด้าน บน ซ้าย ขวา ถ้ารุ่นรองลงมาจะมี 2 ด้าน ซ้าย ขวา ครับ แต่ของเราชอบแบบจัดเต็ม โดนตัว Top แน่นอน 555
บอกตามตรงว่า ครั้งแรกที่เห็นก็งงนะ งงว่ามีไฟตรงขอบแล้วมันจะดียังไง แต่พอลองให้พนักงานสาธิตให้ดูก็ เออ...เท่ว่ะ มันอินขึ้นจริงๆนะ ยิ่งใครชอบดูหนังนี่น่าจะชอบเลย ใครยังนึกภาพตามไม่ออก แนะนำให้ไปดูโลดเลยครับที่ Powerbuy หรือจะลองเสิชหาดูคลิปตามเว็บดูก่อนก็ได้ครับ
ฟังก์ชั่น สเปคโดยรวม
ความชัดของภาพจะอยู่ที่ 4K ครับ คือชัดกว่า Full HD 4 เท่า ที่สำคัญคือมี HDR Plus ซึ่งข้อนี้ผมว่าดีมาก เพราะมันจะรองรับพวกเทคโนโลยีภาพแบบใหม่ๆได้อีกนานเลยครับ ระบบ HDR Plus ก็คือระบบที่จะทำให้เราเห็นคอนทราสต์ได้ชัดขึ้น เพราะว่ามันจะไล่เฉดความมืดความสว่างได้ดีกว่าทีวีทั่วไป ขาวก็ขาวสุด มืดก็มืดสุด ดูหนังเรื่องไหนที่มืดๆพวกแบบฉากแอคชั่น ยิงกันใต้เมือง หลบภัยในถ้ำ หรือฉากกลางคืนนี่เวิร์คมากครับ เห็นรายละเอียดเน้นๆ
ความสมูธของภาพถือว่าใช้ได้เลยครับ มันลื่นแบบผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง 55 เอาเป็นว่าผมจะใช้คำว่า “ลื่นนุ่มๆ” ก็แล้วกัน ตามนั้นเลยครับ อันนี้เสริมเป็นข้อมูลเชิงเทคนิคนิดนึงครับ คือมันจะมีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Pixel Precise Ultra HD กับ Ultra Resolution Upscaling ที่ช่วยปรับให้ตัวภาพมันดูราบรื่นขึ้นด้วยการแปลงภาพ input ให้มีความละเอียดมากขึ้น นั่นเท่ากับว่ายิ่งภาพต้นฉบับชัดเท่าไหร่ ที่เราเห็นบนจอก็จะชัดขึ้นเท่านั้น
มาถึงเรื่องระบบเสียง ผมเคยอ่านบางคอมเมนต์จะติดจุดนี้กันเยอะว่าเสียงไม่ดังบ้างอะไรบ้าง แต่ส่วนตัวผม ผมว่าดีกว่าที่ผม expect ไว้นะ โดยรวมผมว่าเบสชัด คือโอเคมันอาจจะไม่ได้โอ้โห เหมือนดูหนังอยู่ในโรง แต่ก็ถือว่าเมื่อเทียบกับทีวียี่ห้ออื่นๆ ก็ถือว่าดีเลยครับ เสียงคมชัดใช้ได้
ในส่วนของ Ambilight จากที่ผมเคยพูดถึงในช่วงต้นๆของการรีวิวว่า มันคืออะไร เราจะมาขยายความกันนิดนึง คือเจ้า LED ที่ผมบอกว่าจะเปลี่ยนตามภาพบนจออ่ะครับ มันสามารถเปลี่ยนได้หลายแบบด้วย เค้าจะมีโหมดของเค้าเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบปกติคือตามภาพ เช่น ถ้าภาพตรงซ้ายเป็นสีออกแดงๆ แสงที่ฉายออกมาจากข้างซ้ายก็จะออกมาเป็นสีแดง แต่ถ้าเราลองเล่นฟังก์ชั่นโหมดอื่นๆ ก็จะมีอย่างเช่น ขยับตามจังหวะเพลง หรือเปลี่ยนตามโทนสีที่ชอบ ผมแนะนำว่า อยากเห็น Ambilight แบบชัดๆให้ดูในห้องมืดๆครับ แจ่ม
ซึ่งเอาจริงๆแล้วผมก็เล่นอยู่ไม่กี่อย่างหรอก หลักๆก็จะเป็นแบบที่เปลี่ยนตามภาพนั่นแหละครับ เพราะมันช่วยให้อินกว่าจริงๆนะ เหมือนขยายขอบเขตให้เลยมาที่ผนังด้วย คอหนัง คอซีรีย์แบบผมกด Love ให้เลยครับ ส่วนใครมาสายเกมก็น่าจะถูกใจ น่าจะให้ความรู้สึกร่วม มันส์ขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ
4K Ultra HD Ambilight รุ่นนี้เป็น Smart TV ครับ โดยจะเชื่อมต่อกับแอพพวก Netflix, YouTube หรือ iFlix ได้ด้วย ปุ่ม SAPHI ที่อยู่บนรีโมตครับ ตัวใหญ่เบ้ง หายังไงก็เจอ 55 แอพหลักๆพวก Netflix หรืออะไรที่ผมบอกไปตอนแรกนี่ก็คือ เค้าลงมาให้แล้วในเครื่องนะครับ ไม่ต้องโหลดเอง ใครสงสัยจุดไหน หรืออยากจะสอบถามเรื่องการลงแอพนู่นนี่ก็สอบถามจากพนักงานที่จุดขายได้เลยครับ
.
สรุปโดยรวมคือ ผมว่าผมตัดสินใจถูกนะที่ซื้อมา คือมันเต็มอิ่มจริงๆอ่ะ มันเท่ มันดูแปลกใหม่ เอาเป็นว่าสำหรับผม ผมให้ 8.5 เต็ม 10 หักคะแนนที่ราคานิดหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าโอเวอร์ไป คือราคามันก็แอบสูง แต่เอาเข้าจริงๆเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้มามันก็คุ้มนะ แถมบางรุ่นยี่ห้ออื่นสเปคพอๆกัน ราคาสูงกว่าอีก ไม่มี Ambilight ด้วย คือผมมองว่าเราอยู่บ้าน เราก็อยากมีทีวีดีๆซักเครื่องนึงป่ะ มันเป็นการลงทุนที่โอเคเลยสำหรับผม เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้าง มาแชร์กันครับ
จบแล้วครับสำหรับรีวิว พลาดจุดไหนไปต้องขออภัยด้วยครับ มือใหม่หัดรีวิว กระทู้หน้ามาแน่ ผมจะมารีวิวอะไรต่อ รอติดตามเลยครับ
ปล.ตอนนี้มีซีรีย์เด็ดๆอะไรใน Netflix อยากแนะนำบ้างมั้ยครับ
[CR] นายแว่นรีวิว - ทีวี Philips 4K Ultra HD Ambilight ฉบับคนใช้จริง
ดีไซน์ถือว่าโอเค ทั่วไปครับ ตามสเปคทีวีจอแบน แต่ยอมรับเลยครับว่าบางจริง แทบไม่เห็นขอบเลย ทำให้ดูกลืนไปกับห้อง ไม่เทอะทะ จริงๆแล้ว ทีเด็ดของรุ่นนี้จะอยู่ที่ Ambilight ครับ ทีนี้หลายคนอาจจะยัง งงๆว่า Ambilight หรือ แอมบิไลท์ที่ผมพูดถึงนี่มันคืออะไร ว่ากันง่ายๆมันก็คือหลอด LED ที่ติดอยู่รอบๆขอบด้านหลังทีวีนั่นเองครับ แต่ความเท่ของไอ้หลอดที่ว่านี่ก็คือ มันเปลี่ยนสีตามภาพ หรือเปลี่ยนได้ตามโหมดที่ตั้งค่าได้ครับ! แบบนี้
ความชัดของภาพจะอยู่ที่ 4K ครับ คือชัดกว่า Full HD 4 เท่า ที่สำคัญคือมี HDR Plus ซึ่งข้อนี้ผมว่าดีมาก เพราะมันจะรองรับพวกเทคโนโลยีภาพแบบใหม่ๆได้อีกนานเลยครับ ระบบ HDR Plus ก็คือระบบที่จะทำให้เราเห็นคอนทราสต์ได้ชัดขึ้น เพราะว่ามันจะไล่เฉดความมืดความสว่างได้ดีกว่าทีวีทั่วไป ขาวก็ขาวสุด มืดก็มืดสุด ดูหนังเรื่องไหนที่มืดๆพวกแบบฉากแอคชั่น ยิงกันใต้เมือง หลบภัยในถ้ำ หรือฉากกลางคืนนี่เวิร์คมากครับ เห็นรายละเอียดเน้นๆ
มาถึงเรื่องระบบเสียง ผมเคยอ่านบางคอมเมนต์จะติดจุดนี้กันเยอะว่าเสียงไม่ดังบ้างอะไรบ้าง แต่ส่วนตัวผม ผมว่าดีกว่าที่ผม expect ไว้นะ โดยรวมผมว่าเบสชัด คือโอเคมันอาจจะไม่ได้โอ้โห เหมือนดูหนังอยู่ในโรง แต่ก็ถือว่าเมื่อเทียบกับทีวียี่ห้ออื่นๆ ก็ถือว่าดีเลยครับ เสียงคมชัดใช้ได้
4K Ultra HD Ambilight รุ่นนี้เป็น Smart TV ครับ โดยจะเชื่อมต่อกับแอพพวก Netflix, YouTube หรือ iFlix ได้ด้วย ปุ่ม SAPHI ที่อยู่บนรีโมตครับ ตัวใหญ่เบ้ง หายังไงก็เจอ 55 แอพหลักๆพวก Netflix หรืออะไรที่ผมบอกไปตอนแรกนี่ก็คือ เค้าลงมาให้แล้วในเครื่องนะครับ ไม่ต้องโหลดเอง ใครสงสัยจุดไหน หรืออยากจะสอบถามเรื่องการลงแอพนู่นนี่ก็สอบถามจากพนักงานที่จุดขายได้เลยครับ
.
สรุปโดยรวมคือ ผมว่าผมตัดสินใจถูกนะที่ซื้อมา คือมันเต็มอิ่มจริงๆอ่ะ มันเท่ มันดูแปลกใหม่ เอาเป็นว่าสำหรับผม ผมให้ 8.5 เต็ม 10 หักคะแนนที่ราคานิดหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าโอเวอร์ไป คือราคามันก็แอบสูง แต่เอาเข้าจริงๆเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้มามันก็คุ้มนะ แถมบางรุ่นยี่ห้ออื่นสเปคพอๆกัน ราคาสูงกว่าอีก ไม่มี Ambilight ด้วย คือผมมองว่าเราอยู่บ้าน เราก็อยากมีทีวีดีๆซักเครื่องนึงป่ะ มันเป็นการลงทุนที่โอเคเลยสำหรับผม เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกันบ้าง มาแชร์กันครับ
จบแล้วครับสำหรับรีวิว พลาดจุดไหนไปต้องขออภัยด้วยครับ มือใหม่หัดรีวิว กระทู้หน้ามาแน่ ผมจะมารีวิวอะไรต่อ รอติดตามเลยครับ
ปล.ตอนนี้มีซีรีย์เด็ดๆอะไรใน Netflix อยากแนะนำบ้างมั้ยครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้