เอสทีไอ ตั้งบริษัทในปี 1993 เป็นต้นตำรับโครงปืนโมดุลลาร์รางเหล็กด้ามไฟเบอร์ ออกแบบสำหรับปืนพก 1911 โดยเฉพาะ ขยายส่วนด้ามให้รับซองกระสุนสองแถวได้ เป็นจุดขายคือลูกดกแต่ด้ามไม่หนา ตัวไม่หนัก สามารถฝ่าอุปสรรคมาได้ด้วยคุณภาพ
แม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามซองกระสุนจุเกินสิบนัดมาบังคับใช้ถึงสิบปี (1994-2004) ยังสามารถฝ่าอุปสรรคมาได้ด้วยคุณภาพด้านอื่นไม่ต้องอาศัยลูกดกเพียงอย่างเดียว เอสทีไอจดทะเบียนชื่อโครงสองแถวว่า
“2011” เป็นเครื่องหมายการค้าที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้หลังกฎหมายจำกัดจำนวนกระสุนหมดอายุลง ปืนลูกดกขายในตลาดสหรัฐได้อีกครั้ง เอสทีไอรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีตัวเลขเมื่อปี 2007 ว่าเป็นผู้ส่งออกปืนพกมากเป็นอันดับสามของประเทศ ต่อมาไม่นานสิทธิบัตรคุ้มครองโครงปืนโมดุลลาร์หมดอายุเมื่อครบยี่สิบปี ลูกค้าที่เคยซื้อเฉพาะโครง 2011 ไปแต่งใส่ช่วงบนมีทางเลือกโดยอาจทำเองหรือซื้อจากเจ้าอื่น ทำให้ยอดขายส่วนนี้ของเอสทีไอหดหายไป และยังมีคู่แข่งเพิ่มทั้งในประเทศ เช่น ไนท์ฮอว์ค นอกประเทศ เช่น บูล ที่ผลิตปืนลูกดกโดยใช้โครงของตัวเองทำตามแบบของเอสทีไอได้ไม่ผิดกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
จากนโยบายทำขายทุกตลาดช่วงต้นทศวรรษ 2010 เอสทีไอมีแบบปืนให้เลือกกว่ายี่สิบแบบ แต่ยอดขายกลับลดลงต่อเนื่องจนเกิดปัญหาทางการเงิน ได้ผู้ลงทุนรายใหม่เข้าซื้อหุ้นอัดฉีดเงินให้ในปี 2016 คือ Westwind Investment และเปลี่ยนผู้บริหารสูงสุดในปี 2017 วางนโยบายใหม่ ลดตัวเลือกหลากหลายเหลือเพียงสองกลุ่ม คือปืนแข่งรณยุทธ์เรียกรวมว่า DVC หกรุ่น จับตลาดที่เอสทีไอทำได้ดี กับปืนใช้งาน Staccato สองรุ่น คือ
Staccato-P ลูกดกสำหรับพกซองนอก และ Staccato-C แถวเดี่ยวแบนบาง เพื่อการพกแนบเนียนในชายเสื้อ
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ คือ
Staccato-P ใช้กระสุนขนาด 9 มม.ลูเกอร์ ลำกล้อง 4.25 นิ้ว เท่าคอมมานเดอร์, โครงปืน 2011 ด้ามยาวมาตรฐาน เมื่อใช้ซองกระสุน 126 มิลลิเมตรจะยาวเสมอด้ามที่ติดกรอบผายปาก ความจุ 17+1 นัด สามารถขึ้นลำไว้ก่อนเป็น 17+1 นัด วัสดุเป็นเหล็กเคลือบ DLC (Diamond-Like Carbon) สีดำด้านสวยงาม ลำกล้องหนาไม่ใช้บูช สปริงลำเลื่อน Recoil Master สองชั้นมีแกนตลอด น้ำหนักตัว 1030 กรัม ใกล้เคียงกับคอมมานเดอร์โครงเหล็ก
โดยรวม
STI Staccato -P เป็นปืนต่อสู้ระดับพรีเมียมเน้นประสิทธิภาพการใช้งานจริง จุกระสุน 9 มม. 18 นัด เท่ากับลูกโม่โครงกลางสามกระบอก ด้ามออกแบบดีจับถนัด ไกซิงเกิลหลุดคมดีมาก ลำกล้อง 4.25 นิ้วคล่องตัวดี และให้ความแม่นยำสูงระดับเดียวกับปืนยิงเป้า เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับระบบการทำงานของปืน 1911 ใช้เป็นปืนหลักพกซองนอก ถ้าพกในชายเสื้ออาจไม่แนบเนียนนักตรงส้นด้ามที่หนา ชิ้นส่วนทุกชิ้นคุณภาพสูง ฝีมือผลิตประณีตเรียบร้อยดีมาก.
https://www.dailynews.co.th/article/728691
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวีสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 329 คอมมานเดอร์ 18 นัด STI Staccato-P
แม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามซองกระสุนจุเกินสิบนัดมาบังคับใช้ถึงสิบปี (1994-2004) ยังสามารถฝ่าอุปสรรคมาได้ด้วยคุณภาพด้านอื่นไม่ต้องอาศัยลูกดกเพียงอย่างเดียว เอสทีไอจดทะเบียนชื่อโครงสองแถวว่า “2011” เป็นเครื่องหมายการค้าที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้หลังกฎหมายจำกัดจำนวนกระสุนหมดอายุลง ปืนลูกดกขายในตลาดสหรัฐได้อีกครั้ง เอสทีไอรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีตัวเลขเมื่อปี 2007 ว่าเป็นผู้ส่งออกปืนพกมากเป็นอันดับสามของประเทศ ต่อมาไม่นานสิทธิบัตรคุ้มครองโครงปืนโมดุลลาร์หมดอายุเมื่อครบยี่สิบปี ลูกค้าที่เคยซื้อเฉพาะโครง 2011 ไปแต่งใส่ช่วงบนมีทางเลือกโดยอาจทำเองหรือซื้อจากเจ้าอื่น ทำให้ยอดขายส่วนนี้ของเอสทีไอหดหายไป และยังมีคู่แข่งเพิ่มทั้งในประเทศ เช่น ไนท์ฮอว์ค นอกประเทศ เช่น บูล ที่ผลิตปืนลูกดกโดยใช้โครงของตัวเองทำตามแบบของเอสทีไอได้ไม่ผิดกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
จากนโยบายทำขายทุกตลาดช่วงต้นทศวรรษ 2010 เอสทีไอมีแบบปืนให้เลือกกว่ายี่สิบแบบ แต่ยอดขายกลับลดลงต่อเนื่องจนเกิดปัญหาทางการเงิน ได้ผู้ลงทุนรายใหม่เข้าซื้อหุ้นอัดฉีดเงินให้ในปี 2016 คือ Westwind Investment และเปลี่ยนผู้บริหารสูงสุดในปี 2017 วางนโยบายใหม่ ลดตัวเลือกหลากหลายเหลือเพียงสองกลุ่ม คือปืนแข่งรณยุทธ์เรียกรวมว่า DVC หกรุ่น จับตลาดที่เอสทีไอทำได้ดี กับปืนใช้งาน Staccato สองรุ่น คือ Staccato-P ลูกดกสำหรับพกซองนอก และ Staccato-C แถวเดี่ยวแบนบาง เพื่อการพกแนบเนียนในชายเสื้อ
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ คือ Staccato-P ใช้กระสุนขนาด 9 มม.ลูเกอร์ ลำกล้อง 4.25 นิ้ว เท่าคอมมานเดอร์, โครงปืน 2011 ด้ามยาวมาตรฐาน เมื่อใช้ซองกระสุน 126 มิลลิเมตรจะยาวเสมอด้ามที่ติดกรอบผายปาก ความจุ 17+1 นัด สามารถขึ้นลำไว้ก่อนเป็น 17+1 นัด วัสดุเป็นเหล็กเคลือบ DLC (Diamond-Like Carbon) สีดำด้านสวยงาม ลำกล้องหนาไม่ใช้บูช สปริงลำเลื่อน Recoil Master สองชั้นมีแกนตลอด น้ำหนักตัว 1030 กรัม ใกล้เคียงกับคอมมานเดอร์โครงเหล็ก
โดยรวม STI Staccato -P เป็นปืนต่อสู้ระดับพรีเมียมเน้นประสิทธิภาพการใช้งานจริง จุกระสุน 9 มม. 18 นัด เท่ากับลูกโม่โครงกลางสามกระบอก ด้ามออกแบบดีจับถนัด ไกซิงเกิลหลุดคมดีมาก ลำกล้อง 4.25 นิ้วคล่องตัวดี และให้ความแม่นยำสูงระดับเดียวกับปืนยิงเป้า เหมาะสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับระบบการทำงานของปืน 1911 ใช้เป็นปืนหลักพกซองนอก ถ้าพกในชายเสื้ออาจไม่แนบเนียนนักตรงส้นด้ามที่หนา ชิ้นส่วนทุกชิ้นคุณภาพสูง ฝีมือผลิตประณีตเรียบร้อยดีมาก.
https://www.dailynews.co.th/article/728691
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช